Box Office สุดสัปดาห์ที่ 21 -
23 กรกฎาคม 2543
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)
หนังอันดับหนึ่งใน box office สุดสัปดาห์นี้ What Lies Beneath แนวตื่นเต้นเกี่ยวกับวิญญาณ นำแสดงโดย Harrison Ford กำกับโดย Robert Zemeckis หนังใหม่อีกเรื่อง Pokemon The Movie 2000 ขวัญใจเด็กอเมริกัน เปิดตัวในระดับเสมอตัว ส่วนหนังตลกของวัยรุ่น Loser และ The In Crowd ก็ไม่ได้ตามเป้า ส่วนแชมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว X-Men ร่วงหนักตามฟอร์มหนังแนวนี้ แต่ก็เฉียดใกล้หลักร้อยล้านเข้าไปแล้วHarrison Ford กลับมาครองความเป็นหนึ่งใน box office อีกครั้ง เมื่อหนังเรื่องล่าสุดของเขา What Lies Beneath ที่ร่วมแสดงโดย Michelle Pfeiffer แนว supernatural thriller กวาดรายได้มาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยตัวเลข $29.7M หนังกำกับโดยผู้กำกับรางวัลออสการ์ Robert Zemeckis (Forrest Gump) เป็นผลงานสร้างด้วยทุน $80M ร่วมกันระหว่าง DreamWorks และ Fox หนังเปิดฉายในจำนวน 2,813 โรง ทำรายได้เฉลี่ยออกมา $10,559 ต่อโรง สองดารานำรับบทสามีภรรยา ที่ประสบปัญหาจากวิญญาณของชู้รักของฝ่ายสามี ดารานำทั้งสองเพิ่งจะผ่านหนังที่ไม่ประสบความสำเร็จในแง่รายได้มาหมาดๆ คือ Random Hearts ของ Harrison Ford และ The Story of Us ของ Michelle Pfeiffer) และหนังเรื่องนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ความเป็นดาราระดับแม่เหล็กของทั้งสองได้อีกครั้ง
จากสถิติ What Lies Beneath เป็นหนังที่ทำรายได้ 3 วันแรกได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของ Harrison Ford รองจาก Air Force One ที่เปิดตัวเมื่อปี 1997 ด้วยรายได้ $37.1M ก่อนจะไปถึง $172.7M ตอนออกจากโปรแกรม ส่วนรายได้ของหนังเรื่องอื่นๆ ของเขา ซึ่งเปิดตัวในช่วงวันหยุด เช่น Indiana Jones and the Last Crusade เปิดฉายทำรายได้ $37M เมื่อปี 1989 (สุดสัปดาห์ 4 วัน) และ Indiana Jones and the Temple of Doom ทำรายได้ $33.9M จากวันหยุดช่วง Memorial Day เมื่อปี 1984 ทางด้านผู้กำกับ Robert Zemeckis บ้าง นับว่า What Lies Beneath เป็นหนังที่เปิดตัวได้ดีที่สุด ทำลายสถิติเก่า $27.8M ของ Back to the Future II เมื่อปี 1989 ไปอย่างสบาย
มาดูที่กลุ่มผู้ชม What Lies Beneath บ้าง ทาง DreamWorks แจ้งว่า มีผู้ชมถึง 61% เป็นเพศหญิง, และมีถึง 64% ที่มีวัยเกิน 25 รายได้ในวันเสาร์เพิ่มจากวันศุกร์ถึง 21% ซึ่งนับว่าดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่ตลาดมีแต่หนังแอ็คชั่นและหนังตลก ประสานกับการที่หนังได้เรตเบาๆ แค่ PG-13 ซึ่งเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างได้ดี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแฟนหนังกลุ่มผู้ใหญ่ คาดว่ารายได้ของหนังน่าจะไปได้ถึงหลักร้อยล้าน และจะกลายเป็นหนังฮิตอีกเรื่องในปีนี้ของ DreamWorks ต่อจาก Gladiator, Road Trip และ Chicken Run ตอนนี้ Fox วางโปรแกรมฉาย What Lies Beneath ในไทยไว้ 22 กันยายน
หลังจากเปิดตัวอย่างสง่างามเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว รายได้ในสุดสัปดาห์ที่สองของ X-Men หนังทุนสร้าง $75M จาก Fox ก็ร่วงลงวูบใหญ่ตามประสาหนัง sci-fi ทั่วไป แต่ก็ยังทำเงินไปอีก $23.5M (ลดลงวูบ 57%) รวม 10 วัน กวาดไปแล้ว $99.3M จวนเจียนจะทะลุร้อยล้านอยู่มะรอมมะร่อ คาดว่าอาจจะได้ถึงระดับ $150M ก่อนจะออกไปโกยเงินในตลาดวิดีโอ ซึ่งเป็นของตายของหนังแนวนี้ต่อไป การที่รายได้ของหนังหล่นวูบวาบขนาดนี้ ก็ไม่เป็นที่ผิดความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะหนังแบบนี้มักจะอาศัยแรงดึงดูดแฟนๆ ขาประจำจากจอเล็ก ให้เฮโลกันมาตีตั๋วดูในสัปดาห์แรก พอย่างสัปดาห์ที่ 2-3 ก็จะเริ่มตกอย่างถนัดตา เช่นเดียวกับหนังเรื่องอื่นๆ ได้แก่ The X-Files ร่วงลง 56%, Star Trek: Insurrection วูบเดียว 62% และ Batman & Robin ร่วงวูบถึง 63% ในสุดสัปดาห์ที่สองของการฉายทั้งสิ้น X-Men มีกำหนดเปิดฉายในไทย 4 สิงหาคมนี้ กำลังเริ่มเปิดฉากโปรโมทกันแล้ว นับเป็นหนังที่น่าจะทำเงินอีกเรื่องของปีนี้
อันดับ 3 เป็นหนังอนิเมชั่นยอดฮิตภาคต่อ ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นสัปดาห์แรก Pokemon The Movie 2000 จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. การผจญภัยครั้งใหม่ของเหล่าตัวการ์ตูนสัญชาติญี่ปุ่น ขวัญใจเด็กอเมริกัน ที่เพิ่งแจ้งเกิดเมื่อปีที่แล้ว หนังทำรายได้ไป $19.6M จากจำนวน 2,752 โรง รายได้เฉลี่ยต่อโรงได้ไปแบบเต็มๆ $7,113 สูงกว่าตัวเลขของหนังอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ ในช่วงซัมเมอร์ปีนี้ ถึงแม้จะไม่รับเละเหมือนกับภาคแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1999 ที่ทำได้ถึง $31M ในช่วงสุดสัปดาห์ 3 วัน และได้ไปถึง $50.8M จาก 5 วันแรก ก่อนจะไปหยุดที่ $85.7M แล้วไปโกยเงินจากตลาดวิดีโอ รวมทั้งของเล่นต่อ
Pokemon The Movie 2000 ทำเงินจาก 3 วันแรกนี้ ได้สูงเป็นอันดับ 3 ในบรรดาหนังอนิเมชั่น ที่ไม่ได้ผลงานของค่าย Disney เป็นรองจาก Pokemon และ The Rugrats Movie (เรื่องหลังกวาดไป $27.3M จาก 3 วันแรก และจะมีภาคต่อกับเขาเหมือนกัน คือ Rugrats In Paris ซึ่งจะเปิดฉายในสุดสัปดาห์ Thanksgiving เดือนพฤศจิกายนปีนี้) แต่อนาคตของ Pokemon The Movie 2000 ดูจะไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ เพราะรายได้ในวันเสาร์ หล่นจากวันศุกร์ถึง 32% ทั้งที่เพิ่งเข้าฉาย ...เริ่มออกอาการซะแล้ว
สัปดาห์ที่สามของหนังตลกล้อเลียน Scary Movie จากค่าย Miramax ผลงานเขียนบท และกำกับโดย Keenen Ivory Wayans ตกจากอันดับ 2 มาอยู่ 4 รายได้ลดลง 42% ทำเงินไปอีก $15.1M สามารถผ่านหลักร้อยล้านไปได้ ในช่วงเวลา 14 วัน ตอนนี้รายได้รวมขยับขึ้นไปอยู่ที่ $116.4M (จากทุนสร้างแค่ $19M) มากกว่าหนังต้นแบบที่โดนล้อเลียนอย่าง Scream ทั้ง 3 ภาค รายได้รวมตอนนี้ขึ้นมาติดอันดับ 2 ของหนังในค่าย Miramax เป็นรองแค่ Good Will Hunting เมื่อปี 1997 ที่กวาดไป $138.4M คาดว่า Scary Movie น่าจะลอยลำไปถึงระดับ $150M และเป็นหนังที่สร้างความเซอร์ไพรซ์ที่สุดของปีนี้
หนังเกี่ยวกับมหันตภัยพายุโหด The Perfect Storm กำกับโดย Wolfgang Petersen ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 4 รายได้ลดลง 44% ตกจากอันดับ 3 มาอยู่อันดับ 5 ทำรายได้ไปอีก $9.7M จากเวลา 24 วัน ฟันไปแล้ว $145.4M รายได้รวมตอนนี้ติดอันดับ 3 ของหนังปี 2000 รองจาก Mission: Impossible 2 และ Gladiator คาดว่าน่าจะทำเงินไปถึงระดับประมาณ $165-175M มีกำหนดเปิดฉายในไทย 18 สิงหาคมนี้
Disney's The Kid หนังเบาสมองสำหรับครอบครัวแสดงโดย Bruce Willis ทำรายได้ลดลงน้อยกว่าหนังทุกเรื่องใน top-10 คือแค่ 36% ตกจากอันดับ 5 มา 6 ทำเงินไปอีก $6.7M รายได้รวมขยับขึ้นไปถึง $42.3M จากเวลา 17 วัน ถึงแม้จะไม่ได้สัมผัสตำแหน่งแชมป์เลย แต่ก็ไม่น้อยหน้าหนังตลกเรื่องที่แล้วของคนอึดคนนี้ คือ The Whole Nine Yards ที่ยึดอันดับหนึ่ง box office ได้ถึง 3 สัปดาห์ซ้อน และทำเงินไปทั้งสิ้น $57.3M เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
หนังเกี่ยวกับสงครามประกาศอิสรภาพจากอังกฤษของอเมริกัน ที่นำแสดงโดย Mel Gibson, The Patriot ตกจากอันดับ 4 มา 7 รายได้ลดลง 41% ทำได้อีก $6.2M รายได้รวมได้ไปแล้ว $93.4M จาก 4 สัปดาห์ มีกำหนดฉายในไทย 1 กันยายนนี้
หนังตลกเบาสมองของวัยรุ่น Loser ทุนสร้าง $20M จากค่าย Sony ที่เพิ่งเปิดฉาย ไม่ค่อยได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเท่าใดนัก ทำได้แค่อันดับ 8 ทั้งที่นำแสดงโดยดาราวัยรุ่นที่กำลังมาแรงอย่าง Jason Biggs จาก American Pie และ Mena Suvari จากเรื่องเดียวกัน และที่ไปโด่งดังสุดๆ ก็คือหนังออสการ์ American Beauty ทำรายได้ไปแค่ $6M หนังเปิดฉายในจำนวน 2,016 โรง เฉลี่ยต่อโรงได้ไปเพียง $2,980 รายได้ในวันเสาร์ลดลงจากวันศุกร์ 10% อาจจะเป็นเพราะว่า วัยรุ่นกำลังให้ความสนใจกับหนังฮิตอย่าง X-Men และ Scary Movie ก็เลยช่วยไม่ได้ที่ผลจะออกมาอย่างที่เห็น (มีกำหนดฉายในไทย 11 สิงหาคมนี้)
หนังอนิเมชั่นดินน้ำมันจาก DreamWorks - Chicken Run ตกจากอันดับ 6 มาอยู่ 9 ทำเงินไปอีก $4.6M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 42% รวม 5 สัปดาห์ทำเงินไปแล้วทั้งสิ้น $86M มีแววจะได้ไปถึงหลักร้อยล้านก่อนออกจากโปรแกรม ปิดท้ายอันดับ 10 ด้วยหนังตลกเรื่องล่าสุดติดเรต R ของ Jim Carrey, Me, Myself & Irene ตกมาจากอันดับ 7 ทำเงินไปอีก $3M รวม 5 สัปดาห์ทำเงินให้ Fox ไปแล้ว $83M
หนังใหม่อีกเรื่องที่เพิ่งเปิดตัวสัปดาห์นี้คือ The In Crowd หนังดราม่าจาก Warner Bros. ไปได้แค่อันดับ 12 ทำรายได้ไป $1.5M จากจำนวน 1,357 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมาแค่ $1,109 รายได้รวมนับจากเปิดฉายก่อนใครเพื่อนตั้งแต่วันพุธ ก็ได้ไป $2.7M แล้ว
หนัง 3 เรื่องที่โดนเบียดหลุดจาก top-10 ไปก็คือ หนังตลกของ Martin Lawrence, Big Momma's House ทุนสร้าง $23M จากค่าย Fox ที่นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะทำเงินได้อย่างคงเส้นคงวา อยู่ใน top-10 นานถึง 7 สัปดาห์ (โดยไม่ได้สัมผัสอันดับ 1 เลย) ทำเงินสัปดาห์นี้ไป $1.7M ตกจากอันดับ 8 ไปอยู่ 11 รายได้รวมกวาดไปแล้ว $111.3M จาก 8 สัปดาห์ น่าจะไปได้ถึงประมาณ $115M ก่อนออกจากจอใหญ่ และจะกลายเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดในชีวิตการทำงานของ Martin Lawrence มีกำหนดฉายในไทย 8 กันยายนนี้
หนังแอ็คชั่นสร้างใหม่ของ Paramount ที่ทุ่มทุนไป $45M, Shaft ตกจากอันดับ 10 ไป 15 ทำเงินไปแล้ว $67.9M คงจะไปได้ถึง $70M ส่วนหนังแอ็คชั่นเกี่ยวกับการขโมยรถ สร้างโดย Jerry Bruckheimer, Gone in 60 Seconds ตอนนี้ทำเงินให้ Buena Vista ไปแล้ว $93.6M คงจะไปจบตัวเลขที่ประมาณ $95-97M
หนังเข้าใหม่สุดสัปดาห์หน้า Nutty Professor II: The Klumps จากค่าย Universal ภาคต่อของหนังฮิตเมื่อปี 1996 ที่โกยเงินไปถึง $270M นำแสดงโดย Eddie Murphy, Janet Jackson และอีกเรื่อง.. Thomas and The Magic Railroad หนังอนิเมชั่นจาก Destination ที่มีคนร่วมแสดงด้วยคือ Alec Baldwin, Peter Fonda ดัดแปลงจากรายการโทรทัศน์ยอดฮิต
# | Title | Jul. 21 - 23 | Jul. 14 - 16 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Dist. |
1 | What Lies Beneath | $ 29,702,959 | 2,813 | 1 | $ 10,559 | $ 29,702,959 | DreamWorks | ||
2 | X-Men | 23,468,649 | 54,471,475 | -56.9 | 3,112 | 2 | 7,541 | 99,318,708 | Fox |
3 | Pokemon The Movie 2000 | 19,575,608 | 2,752 | 1 | 7,113 | 19,575,608 | Warner Bros. | ||
4 | Scary Movie | 15,124,155 | 26,195,912 | -42.3 | 3,301 | 3 | 4,582 | 116,434,693 | Miramax |
5 | The Perfect Storm | 9,680,952 | 17,130,295 | -43.5 | 3,203 | 4 | 3,022 | 145,354,506 | Warner Bros. |
6 | Disney's The Kid | 6,688,762 | 10,471,323 | -36.1 | 2,343 | 3 | 2,855 | 42,332,951 | Buena Vista |
7 | The Patriot | 6,240,288 | 10,612,898 | -41.2 | 2,751 | 4 | 2,268 | 93,401,602 | Sony |
8 | Loser | 6,008,611 | 2,016 | 1 | 2,980 | 6,008,611 | Sony | ||
9 | Chicken Run | 4,602,125 | 7,914,302 | -41.9 | 2,577 | 5 | 1,786 | 85,989,121 | DreamWorks |
10 | Me, Myself, and Irene | 3,022,477 | 5,702,657 | -47.0 | 2,450 | 5 | 1,234 | 82,999,855 | Fox |
11 | Big Momma's House | 1,703,228 | 2,831,239 | -39.8 | 1,193 | 8 | 1,428 | 111,318,345 | Fox |
12 | The In Crowd | 1,505,551 | 1,357 | 1 | 1,109 | 2,702,660 | Warner Bros. | ||
13 | Mission: Impossible 2 | 1,273,633 | 2,311,647 | -44.9 | 1,025 | 9 | 1,243 | 209,901,228 | Paramount |
14 | Gone in 60 Seconds | 1,171,720 | 2,543,766 | -53.9 | 1,042 | 7 | 1,124 | 93,577,259 | Buena Vista |
15 | Shaft | 1,058,252 | 2,386,057 | -55.6 | 1,225 | 6 | 864 | 67,949,999 | Paramount |
16 | Gladiator | 1,052,014 | 1,571,917 | -33.1 | 747 | 12 | 1,408 | 178,496,604 | DreamWorks |
17 | The Adv. of Rocky and Bullwinkle | 673,130 | 2,281,455 | -70.5 | 1,202 | 4 | 560 | 22,427,505 | Universal |
18 | Michael Jordan to the MAX | 374,822 | 403,334 | -7.1 | 56 | 12 | 6,693 | 8,199,216 | Giant Screen |
19 | Sunshine | 362,784 | 467,045 | -22.3 | 147 | 7 | 2,468 | 2,802,886 | Par. Classics |
20 | Croupier | 248,891 | 314,811 | -20.9 | 114 | 14 | 2,183 | 3,280,681 | Shoot. Gallery |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :