|
Box Office สุดสัปดาห์ที่ 9 - 11 มิถุนายน 2549
หนังแอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของ Disney/Pixar เรื่อง Cars มาแรงแซงเข้าเส้นชัยอันดับหนึ่งอย่างสบายตามคาด แม้ว่าตัวเลขจะไม่ฉูดฉาดบาดใจเท่ากับหนังฮิตเรื่องก่อนๆ แต่ก็ยังอยู่ในระดับดีเยี่ยม ทำเงินทิ้งห่างอันดับสองถึงสามเท่าตัว ส่วนหนังสยองขวัญรีเมค The Omen ที่ยึดฤกษ์ดี วันที่ 6 เดือน 6 ปี 06 เป็นวันเปิดตัว ก็ไปได้ดีพอตัว เช่นเดียวกับหนังใหม่ของ Robert Altman เรื่อง A Prairie Home Companion
หนังแอนิเมชั่นจากคอมพิวเตอร์ ความร่วมมือครั้งล่าสุดของ Disney กับ Pixar เรื่อง Cars ทำรายได้เปิดตัวออกมา $60.1M เป็นเรื่องที่ 7 ที่สามารถเปิดตัวที่ตำแหน่งแชมป์ หนังลงสนามในจำนวน 3,985 โรง ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมาที่ $15,086 รายได้เปิดตัวของหนัง เป็นการหยุดสถิติที่หนังของ Pixar ทำได้มาตลอด นั่นคือหนังเรื่องใหม่จะเปิดตัวได้ดีกว่าเรื่องก่อนหน้าเสมอ ครั้งล่าสุดก็คือ The Incredibles เปิดตัวที่รายได้ $70.5M จาก 3,933 โรง เฉลี่ยต่อโรงทำได้ $17,917 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2004 และเรื่องก่อนหน้าคือ Finding Nemo เปิดตัวที่ $70.3M จาก 3,374 โรง เฉลี่ยออกมา $20,821 ต่อโรงเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2003
Cars ไม่สามารถเปิดตัวได้ในระดับ $70M เหมือนสองเรื่องก่อนหน้า แต่กลับไปทำเงินในระดับเดียวกับเรื่องก่อนโน้นคือ Monsters, Inc. ที่เปิดตัวได้ $62.6M เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2001 ทั้งที่ค่าตั๋วตอนนี้ก็แพงกว่า แถมยังได้โรงมากกว่าถึง 748 โรง เมื่อเทียบกับบรรดาหนังแอนิเมชั่นด้วยกัน Cars เปิดตัวทำสถิติอันดับ 6 รองจาก Shrek 2 ($108M), The Incredibles, Finding Nemo, Ice Age: The Meltdown ที่เปิดตัวไปที่ $68M เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และ Monsters, Inc. แต่ในบรรดาหนังที่ลงโรงเดือนมิถุนายนทั้งหมด Cars ออกสตาร์ทที่อันดับสอง รองจาก Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ที่ออกตัวที่รายได้แรงจัดถึง $93.7M เมื่อสองปีที่แล้ว
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Cars ไม่ได้ออกตัวแรงอย่างที่เก็งกันไว้ ก็คงเพราะว่า ปีนี้มีหนังแอนิเมชั่นที่สร้างจากคอมพิวเตอร์มากมายหลายเรื่องให้ดูกันจนเฝือไปแล้ว (ต่างจากแต่ก่อนที่มีให้ดูกันอย่างมากก็สองเรื่องในปีหนึ่งๆ) มีทั้งที่ล้มคว่ำคะมำหงายไป อย่างเช่น Doogal และ The Wild และหลายค่ายก็ลงสนามกันเป็นที่ครึกครื้น ที่ประสบความสำเร็จก็เช่น Over the Hedge และ Ice Age: The Meltdown ในช่วงแค่สองเดือนที่ผ่านมานี่เอง สองเรื่องนี้กวาดรายได้รวมกันไปแล้วถึง $322M ส่วนอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ Cars กวาดเงินไม่ได้เต็มเหนี่ยวนัก ก็คงเพราะความยาวของหนังที่ปาเข้าไปถึง 116 นาที แม้จะไม่มากเมื่อเทียบกับหนังทั่วไป แต่ออกจะยาวไปหน่อยสำหรับหนังแอนิเมชั่น ซึ่งความยาวมาตรฐานหรือเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 90 นาที และสามารถตรึงความสนใจของกลุ่มเป้าหมายคือเด็กๆ ได้พอดิบพอดี และที่สำคัญคือ มีผลกับการจัดรอบฉายได้มากกว่า
Cars กำกับโดยลูกหม้อของ Pixar อย่าง John Lasseter (มีผลงานยอดเยี่ยมขึ้นหิ้งมาแล้วจาก Toy Story, Toy Story 2) ทางด้านเสียงพากย์ Cars ใช้บริการเสียงของ Owen Wilson, Paul Newman, Bonnie Hunt และ Larry the Cable Guy สำหรับโปรแกรมฉายในไทย ต้องรอกันถึงปิดเทอม 5 ตุลาคมโน่น ตามเคย
จากการที่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของเด็กๆ อเมริกัน รายได้ในระหว่างกลางสัปดาห์จึงน่าจะได้ได้ดี เพราะกลุ่มเป้าหมายออกมาดูหนังกันได้ อีกทั้งเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ก็ยังได้ได้ดี คาดว่า Cars น่าจะทำรายได้ทะลุผ่านระดับ $200M ไปได้ไม่ยาก แต่จะไปเข้าเส้นชัยที่เท่าไหร่ ต้องตามดูกันต่อไป โดยเรื่องก่อนหน้าอย่าง The Incredibles ทำรายได้ไปหยุดที่ $261.4M หรือเกือบสี่เท่าของรายได้สุดสัปดาห์แรก ในขณะที่ Finding Nemo ไปได้ไกลกว่าคือไปได้ถึง $339.7M หรือประมาณ 5 เท่าของตัวเลขสุดสัปดาห์แรก
หลังจากเปิดตัวได้แรงเกินคาดเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว หนังรักเบาสมองเรื่อง The Break Up หรือ "เตียงหัก แต่รักไม่เลิก" ของ Vince Vaughn กับ Jennifer Aniston ก็ยังไปได้ดีเช่นเคย รายได้สุดสัปดาห์ที่สองลดลงไป 48% ทำรายได้ไปอีก $20.3M รวมสิบวันทำเงินไปอย่างน่าประทับใจถึง $73.9M Universal คาดว่าหนังน่าจะไปได้ถึงประมาณ $120M จากทุนสร้าง $52M ส่วนในตลาดโลก The Break Up เปิดฉายไปแล้วใน Australia และ New Zealand ทำเงินรวมกันไปได้ $2.2M จาก 230 โรง หลังจากสองนักแสดงนำเดินทางไปโปรโมทถึงที่ แต่ก็ยังไม่ใช่หนังทำเงินอันดับหนึ่งที่นั่น เพราะแชมป์ตัวจริงคือ Cars ส่วนคิวฉายในไทยวางไว้ 13 กรกฎาคม หลังจากผ่านเทศกาลนอนดึกเพราะฟุตบอลโลก เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่
X-Men: The Last Stand รายได้สุดสัปดาห์นี้ลดลงไป 53% ทำเงินไปได้อีก $16.08M ฉายมาสามสัปดาห์หรือ 17 วันกวาดไปแล้ว $202.2M สามารถแซงเพื่อนร่วมค่ายคือ Ice Age: The Meltdown ไปเป็นหนังทำเงินสูงสุดแห่งปี 2006 แล้วเรียบร้อย คาดว่ามนุษย์กลายพันธุ์ประจัญบานคงจะทำเงินแซงตัวเลข $214.9M ของภาคที่แล้ว ขึ้นเป็นภาคที่ทำรายได้สูงสุดในไตรภาคได้ในเร็วๆ นี้
เปิดตัวตามมาติดหลังมนุษย์กลายพันธุ์ ก็คือหนังสยองขวัญรีเมค The Omen จากค่าย Fox อีกเหมือนกัน ทำรายได้สุดสัปดาห์แรกไปได้ $16.03M โดยในวันอังคาร หรือ 6/6/06 ที่เป็นวันเปิดตัว เฉพาะวันนั้นหนังทำเงินไปได้ถึง $12.6M ส่วนในวันหลังจากวันนั้น หนังกลับมาทำเงินในเกณฑ์ปกติ รวมสามวันจากวันอังคารถึงพฤหัสบดี หนังทำรายได้รวมไป $20.3M ทำให้รายได้รวม 6 วันของหนังทำไปได้ถึง $36.3M สวนทางกับเสียงขานรับของนักวิจารณ์ ที่ดูจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
The Omen นำแสดงโดย Julia Stiles, Liev Schreiber และ Mia Farrow หนังได้ผู้ชมกลุ่มใหม่คือวัยรุ่น มากกว่าที่จะได้แฟนหนังเวอร์ชั่นคลาสสิกเมื่อปี 1976 ทาง Fox พบว่า ผู้ชมส่วนใหญ่คืออัตรา 52% เป็นเพศหญิง และ 63% มีวัยต่ำกว่า 25 หนังเปิดฉายพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 6/6/06 ซึ่งสามารถสร้างปรากฏการณ์และความตื่นตัวได้ดี แต่คาดว่า หนังคงจะไปได้ไม่ดีนักในระยะยาว เหมือนหนังสยองขวัญทั่วไป
อันดับ 5 เป็นของหนังระทึกขวัญจาก Sony เรื่อง The Da Vinci Code ที่สุดสัปดาห์นี้รายได้ร่วงลงไป 44% รับไปอีก $10.4M รวมสี่สัปดาห์เก็บไปแล้ว $189.2M ตามมาติดๆ ด้วยหนังแอนิเมชั่น Over the Hedge ที่โดน Cars เบียดตกถนน จนรายได้ร่วงลงในอัตราที่หนักกว่าสัปดาห์ก่อนๆ โดยลงมาฮวบฮาบถึง 51% ทำเงินไปอีก $10.2M จนถึงขณะนี้ Paramount รับไปแล้วเหนาะๆ $130.2M
หนังใหม่ของ Robert Altman เรื่อง A Prairie Home Companion จัดจำหน่ายโดย Picturehouse เปิดตัวที่อันดับ 7 ด้วยรายได้ $4.6M จากแค่ 760 โรง ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมาในระดับดีคือ $6,008 หนังได้นักแสดงแบบรวมดาวมาเรียกแขก อาทิ Woody Harrelson, Tommy Lee Jones, Kevin Kline, Meryl Streep, Lily Tomlin และ Lindsay Lohan หนังเรื่อง A Prairie Home Companion นี้ได้คำวิจารณ์ในแง่บวกจากนักวิจารณ์ทั้งหลาย และไปได้สวยในกลุ่มเป้าหมายผู้ใหญ่
หนังแอ็คชั่นจาก Paramount และ Tom Cruise เรื่อง Mission: Impossible III ได้ไปอีก $3M ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้ว 36% รวมรายได้ขณะนี้ $127.5M จากที่ฉายมา 6 สัปดาห์ ตามด้วยหนังตลกสำหรับครอบครัว RV ที่แสดงนำโดย Robin Williams รายได้ลดลงไป 40% เก็บไปอีก $1.9M รวม 7 สัปดาห์ได้ไปแล้ว $64.9M กำหนดฉายในไทยคือ 3 สิงหาคม และปิดท้าย top ten ด้วย Poseidon หนังเรือล่มที่เก็บไปได้อีก $1.8M ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้ว 48% ทำเงินให้ Warner Bros. ไปแล้ว $54.9M
สุดสัปดาห์นี้ มีหนังสามเรื่องโดนเบียดหลุดจาก top ten ไปก็คือ เรื่องแรก หนังสารคดีโลกร้อนจาก Paramount Vantage เรื่อง An Inconvenient Truth ที่ได้โรงเพิ่มจาก 77 เป็น 122 โรง ทำรายได้ไป $1.5M ฉายมาสามสัปดาห์ทำเงินไปแล้ว $4M แม้จะไม่ติด top ten แต่ก็ยังไปได้สวย รายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมายังสูงอยู่คือ $12,334 สุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ หนังจะเปิดตัวเพิ่มเป็นประมาณ 400 โรงทั่วอเ้มริกา
หนังสยองขวัญจาก Lionsgate เรื่อง See No Evil รายได้ทรุดลง 52% ได้ไปอีก $984,391 ทำรายได้รวมไปแล้ว $14.1M จากที่ฉายมา 4 สัปดาห์ ส่วนอีกเรื่อง หนังฟุบของ Lindsay Lohan เรื่อง Just My Luck รายได้ร่วงลงอีกกว่าครึ่ง เก็บไปอีกเพียง $419,788 รายได้รวมตอนนี้อยู่ที่ $16.4M จาก 5 สัปดาห์
สุดสัปดาห์หน้า พบกับหนังใหม่หลายเรื่อง กวาดผู้ชมครบทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ The Lake House หนังรักรีเมคจาก Il Mare, The Fast and the Furious: Tokyo Drift หนังแอ็คชั่นภาคสาม, Nacho Libre หนังตลกนักมวยปล้ำ และ Garfield: A Tail of Two Kitties ภาคสองของหนังแมวจอมกวน
ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 9 - 11 มิถุนายน 2549
# | Title | Jun 9 - 11 | Jun 2 - 4 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Distributor |
1 | Cars | $ 60,119,509 | 3,985 | 1 | $ 15,086 | $ 60,119,509 | Buena Vista | ||
2 | The Break-Up | 20,325,790 | 39,172,785 | -48.1 | 3,075 | 2 | 6,610 | 73,926,040 | Universal |
3 | X-Men: The Last Stand | 16,078,578 | 34,017,247 | -52.7 | 3,680 | 3 | 4,369 | 202,244,652 | Fox |
4 | The Omen | 16,026,496 | 2,723 | 1 | 5,886 | 36,301,837 | Fox | ||
5 | The Da Vinci Code | 10,443,347 | 18,610,187 | -43.9 | 3,319 | 4 | 3,147 | 189,171,331 | Sony |
6 | Over the Hedge | 10,221,499 | 20,647,284 | -50.5 | 3,527 | 4 | 2,898 | 130,213,521 | Paramount |
7 | A Prairie Home Companion | 4,566,293 | 760 | 1 | 6,008 | 4,566,293 | Picturehouse | ||
8 | Mission: Impossible III | 3,020,816 | 4,684,544 | -35.5 | 1,908 | 6 | 1,583 | 127,491,115 | Paramount |
9 | RV | 1,910,564 | 3,204,449 | -40.4 | 1,622 | 7 | 1,178 | 64,921,678 | Sony |
10 | Poseidon | 1,833,493 | 3,492,361 | -47.5 | 1,724 | 5 | 1,064 | 54,928,443 | Warner Bros. |
11 | An Inconvenient Truth | 1,504,701 | 1,356,387 | 10.9 | 122 | 3 | 12,334 | 3,983,071 | Par. Vantage |
12 | See No Evil | 984,391 | 2,041,172 | -51.8 | 900 | 4 | 1,094 | 14,105,181 | Lionsgate |
13 | The Shaggy Dog | 832,370 | 154,003 | 440.5 | 308 | 14 | 2,703 | 59,196,711 | Buena Vista |
14 | Stick It | 448,292 | 183,511 | 144.3 | 201 | 7 | 2,230 | 25,527,354 | Buena Vista |
15 | Ice Age: The Meltdown | 447,867 | 623,505 | -28.2 | 431 | 11 | 1,039 | 192,237,880 | Fox |
16 | Just My Luck | 419,788 | 854,653 | -50.9 | 413 | 5 | 1,016 | 16,362,066 | Fox |
17 | Keeping Up with the Steins | 331,406 | 431,451 | -23.2 | 161 | 5 | 2,058 | 3,049,627 | Miramax |
18 | Deep Sea 3-D | 305,869 | 308,160 | -0.7 | 45 | 15 | 6,797 | 10,954,366 | Warner Bros. |
19 | The Wild | 257,389 | 66,033 | 289.8 | 145 | 9 | 1,775 | 35,692,196 | Buena Vista |
20 | The Proposition | 245,188 | 169,301 | 44.8 | 200 | 6 | 1,226 | 1,017,195 | First Look |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :