Box Office สุดสัปดาห์ที่ 9 - 11 มิถุนายน 2543
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)


เป็นไปตามคาด เมื่อความร้อนแรงของดาราออสการ์ Nicolas Cage เฉือน Tom Cruise ที่เริ่มโรยแรงลง จากหนังแอ็คชั่นเรื่องใหม่ล่าสุด Gone in 60 Seconds เอาชนะ Mission: Impossible 2 ที่เพิ่งผ่านหลัก $150M ไปได้หมาดๆ พร้อมๆ กับที่ Gladiator ผ่านระดับนี้ได้เหมือนกัน ส่วน Dinosaur เพิ่งจะผ่านทะลุ $100M ไปได้ ทำให้ซัมเมอร์ปีนี้ดูร้อนแรงขึ้นถนัดตา ทั้งที่เพิ่งเข้าสู่ต้นฤดูกาลเท่านั้น

อันดับหนึ่งสัปดาห์นี้ เป็นของหนังใหม่ล่าสุด Gone in 60 Seconds หรือชื่อไทยว่า "60 วิ. รหัสโจรกรรม.. อันตราย" นำแสดงโดย Nicolas Cage เปิดตัวสัปดาห์แรกทำเงินไป $25.3M ซึ่งสูงที่สุดในชีวิตการทำงานของเขา จากงานสร้างของ Jerry Bruckheimer เป็นการรีเมคจากภาพยนตร์คลาสสิก ปี 1974 ของ H.B. Halicki จัดจำหน่ายโดย Buena Vista เปิดฉายใน 3,006 โรง ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงไป $8,428 เป็นเรื่องราวของอดีตโจรขโมยรถระดับเซียน ที่ล้างมือจากวงการไปแล้ว แต่ถูกบีบให้ทำงานครั้งใหญ่คือ ขโมยรถให้ได้ 50 คันในเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อแลกกับชีวิตของน้องชาย หนังกำกับโดย Dominic Sena ร่วมแสดงโดยดาราระดับฝีมือคับคั่ง อาทิ Angelina Jolie ที่เพิ่งได้ออสการ์มา, Robert Duvall, Giovanni Ribisi, และ Delroy Lindo จากการที่หนังได้เรต PG-13 ทำให้สามารถเข้าถึงผู้ชมในกลุ่มใหญ่กว่า Con Air และ The Rock ที่ได้เรต R หนังจะเปิดฉายในเมืองไทย 23 มิถุนายนนี้ ไม่ต้องรอกันนาน..

หลังจากที่ผลงานเรื่องหลังๆ ของ Nicolas Cage ไม่ค่อยทำเงินอย่างเช่น 8MM,Bringing Out the Dead และ Snake Eyes คราวนี้ เขากลับมาสู่หนังแนวที่คนดูเต็มใจจะจ่ายเงินให้ และเป็นการกลับมาร่วมงานกันเป็นครั้งที่ 3 ของเขากับผู้อำนวยการสร้าง Jerry Bruckheimer (ตามสูตรสำเร็จ action + Bruckheimer + Disney + เปิดฉายต้นเดือนมิถุนา = "รวย!!" หลังจากที่หนังแอ็คชั่น Con Air และ The Rock ได้สร้างชื่อให้เขาในสูตรนี้มาแล้ว) เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับรายได้ $25.1M จากสัปดาห์แรกของการเปิดฉาย The Rock เมื่อปี 1996 (ตอนนั้น The Rock เปิดฉายในจำนวนโรงที่น้อยกว่า Gone in 60 Seconds ถึง 600 โรง) ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อโรงปาเข้าไปถึง $10,481 และค่าตั๋วในยุคนั้นยังอยู่ในอัตราเก่า ก่อนจะมีการขึ้นราคาระลอกใหญ่อีกด้วย ประวัติศาสตร์ยังเล่นตลกกับเขาตรงที่ ปีนั้น The Rock ขึ้นอันดับหนึ่ง box office ด้วยการล้มแชมป์เก่าที่ครองตำแหน่งมา 2 สัปดาห์คือ Mission: Impossible ภาคแรกนั่นเอง !!

Buena Vista รายงานว่า สถิติผู้ชมเป็นชาย 60% โดยมี 51% ที่อายุต่ำกว่า 25 และมีผู้ชมรวมๆ กันประมาณ 88% ให้เรตหนังว่าอยู่ในขั้น "ยอดเยี่ยม" และ "ดีมาก" แต่นักวิจารณ์ไม่ค่อยจะชื่นชมหนังเรื่องนี้มากนัก แถมตัวเลขรายได้วันเสาร์ เพิ่มจากวันศุกร์แค่ 12% เท่านั้นเอง ส่อแววว่าอนาคตคงจะไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ เพราะสัปดาห์ต่อๆ ไป สงครามหนังซัมเมอร์จะเริ่มเข้มข้นเข้าไปทุกที..

ตารางรายได้สัปดาห์แรก ของหนังแอ็คชั่น 5 เรื่องล่าสุดจาก Jerry Bruckheimer
Title Opening ($M) Theaters AVG ($) Release Final ($M)
Gone in 60 Seconds 25.3 3006 8,428 Jun 00
Enemy of the State 20.0 2393 8,374 Nov 98 111.5
Armageddon 36.1 3127 11,541 Jul 98 201.6
Con Air 24.1 2824 8,545 Jun 97 101.1
The Rock 25.1 2392 10,481 Jun 96 134.0

หลังจากอยู่บนอันดับหนึ่งมา 2 สัปดาห์ Mission: Impossible 2 ก็เริ่มโรยแรงตามปกติของหนังช่วงซัมเมอร์ ที่มีหนังใหญ่ๆ เข้าฉายกันอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ที่สามนี้ ทำรายได้ไปอีก $17.2M ตกมาอยู่อันดับ 2 รายได้ลดลง 36% แต่ตัวเลขรวม $158.1M ทำให้ลอยลำขึ้นไปเป็นหนังทำเงินอันดับหนึ่งในปี 2000 เรียบร้อยแล้ว โดยอดีตแชมป์ Gladiator ทำได้ $150.2M คาดว่า M:I-2 คงจะทะลุหลัก $200M ไปได้ หรือไม่ก็ใกล้เคียง รวมแล้ว 2 ภาค คงจะทำเงินให้ Paramount ไปถึงประมาณ $381M มากกว่าที่สายลับ 007 ทำเงินให้ MGM/UA ไป $359M (เฉพาะที่ Pierce Brosnan นำแสดง) จำนวน 3 เรื่อง งานนี้มองกันได้ไม่ยากว่า สายลับคนไหนทำเงินเก่งกว่ากันแน่ !!

สัปดาห์ที่สองของ Big Momma's House ทุนสร้าง $23M จาก Fox กำกับโดย Raja Gosnell (จาก Never Been Kissed และ Home Alone 3) นำแสดงโดย Martin Lawrence ทำเงินไปอีก $17.2M รวมรายได้สิบวัน $52.4M รายได้ลดลง 33% อยู่ในเกณฑ์ปกติ และใกล้เคียงกับของ Blue Streak หนังเรื่องที่แล้วของเขาเมื่อปีที่แล้วที่ลดลง 35% คาดว่าคราวนี้คงจะทำรายได้รวมไปประมาณ $90-100M โดยคู่แข่งตัวจริงที่เป็นหนังตลกเหมือนกัน จะเข้าฉายและแย่งคนดูไปตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ 23 มิถุนายนก็คือ Me, Myself, and Irene ของค่าย Fox เหมือนกัน (อ้าว..)

ผลของการเทโรงฉายแบบ megaplex ทำให้สัปดาห์นี้ตาราง box office เต็มไปด้วยหนังระดับ 2,500 โรงขึ้นไปถึง 7 เรื่อง ต่างจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนที่ The Rock เอาชนะ Mission: Impossible ได้ ซึ่งสัปดาห์นั้น มีหนังที่เปิดฉายในจำนวนโรงมากกว่า 2,500 โรงเพียง 2 เรื่องนี้เท่านั้นเอง หรือว่าซัมเมอร์ไม่ใช่ช่วงที่หนังเล็กๆ จะเปิดฉาย? และอาจเป็นเพราะว่า ปีหลังๆ ที่ผ่านมา สมรภูมิหนังซัมเมอร์เริ่มขยายเวลามากขึ้นเรื่อยๆ

หนังอนิเมชั่นของ Disney, Dinosaur ได้ไปอีก $8.8M รายได้ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วแค่ 27% หลังจากฉายมา 4 สัปดาห์ ทำรายได้ไป $110.45M ผ่านหลักร้อยล้านได้ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา หรือวันที่ 20 ของการฉาย เป็นหนังเรื่องที่ 4 ในปี 2000 ที่ทำเงินไปถึงระดับนี้

แชมป์รายได้ปี 2000 ที่เพิ่งโดนเบียดตกมาอยู่อันดับ 2, Gladiator ผลงานกำกับของ Ridley Scott นำแสดงโดย Russell Crowe ยังอยู่อันดับ 5 เท่าเดิม รายได้ลดลงน้อยกว่าใครใน top-10 คือแค่ 16% เท่านั้นเอง สัปดาห์นี้ทำไปได้อีก $7.1M ฉายมา 6 สัปดาห์กวาดไปแล้ว $150.2M ผ่านทะลุ 150 ล้านไปหมาดๆ ส่วนยอดรายได้รวมทั่วโลก กำลังทะยานสู่ $250M

Shanghai Noon ของเฉินหลง โดนเบียดตกจากอันดับ 4 มาอยู่ 6 รายได้ลดลง 34% ทำเงินไปอีก $5.9M จากการฉายเป็นสัปดาห์ที่ 3 รายได้รวมขยับขึ้นไปถึง $41.6M แล้ว ส่วนหนังตลกอีกเรื่อง แต่คนละแนว Road Trip ของค่าย Dreamworks รายได้ลดลง 27% ได้ไปอีก $4.9M โกยไปแล้ว $54.2M จากทุนสร้างแค่ $15M

อันดับ 8 9 10 ตกมาตามลำดับจากสัปดาห์ที่แล้ว Frequency จากค่าย New Line ทำไปได้อีก $1.45M ได้ไปแล้ว $40.1M จาก 7 สัปดาห์ , อันดับ 9 หนังตลกของ Woody Allen, Small Time Crooks ทำเงินไป $1.38M ฉายมาแล้ว 4 สัปดาห์ และปิดท้ายอันดับ 10, U-571 ทำเงิน $1.06M รวม 8 สัปดาห์ได้ไปแล้ว $72.9M

และเรื่องที่หลุดจาก top-10 ไปก็คือ Center Stage ทุนสร้าง $18M จาก Sony ตกมาอยู่อันดับ 11 ฉายมา 5 สัปดาห์ได้ไปแล้ว $15.7M คงจะปิดบัญชีที่ประมาณ $17M

ในขณะที่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อันดับใน box office ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก อย่างดีก็แค่สลับตำแหน่ง หรือเลื่อนลงมาตามลำดับ แต่คาดว่าสัปดาห์หน้าคงจะมีสีสันยิ่งขึ้น เพราะมีหนังใหม่ๆ เข้าฉายถึง 4 เรื่อง ได้แก่ Shaft ของ Paramount, Boys and Girls หนังวัยรุ่นของ Miramax, หนังอนิเมชั่น Titan A.E. จาก Fox ที่เปิดฉายในจำนวนกว่า 2,600 โรง อีกเรื่องคือหนังอนิเมชั่นของ Disney ที่ขึ้นจอ IMAX มาเมื่อต้นปี, Fantasia 2000 ที่กลับมาฉายแบบ 35 มม. ในจำนวน 1,300 โรง

หนังใหม่ที่เปิดตัวอย่างน่าประทับใจคือ Josh เป็นหนังอินเดียที่ใช้ภาษาฮินดู จัดจำหน่ายโดย Eros Entertainment นำแสดงโดย Shah Rukh Khan และ Aishwarya Rai ได้ไป $282,881 ในจำนวน 30 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $9,429 แสดงว่าในอเมริกา มีคนอินเดียอยู่เยอะพอดูเลยทีเดียว

หนังใหม่ที่ฉายแบบวงแคบๆ, Sunshine จาก Paramount Classics นำแสดงโดย Ralph Fiennes ทำเงินไป $84,869 จาก 7 โรงใน New York และ Los Angeles เฉลี่ยต่อโรงได้ไป $12,124 หนังจะได้โรงเพิ่มตั้งแต่ 23 มิถุนายนนี้ เป็นเรื่องราวของครอบครัวชาวยิว ที่ผ่านชีวิตท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 2 ในฮังการี

อีกเรื่องที่ฉายแบบชิมลางก็คือ หนังที่ดัดแปลงจากผลงานของ Shakespeare โดย Kenneth Branagh (เหมาทั้งอำนวยการสร้าง, กำกับ, เขียนบท และแสดงเอง), Love's Labour's Lost ได้ไป $24,496 จากแค่ 2 โรง เฉลี่ยต่อโรงสูงลิ่วถึง $12,248 หนังเรื่องนี้มี Alicia Silverstone และ Nathan Lane ร่วมแสดง ส่วน Groove ของ Sony Classics เปิดฉายในจำนวน 9 โรง ทำเงิน $55,946 เฉลี่ย $6,216 ต่อโรง

หนังเข้าใหม่สัปดาห์หน้า Shaft หนังรีเมคของ Paramount แนวอาชญากรรม นำแสดงโดย Samuel L. Jackson, Christian Bale, Toni Collette และ Vanessa Williams เขียนบทและกำกับโดย John Singleton ; Boys and Girls หนังวัยรุ่นของ Miramax นำแสดงโดย Freddie Prinze Jr., Claire Forlani, Jason Biggs ; หนังอนิเมชั่นอวกาศ Titan A.E. จาก Fox ที่เปิดฉายในจำนวนกว่า 2,600 โรง ให้เสียงพากย์โดย Matt Damon, Drew Barrymore, Bill Pullman, Nathan Lane อีกเรื่องคือหนังอนิเมชั่นของ Disney ที่ขึ้นจอ IMAX มาเมื่อต้นปีมาแล้ว, Fantasia 2000 กลับมาฉายแบบ 35 มม. ในจำนวน 1,300 โรง (ส่วนในบ้านเรา เริ่มฉายล่วงหน้าไปแล้วตั้งแต่ศุกร์ที่ 9 มิถุนายน และจะอยู่ในโปรแกรมเพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น)


ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 9 - 11 มิถุนายน 2543
# Title June 9 - 11 June 2 - 4 % Chg. Theaters  Weeks AVG Cumulative Dist.
1 Gone in 60 Seconds $ 25,336,048 3,006  1 $ 8,428  $ 25,336,048 Buena Vista 
2 Mission: Impossible 2 17,231,372 27,016,029 -36.2 3,669  3 4,696  158,068,698 Paramount
3 Big Momma's House 17,223,178 25,661,041 -32.9 2,854  2 6,035  52,424,411 Fox
4 Dinosaur 8,829,956 12,035,617 -26.6 3,275  4 2,696  110,451,125 Buena Vista 
5 Gladiator 7,074,047 8,376,721 -15.6 2,706  6 2,614  150,174,374 DreamWorks
6 Shanghai Noon 5,942,362 8,966,077 -33.7 2,751  3 2,160  41,606,214 Buena Vista 
7 Road Trip 4,908,396 6,733,164 -27.1 2,586  4 1,898  54,154,445 DreamWorks
8 Frequency 1,451,598 2,023,819 -28.3 1,219  7 1,191  40,105,507 New Line 
9 Small-Time Crooks 1,375,885 1,673,201 -17.8 886  4 1,553  13,233,440 DreamWorks
10 U-571 1,060,660 1,537,920 -31.0 1,172  8 905  72,911,300 Universal
11 Center Stage 680,098  1,053,768 -35.5 920  5 739  15,685,844 Sony
12 Where the Heart Is 671,679  956,014  -29.7 832  7 807  31,236,598 Fox
13 Erin Brockovich 527,260  615,395  -14.3 643  13 820  123,230,975 Universal
14 The Flintstones in Viva Rock Vegas 519,435  734,825  -29.3 873  7 595  31,998,800 Universal
15 Michael Jordan to the MAX 414,579  406,721  1.9 46  6 9,013  4,365,726 Giant Screen 
16 Josh 282,881  30  1 9,429  282,881  Eros
17 East is East 235,370  242,437  -2.9 137  9 1,718  2,667,008 Miramax
18 Keeping the Faith 225,028  282,884  -20.5 239  9 942  35,656,358 Buena Vista 
19 The Virgin Suicides 223,159  236,539  -5.7 192  8 1,162  3,723,898 Par. Classics 
20 Love and Basketball 212,944  347,998  -38.8 292  8 729  26,330,809 New Line 

เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :

top