Box Office สุดสัปดาห์ที่ 23 - 25 มิถุนายน 2543
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)

หนังจากค่าย Twentieth Century Fox ยึดครองอันดับหนึ่ง box office สุดสัปดาห์นี้เป็นผลสำเร็จ จากหนังตลกจี้เส้นเรื่องล่าสุดของ Jim Carrey, Me, Myself & Irene ดูท่า Fox จะเอาดีทางหนังตลกจะดีกว่า เพราะใน top-5 มีหนังของค่ายนี้ถึง 2 เรื่อง และเป็นหนังตลกทั้งคู่ ส่วนไก่ฝูงโตที่มาในรูปแบบอนิเมชั่นดินน้ำมัน, Chicken Run จากค่าย Dreamworks ที่เพิ่งเปิดฉายเหมือนกัน ตามมาอยู่อันดับ 2

ดาราตลกหน้ายาง หลังจากหายหน้าหายตาไปจากหนังแนวถนัดถึง 2 ปี Jim Carrey กลับมาด้วยความยิ่งใหญ่ ถูกใจคนดูตามความคาดหมายใน Me, Myself & Irene ทุนสร้าง $52M ที่เปิดตัวสัปดาห์แรก ด้วยรายได้ $24.2M จากจำนวน 3,019 โรง เป็นจำนวนโรงมากที่สุดในบรรดาหนังของเขา รายได้เฉลี่ยต่อโรงได้ไปถึง $8,019 นับเป็นหนังที่เปิดฉายด้วยจำนวนโรงสูงสุดของ Jim Carrey ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวเลขคนละทิศทาง กับหนังดราม่าของเขาเมื่อปีที่แล้ว Man on the Moon ที่ทำได้แค่ $7.5M แต่รายได้กลับมาเป็นอันดับ 5 ในชีวิตการทำงานของเขา รองจาก Batman Forever ($52.8M), Ace Ventura: When Nature Calls ($37.8M), The Truman Show ($31.5M) และ Liar, Liar ($31.4M)

Me, Myself & Irene เรื่องราวของชายหนุ่มหนึ่งคนแต่มีสองบุคลิก ที่แตกต่างกันสุดขั้ว แต่ไปหลงรักสาวคนเดียวกัน เป็นการกลับมาร่วมงานของผู้กำกับสองพี่น้องตระกูล Farrelly คือ Bobby และ Peter Farrelly ที่เคยทำหนังฮิตติดอันดับในฮอลลีวู๊ดมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ Dumb and Dumber (สัปดาห์แรกครองอันดับ 1 ด้วยรายได้ $16.4M, รายได้รวม $127M) และ There's Something About Mary (สัปดาห์แรกได้แค่อันดับ 4 ทำเงิน $13.7M แต่ไปครองอันดับ 1 ตอนสัปดาห์ที่ 8, ก่อนจะไปจบรายได้รวมที่ $176M) คงเป็นเพราะว่าคราวนี้หนังของเขาได้เรต R ทำให้ขาดแฟนหนังกลุ่มวัยรุ่นไป (หนังเรต R ในปีที่แล้ว ที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงๆ ได้แก่ Life ที่นำแสดงโดย Eddie Murphy และ Martin Lawrence ทำรายได้ $20.4M, อีกเรื่องคือหนังตลกทะลึ่งตึงตัง American Pie ทำรายได้สุดสัปดาห์แรกไป $18.7M)

Me, Myself & Irene ทำรายได้ในวันเสาร์ เพิ่มขึ้นจากรายได้ในวันศุกร์ 14% ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง Fox หวังจะไปโกยเงินต่อในช่วงวันหยุดยาว เทศกาลวันชาติ หรือ Independence Day ที่กำลังจะมาถึงในสุดสัปดาห์หน้า แต่คงประมาทไม่ได้ เพราะมีหนังเต็งที่รอเข้าฉายในช่วงนั้นหลายเรื่อง  

อันดับ 2 หนังอนิเมชั่นแบบดินน้ำมันสัญชาติอังกฤษจาก Dreamworks เปิดตัวด้วยรายได้น่าประทับใจ Chicken Run หนังเรต G ทุนสร้าง $42M ที่เข้าถึงคนดูได้ทั้งหมดทุกเพศทุกวัย ทำเงินไป $17.1M จากจำนวน 2,491 โรง ตัวเลขเฉลี่ยต่อโรงตามมาติดๆ คือ $6,867 หนังสร้างโดยฝีมือของทีมงานที่เคยสร้างสรรค์งานดีๆ ในวงการอนิเมชั่นอย่าง Wallace and Gromit เมื่อปี 1996 มีผลงานที่ได้เข้าชิง Oscar และได้มาแล้วหลายรางวัล, Chicken Run เป็นเรื่องราวของไก่ฝูงใหญ่ที่พยายามหลบหนี จากการถูกจับไปทำเป็นพายไก่ พากย์เสียงบทนำโดย Mel Gibson ในบท Rocky และ Julia Sawalha ดาราสาวชาวอังกฤษในบท Ginger หนังเปิดตัวในระดับเดียวกับหนังอนิเมชั่นเรื่องก่อนๆ จากค่าย Dreamworks นี้ คือ Antz ที่เปิดฉายเมื่อเดือนตุลาคม 1998 ทำรายได้ไป $17.2M จากจำนวน 2,449 โรง ตอนนั้นยังไม่แข่งกันอย่างดุเดือดเท่ากับปีนี้ และรายได้ของ Chicken Run ก็เกือบแซงหน้ามดงาน Antz กลายเป็นแชมป์รายได้จากสุดสัปดาห์เปิดตัว ประเภทหนังอนิเมชั่นของค่ายนี้ไปแล้ว

ผู้จัดจำหน่าย DreamWorks รายงานว่า ผู้ชมราว 60% มากันแบบครอบครัว, ประมาณ 85-90% บอกว่าหนังอยู่ในระดับ "ดีมาก" ถึง "ยอดเยี่ยม" และมีประมาณ 85% ที่จะบอกต่อให้เพื่อนมาดู รายได้ในวันเสาร์ทำได้ $6.79M หรือเพิ่ม 29% จากวันศุกร์ที่ทำได้ $5.26M แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการบอกต่อ ในขณะที่หนังอนิเมชั่นเดือนมิถุนายนจากเจ้าตลาด Disney เมื่อปีก่อนๆ เช่น Tarzan และ Mulan ยังทำเปอร์เซนต์เพิ่มไม่ได้อย่างนี้ ส่วน Dinosaur ที่เปิดฉายดักหน้าไปตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ก็เริ่มซาลงไปพอดี นับเป็นจังหวะที่เหมาะเหม็งอย่างยิ่ง สุดสัปดาห์หน้าจะได้โรงเพิ่มอีกประมาณ 300-400 โรง เพื่อต้อนรับคอหนังในช่วงวันหยุดเทศกาลวันชาติ

หลังจากที่ซัมเมอร์ปีนี้เปิดฉากอย่างน่าชื่นใจ จากหนังฮิตอย่าง Gladiator, Dinosaur และ Mission: Impossible 2 วงการ box office เดือนมิถุนายนกลับแผ่วลงอย่างน่าประหลาดใจ อาจะเป็นเพราะหนังยังไม่ถูกใจคอหนังก็เป็นได้ ทำให้ตัวเลขใน box office ดูน้อยกว่าของปีก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัดเป็นสัปดาห์ที่สามต่อเนื่องกันเข้าไปแล้ว โดยหนังเดือนนี้ ไม่มีเรื่องไหนที่ทำเงินสัปดาห์เปิดตัวได้เกินกว่า $26M เลย ทั้งที่ปี 1999 มีหนังทำเงินอย่าง Tarzan เปิดตัวด้วยรายได้ $34.2M, Big Daddy ทำได้ $41.5M และภาคต่อของ Austin Powers กวาดไป $57.4M ปีนี้กลับเงียบเหงาอย่างน่าสงสัย ทั้งที่มีปัจจัยเรื่องค่าตั๋วและจำนวนโรงที่มากกว่าปีที่แล้ว

หลังจากครองแชมป์เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์ที่สองของ Shaft หนังแอ็คชั่นแนวอาชญากรรมของ Paramount ทุนสร้าง $45M ที่นำแสดงโดย Samuel L. Jackson ก็ทำรายได้ลดลง 42% ได้ไป $12.7M ตกมาอยู่อันดับ 3 รวม 10 วันฟันไปแล้ว $42.9M คาดว่าจะไปหยุดที่ประมาณ $80M มีข่าวว่าคงจะได้ดูภาคต่อกันแล้ว

หนังแนวอาชญากรรมอีกเรื่อง Gone in 60 Seconds ผลงานสร้างของ Jerry Bruckheimer นำแสดงโดย Nicolas Cage ตกจากอันดับ 2 มาอยู่อันดับ 4 ทำเงินไปอีก $9.5M รวม 17 วันทำเงินให้ Buena Vista ไปแล้ว $68.9M หนังเพิ่งเปิดฉายในไทยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง คาดว่าคงจะไปได้ถึงระดับ $90-100M ก่อนออกจากโปรแกรม

Big Momma's House หนังฮิตเรื่องล่าสุดของ Martin Lawrence เรต PG-13 ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 4 ตกจากอันดับ 3 มา 5 รายได้ลดลงนิดหน่อยแค่ 27% น้อยที่สุดใน top-10 ทำเงินไปอีก $8.55M ได้รับผลกระทบจาก Me, Myself & Irene หนังตลกเข้าใหม่จากค่ายเดียวกัน น้อยกว่าที่คาด นับเป็นช่วงที่ Fox โกยเงินจากหนังตลกทั้ง 2 เรื่องได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

อันดับ 6 และ 7 เป็นของหนังฮิตทำเงินสูงสุดแห่งปี 2000 ทั้ง 2 เรื่องคือ Mission: Impossible 2 ทำเงินไปอีก $7.6M ตกจาก 4 มาอยู่อันดับ 6 และ Gladiator ไต่ขึ้นมาจากอันดับ 8 มาอยู่ 7 ทำเงินไปอีก $3.9M โดยหนังฮิตภาคต่อของ Tom Cruise รายได้ลดลงเพียง 33% รวมรายได้ตอนนี้ $188.9M กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในชีวิตการทำงานของเขาไปแล้ว โดยแซงหน้าอดีตอันดับ 1 และ 2 คือ Top Gun ที่ทำไว้ $176.8M และภาคแรกของหนังเรื่องนี้คือ Mission: Impossible ที่ทำสถิติไว้ $181M คาดว่าจะทะลุหลัก $200M ได้ในสุดสัปดาห์ Independence Day นี้แหละ ส่วนหนังย้อนไปยุคโรมันของ Russell Crowe ก็ยังแรงไม่ถอย รายได้ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้วเพียง 28% ซึ่งน้อยเกือบจะที่สุดใน top-10 โกยเงินให้ Universal ไปแล้ว $165.4M จาก 8 สัปดาห์ ส่วนในตลาดโลก (รวมทั้งไทยด้วย) ก็ทำเงินไปแล้ว $145M ทำให้ยอดรายได้รวมทั่วโลกขึ้นไปอยู่ที่ $310M เข้าไปแล้ว

สัปดาห์ที่สองของหนังอนิเมชั่นผจญภัยในอวกาศ, Titan A.E. เรต PG จาก Fox ตกจากอันดับ 5 มา 8 รายได้ลดลงถึง 60% หนักกว่าใครใน top-10 ทำรายได้ไป $3.7M รวม 10 วัน ได้เงินอย่างน่าผิดหวังแค่ $16.9M เท่านั้น จากทุนสร้างประมาณ $75-90M คาดว่าจะทำรายได้ไปทั้งหมดโปรแกรมประมาณ $25M เท่านั้นเอง ส่วนหนังอนิเมชั่นจากค่าย Disney, Dinosaur, ตกจาก 7 มาอยู่อันดับ 9 ทำรายได้สุดสัปดาห์นี้ $3.3M ลดลง 44% จากสัปดาห์ที่แล้ว ฉายมา 6 สัปดาห์โกยเงินไปแล้ว $126.8M คาดว่าน่าจะไปได้ถึงประมาณ $140M คอหนังชาวไทยต้องรอจนปิดเทอม เพราะจะเข้าฉาย 6 ตุลาคมโน่น

ปิดท้ายอันดับ 10 ด้วยหนังวัยรุ่น Boys and Girls จาก Miramax รายได้ลดลง 54% จากการฉายในสัปดาห์ที่สอง ทำรายได้ไป $3.2M รวม 10 วันได้ไป $14.2M คงจะไปปิดบัญชีที่ตัวเลขประมาณ $20M

Fantasia 2000 รายได้ลดลง 49% จากการฉายสัปดาห์ที่สองแบบ 35 มม. ทำเงินไป $1.5M รวมรายได้ในโรง IMAX เมื่อ 4 เดือนแรกของปี ตอนนี้ได้ไปแล้ว $55.6M

Paramount Classics เพิ่มโรงฉายหนังดราม่า Sunshine นำแสดงโดย Ralph Fiennes เรื่องราวของครอบครัวชาวยิว ที่ผ่านชีวิตท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 2 ในฮังการี จาก 8 เป็น 58 โรง โดดพรวดจากอันดับ 40 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขึ้นมาอยู่อันดับ 18 ทำเงินไป $349,531 เฉลี่ยต่อโรง $6,026 รวมรายได้นับจากสัปดาห์ก่อนๆ ที่ฉายแบบชิมลาง ตอนนี้ได้ไปแล้ว $602,539

หนังสองเรื่องที่หลุดจาก 10 อันดับไปก็คือ Shanghai Noon จาก Buena Vista นำแสดงโดยเฉินหลง ตกจากอันดับ 9 ไป 11 ทำรายได้ไปอีก $2M รวมรายได้ขณะนี้ $51.7M จาก 5 สัปดาห์ ประมาณการว่าคงจะได้ไปทั้งสิ้นประมาณ $55-58M ก่อนออกจากโปรแกรม มีกำหนดฉายในไทย 28 กรกฎาคมนี้ อีกเรื่องคือหนังตลกสัปดน Road Trip ตกจากอันดับ 10 ไป 12 ทำเงินให้ Dreamworks ไปอีก $1.5M ลดลง 51% รวม 6 สัปดาห์โกยไปแล้ว $63.6M กำไรเละเทะเพราะลงทุนสร้างไปแค่ $15M เท่านั้นเอง และมีท่าทีจะโกยเงินไปจนถึงประมาณ $65-67M ก่อนออกจากโปรแกรม

Box office สุดสัปดาห์หน้าจะเป็นวันหยุดยาวของชาวอเมริกัน และคาดว่าจะดุเดือดเลือดพล่าน เพราะหนังใหม่สุดสัปดาห์นี้ มาเพื่อโกยเงินโดยเฉพาะ อเมริกันชนฉลองวันชาติด้วยหนังรักชาติอย่าง The Patriot นำแสดงโดย Mel Gibson ในบทคุณพ่อลูก 7 อดีตวีรบุรุษสงครามฝรั่งเศสและศึกอินเดียแดง ที่ต้องหวนคืนสมรภูมิ ปะทะกับกองทัพอังกฤษ เพื่อช่วยชีวิตลูกชาย ที่แสดงโดยดาราหนุ่มอนาคตไกล Heath Ledger ร่วมด้วย Joely Richardson, Jason Isaacs เริ่มประจัญบานตั้งแต่พุธที่ 28 มิถุนายน รายละเอียดเพิ่มเติมของหนังดูได้ที่นี่

อีก 2 เรื่องจะเริ่มฉายตั้งแต่วันศุกร์คือ หนังเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนลูกใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่คลุ้มคลั่งกระหน่ำใส่เรือประมงชื่อ Andrea Gail ปิดท้ายฤดูกาลจับปลา ใน The Perfect Storm นำแสดงโดย George Clooney, Mark Wahlberg, และ John C. Reilly ร่วมด้วย Diane Lane, Mary Elizabeth Mastrantonio อีกเรื่องคือ หนังที่มีทั้งคนและตัวการ์ตูนเล่นร่วมกัน The Adventures of Rocky and Bullwinkle เรื่องของกระรอกบิน กับกวางมูซ นำแสดงโดย Robert De Niro, Rene Russo

ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 23 - 25 มิถุนายน 2543
# Title June 23 - 25 June 16 - 18 % Chg. Theaters  Weeks AVG Cumulative Dist.
1 Me, Myself, and Irene $ 24,209,385 3,019  1 $ 8,019  $ 24,209,385 Fox
2 Chicken Run 17,106,872 2,491  1 6,867  17,202,798 DreamWorks
3 Shaft 12,707,835 21,714,757 -41.5 2,407  2 5,280  42,350,334 Paramount
4 Gone in 60 Seconds 9,452,195 14,896,031 -36.5 3,089  3 3,060  68,858,636 Buena Vista 
5 Big Momma's House 8,548,299 11,686,558 -26.9 2,846  4 3,004  85,225,503 Fox
6 Mission: Impossible 2 7,588,416 11,362,008 -33.2 3,245  5 2,338  188,889,787 Paramount
7 Gladiator 3,851,924 5,362,293 -28.2 1,812  8 2,126  165,436,188 DreamWorks
8 Titan A.E. 3,735,300 9,376,845 -60.2 2,775  2 1,346  16,892,249 Fox
9 Dinosaur 3,258,118 5,863,092 -44.4 2,248  6 1,449  126,817,484 Buena Vista 
10 Boys and Girls 3,230,493 7,008,950 -53.9 1,989  2 1,624  14,193,273 Miramax
11 Shanghai Noon 2,012,696 3,792,622 -46.9 1,559  5 1,291  51,743,113 Buena Vista 
12 Road Trip 1,528,133 3,091,860 -50.6 1,468  6 1,041  63,580,117 DreamWorks
13 Fantasia 2000 1,477,958 2,911,485 -49.2 1,313  2 1,126  55,592,861 Buena Vista 
14 Small-Time Crooks 556,705  941,650  -40.9 463  6 1,202  15,718,730 DreamWorks
15 Frequency 519,947  879,702  -40.9 527  9 987  42,662,407 New Line 
16 U-571 503,190  688,025  -26.9 544  10 925  74,962,935 Universal
17 Michael Jordan to the MAX 408,392  443,181  -7.8 49  8 8,335  5,670,258 Giant Screen 
18 Sunshine 349,531  86,638  303.4 58  3 6,026  602,539  Par. Classics 
19 The Flintstones in Viva Rock Vegas 316,235  393,370  -19.6 506  9 625  33,311,555 Universal
20 Croupier 312,888  206,848  51.3 92  10 3,401  1,527,703 Shoot. Gallery 

เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru

ข้อมูลเพิ่มเติม :

top