ตัวเลขเปิดตัวอย่างแรงสุดขีด $41.5M ของ Big Daddy สร้างสถิติหนังที่เปิดตัวได้ดีที่สุดของพระเอก Adam Sandler เฉือนสถิติหนังฮิตเรื่องล่าสุดของเขาเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว The Waterboy ที่ทำตัวเลขสัปดาห์แรกไว้ $39.4M และเป็นหนังที่เปิดตัวได้แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของหนังประเภท comedy อันดับ 2 รองจาก Austin Powers : The Spy Who Shagged Me ที่ทำสถิติไว้ $57.4M เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว, แถมยังเป็นอันดับสามของสถิติหนังที่เปิดตัวดีที่สุดของค่าย Sony รองจาก Men In Black ($51.1M เมื่อเดือนกรกฎาคม 1997) และGodzilla ($44M เมื่อเดือนพฤษภาคม 1998) จากผลงานของ Big Daddy ในสัปดาห์แรกนี้ คาดว่าหนังคงจะผ่านหลักร้อยล้านได้ในสัปดาห์หน้าซึ่งเป็นเทศกาลวันชาติ และมุ่งหน้าทำลายสถิติรายรับ $161.5M จากหนังฮิตเรื่องที่แล้วของเขาเองที่ทำไว้เมื่อปลายปีที่แล้วThe Waterboy

Big Daddy เป็นเรื่องของหนุ่มวัย 32 ที่ต้องการแสดงความพร้อมในการรับผิดชอบชีวิตครอบครัวต่อแฟนสาว ด้วยการรับเด็กมาเป็นลูกบุญธรรม ร่วมแสดงด้วย Jon Stewart, Joey Lauren Adams, และ Rob Schneider กำกับโดย Dennis Dugan ที่เคยกำกับเขามาแล้วใน Happy Gilmore หนังได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวก และได้รับการโปรโมทอย่างเต็มที่ จึงทำเงินสัปดาห์แรกนี้ให้ Sony อย่างน่าพอใจ

หนังอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของ Disney, Tarzan ตกลงมาอยู่อันดับ 2 ด้วยรายได้ที่ลดลง 30% ทำรายได้ไปอีก $24.05M ตัวเลขรายได้รวมมาอยู่ที่ $77.57M จาก 10 วัน คาดว่าคงจะแซงหน้าหนังอนิเมชั่นค่ายเดียวกันประจำปีที่แล้วMulan ที่ทำไว้ $120.6M ได้อย่างสบาย ส่วนอันดับสามคือแชมป์หนังประเภทตลกที่สร้างสถิติใหม่เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วAustin Powers : The Spy Who Shagged Me โดนผลกระทบจากการแย่งชิงคนดูกลุ่มเดียวกันจากBig Daddy รายได้ลดลง 42% ทำเงินไปอีก $18.34M รวมรายได้กวาดไปแล้ว $150.6M จาก 3 สัปดาห์ เป็นหนังทำเงินสูงสุดของ New Line ไปแล้วเรียบร้อย เตรียมรอดูภาคสามกันได้เลย ในขณะเดียวกันก็ตามไปเขี่ย Star Wars: Episode I ตกจากอันดับหนึ่งที่ออสเตรเลีย เหมือนที่อเมริกาไม่มีผิด

อันดับ 4 เป็นหนังทริลเลอร์ฆาตกรรมปริศนานำโดย John Travolta, The General's Daughter ทำรายได้ไปอีก $15.2M ลดลง 32% รวมรายได้จากสองสัปดาห์หรือ 10 วันฟันไปแล้ว $46.8M ส่วนอันดับ 5 ก็คือแชมป์รายได้ปีนี้ Star Wars: Episode I - The Phantom Menace  รายได้สัปดาห์นี้ลดลงแค่ 25% กวาดไปอีก $14.1M สัปดาห์หน้าคงหลุดจาก Top-5 แน่ รายได้รวมโกยไปแล้ว $351.6M (ผ่านหลัก 350 ล้านได้ใน 40 วันเท่านั้น ส่วน Titanic ใช้เวลาถึง 58 วัน) ตอนนี้เลยก้าวขึ้นมาครองอันดับ 5 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของอเมริกา ชิงอันดับมาจาก Forrest Gump ($329M) และกำลังเตรียมเขี่ยอันดับ 4, Jurassic Park ($357M) ในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน ก่อนจะขึ้นไปชิงอันดับ 3 จาก E.T. ($399M) เป็นรายต่อไป คาดว่ารายได้รวมอยู่ที่หลักสี่ร้อยล้านเศษๆอย่างไม่ต้องสงสัย

อันดับ 6, Notting Hill รายได้ลดลงนิดหน่อยแค่ 20% กวาดไปแล้ว $89.5M จาก 5 สัปดาห์ ส่วนอันดับ 7 The Mummy ยังหนังเหนียว กวาดรายได้ไปอีก $2.17M รายได้รวมอยู่ที่ $146M คงไปได้ถึง $155M, อันดับ 8 Instinct วูบลง 40% ทำรายได้ไปอีก $1.94M รายได้รวมอยู่ที่ $30.67M

อันดับ 9 เป็นหนังม้ามืดแนว romantic comedy จาก Miramax,An Ideal Husband นำแสดงโดย Rupert Everett, Cate Blanchett, Minnie Driver, และ Julianne Moore ที่กวาดรายได้แบบชิมลางอย่างงดงามเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่เปิดฉายแค่ 10 โรง สัปดาห์นี้ได้โรงเพิ่มเป็น 122 โรง กวาดรายได้ไป $1.14M รายได้เฉลี่ยต่อโรง $9,338 เป็นอันดับสองใน top-10 อนาคตสดใสมากทีเดียว ส่วนอันดับ 10 คือ The Matrix ของ Keanu Reeves ทำเงินไป $1M รายได้รวมอยู่ที่ $165.7M แล้ว

สัปดาห์หน้าวันหยุดเทศกาลวันชาติของอเมริกา พบกับหนังฟอร์มยักษ์อีกเรื่องของปีนี้Wild, Wild, West จาก Warner Bros. นำโดย Will Smith, Kevin Kline และ Salma Hayek พร้อมด้วยSouth Park: Bigger, Longer & Uncut จากค่าย Paramount ทั้งสองเรื่องจะเปิดฉายตั้งแต่วันพุธที่ 30 มิถุนายน โดยมี Summer of Sam จาก Buena Vista เป็นตัวเสริม