Box Office สุดสัปดาห์ที่ 12 - 14 มีนาคม 2542
Box Office สุดสัปดาห์ที่ 12 - 14 มีนาคม 2542
| สัปดาห์ที่สองของ Analyze This หนัง comedy ระหว่างเจ้าพ่อกับจิตแพทย์ ผลงานจากค่าย Warner Bros. ที่นำแสดงโดย Robert De Niro และ Billy Crystal ก็ยังแรงไม่ตก ยังทำเงินเป็นอันดับหนึ่ง Box Office ต่อไป ทั้งที่สุดสัปดาห์นี้มีหนังใหม่ๆพาเหรดเข้ามาชิงแชมป์หลายต่อหลายเรื่อง รายได้ของหนังลดลงไปแค่ 15% โดยทำรายได้ไปอีก $15.6M ทิ้งอันดับ 2 กว่าเท่าตัว รวม 10 วันได้ไป $39.9M เป้าหมายร้อยล้านคงไม่น่ายาก ผลงานของ Analyze This ดูจะไม่ต่างกับหนังฮิตเดือนมีนาคมเมื่อปี 1996, The Birdcage ที่แสดงโดย Robin Williams เปิดฉายด้วยตัวเลข $18.3M, รายได้สิบวัน $41.3M ก่อนจะไปจบโปรแกรมที่ $124M ผู้บริหารของ Warner Bros. แจ้งว่าคงเป็นเพราะปากต่อปากนั่นเองที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จขนาดนี้ อันดับ 2 The Rage : Carrie 2 หนัง horror จากค่าย MGM/UA เป็นภาคต่อจากหนังของ Brian De Palma เมื่อปี 1976 ทำรายได้ $7.1M จากจำนวน 2,286 โรงซึ่งมากที่สุดในจำนวนหนังใหม่ที่เปิดฉายในสัปดาห์นี้ รายได้เฉลี่ยต่อโรงของหนังคือ $3,091 จากทุนสร้าง $21M แนวโน้มการทำเงินของหนังคล้ายกับSpecies II เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเปิดตัวด้วยรายรับ $7.3M ก่อนจะไปหยุดที่ $19.2M อันดับ 3 เป็นหนังจากค่าย Sony Pictures (ที่สัปดาห์นี้ดูจะประสบความสำเร็จอยู่ไม่น้อย เพราะมีหนังทำเงินติด top-10 ถึง 4 เรื่อง) คือหนังแนว romantic thriller ของวัยรุ่น, Cruel Intentions นำโดย Sarah Michelle Gellar, Ryan Philippe, และ Reese Witherspoon ทำเงิน $7M, รวมรายได้สิบวัน $23.4M, รายได้ลดลง 46% คงจะไปได้ราวๆ $35-40M ตอนออกจากโปรแกรม หนังแอ็คชั่นจาก New Line ที่คนไทยได้ดูก่อนอเมริกาสองสัปดาห์,The Corruptor นำแสดงโดยเฮียโจวเหวินฟะและ Mark Wahlberg เปิดฉายเป็นสัปดาห์แรกทำเงินเป็นอันดับ 4 ด้วยตัวเลข $5.8M รายได้เฉลี่ย $3,196 จากจำนวน 1,804 โรง นับว่าแย่ลงกว่าเดิม หนังเรื่องที่แล้วของเฮียโจวฯคือ The Replacement Killers (กุมภาพันธ์ 1998, สัปดาห์แรกอยู่อันดับ 2 รองจาก Titanic ด้วยตัวเลข $8M) ส่วนของ Mark Wahlberg ก็แย่ลงเหมือนกัน หนังเรื่องที่แล้ว,The Big Hit สามารถขึ้นอันดับ 1 ด้วยรายได้ $10.8M เมื่อเดือนเมษายน 1998 ที่เป็นอย่างนี้ก็คงเป็นเพราะ The Corruptor เจอคู่แข่งที่ดึงคนดูที่เป็นกลุ่มเป้าหมายไป อย่างเช่น ทัวร์นาเม้นท์บาสเกตบอลล์ NCAA แถมยังมีมวยคู่เอกระหว่าง Holyfield กับ Lewis อีกด้วย ดูจากรายได้แล้ว คาดว่าหนังเรื่องนี้คงอยู่ในโปรแกรมได้ไม่นานนัก Baby Geniuses หนังเด็กช่างพูดทุนสร้าง $12M ของค่าย Sony มาแบบม้ามืดอยู่อันดับ 5 ด้วยตัวเลข $5.6M จากจำนวน 1,689 โรง รายได้เฉลี่ยต่อโรง $3,324 นับว่าผิดคาดพอสมควร หนังเรื่องล่าสุดจาก Michelle Pfeiffer The Deep End of the Ocean จากค่าย Sony ที่มี Treat Williams และ Whoopi Goldberg ร่วมแสดง ทำรายได้เป็นอันดับ 6 เปิดฉายเป็นสัปดาห์แรกทำเงิน $5.6M จากจำนวน 1,907 โรง ทำรายได้เฉลี่ยแค่ $2,915 เท่านั้น หนังเรื่องนี้สร้างจากนวนิยายระดับเบสเซลเลอร์ เป็นเรื่องของแม่ผู้ตามหาลูกชายที่หายไปนาน 9 ปี ลงทุนไป $35-40M ดูจากรายได้ของหนังแล้วนับว่าน่าผิดหวัง เหมือนกับหนังดราม่าแนวครอบครัวเรื่องก่อนหน้าอย่าง One True Thing ที่นำแสดงโดย Meryl Streep (เปิดฉายสัปดาห์แรกทำเงินแค่ $6.6M) และหนังของ Oprah Winfrey, Beloved (สัปดาห์แรก $8.2M), Twilight ของ Susan Sarandon (สัปดาห์แรก $5.8M) ไม่ต่างกับหนังที่ Sharon Stone รับบทแม่ในGloria ที่สัปดาห์แรกเปิดตัวด้วยตัวเลขแค่ $2.1M เท่านั้น หนังเรื่องก่อนหน้าของ Michelle Pfeiffer คือ A Thousand Acres ก็ทำเงินสัปดาห์แรกแค่ $2.9M เมื่อกันยายน 1997 ดูท่าแล้วเธอคงจะกู้ชื่อจากหนังเรื่องต่อไปคือA Midsummer Night's Dream ที่วางโปรแกรมจะเข้าฉายในอีกไม่นานนี้ อันดับ 7 เป็นหนัง sci-fi เข้าใหม่จาก Fox ที่สร้างจากเกมยอดฮิต,Wing Commander นำแสดงโดย Freddie Prinze Jr. และ Matthew Lillard สัปดาห์แรกเปิดตัวด้วยตัวเลข $5.1M รายได้เฉลี่ย 2,533 ต่อโรง จากจำนวน $2,019 โรง นับว่าไม่สวยนัก อันดับ 8 The Other Sister จาก Sony ที่กำลังจะเข้าฉายในเมืองไทย สัปดาห์นี้ทำเงินไปอีก $3.8M รวมรายได้ 17 วัน $19.9M ส่วน 8MM หนังทริลเลอร์ของ Nicolas Cage ยังคงรูดลงอย่างต่อเนื่องถึงกึ่งหนึ่ง ทำรายได้ไปอีกแค่ $3.5M รวมแล้วสามสัปดาห์ได้ไป $31M October Sky ร่วงลงแค่ 19% ได้ไปอีก $3M รายได้รวม $20.8M หนังที่หลุดจาก top-10 เพราะโดนกองทัพหนังใหม่เบียดก็คือShakespeare in Love รายได้ลดลงแค่ 14% ได้ไป $2.8M เข้าโค้งสุดท้ายก่อนออสการ์ด้วยรายได้รวม $68.9M คาดว่าคงทำเงินได้ถึง $80-90M ขึ้นอยู่กับการประกาศผล ตอนนี้แซงหน้าหนังอินดี้รุ่นพี่The English Patient ที่ทำตัวเลขไว้ $78.7M ตอนนี้อยู่อันดับ 5 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของค่าย Miramax หลังจากอยู่ใน top-10 นานห้าสัปดาห์ Payback ของค่าย Paramount ก็ตกมาอยู่อันดับ 12 ทำเงินไปอีก $2.5M รายได้รวม 6 สัปดาห์ $75.9M ยังคงเป็นหนังทำเงินสูงสุดในบรรดาหนังที่เปิดฉายในปี 1999 รายได้สุดท้ายคงจะประมาณ $85-90M, หนังโรแมนติกของ Kevin Costner, Message in a Bottle ตกมาอยู่อันดับ 15 รายได้รวมแล้ว $49.4M คาดว่าคงไปได้ราวๆ $55-60M ส่วน My Favorite Martian ของ Disney รายได้รวมอยู่ที่ $32.8M คงจะปิดบัญชีที่ประมาณ $35-40M หนังฮิตของ Miramax She's All That รายได้รวมขณะนี้ $59.2M คาดว่าจะไปได้ถึง $65M จากทุนสร้างแค่ประมาณ $10M นับเป็นหนังกำไรเละประจำปีนี้ โค้งสุดท้ายก่อนประกาศผลรางวัล Oscar หนังเข้าชิงทั้งหลายก็ยังโกยรายได้กันอย่างเพลิดเพลินLife is Beautiful ของ Roberto Benigni กวาดไปแล้ว $32.8M สัปดาห์นี้ยังอยู่ที่อันดับ 14 รายได้ลดลงจิ๊บจ๊อยแค่ 3% ส่วนตัวเก็ง Saving Private Ryan ของ Steven Spielberg ก็เพิ่งได้รางวัลจาก American Cinema Editors เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รายได้รวมตอนนี้ $208.7M หนังใหม่สัปดาห์หน้า Forces of Nature จาก Dreamworks,True Crime จาก Warner Brothers, Ravenous จาก Fox, และ The King & I ฉบับการ์ตูนจาก Warner Brothers ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 12 - 14 มีนาคม 2542
ที่มา : Weekend Box Office โดย Box Office Guru ข้อมูลเพิ่มเติม :
|
