หลังจากครองอันดับหนึ่งมาสองสัปดาห์ ก็ถึงคราวที่หนัง comedyAnalyze This จากค่าย Warner Bros. ที่นำแสดงโดย Robert De Niro และ Billy Crystal โดนเขี่ยตกลงมาอยู่อันดับ 2 แต่ยังทำรายได้ไปอีก $11.7M โดยลดลงแค่ 25% รายได้รวมตอนนี้ 17 วัน $57.2M เป้าหมาย $100M อยู่อีกไม่ไกล กำลังเดินตามรอยหนังฮิตเดือนมีนาคมเมื่อปี 1996, The Birdcage ที่ได้ไป $60.6M ในสัปดาห์ที่สาม และกวาดไปทั้งสิ้น $124M ตอนออกจากโปรแกรม

หนังเข้าใหม่อีกเรื่อง, True Crime ของ Clint Eastwood ที่สร้างจากนวนิยายดัง เปิดตัวสัปดาห์แรกอยู่อันดับ 3 ด้วยตัวเลข $5.3M เรื่องของนักข่าวกับนักโทษประหาร หนังทำเงินเฉลี่ย $2,849 จาก 1,852 โรง เทียบไม่ได้เลยกับหนังที่เขาทั้งเล่นและกำกับเองเรื่องก่อนหน้า,Absolute Power เมื่อปี 1997 ที่เปิดตัวด้วยรายรับ $16.8M ก่อนจะไปจบที่ $50.1M รายได้ของหนังเรื่องนี้คงจะไปในทางเดียวกับMidnight in the Garden of Good and Evil ที่เปิดฉายสัปดาห์แรกรับเงินไปแค่ $5.2M เมื่อเดือนพฤศจิกายน 1997

หนังสำหรับครอบครัวจากค่าย Sony ทุนสร้างแค่ $12M,Baby Geniuses ยังคงโกยเงินแบบม้ามืดต่อจากการฉายเป็นสัปดาห์ที่สอง ไต่จากอันดับ 5 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ทำรายได้อีก $4.3M ลดลงแค่ 23% รวมสิบวันเก็บเงินไปแล้วอุ่นๆ $11.8M ดูจากแนวโน้มแล้ว น่าจะทำเงินได้ถึง $25-30M ก่อนจะออกจากโปรแกรมในโรงไปโกยยอดขายจากตลาดวิดีโอเทปต่อ ส่วน Cruel Intentions จากค่ายเดียวกัน รายได้ลดลง 43% ได้ไปอีก $4M อยู่อันดับ 5 ได้เงินไปแล้ว $29.9M

อันดับ 6 หนังอนิเมชั่นที่สร้างจากละครเวที The King & I จากผลงานของ Warner Bros. เปิดตัวสัปดาห์แรกได้เงินแค่ $4M (จากทุนสร้างราวๆ $24M) รายได้เฉลี่ยจากจำนวน 2,352 โรงอยู่ที่ $1,704 เท่านั้น

สัปดาห์ที่สองของ The Rage : Carrie 2 หนัง horror จากค่าย MGM/UA อยู่อันดับ 7 รายได้ลดลง 47% ได้ไปอีก $3.7M รายได้รวมอยู่ที่ตัวเลข $12.6M จากทุนสร้าง $21M คงจะเข็นไปได้แค่ประมาณ $18-20M ส่วนเพื่อนรุ่นเดียวกันจากค่าย New Line, The Corruptor สัปดาห์ที่สองเหมือนกัน ได้ไปแค่ $3.1M อยู่อันดับ 8 ลดลงถึง 46% รายได้คงจะไปได้ไกลสุดแค่ $14-16M ท่าทางเฮียโจวจะแย่แฮะ

โค้งสุดท้ายก่อนประกาศผล Oscar, Shakespeare in Love ทำเงินให้ Miramax อีก $3M ดีดกลับมาอยู่อันดับ 9 รายได้เพิ่มขึ้นอีก 4% จากสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้รายได้รวมอยู่ที่ $73.2M หลังจากนี้คงมีก๊อกสองเพราะกวาดออสการ์มาได้ถึง 7 ตัว

อันดับ 10, The Deep End of the Ocean หนังดราม่านำแสดงโดยโดย Michelle Pfeiffer ทำเงิน $2.6M จากการฉายในสัปดาห์ที่ 2 รายได้วูบลงไปอย่างน่ากลัวถึง 54% รวมสิบวันทำเงินไปแค่ $10M (จากทุนสร้าง $38M) คงเข็นไปได้แค่ $14-16M

หนังที่ตกจาก top-10 ได้แก่ Wing Commander รายได้รูดลง 56% รายได้รวม 10 วันได้ไป $8.8M คาดว่าคงทำเงินได้ทั้งหมดแค่ $12M ตอนออกจากโปรแกรม, The Other Sister จาก Buena Vista รายได้รวมตอนนี้ $23.5M คงจะปิดบัญชีที่ตัวเลข $28-30M, October Sky จากค่าย Universal รายได้รวมขณะนี้ $23.6M คงจะปิดบัญชีที่ตัวเลขราวๆ $28-30M เหมือนกัน และ 8MM หนังทริลเลอร์ทุนสร้าง $40M นำโดย Nicolas Cage รายได้ลดลงราวกึ่งหนึ่ง รายได้รวมตอนนี้ $34M คงจะสุดทางที่ตัวเลขประมาณ $36-38M

หนังทริลเลอร์เรื่องใหม่จาก Fox, Ravenous เก็บเงินได้แค่ $1M จากจำนวน 1,040 โรง รายได้เฉลี่ยได้ไปแค่ $1,001

หนังออสการ์เรื่องอื่นๆนอกเหนือจาก Shakespeare in Love ก็ได้อานิสงส์กันอย่างทั่วหน้าเช่นกัน, Life is Beautiful ก็ทำรายได้เพิ่มถึง 20% ได้ไปอีก $2.2M จากจำนวนแค่ 647 โรง ทำรายได้เฉลี่ยถึง $3,454 รายได้รวมขณะนี้ $36M คาดว่าสัปดาห์หน้า Miramax ตงจะเพิ่มโรงให้อีก

ในขณะเดียวกัน, Saving Private Ryan ที่ได้ออสการ์ไป 5 ตัว ก็โกยเงินเพิ่มอย่างเป็นกอบเป็นกำเช่นกัน รายได้เพิ่มขึ้น 24% จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยทำรายได้อีก $1.1M รายได้รวมตอนนี้อยู่ที่ $210.2M ในจำนวนนี้เป็นรายได้เฉพาะที่กลับมาฉายใหม่ถึง $19M จากห้าสัปดาห์ สรุปแล้วรายได้ทั่วโลกของหนังออสการ์ทั้ง 3 เรื่องคือ Saving Private Ryan ได้ $465M, Shakespeare in Love และ Life is Beautiful ได้ $130M สัปดาห์หน้าคงจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเนื่องจากรายได้จะเป็นผลงานของออสการ์ล้วนๆ

หนังใหม่สัปดาห์หน้า Ed TV จาก Universal และ The Mod Squad จาก MGA