ตัวเลขอัตราการลดลงของรายได้ในสัปดาห์ที่สองของThe Mummy นี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับ Deep Impact หนังเปิดฉากซัมเมอร์เมื่อปีที่แล้วคือลดลงไป 43.5% ในสัปดาห์ที่สองเช่นกัน คาดว่าก่อนการเปิดโรงของStar Wars: Episode I - The Phantom Menace ในวันที่ 19 พฤษภาคม The Mummy คงจะโกยเงินไปแล้วอย่างจุใจ และคงจะถึงหลัก $100M ได้ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ส่วนหนึ่งคงมาจากคนดูซึ่งถูกกระตุ้นโดยหนังมหากาพย์ตำนานสงครามแห่งดวงดาวนั่นเอง และคงมีบางส่วนที่ไม่ได้ดูก็เลยหันมาดู The Mummy แทน

เมื่อเทียบกับหนังที่เปิดตัวต้นซัมเมอร์ปีที่ผ่านๆมา และหนังที่ทำเงินสิบวันแรกอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน จะเห็นว่า The Mummy ทำเงินไม่ค่อยจะแตกต่างจากหนังประเดิมเทศกาลซัมเมอร์ปีที่ก่อนๆนัก แถมยังไปคล้ายกับ Godzilla ซึ่งเปิดฉายปลายเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วอีกด้วย เพียงแต่ว่า Godzilla เปิดฉายตั้งแต่รอบค่ำวันอังคาร ก่อนจะเปิดฉายจริงในวันพุธ รายได้วันศุกร์ถึงอาทิตย์แรกอยู่ที่ $44M ตัวเลขสิบวัน(คิดเฉพาะวันศุกร์แรกถึงวันอาทิตย์ของสัปดาห์ถัดมา)ก็อยู่ที่ $80.8M นับว่าใกล้เคียงกันมากเลยทีเดียว ส่วนรายได้สุดท้ายโปรแกรมก็ขึ้นอยู่กับปริมาณและตัวหนังซัมเมอร์ที่จะเข้าฉายตามหลัง
 

อันดับ 2 ยังคงเป็น Entrapment ที่ฉายมาแล้ว 17 วัน สุดสัปดาห์นี้ทำเงินไปอีก $9.1M ลดลง 26% จากสัปดาห์ที่แล้ว รวมรายได้ล่าสุดอยู่ที่ $51.1M และคงจะเก็บกวาดคนดูที่ล้นจาก Star Wars: Episode I - The Phantom Menace เช่นเดียวกัน คาดว่าก่อนออกจากโปรแกรม Fox คงเก็บเงินไปแล้วประมาณ $75-80M

The Matrix ก็อยู่อันดับ 3 เหมือนเดิม ทำรายได้ไปอีก $4.5M รายได้รวมตอนนี้ $145.1M คาดว่าจะไปได้ถึงระดับ $160M อย่างแน่นอน และคาดว่าจะครองแชมป์หนังทำเงินสูงสุดของปี 1999 ได้อีกไม่เกินหนึ่งหรือสองสัปดาห์ ก่อนจะโดนมหากาพย์สงครามดาวโค่นลงจากบัลลังก์

หลังจากที่แนะนำตัวกับอเมริกันชนไปแล้วจากหนังแอคชั่นเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้วLethal Weapon 4 มาคราวนี้หลี่เหลียนเจี๋ยหรือ Jet Li กลับมาในหนัง sci-fi action, Black Mask ที่ทำเงินสัปดาห์แรกอยู่อันดับ 4 เปิดตัวด้วยตัวเลข $4.4M จากจำนวน 979 โรง จัดจำหน่ายโดยสังกัด Artisan รายได้เฉลี่ยต่อโรง $4,545 นับว่าพอใช้ได้ ถึงแม้ว่าจะได้โรงฉายน้อย แต่ก็ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงดีกว่าหนังของรุ่นพี่เฉินหลงอย่างเช่นTwin Dragons,Mr. Nice Guy,Operation Condor, First Strike และ Supercop

อันดับ 5 เป็นหนังใหม่ที่สร้างจากงานของ Shakespeare,A Midsummer Night's Dream จากค่าย Fox Searchlight ทุนสร้าง $14M กำกับโดย Michael Hoffman (One Fine Day) ทำรายได้จากการเข้าฉายสัปดาห์แรก $4.3M จากจำนวน 1,080 โรง รายได้เฉลี่ยต่อโรง $3,968 หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย Kevin Kline, Michelle Pfeiffer, Calista Flockhart, Rupert Everett, และ Stanley Tucci นับเป็นหนังที่ได้โรงฉายมากที่สุดในบรรดาหนังของสังกัด Fox Searchlight และสามารถทำเงินสัปดาห์เปิดตัวได้สูงสุดด้วยเช่นกัน ทางสังกัดหวังไว้ว่าจะเป็นตัวเลือกสำหรับคอหนังที่ไม่ชอบหนังแอคชั่นหรือ sci-fi อย่าง Star Wars

Universal ได้เปิดฉายหนังโรแมนติกประจำปี Notting Hill อย่างชิมลางในจำนวนแค่ 856 โรงเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ หนังนำแสดงโดย Julia Roberts และ Hugh Grant ประเมินว่าคนดูเกือบเต็มโรงคือประมาณ 90% และมีทั้งชายหญิงในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ต่างก็แสดงความชื่นชอบหนังเรื่องนี้ หนังจะเปิดฉายแบบเต็มที่ในวันที่ 28 พฤษภาคม ซึ่งอยู่ในช่วงวันหยุด Memorial Day

อันดับ 6 เป็นหนังตลกคู่หูในคุกที่นำแสดงโดย Eddie Murphy และ Martin Lawrence, Life ทำรายได้ไป $2.9M รวมรายได้ขณะนี้กวาดไปแล้ว $55.3M

หนังแนว high school comedy เรื่องใหม่ Trippin' จัดจำหน่ายโดย October Films เปิดฉายเป็นสัปดาห์แรกตั้งแต่วันพุธ อยู่อันดับ 7 ทำรายได้ $2.5M จากจำนวน 777 โรง ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรง $3,253 คิดรวมรายได้ 5 วัน ได้ไปแล้ว $3.2M

Never Been Kissed ที่นำโดย Drew Barrymore อยู่อันดับ 8 รายได้ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วเล็กน้อยคือเพียง 17% โดยทำเงินไปอีก $2.5M รายได้รวมอยู่ที่ $43.8M ส่วน Election จากค่าย Paramount นำแสดงโดย Matthew Broderick และ Reese Witherspoon อยู่อันดับ 9 ด้วยรายรับ $2.3M ยอดรายได้รวมแล้ว $7M คาดว่าจะไปได้ถึงประมาณ $13-15M ก่อนลาโรง

ปิดท้าย Top-10 ด้วยหนังใหม่ที่เปิดฉายแบบชิมลางTea With Mussolini หนังดราม่าอิงประวัติศาสตร์จากสังกัด MGM ทำรายได้เปิดตัวอย่างงดงาม $1.6M จากจำนวนแค่ 270 โรงใน New York และ Los Angeles ทำรายได้เฉลี่ยสูงถึง $6,049 หนังนำแสดงโดย Cher, Judi Dench, และ Lily Tomlin

หนังสี่เรื่องที่หลุดไปจาก top-10 คือ Analyze This ที่ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 11 ตกลงมาอยู่อันดับ 11 ทำรายได้ $921,133 รายได้รวมอยู่ที่ $102.15M คาดว่าจะไปหยุดที่ $105-110M, หนังวัยรุ่นทุนสร้าง $16M จาก Buena Vista, Ten Things I Hate About You ตกมาอยู่อันดับ 12 รายได้เข้าใกล้ $34M แล้ว คาดว่าจะไปจบที่ตัวเลขราว $36M, หนังของ Robert Altman จัดจำหน่ายโดย October Films, Cookie's Fortune ลงมาอยู่อันดับ 16 ทำเงินไปแล้ว $8.55M จากจำนวนน้อยกว่า 600 โรง รายได้แต่ละสัปดาห์ลดลงอย่างช้าๆ คาดว่าจะทำเงินไปได้ถึงระดับ $12-14M ส่วนหนังออสการ์ Shakespeare in Love ตกจาก top-10 อีกครั้ง ลงมาอยู่อันดับ 13 แต่ทำรายได้รวมไปแล้ว $95M รายได้ทั่วโลกตอนนี้กวาดไปแล้ว $245M

หนังใหม่สัปดาห์หน้า Star Wars: Episode I - The Phantom Menace ของ Lucasfilm จัดจำหน่ายโดย Fox เริ่มฉายพุธที่ 19 พฤษภาคม ส่วนหนังที่เปิดฉายวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคมได้แก่The Love Letter ของ Dreamworks