Box Office สุดสัปดาห์ที่ 25 - 28 พฤษภาคม 2544
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)
อเมริกันชนแห่กันไปอุดหนุน Pearl Harbor หนังรักระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ 4 วันในช่วง Memorial Day กันอย่างคับคั่งตามความคาดหมาย ในขณะที่หนังแอนิเมชั่นตลกเฮฮา Shrek ก็ยังเดินหน้าทำเงินต่อ แม้ว่าจะโดนยักษ์ใหญ่เบียดตกจากแชมป์ box office ก็ตาม
Buena Vista เปิดฉาย Pearl Harbor หนังมหากาพย์ความรักทุนสร้าง $140M เรต PG-13 ที่มีสงครามโลกครั้งที่สองเป็นฉากหลัง และแน่นอนว่าขึ้นครองอันดับหนึ่งบนตาราง box office ตามความคาดหมาย หนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย Jerry Bruckheimer กำกับโดย Michael Bay (The Rock, Armageddon) จากบทภาพยนตร์ของ Randall Wallace (ผู้เขียนบท Braveheart) นำแสดงโดย Ben Affleck, Josh Hartnett พบกับนักแสดงสาวชาวอังกฤษ Kate Beckinsale ร่วมด้วย Cuba Gooding Jr., Alec Baldwin, Dan Aykroyd, Tom Sizemore และ Jon Voight ทำรายได้ไป $75.2M จากช่วง 4 วันสุดสัปดาห์ ในจำนวน 3,214 โรง เฉลี่ยรายได้ต่อโรงออกมา $23,391 ตัวเลขรายได้นี้ นับเป็นอันดับสองของหนังที่เปิดตัวในวันหยุดพิเศษนี้ รองจาก The Lost World ของ Steven Spielberg ที่ทำได้ $90.2M เมื่อปี 1997 (รายได้จากช่วง 4 วันเหมือนกัน) โดยหนังที่โดนแย่งอันดับไปก็คือ Mission: Impossible 2 ที่ทำได้ $70.8M เมื่อปีที่แล้ว และ Star Wars: Episode I ที่ทำได้ $66.9M เมื่อปี 1999
เมื่อดูรายได้จาก 3 วันสุดสัปดาห์ (ศุกร์-อาทิตย์) เพื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ในสุดสัปดาห์ปกติ พบว่า Pearl Harbor โกยเงินไป $59.1M เฉลี่ยออกมา $18,382 ต่อโรง ซึ่งติดอันดับ 4 ของหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์สามวัน รองจาก The Lost World ที่ทำได้ $72.1M, The Mummy Returns ที่ทำได้ $68.1M และ Star Wars Episode I ที่ทำได้ $64.8M นอกจากนี้ Pearl Harbor ยังครองอันดับหนึ่ง ของหนังของค่าย Buena Vista ที่ทำเงินสูงสุด แต่ไม่ใช่ภาคต่ออีกด้วย
หลายฝ่ายวิเคราะห์กันว่า สาเหตที่รายได้สี่วันของ Pearl Harbor ไม่อาจลบสถิติเก่าที่ The Lost World ทำไว้ก็เป็นเพราะ การที่หนังมีความยาวร่วมสามชั่วโมง ทำให้ไม่สามารถฉายด้วยจำนวนรอบที่ไดโนเสาร์ภาคสองเคยทำไว้ แต่อีกนั่นแหละ Pearl Harbor เปิดฉายในจำนวนก็อปปี้ที่มากถึงกว่า 6,000 ก็อปปี้ ในโรงระบบมัลติเพล็กซ์ ยังไม่อาจแย่งแชมป์มาได้เลย นี่คืออีกปัจจัยที่ต้องเอามาคำนึงด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม Pearl Harbor ก็ได้สร้างสถิติใหม่ๆ เหมือนกัน นั่นคือ เป็นหนังที่เปิดตัวทำรายได้สูงสุดของค่าย Disney (ลบสถิติของแชมป์เก่า Toy Story 2 ที่ทำไว้ $57.4M) และยังเป็นหนังที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุด ของทั้งผู้อำนวยการสร้าง Jerry Bruckheimer และผู้กำกับ Michael Bay ซึ่งของเดิมทำไว้โดย Armageddon เมื่อปี 1998 ด้วยตัวเลข $36.1M และที่สำคัญ.. Pearl Harbor เป็นหนังที่มีความยาวร่วมๆ 3 ชั่วโมงเรื่องแรก ที่ทำรายได้เปิดตัวเกินกว่า $31M ซึ่งสถิติเดิมทำไว้โดย Saving Private Ryan ของ Steven Spielberg ที่ทำได้ $30.6M จากจำนวน 2,463 โรง (เฉลี่ยต่อโรง $12,414) เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 1998
มาดูรายละเอียดของผู้ชมกันบ้าง ทาง Buena Vista ผู้จัดจำหน่ายรายงานผลมาว่า มีผู้ชมเป็นเพศชายถึง 53% และมีถึง 63% ที่มีวัยสูงกว่า 25 ปี โดยผู้ชมจำนวนกว่า 87% ให้ความเห็นต่อตัวหนังว่าอยู่ในเกณฑ์ "ดีมาก" ไปจนถึง "ยอดเยี่ยม" แต่ที่น่าแปลกใจก้คือ หนังสามารถดึงดูดผู้ชมกลุ่มวัยรุ่นได้เพียง 19% ของจำนวนผู้ชมทั้งหมด ทั้งที่ใช้นักแสดงวัยรุ่นอย่าง Ben Affleck, Josh Hartnett และ Kate Beckinsale มาเป็นแม่เหล็ก
รายได้ของ Pearl Harbor ทำได้ $18.7M ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดตัว และไต่ขึ้นอีก 10% ไปเป็น $20.6M ในวันเสาร์ ก่อนจะลดลง 4% เป็น $19.7M ในวันอาทิตย์ และลดลง 19% เป็น $16.1M ในวันจันทร์ หนังจะเข้าฉายในอังกฤษวันศุกร์นี้ และในญี่ปุ่น วันที่ 14 กรกฎาคม ส่วนในไทย 29 มิถุนายนนี้ได้ดูกันแน่
หนังแอนิเมชั่นเรต PG ทุนสร้าง $48M ของค่าย DreamWorks - Shrek ยังคงเดินหน้าทำเงินอย่างต่อเนื่อง อย่างไม่สะทกสะท้าน ทำได้อีก $55.2M จากช่วง 4 วันสุดสัปดาห์ (ศุกร์-จันทร์) โดยสามวันปกติทำได้ $42.5M ใกล้เคียงกับตัวเลข $42.35M ที่ทำได้ใน 3 วันที่เปิดตัวเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว รวมรายรับ 11 วันฟันไปแล้ว $111.8M ผ่านร้อยล้านไปเรียบร้อย เป็นหนังอีกเรื่องที่ทำเงินทะลุหลักร้อยล้านได้ในเวลาอันสั้น คือแค่ 11 วัน เทียบเท่ากับที่ Toy Story 2 และ The Lion King เคยทำไว้
ในขณะนี้ Shrek ยังก้าวนำหน้าอยู่ 39% เมื่อเทียบกับ Dinosaur ซึ่งเปิดตัวในช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว คือสุดสัปดาห์ก่อนหน้า Memorial Day และทำได้ $80.4M จากช่วง 11 วันเดียวกันนี้ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของยักษ์ตัวเขียว (พากย์เสียงโดย Mike Myers) และมีดาราระดับยักษ์มาร่วมให้เสียงหลายคน ได้แก่ Cameron Diaz, Eddie Murphy, John Lithgow ซึ่งตอนนี้ Shrek ก็กลายเป็นหนังร้อยล้านเรื่องที่ 3 ของ Mike Myers, เป็นเรื่องที่ 5 ของ Cameron Diaz และเรื่องที่ 8 ของ Eddie Murphy สำหรับทางด้านสตูดิโอนั้น หนังเรื่องนี้ก็กลายเป็นหนังแอนิเมชั่นที่ทำเงินสูงสุดของ DreamWorks ไปแล้วเรียบร้อย แซงหน้า Chicken Run ที่ทำไว้ $106.8M เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว ดูจากแนวโน้มแล้ว ท่าทางจะไปได้สวยอีกหลายสัปดาห์ เพราะหนังที่จับกลุ่มเป้าหมายเดียวกับ Shrek อย่าง Atlantis ของค่าย Disney (กำหนดฉาย 8 มิถุนายน) และ Doctor Dolittle 2 ของ Fox (กำหนดเปิดฉาย 22 มิถุนายน) ก็ยังอยู่อีกไกลพอสมควร คนไทยรอพบกับยักษ์เขียวกับผองเพื่อนได้ตั้งแต่ 22 มิถุนายนนี้
อันดับ 3 เป็นหนังฮิตภาคต่อของค่าย Universal - The Mummy Returns ที่กำลังจะเข้าฉายในไทย 8 มิถุนายนนี้ สุดสัปดาห์ 4 วันนี้ทำไปได้อีก $19M หรือ $14.7M เฉพาะ 3 วันสุดสัปดาห์ จากศุกร์ - อาทิตย์ (เทียบแล้วลดลง 28% จากช่วง 3 วันปกติ) รวมรายได้ขณะนี้กวาดไปแล้ว $170.7M จากที่ฉายมา 25 วัน แซงหน้าภาคแรก The Mummy ที่ทำได้ทั้งสิ้นตลอดโปรแกรม $155.3M เมื่อปี 1999 และในขณะเดียวกัน ก็กำลังครองตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดของปี 2001 อยู่ ซึ่งตำแหน่งนี้คงจะรั้งอยู่ได้อีกไม่นานนัก เพราะนี่เป็นเพียงช่วงต้นซัมเมอร์เท่านั้นเอง
หนังแอ็คชั่นในยุคอัศวิน ทุนสร้าง $41M จากค่าย Sony - A Knight's Tale นำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มชาวออสซี่ Heath Ledger (จาก The Patriot) โดนเบียดจากอันดับ 3 ลงมาอยู่ 4 ทำเงินไปอีก $9.1M จากวันหยุดยาว 4 วัน รวมรายได้ขณะนี้ $44.3M รายได้ในช่วง 3 วัน ศุกร์-อาทิตย์ ทำได้ $7.3M หรือลดลง 30% จากสุดสัปดาห์ที่แล้ว กำหนดฉายในไทยอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน
อันดับ 5 เป็นของ Angel Eyes หนังระทึกขวัญที่นำแสดงโดย Jennifer Lopez และ Jim Caviezal กำกับโดย Luis Mandoki (Message in a Bottle) จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. ทำรายได้ในระหว่างวันหยุดยาวสี่วันนี้ไป $6.2M ฉายมา 11 วันได้ไปแล้ว $18.5M เมื่อเทียบกับรายได้ 3 วันด้วยกัน หนังทำเงินลดลงไปถึง 45%
อันดับ 6 ถึง 10 เป็นหนังที่ค้างโปรแกรมมาตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยอันดับ 6 เป็นของ Bridget Jones's Diary จัดจำหน่ายโดย Miramax ตกมาจากอันดับ 5 ทำเงินไปอีก $4.2M รวมรายได้ $62.4M จากที่ฉายมา 7 สัปดาห์ , อันดับ 7 คือหนังระทึกขวัญสืบสวนสอบสวน Along Came A Spider นำแสดงโดย Morgan Freeman จากค่าย Paramount ที่กำลังฉายในไทย หนังได้เงินไปอีก $2.1M ตกมาจากอันดับ 6 รวม 8 สัปดาห์ได้ไปแล้ว $70.6M
อันดับ 8 เป็นหนังอินดี้จาก Newmarket Films - Memento นำแสดงโดย Guy Pierce เลื่อนขึ้นมาจากอันดับ 10 ทำเงินไป $2M รวมรายได้ขณะนี้ $14.5M จากที่ฉายมา 11 สัปดาห์ อันดับ 9 และ 10 เป็นของ Spy Kids จากค่าย Miramax ที่กำลังฉายในไทย ได้ไปอีก $1.3M รวมแล้ว $105.2M จาก 9 สัปดาห์ ปิดท้ายอันดับ 10 เป็นหนังจากค่าย New Line เรื่อง Blow ที่มีโปรแกรมฉายในไทย 15 มิถุนายน ทำเงินไปอีก $1.2M รวมรายได้ $51.6M จาก 8 สัปดาห์
สัปดาห์ที่สองของ Moulin Rouge นำแสดงโดย Nicole Kidman และ Ewan McGregor งานกำกับของ Baz Luhrmann ที่ยังเป็นการเปิดฉายแบบชิมลางเฉพาะแค่ 2 โรงใน New York และ Los Angeles หนังดราม่า-เพลง จากค่าย Fox เรื่องนี้โกยเงินไปอีก $264,570 ในช่วงวันหยุด 4 วัน เฉลี่ยรายได้ต่อโรงออกมา $132,285 โดยช่วง 3 วัน (วันศุกร์-อาทิตย์) ได้ไป $193,098 เพิ่มขึ้น 15% จากสัปดาห์ที่แล้ว รวม 11 วันได้ไปแล้วทั้งสิ้น $582,122 หนังจะเปิดตัวฉายจริงตั้งแต่ 1 มิถุนายนนี้ ปะทะกับหนังตลก What's the Worst That Could Happen? ของ Martin Lawrence ที่ประกบกับ Danny Devito และ The Animal ที่นำแสดงโดย Rob Schneider อย่างจังเบอร์
สัปดาห์ที่ 5 ของ Driven "เร่งสุดแรง แซงเบียดนรก" หนังแข่งรถของ Sylvester Stallone ที่ลงมือเขียนบทและอำนวยการสร้างเอง จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. ตกจากอันดับ 7 ไปอยู่ 11 หลุดจาก top-10 ไปแล้ว โดยช่วงสี่วันนี้ได้ไปอีก $1.2M รวมรายได้ขณะนี้ $31M จากทุนสร้าง $72M คาดว่าจะไปได้ถึงประมาณ $32-34M คงจะไปหวังรายได้จากตลาดนอกอเมริกาเหนือแทน หนังกำลังเข้าฉายในไทย เป็นอย่างไรลองพสูจน์ดูได้
หนังใหม่สุดสัปดาห์หน้า Moulin Rouge หนังเพลง นำแสดงโดย Nicole Kidman และ Ewan McGregor อีกเรื่องคือหนังตลก The Animal นำแสดงโดย Rob Schneider และ Colleen Haskell เรื่องของชายหนุ่มที่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ และโดนเอาอวัยวะของสัตว์มาผ่าตัดใส่เข้าไปในร่างกาย วันหนึ่ง สัญชาติญาณสัตว์ก็พยายามแย่งการควบคุมจากสัมปชัญญะปกติของเขา เรื่องวุ่นๆ นี้เกิดขึ้นเมื่อเขากำลังมี "ความรัก" เข้าพอดี และอีกเรื่อง What's the Worst That Could Happen? หนังตลกนำแสดงโดย Martin Lawrence พบกับ Danny DeVito
# | Title | May 25 - 28 | May 18 - 20 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Dist. |
1 | Pearl Harbor | $ 75,177,654 | 3,214 | 1 | $ 23,391 | $ 75,177,654 | Buena Vista | ||
2 | Shrek | 55,215,620 | 42,347,760 | 30.4 | 3,623 | 2 | 15,240 | 111,753,400 | DreamWorks |
3 | The Mummy Returns | 19,044,005 | 20,435,840 | -6.8 | 3,553 | 4 | 5,360 | 170,691,055 | Universal |
4 | A Knight's Tale | 9,110,124 | 10,406,836 | -12.5 | 2,964 | 3 | 3,074 | 44,316,010 | Sony |
5 | Angel Eyes | 6,205,705 | 9,225,575 | -32.7 | 2,407 | 2 | 2,578 | 18,529,732 | Warner Bros. |
6 | Bridget Jones's Diary | 4,187,218 | 3,730,451 | 12.2 | 1,741 | 7 | 2,405 | 62,381,548 | Miramax |
7 | Along Came A Spider | 2,111,674 | 2,352,157 | -10.2 | 1,408 | 8 | 1,500 | 70,646,843 | Paramount |
8 | Memento | 1,972,953 | 1,280,291 | 54.1 | 531 | 11 | 3,716 | 14,540,658 | Newmarket |
9 | Spy Kids | 1,296,841 | 1,286,388 | 0.8 | 1,301 | 9 | 997 | 105,226,988 | Miramax |
10 | Blow | 1,242,824 | 1,401,608 | -11.3 | 733 | 8 | 1,696 | 51,570,006 | New Line |
11 | Driven | 1,227,553 | 1,827,516 | -32.8 | 1,523 | 5 | 806 | 30,965,788 | Warner Bros. |
12 | Crocodile Dundee in LA | 956,082 | 1,207,435 | -20.8 | 1,214 | 6 | 788 | 23,828,786 | Paramount |
13 | The Tailor of Panama | 730,383 | 667,039 | 9.5 | 434 | 9 | 1,683 | 12,470,576 | Sony |
14 | The Golden Bowl | 467,046 | 285,506 | 63.6 | 117 | 5 | 3,992 | 1,225,465 | Lions Gate |
15 | Save the Last Dance | 463,998 | 31,533 | 1371.5 | 320 | 20 | 1,450 | 89,854,151 | Paramount |
16 | Crouching Tiger, Hidden Dragon | 460,376 | 395,399 | 16.4 | 312 | 25 | 1,476 | 126,732,089 | Sony Classics |
17 | Traffic | 369,086 | 323,878 | 14.0 | 296 | 22 | 1,247 | 123,616,998 | USA Films |
18 | With a Friend Like Harry | 355,905 | 217,925 | 63.3 | 67 | 6 | 5,312 | 1,549,771 | Miramax |
19 | Kingdom Come | 354,942 | 425,281 | -16.5 | 291 | 7 | 1,220 | 22,574,258 | Fox Searchlight |
20 | Joe Dirt | 334,156 | 456,815 | -26.9 | 331 | 7 | 1,010 | 26,964,552 | Sony |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :