|
Box Office สุดสัปดาห์ที่ 26 - 29 พฤษภาคม 2549
ภาคสุดท้ายแห่งไตรภาคมนุษย์กลายพันธุ์ X-Men: The Last Stand ทำรายได้มาเป็นอันดับหนึ่งในสุดสัปดาห์วันหยุด Memorial Day ตามความคาดหมาย พร้อมกับการทุบสถิติเก่าตามเคย ค่ายหนังต่างๆ พากันรู้แกว เอาหนังยักษ์หลบฉากไม่กล้าเปิดตัวปะทะ ส่วนหนังเจ้าของตำแหน่งแชมป์และรองแชมป์สุดสัปดาห์ที่แล้วอย่าง The Da Vinci Code และ Over the Hedge ซึ่งยังไปได้ในกลุ่มผู้ชมเป้าหมายหลัก แต่ก็ต้องหล่นลงมาอยู่อันดับสองและสามตามลำดับ
X-Men: The Last Stand ที่ลงทุนสร้างไป $165M กวาดรายได้ในช่วงสี่วันสุดสัปดาห์ (ศุกร์ถึงจันทร์) ไปถึง $122.9M (รวมเอารายได้ของรอบพิเศษค่ำวันพฤหัสบดีไปแล้ว $5.9M) จากจำนวนโรงมากถึง 3,690 โรง เฉลี่ยต่อโรงยังสูงลิบถึง $33,296 อันเป็นสถิติใหม่ของสุดสัปดาห์ Memorial Day โค่นเจ้าของสถิติเก่าสองรายอย่าง The Lost World เมื่อปี 1997 ของ Steven Spielberg ที่ทำได้ $92.7M ในช่วงสี่วันเีดียวกัน (ที่เอาตัวเลขของรอบพิเศษวันพฤหัสบดีมารวมแล้วด้วย) และ Shrek 2 ที่กวาดไป $95.6M ในปี 2004 (ซึ่งเป็นตัวเลขของสุดสัปดาห์ที่สองของการฉาย) อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของ X-Men: The Last Stand นี้ มีตัวแปรเรื่องค่าตั๋วที่แพงกว่า เมื่อคิดจำนวนตั๋วแล้ว The Lost World ก็ยังครองแชมป์อยู่ดี (ประมาณ 20 ล้านใบของหนังไดโนเสาร์ เทียบกับประมาณ 19 ล้านใบของมนุษย์กลายพันธุ์)
เมื่อคิดเฉพาะรายได้สามวันสุดสัปดาห์ ตามมาตรฐานการเปรียบเทียบของ Box Office พบว่า X-Men: The Last Stand ทำรายได้ไปทั้งสิ้น $102.8M ติดอันดับ 4 หนังเปิดตัวสูงสุดของเดือนพฤษภาคม ตามหลังเจ้าสถิติเก่าอย่าง Spider-Man ($114.8M เมื่อปี 2002), Star Wars: Episode III - Revenge of the Sith ($108.4M เมื่อปี 2005) และ Shrek 2 ($108M เมื่อปี 2004) ต้นสังกัด Fox ระบุว่า รายได้ในวันศุกร์เปิดตัวที่ $45.1M ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของรายได้หนังในวันเปิดตัว (เป็นรองแค่ Star Wars: Episode III ที่เปิดตัวได้ไป $50M ในวันเปิดตัว ซึ่งเป็นวันพฤหัสบดี) แน่นอนว่า เมื่อคิดเฉพาะหนังที่เปิดตัวในวันศุกร์เท่านั้น X-Men: The Last Stand ก็ทำสถิติใหม่ไปแล้วเรียบร้อย ส่วนรายได้ในวันเสาร์ หนังทำเงินไป $32M คือลดลงมากถึง 29% ในขณะที่วันอาทิตย์ไปได้อีก $25.7M หรือแผ่วลงไปอีก 20% แล้วมาได้ของวันจันทร์อีก $20.1M ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้) รายได้เฉลี่ยสามวัน จากวันศุกร์ถึงอาทิตย์ หนังทำตัวเลขออกมาได้สูงถึง $27,846
อย่างไรก็ตาม X-Men: The Last Stand ก็ยังเปิดตัวได้ดีกว่าที่วงการได้คาดกันไว้ หลังจากที่มีตัวอย่างมาจาก Mission: Impossible III หนัง "ภาคสาม" ของ Tom Cruise เมื่อสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่กลายกลับเป็นว่า หนัง "ภาคสาม" ของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ กลับทำได้ดีกว่าสองภาคก่อนอย่าง X2: X-Men United ที่เปิดตัวด้วยรายได้ $85.6M เมื่อปี 2003 และภาคแรก X-Men ที่เปิดตัวได้ไป $54.5M เมื่อปี 2000 ก่อนจะไปหยุดที่ $214.9M และ $157.3M ตามลำดับ เมื่อการออกจากจุดสตาร์ทของ X-Men: The Last Stand ทำได้ดีเช่นนี้ จึงคาดว่าจะเป็นอีกเรื่องที่จะทำรายได้ดีที่สุดในไตรภาค เหมือนที่ The Lord of The Rings: The Return of The King และ Austin Powers in Goldmember ทำได้มาแล้ว
ในสงครามมนุษย์กลายพันธุ์ครั้งนี้ Fox และ Marvel Entertainment ยังคงใช้นักแสดงชุดเดิม นำโดย Hugh Jackman, Halle Berry, Patrick Stewart, Ian McKellen และ Rebecca Romijn ในบทบาทเดิม และเสริมด้วยบุคคลสำคัญอีกสองคนคือ Kelsey Grammer ในฐานะนักแสดงบทบาทของ Beast และ Brett Ratner ในฐานะผู้กำกับ โดยรับช่วงมาจาก Bryan Singer ที่โยกไปกำกับ Superman Returns แทน หนังเปิดฉายพร้อมกันในหลายประเทศทั่วโลก (รวมทั้งไทย) กวาดทรัพย์ไปรวมกันได้แล้วประมาณ $76.1M ทำให้รายได้รวมของหนังทั่วโลกขณะนี้ได้ไปแล้ว $196M จะเห็นว่าหนังเรื่องนี้ทำผลงานได้แตกต่างจากหนังฟอร์มยักษ์ทั่วไปของ Hollywood นั่นคือหนังทำเงินในบ้านมากกว่าในตลาดโลก จากข้อมูลของสองภาคแรก หนังได้เงินในอเมริกาเหนือไปถึง 53% ของรายได้รวมทั่วโลก
สุดสัปดาห์ข้างหน้าของ X-Men: The Last Stand ดูจะไม่น่าหนักใจเท่าใดนัก แม้ว่ารายได้ในสุดสัปดาห์ที่สองจะร่วงลงอย่างมาก ตามประสาหนังแนวนี้ ที่คอหนังระดับแฟนพันธุ์แท้ จะแห่กันออกมาดูในสุดสัปดาห์แรกเสียส่วนใหญ่แล้วก็ตาม และเมื่อพบว่าคู่แข่งที่จะมาแย่งตำแหน่งในสุดสัปดาห์ถัดไป จะเป็นหนังต่างแนวอย่าง The Break Up หนังตลกบ้านแตกแต่ไม่แยกทาง ที่แสดงนำโดย Vince Vaughn และ Jennifer Aniston และในเดือนมิถุนายน หนังที่มุ่งมั่นแย่งคนดูกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน ก็เห็นจะมีแต่ Superman Returns เท่านั้นเอง โดยเริ่มจาก Cars หนังแอนิเมชั่นของ Pixar เปิดตัวในวันที่ 9 มิถุนายน ตามด้วยหนังตลกของ Jack Black เรื่อง Nacho Libre ที่จะลงโรง 16 มิถุนายน ตามด้วยหนังตลกของ Adam Sandler เรื่อง Click ที่จะเข้าฉาย 23 มิถุนายน ก่อนจะเจอคู่ปรับ Superman Returns ในสุดสัปดาห์สิ้นเดือนโน่น ทำให้พอจะคาดได้ว่า X-Men: The Last Stand น่าจะโกยเงินได้อย่างปลอดคู่แข่งอีกหลายสัปดาห์ และจะสามารถแซงหน้าหนังแอนิเมชั่นจาก Fox เองอย่าง Ice Age: The Meltdown เพื่อยึดตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดแห่งปีมาครอง
หลังจากเปิดตัวอย่างยอดเยี่ยมเกินคาด หนังระทึกขวัญ The Da Vinci Code จากค่าย Sony ผลงานของผู้กำกับ Ron Howard และผู้แสดงนำ Tom Hanks ก็มีอันต้องยอมลงมาอยู่อันดับสอง แต่ก็ยังโกยไปอีกถึง $42.4M ในช่วงสี่วันสุดสัปดาห์ ทำให้รายได้รวมจาก 11 วันแรกได้ไปแล้วถึง $144.9M เมื่อคิดตัวเลขสามวันสุดสัปดาห์ จากวันศุกร์ถึงอาทิตย์ เพื่อเอาไปเทียบกับสุดสัปดาห์แรก รายได้หนังลดลงไปมากถึง 56% อันเป็นแววที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เมื่อปีกลาย หนังยักษ์ Star Wars: Episode III - Revenge of the Sith เปิดตัวในสุดสัปดาห์เดียวกับ "รหัสลับระทึกโลก" คือก่อนสุดสัปดาห์วันหยุด Memorial Day รายได้ในสุดสัปดาห์ที่สองร่วงลงถึง 49% ในขณะที่หนังแอนิเมชั่น Shrek 2 เมื่อปี 2004 รายได้ลดลงไปแค่ 33% ก่อนจะกลายเป็นหนังสร้างประวัติศาสตร์ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม The Da Vinci Code ก็ยังไปได้ดีในภาพรวม โดยสามารถทำรายได้ในสุดสัปดาห์นี้ไปมากพอตัว ทั้งในอเมริกาเหนือและตลาดโลก รวมกันได้ไปอีก $92M ทำให้รายได้ในตลาดโลกขณะนี้ทำไปได้แล้ว $320M รวมทั่วโลกทำรายได้ไปแล้วมากถึง $465M ในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ รายได้ในหลายประเทศก็ไม่ได้ลดลงไปมากมายอย่างที่คาด ทั้งที่ The Da Vinci Code ต้องรับมือกับ X-Men: The Last Stand อย่างเช่นในฝรั่งเศส รายได้ลดลงไป 30%, ในญี่ปุ่นลดลงไปแค่ 19%, ในเยอรมันลดลงไปเพียง 18% และที่สวนทางกับเพื่อนก็คือในฮอลแลนด์ รายได้พุ่งขึ้น 9% คาดว่ารายได้รวมในอเมริกาเหนือเอง หนังน่าจะทำรายได้ทะลุผ่านระดับ $200M ไปได้ จากทุนสร้าง $125M และคาดว่ารายได้รวมทั่วโลก น่าจะผ่านหลัก $700M ไปได้
หนังแอนิเมชั่นสีสันสดใส Over the Hedge ยังไปได้สวยเนื่องจากคู่ปรับใหญ่ไม่ใช่หนังแนวเดียวกัน หนังทำเงินไปอีก $35.3M ในช่วงสี่วันสุดสัปดาห์ จากผู้ชมกลุ่มครอบครัว รายได้สามวันจากวันศุกร์ถึงอาทิตย์ เมื่อเทียบกับของสุดสัปดาห์เปิดตัว รายได้แผ่วลงไปแค่ 30% เท่านั้น ซึ่งพอจะชดเชยจากการที่หนังเปิดตัวได้ไม่แรงเหมือนหนังแอนิเมชั่นเรื่องก่อนๆ หลังจากฉายมา 11 วัน Over the Hedge ทำเงินให้ Paramount ไปแล้ว $84.4M เมื่อเทียบกับ Shark Tale ทำได้ $87.4M เมื่อปี 2004 แต่เป็นตัวเลขของ 10 วัน ก่อนจะไปหยุดที่ $160.8M และ Chicken Littleของ Disney ได้ไป $80.4M ในสิบวันแรก ก่อนจะไปจบที่ $135.4M คาดว่าจากการที่ Over the Hedge ปลอดคู่แข่งที่มุ่งจับกลุ่มเป่าหมายเดียวกันไประยะหนึ่ง จนกว่าการลงสนามของ Cars ของ Disney และ Pixar ในวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งพอจะมีเวลาให้สารพัดสัตว์ทำเงินได้อีกพอสมควร จึงคาดว่ารายได้รวมน่าจะไปได้ถึงระดับประมาณ $150M
ที่หล่นลงไปจ่อจวนเจียนจะหลุดจาก top-5 ก็คือหนังใหญ่สองเรื่อง ที่ไปได้ไม่สวยนัก คือ Mission: Impossible III ของ Tom Cruise จากค่าย Paramount ทำรายได้ไปอีก $8.9M รายได้รวมตอนนี้อยู่ที่ $116.2M จากสี่สัปดาห์ และอีกเรื่อง Poseidon เรือนรกของ Warner Bros. ได้ไปอีก $7.1M ฉายมาสามสัปดาห์ได้ไป $46.7M เท่านั้นเอง
อันดับ 6 รายได้สี่วันของ RV หนังตลกครอบครัวจากค่าย Sony ที่แสดงนำโดย Robin Williams รับไปอีก $5.4M รายได้รวมขยับขึ้นไปเป็น $57.3M จาก 5 สัปดาห์ ตามด้วยอันดับ 7 หนังสยองขวัญจาก Lionsgate เรื่อง See No Evil เก็บไปอีก $3.4M ทำเงินไปแล้ว $9.4M ใน 11 วันแรก
หนังโชคร้ายของ Lindsay Lohan เรื่อง Just My Luck ตกมาอยู่อันดับ 8 ได้ไปอีก $2.5M ทำเงินให้ Fox ไปแล้วแค่ $14.1M เท่านั้นเอง ส่วน Universal ได้ไปอีก $1.1M จากหนังระทึกขวัญเหตุการณ์ 9/11 เรื่อง United 93 ทำรายได้รวมไปแล้ว $29.9M ปิดท้ายด้วยหนังแอนิเมชั่นภาคต่อ Ice Age: The Meltdown รับไปอีก $985,778 พอๆ กับตัวเลขสุดสัปดาห์ที่แล้ว รายได้รวมอยู่ที่ $190.7M
หนังดราม่าครอบครัว Akeelah and the Bee ตกจาก top ten ในสุดสัปดาห์ที่ 5 ของการฉาย ช่วงวันหยุดสี่วันทำเงินให้ Lionsgate ไปอีก $902,487 ส่งให้รายได้รวมขึ้นไปเป็น $17.1M ในขณะที่หนังสยองขวัญ An American Haunting ทำเงินไปอีก $909,568 ค่ายผู้จัดจำหน่าย Freestyle ได้เงินจากหนังไปแ้ล้ว $14.9M จากที่ฉายสี่สัปดาห์
สุดสัปดาห์หน้าพบกับหนังตลก The Break Up "เตียงหัก แต่รักไม่เลิก" นำแสดงโดย Vince Vaughn และ Jennifer Aniston
ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 26 - 29 พฤษภาคม 2549
# | Title | May 26 - 29 | May 19 - 21 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Distributor |
1 | X-Men: The Last Stand | $ 122,861,157 | 3,690 | 1 | $ 33,296 | $ 122,861,157 | Fox | ||
2 | The Da Vinci Code | 42,437,372 | 77,073,388 | -44.9 | 3,754 | 2 | 11,305 | 144,918,409 | Sony |
3 | Over the Hedge | 35,322,115 | 38,457,003 | -8.2 | 4,093 | 2 | 8,630 | 84,377,727 | Paramount |
4 | Mission: Impossible III | 8,901,106 | 11,349,570 | -21.6 | 3,053 | 4 | 2,916 | 116,170,705 | Paramount |
5 | Poseidon | 7,087,413 | 9,224,340 | -23.2 | 3,245 | 3 | 2,184 | 46,730,150 | Warner Bros. |
6 | RV | 5,446,703 | 5,003,489 | 8.9 | 2,481 | 5 | 2,195 | 57,301,243 | Sony |
7 | See No Evil | 3,437,537 | 4,581,233 | -25.0 | 1,270 | 2 | 2,707 | 9,400,956 | Lionsgate |
8 | Just My Luck | 2,480,284 | 3,384,371 | -26.7 | 1,604 | 3 | 1,546 | 14,112,398 | Fox |
9 | United 93 | 1,054,560 | 1,400,200 | -24.7 | 781 | 5 | 1,350 | 29,878,975 | Universal |
10 | Ice Age: The Meltdown | 985,778 | 987,965 | -0.2 | 633 | 9 | 1,557 | 190,694,600 | Fox |
11 | An American Haunting | 909,568 | 1,478,785 | -38.5 | 748 | 4 | 1,216 | 14,881,118 | Freestyle |
12 | Akeelah and the Bee | 902,487 | 1,006,653 | -10.3 | 487 | 5 | 1,853 | 17,120,350 | Lionsgate |
13 | Fanaa | 878,938 | 72 | 1 | 12,207 | 878,938 | Yash Raj Films | ||
14 | Keeping Up with the Steins | 708,972 | 383,442 | 84.9 | 146 | 3 | 4,856 | 2,023,812 | Miramax |
15 | The Sentinel | 635,378 | 380,952 | 66.8 | 246 | 6 | 2,583 | 35,249,564 | Fox |
16 | Thank You for Smoking | 594,770 | 506,644 | 17.4 | 270 | 10 | 2,203 | 23,018,040 | Fox Searchlight |
17 | Friends With Money | 500,958 | 427,315 | 17.2 | 213 | 7 | 2,352 | 12,464,311 | Sony Classics |
18 | Stick It | 474,757 | 974,655 | -51.3 | 449 | 5 | 1,057 | 24,656,848 | Buena Vista |
19 | Deep Sea 3-D | 438,560 | 298,633 | 46.9 | 46 | 13 | 9,534 | 9,795,252 | Warner Bros. |
20 | Scary Movie 4 | 419,670 | 653,124 | -35.7 | 423 | 7 | 992 | 88,444,035 | Weinstein Co. |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :