Box Office สุดสัปดาห์ที่ 10 - 12 พฤศจิกายน 2543
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)
หนังใหม่ 3 เรื่อง ได้แก่ Little Nicky ของ Adam Sandler, Red Planet แอ็คชั่นผจญภัยบนดาวอังคาร และ Men of Honor หนังดราม่าที่สร้างจากเรื่องจริงของประดาน้ำผิวดำคนแรกของสหรัฐฯ ไม่สามารถเบียดนางฟ้าชาร์ลี Charlie's Angels ลงจากตำแหน่งแชมป์ได้
สาวๆ นางฟ้าชาร์ลี ยังคงเริงร่าอยู่อันดับหนึ่ง box office ต่อเป็นสัปดาห์ที่สอง Charlie's Angels จาก Sony ทำรายได้ไปอีก $24.6M ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 39% อยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมสิบวันฟันไปแล้ว $75M คาดว่ารายได้สุดท้านบนจอเงิน น่าจะตกอยู่ในราว $140-150M ในขณะเดียวกัน พวกเธอก็ทำรายได้ออกมาดีมากในญี่ปุ่น อยู่ในอันดับหนึ่ง รายได้อยู่ในระดับเดียวกับ X-Men หนังฮิตที่ฮือฮากันไปก่อนหน้า ต้นฉบับนำแสดงโดย Cameron Diaz, Drew Barrymore และ Lucy Liu ข่าวแจ้งว่า ฉบับพากย์ไทยจะให้เสียงโดยดาราสาว ตุ๊ก - จันทร์จิรา จูแจ้ง, เบ๊นซ์ - พรชิตา ณ สงขลา และนางแบบสาว แวร์โซว ตามลำดับ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างบันทึกเสียง มีกำหนดเปิดฉายในไทย 1 ธันวาคมนี้
หนังเรื่องล่าสุดของ Adam Sandler - Little Nicky จากค่าย New Line ซึ่งแน่นอนว่ายังเป็นแนวตลกที่เขาถนัด เปิดตัวไม่ดีเหมือนที่คาดไว้ ทำรายได้ไปแค่ $15.3M จากจำนวน 2,910 โรง เฉลี่ยออกมา $5,244 นับว่าแค่พอใช้ได้ ทั้งที่ความยาวแค่ 84 นาที ซึ่งน่าจะทำรอบได้มากกว่า (ข่าวว่าทุ่มทุนสร้างไปประมาณ $70-80M ไปแพงที่เทคนิกพิเศษ ที่มากกว่าเรื่องก่อนๆ แล้วก็ค่าตัวของเขานี่แหละ) คราวนี้ Adam Sandler รับบทลูกชายของซาตาน ที่ต้องขึ้นมายัง New York เพื่อตามตัวพี่ชายทั้งสองกลับบ้าน รายได้รวมจากรอบพิเศษเมื่อค่ำวันพฤหัสบดี ได้ทั้งสิ้น $16.1M นับว่าน่าผิดหวังเมื่อเทียบกับหนังเรื่องก่อนๆ ของเขา อาทิ Big Daddy เมื่อปีที่แล้ว ที่เปิดฉายสัปดาห์แรก ทำเงินไป $41.5M และ The Waterboy เมื่อปี 1998 เปิดตัวด้วยตัวเลข $39.4M ก่อนไปจบรายได้รวมที่ระดับกว่า $160M ทั้งสองเรื่อง ทำให้ Little Nicky กลายเป็นหนังที่เปิดตัวได้แย่ที่สุดของเขา นับแต่ Bulletproof เมื่อปี 1996 ที่ทำเงินสัปดาห์แรกไปแค่ $6M สัปดาห์หน้าและต่อๆ ไป ก็คงจะตีตื้นลำบาก เพราะมีหนังที่มุ่งจับกลุ่มเป้าหมายเดียวกับหนังเรื่องนี้อีกหลายเรื่อง Little Nicky มีกำหนดเปิดฉายในไทย 8 ธันวาคมนี้
อันดับ 3 เป็นหนังเข้าใหม่ Men of Honor หนังดราม่าในวงการทหารจาก Fox กำกับโดย George Tillman Jr. (Soul Food) สร้างจากเรื่องจริงของ Carl Brashear ซึ่งแสดงโดยดาราออสการ์ Cuba Gooding Jr. นักประดาน้ำผิวดำคนแรกของกองทัพเรือสหรัฐฯ ประกบกับดาราระดับออสการ์อีกคนคือ Robert De Niro ในบทครูฝึกจอมเฮี๊ยบ ร่วมด้วย Charlize Theron หนังทำเงินไป $13.3M จากจำนวน 2,092 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $6,376 นับว่าอยู่ในขั้นดีเลยทีเดียว ผู้ชมเทคะแนนให้หนังออกมาในระดับเกรด A โดยผู้ชมส่วนใหญ่จะเป็นคนมีอายุมากสักหน่อย คาดว่าหนังคงจะทำเงินไปอย่างสบายๆ อีกหลายสัปดาห์ เพราะในหลายสัปดาห์ข้างหน้า มีแต่หนังที่มุ่งตลาดไปที่วัยรุ่น หรือผู้ชมอายุน้อย สำหรับเมืองไทย ไม่ต้องรอนาน เพราะมีกำหนดฉายแล้ว 8 ธันวาคมนี่เอง (เจอกับ Little Nicky อีกแล้ว)
และอันดับ 4 ก็ยังคงเป็นหนังที่ Robert De Niro นำแสดงอีกเรื่อง Meet the Parents หนังตลกยอดฮิตจาก Universal/DreamWorks ตกมาจากอันดับ 2 ทำรายได้ในสัปดาห์ที่หกไป $10.3M ตอนนี้รายได้รวมไปอยู่ที่ $130M แล้ว สัปดาห์นี้รายได้ลดลงน้อยกว่าหนังทุกเรื่องใน top-10 คือแค่ 18% เท่านั้นเอง อันเป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งของหนังได้เป็นอย่างดี และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Robert De Niro มีหนังฮิตติดอันดับใน top-10 พร้อมกันถึง 2 เรื่อง ครั้งก่อนหน้าก็คือ Wag the Dog กับ Jackie Brown เมื่อเดือนมกราคม 1998 และ Heat กับ Casino เมื่อเดือนธันวาคม 1995 ..พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ งานเขาชุกเหลือเกิน!!
อันดับ 5 หนังเข้าใหม่ Red Planet แนว sci-fi จาก Warner Bros. นำแสดงโดย Val Kilmer และ Carrie-Anne Moss หนังแอ็คชั่นผจญภัยบนดาวอังคารอีกเรื่องของปีนี้ เรื่องราวของนักบินอวกาศกลุ่มหนึ่ง ที่ปฏิบัติภารกิจสำรวจดาวอังคาร เพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ในการดำรงชีวิต แต่เกิดความผิดพลาดในการลงจอด สร้างจากนิยายวิทยาศาสตร์ของ Chuck Pfarrer ข่าวว่าทุนสร้างตกประมาณ $80M ทำรายได้ไปเพียง $8.7M จากจำนวน 2,703 โรง เฉลี่ยออกมา $3,227 ไม่มากเลยเมื่อเทียบกับ Mission to Mars หนังเกี่ยวกับดาวอังคารอีกเรื่องในปีนี้ ที่เปิดตัวได้อันดับหนึ่งไปครองด้วยรายได้ $22.9M เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะไปหยุดรายได้ที่ $60.9M คาดว่า Red Planet คงจะไปทำเงินที่ตลาดนอกอเมริกาเหนือ และตลาดวิดีโอเทป มีกำหนดฉายในไทย ราวเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
สัปดาห์ที่สองของ The Legend of Bagger Vance หนังเกี่ยวกับกอล์ฟจาก DreamWorks นำแสดงโดย Will Smith, Matt Damon และ Charlize Theron กำกับโดย Robert Redford ตกจากอันดับ 3 มาอยู่ 6 รายได้หล่นวูบเดียว 45% ได้ไปอีก $6.3M รายได้รวมจาก 10 วัน $20.9M คาดว่าคงจะไปได้แค่ประมาณ $35-40M เท่านั้นเอง ดับความฝันของ Will Smith ที่จะมีหนังร้อยล้านเรื่องที่ 5 ติดต่อกันไปซะแล้ว ตลาดนอกอเมริกาเหนือรับผิดชอบโดย Fox ซึ่ง Will Smith น่าจะขายได้
Remember the Titans หนังดราม่าอเมริกันฟุตบอลของ Denzel Washington ตกมาจากอันดับ 4 มาอยู่ 7 และกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในชีวิตการทำงานของเขาซะแล้ว สัปดาห์นี้ได้ไปอีก $5.2M รายได้รวมขยับขึ้นไปเป็น $103.8M (แซงหน้าสถิติ $100.8M จาก The Pelican Brief เมื่อปี 1993) รายได้สัปดาห์นี้ลดลงแค่ 26% ทั้งที่ฉายมาเป็นสัปดาห์ที่ 7 แล้ว กลายเป็นหนังที่อึดที่สุดใน top-10 ขณะนี้
อันดับ 8 Pay it Forward เลื่อนลงมาจากอันดับ 7 ลดลง 29% ทำรายได้สัปดาห์นี้ $3M รายได้รวม $29.4M จาก 4 สัปดาห์ มีกำหนดฉายในไทย ต้นปี 2001 นี้
อันดับ 9 หนังอินดี้ก็ทำเงินได้ Billy Elliot หนังสัญชาติอังกฤษจากค่ายใหม่ล่าสุด Universal Focus ในเครือ Universal เรื่องราวของเด็กชายที่หันมาเต้นบัลเล่ต์แทนชกมวย เพิ่มโรงจาก 119 เป็น 494 ขยับจากอันดับ 13 ขึ้นไปติด top-10 อย่างหน้าตาเฉย ทำรายได้ไป $2.6M เพิ่มจากสัปดาห์ที่แล้ว 152% เฉลี่ยต่อโรงออกมา $5,270 รายได้รวมนับจากการเปิดฉายแบบชิมลางนาน 4 สัปดาห์ก่อนหน้า ได้ไปแล้ว $5.8M ในขณะเดียวกัน หนังเรื่องนี้ก็กำลังโกยเงินอย่างหนักในอังกฤษบ้านเกิด และเช่นเดียวกับในออสเตรเลีย
ปิดท้ายอันดับ 10 Bedazzled ตกมาจากอันดับ 6 ทำรายได้ไปอีก $2.5M รายได้รวม $34.6M จาก 4 สัปดาห์ หนังกำลังจะเข้าฉายในไทย 17 พฤศจิกายนนี้จะเห็นว่าหนัง 4 เรื่องใน top-10 ล้วนแต่โดนโรคเลื่อน (ด้วยเหตุใดก็แล้วแต่) จากโปรแกรมเดิมช่วงซัมเมอร์ มาอยู่เดือน ตุลาคม - พฤศจิกายน ได้แก่ Charlie's Angels, Red Planet, The Legend of Bagger Vance และ Bedazzled รวมทั้ง Lucky Numbers ของ Paramount มีเพียง Charlie's Angels เรื่องเดียวที่ประสบความสำเร็จ
Wonder Boys จาก Paramount นำแสดงโดย Michael Douglas, Tobey Maguire, Frances McDormand, Robert Downey Jr. และ Katie Holmes กำกับโดย Curtis Hanson (L.A. Confidential) ที่เปิดฉายไปแล้วเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ กลับมาฉายใหม่เพื่อหวังเตะตาคณะกรรมการออสการ์โดยเฉพาะ จำนวน 15 โรงใน New York, Los Angeles, Toronto, San Francisco, Boston และ Chicago ทำรายได้ไป $87,505 เฉลี่ยต่อโรงออกมา $5,834 นับว่าใช้ได้ รายได้รวมกับเมื่อฉายครั้งแรก ได้ไปแล้ว $18.8M
You Can Count On Me หนังอินดี้แนวดราม่าจาก Paramount Classics ที่มีดีกรีจากเทศกาล Sundance เปิดฉายแบบชิมลางใน New York และ Los Angeles ทำเงินไป $118,170 จาก 8 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $14,771 จะเปิดฉายในจำนวนโรงที่ได้เพิ่มในวันศุกร์สุดสัปดาห์หน้า
หนัง 4 เรื่องที่โดนเบียดหลุดจาก top-10 ไปก็คือ เรื่องแรก The Little Vampire หนังผจญภัยของเด็กๆ จาก New Line ตกจากอันดับ 8 ไป 11 ทำรายได้ไป $2.3M ฉายมา 3 สัปดาห์ได้ไปแล้ว $13M คาดว่าคงจะไปหยุดที่ประมาณ $17-19M, Book of Shadows: Blair Witch 2 ทุนสร้าง $15M จาก Artisan ตกวูบจากอันดับ 5 ไป 12 รายได้ยังดิ่งลงอย่างหนัก สัปดาห์นี้ลดลงไปถึง 61% ทำเงินได้ $1.9M จากการฉายในสัปดาห์ที่สาม รายได้รวมล่าสุด $25.1M คงจะไปจบที่ประมาณ $27-29M
เฉินหลง ไอ้หนุ่มหมัดเมา The Legend of Drunken Master ตกจากอันดับ 10 ไป 14 กวาดรายได้ไปแล้ว $11M คาดว่าจะไปหยุดที่ประมาณ $13M ส่วน Lucky Numbers ของ John Travolta ตกจากอันดับ 9 ไป 15 รายได้หดไป 65% คงไปหยุดที่ราวๆ $10M เท่านั้น
หนังใหม่สุดสัปดาห์หน้า Jim Carrey มาในบทปีศาจแสนซนตัวเขียว The Grinch หรือ How the Grinch Stole Christmas สร้างจากนิยายสำหรับเด็กขายดีของ Dr. Seuss กำกับโดย Ron Howard, Rugrats in Paris, การผจญภัยของเหล่าเด็กจอมซนในปารีส สร้างจากแอนิเมชั่นเรื่องดังทางโทรทัศน์, The Sixth Day หนังแอ็คชั่นเรื่องล่าสุดของ Arnold Schwarzenegger คราวนี้คนเหล็กต้องปะทะโคลนนิ่งตัวเอง อีกเรื่องคือ Bounce หนังดราม่านำแสดงโดย Gwyneth Paltrow และ Ben Affleck
ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 10 - 12 พฤศจิกายน 2543
# | Title | Nov. 10 - 12 | Nov. 3 - 5 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Dist. |
1 | Charlie's Angels | $ 24,606,860 | $ 40,128,550 | -38.7 | 3,037 | 2 | $ 8,102 | $ 75,011,318 | Sony |
2 | Little Nicky | 15,260,000 | 2,910 | 1 | 5,244 | 16,063,904 | New Line | ||
3 | Men of Honor | 13,339,465 | 2,092 | 1 | 6,376 | 13,339,465 | Fox | ||
4 | Meet the Parents | 10,342,995 | 12,638,560 | -18.2 | 2,697 | 6 | 3,835 | 130,013,885 | Universal |
5 | Red Planet | 8,721,296 | 2,703 | 1 | 3,227 | 8,721,296 | Warner Bros. | ||
6 | The Legend of Bagger Vance | 6,315,993 | 11,516,712 | -45.2 | 2,162 | 2 | 2,921 | 20,896,346 | DreamWorks |
7 | Remember the Titans | 5,182,414 | 6,961,283 | -25.6 | 2,641 | 7 | 1,962 | 103,800,570 | Buena Vista |
8 | Pay it Forward | 3,025,447 | 4,278,516 | -29.3 | 2,005 | 4 | 1,509 | 29,363,880 | Warner Bros. |
9 | Billy Elliot | 2,603,380 | 1,034,005 | 151.8 | 494 | 5 | 5,270 | 5,803,845 | Uni. Focus |
10 | Bedazzled | 2,510,770 | 4,655,978 | -46.1 | 2,137 | 4 | 1,175 | 34,626,487 | Fox |
11 | The Little Vampire | 2,279,367 | 3,505,436 | -35.0 | 1,892 | 3 | 1,205 | 12,967,019 | New Line |
12 | Book of Shadows: Blair Witch 2 | 1,936,038 | 5,011,801 | -61.4 | 2,411 | 3 | 803 | 25,079,077 | Artisan |
13 | Best in Show | 1,232,772 | 1,505,724 | -18.1 | 477 | 7 | 2,584 | 12,921,645 | Warner Bros. |
14 | The Legend of Drunken Master | 728,096 | 1,571,681 | -53.7 | 888 | 4 | 820 | 10,962,701 | Miramax |
15 | Lucky Numbers | 723,802 | 2,051,958 | -64.7 | 1,640 | 3 | 441 | 9,010,743 | Paramount |
16 | The Contender | 557,741 | 1,366,251 | -59.2 | 653 | 5 | 854 | 17,065,939 | DreamWorks |
17 | The Exorcist (reissue) | 338,512 | 807,497 | -58.1 | 455 | 8 | 744 | 39,239,337 | Warner Bros. |
18 | Almost Famous | 304,200 | 460,581 | -34.0 | 267 | 9 | 1,139 | 30,950,060 | DreamWorks |
19 | Cyberworld | 263,569 | 230,078 | 14.6 | 33 | 6 | 7,987 | 2,181,624 | IMAX |
20 | Requiem For A Dream | 242,014 | 251,313 | -3.7 | 35 | 6 | 6,915 | 1,002,532 | Artisan |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :