Box Office สุดสัปดาห์ที่ 17 -
19 พฤศจิกายน 2543
(updated ประมาณบ่ายวันอังคารของทุกสัปดาห์)
หนังใหม่ 4 เรื่องในสุดสัปดาห์นี้ พาเหรดกันทำเงินอย่างถล่มทลาย ติด top-5 กันทั้ง 4 เรื่อง แค่อันดับ 1 ถึง 4 ก็ได้เงินไปกว่า $100M แล้ว โดยอันดับหนึ่งเป็นของ How The Grinch Stole Christmas จาก Jim Carrey ทำลายเงินถึงขนาดทำลายสถิติเก่าๆ หลายรายการไปอย่างไม่น่าเชื่อมนุษย์หน้ายาง Jim Carrey ยังคงความเก๋าใน box office อย่างน่ามหัศจรรย์ How The Grinch Stole Christmas หนังเรื่องล่าสุดเรต PG (ซึ่งเข้าถึงคนดูได้กว้างมาก) ภายใต้หน้ากากปิศาจแสนซนตัวเขียว จากบทประพันธ์คลาสสิกของ Dr. Seuss จัดจำหน่ายโดย Universal ทำรายได้ไปถึง $55.1M จากจำนวน 3,127 โรง เฉลี่ยรายได้ต่อโรงออกมาสูงลิ่วถึง $17,615 นับเป็นสถิติอันดับ 5 ประเภททำรายได้จากการเปิดตัวได้ดีที่สุด รองจาก The Lost World ($72.1M), Star Wars Episode I ($64.8M), Mission: Impossible 2 ($57.8M) และ Toy Story 2 ($57.4M) หนังกำกับโดย Ron Howard สร้างในนามบริษัท Imagine Entertainment ทุนสร้างปาเข้าไปประมาณ $117M หนังอุดมไปด้วยฉากมหัศจรรย์พันลึก, การแต่งหน้าแบบแปลกตา มีการใช้สีสันตระการตา รวมทั้งเทคนิกพิเศษอีกเพียบ จึงเหมาะกับเทศกาลแห่งความสุขช่วงปลายปีอย่างยิ่ง
ทาง Universal ผู้จัดจำหน่ายบอกว่า ได้ทุ่มการโปรโมทไปอย่างหนัก และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เต็มที่ แม้คำวิจารณ์จะออกมาในแนวก้ำกึ่ง แต่แฟนๆ ของ Jim Carrey ก็ยังเต็มใจจะตีตั๋วเข้าไปดูกัน รายได้วันศุกร์ได้ไป $15.75M ก่อนจะกวาดไปถึง $22.7M ในวันเสาร์ เพิ่มขึ้นจากวันแรกถึง 44% และโกยเงินไปในวันอาทิตย์อีก $16.6M How The Grinch Stole Christmas จึงกลายเป็นหนังที่เปิดตัวได้ดีที่สุด ในชีวิตการทำงานของ Jim Carrey โดยหนัง 11 เรื่องที่ผ่านมาของเขา สามารถครองอันดับหนึ่งในสัปดาห์แรกที่เข้าฉายได้ถึง 10 เรื่อง เว้นแต่ Man on the Moon เมื่อปีที่แล้วเท่านั้นเอง
และแน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ จะกลายเป็นหนังที่เปิดตัวได้ดีที่สุดของผู้กำกับ Ron Howard ไปด้วย สถิติเก่าเป็นของ Ransom ที่ทำไว้ $34.2M เมื่อปี 1996 คาดว่าก่อนจะหมดเทศกาลแห่งความสุข อันได้แก่ Thanksgiving, คริสต์มาส และปีใหม่ หนังเรื่องนี้คงโกยเงินไปได้อีกหลายเงินเลยทีเดียว สำหรับเมืองไทย How The Grinch Stole Christmas มีกำหนดฉาย 15 ธันวาคมนี้
อันดับสองเป็นของ Rugrats in Paris หนังแอนิเมชั่นทุนสร้าง $30M ภาคต่อของหนังฮิตเมื่อปี 1998 สร้างจากซีรีส์ยอดฮิตของ Nickelodeon จัดจำหน่ายโดยค่าย Paramount ถึงแม้จะเป็นหนังที่จับกลุ่มเป้าหมายครอบครัว ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับ How The Grinch Stole Christmas แต่ก็ยังทำเงินไปได้ถึง 22.7M จากจำนวน 2,934 โรง เฉลี่ยต่อโรงออกมา $7,743 ภาคแรกเมื่อสองปีก่อนเปิดตัวด้วยรายรับ $27.3M ก่อนจะไปหยุดที่ $100.5M ทาง Paramount รายงานว่ารายได้ในวันศุกร์ได้ไป $6M วันเสาร์ได้ไป $10M เพิ่มมา 67% (เพิ่มขึ้นในอัตรส่วนที่นับว่าไม่เลว) ส่วนวันอาทิตย์ได้ $6.7M
หลังจากที่ครองแชมป์มา 2 สัปดาห์ สามสาวนางฟ้าชาร์ลี Charlie's Angels จาก Sony ก็โดนเบียดลงมาอยู่อันดับ 3 รายได้ลดลง 46% อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทำรายได้ไปอีก $13.4M รวม 17 วันได้ไปแล้ว $93.3M คาดว่ารายได้สุดท้ายก่อนออกจากจอเงินคงจะอยู่ที่ประมาณ $140-150M ในขณะเดียวกัน นางฟ้าทั้งสามก็ไปอาละวาดที่เม็กซิโก และครองอันดับหนึ่งตามความคาดหมาย หนังจะเปิดฉายในอีก 27 ประเทศในสุดสัปดาห์หน้า ส่วนประเทศไทยมีกำหนดฉาย 1 ธันวาคมนี้ ทางด้านอัลบั้มซาวน์แทรกก็ขายดิบขายดีไม่แพ้กัน ครองอันดับหนึ่งบนตาราง Billboard ประเภทเพลงประกอบภาพยนตร์ไปด้วย ข่าวว่า Columbia Pictures กำลังเตรียมบทภาพยนตร์สำหรับภาคต่อกันอยู่ และแน่นอนว่า Cameron Diaz, Drew Barrymore และ Lucy Liu ต้องได้รับการเสนอให้เล่นภาคต่อแน่นอน
หนังใหม่ล่าสุดของ Arnold Schwarzenegger เรื่อง The Sixth Day แนว sci-fi เกี่ยวกับมนุษย์โคลนนิ่ง ทุนสร้าง $82M จัดจำหน่ายโดย Sony เปิดตัวสัปดาห์นี้เช่นกัน แต่ก็ไม่สร้างปรากฏการณ์ฮือฮาตามที่หวัง ทำรายได้ไป $13M จากจำนวน 2,516 โรง เฉลี่ยออกมา $5,175 อยู่ในระดับกลางๆ (ตามปกติ หนังของอาร์โนลด์ที่เป็นแนวแอ็คชั่น จะทำเงินสุดสัปดาห์แรกประมาณ $20M ขึ้นไป ส่วนหนังแนวตลกจะได้ไม่เกิน $15M) ทาง Sony คาดว่า หนังจะไปทำเงินในตลาดนอกอเมริกา ที่คนเหล็กยังมีแฟนๆ อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เช่น ญี่ปุ่นและเยอรมัน จะได้ดูกัน กลางเดือนตุลาคม ส่วนในไทย วางโปรแกรมไว้ 22 ธันวาคม
อันดับ 5 เป็นหนังใหม่แนวโรแมนติกจาก Miramax - Bounce นำแสดงโดย Ben Affleck และ Gwenyth Paltrow ทำรายได้ไป $11.4M จากจำนวน 1,918 โรง ซึ่งน้อยที่สุดใน top-10 แต่ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงออกมา $5,956 นับว่าไม่เลว นับเป็นหนังที่ทำให้ดารานำทั้งสอง พอจะยิ้มออกมาได้บ้าง หลังจากที่ผิดหวังมาจากหนังเรื่องที่แล้วทั้งคู่ (หนังเรื่องที่แล้วของ Gwenyth Paltrow คือ Duets ทำเงินสุดสัปดาห์แรกไปแค่ $2M ส่วนของ Ben Affleck คือ Reindeer Games และ Boiler Room ก็ทำเงินไป $8.1M และ $5.7M เท่านั้น)
อันดับ 6 Men of Honor หนังดราม่าเข้มข้นเกี่ยวกับประดาน้ำในยุคทศวรรษที่ 1950 ทุนสร้าง $38M จากค่าย Fox นำแสดงโดย Robert De Niro และ Cuba Gooding Jr. ตกมาจากอันดับ 3 รายได้ลดลง 41% ซึ่งอยู่ในระดับปกติ ทำรายได้สัปดาห์นี้ไป $7.9M รวม 10 วันรายได้รวมอยู่ที่ $24.9M คาดว่าคงจะไปหยุดรายได้ที่ประมาณ $50M มีโปรแกรมจะฉายในไทย 8 ธันวาคมนี้
อันดับ 7 หนังตลกของ Adam Sandler ในบทลูกชายซาตาน Little Nicky ทุนสร้างราว $70-80M จาก New Line ที่เปิดตัวด้วยรายได้น่าผิดหวังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์ที่สองนี้ รายได้ร่วงลง 52% ทำเงินไปอีก $7.8M ฉายมา 10 วันเพิ่งจะเก็บเงินไปได้ $26.5M คาดว่าจะไปหยุดแค่ประมาณ $40-45M เท่านั้น มีกำหนดเปิดฉายในไทย 8 ธันวาคมนี้
Meet the Parents ยังคงฟอร์มเจ๋ง รายได้สัปดาห์ที่ 7 นี้ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วเพียง 38% ตกจากอันดับ 4 มาอยู่ 8 ทำเงินไปอีก $6.4M รายได้รวมขณะนี้ $138.5M ส่วนอันดับ 9 หนัง sci-fi ทุนสร้าง $80M - Red Planet ยังคงสร้างความผิดหวังให้กับ Warner Bros. ฉายสัปดาห์ที่สอง รายได้ดิ่งลงถึง 68% ทำเงินไปเพียง $2.8M รวมสิบวันเพิ่งจะเก็บเงินได้ $13.5M คงจะเข็นไปได้ไกลที่สุด ประมาณหลัก $15-20M เท่านั้น
ปิดท้ายอันดับ 10 The Legend of Bagger Vance ตกมาจากอันดับ 6 รายได้ร่วงลง 55% ทำเงินไปอีก $2.8M รวมรายได้ 3 สัปดาห์คือ $25.2M
หนังที่ฉายแบบวงจำกัดจาก Lions Gate ในนาม Trimark picture เรื่อง What's Cooking? นำแสดงโดย Joan Chen, Alfre Woodard และ Julianna Margulies ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคมในเทศกาล Sundance Film Festival ฉายในจำนวนแค่ 40 โรง ใน 15 เมือง ทำเงินไป $144,586 เฉลี่ยต่อโรงออกมา $3,615 น่าผิดหวังพอสมควร
หนังอินดี้จาก Paramount Classics เรื่อง You Can Count On Me เพิ่มโรงจาก 8 ไปเป็น 35 โรง ทำเงินไป $301,478 เฉลี่ยต่อโรงออกมา $8,614 รวม 10 วันได้ไปแล้ว $462,176
หนัง 4 เรื่องที่โดนหนังใหม่เบียดหลุดจาก top-10 ก็คือ Remember the Titans หนังดราม่าในวงการอเมริกันฟุตบอล ทุนสร้าง $27M จัดจำหน่ายโดย Buena Vista นำแสดงโดย Denzel Washington ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 8 ตกจากอันดับ 7 ไป 11 ทำเงินไป $2.3M รวมรายได้ขณะนี้ $107.1M คาดว่าจะไปจบเกมที่ประมาณ $110-115M คาดว่าจะฉายในไทยประมาณต้นปี 2001
หนังสัญชาติอังกฤษ Billy Elliot เกี่ยวกับเด็กชายที่หันมาเต้นบัลเล่ต์ ตกจากอันดับ 9 ไป 12 ทำรายได้รวมไปแล้ว $8.4M จาก 6 สัปดาห์ น่าจะไปได้ถึงประมาณ $14-16M นับเป็นการประเดิมได้สวยสำหรับ Universal Focus ค่ายใหม่ล่าสุดในเครือ Universal, Pay it Forward นำแสดงโดย Kevin Spacey, Helen Hunt และ Haley Joel Osment ฉายมา 5 สัปดาห์ ทำเงินไปแล้ว $31.1M คงจะไปหยุดที่ประมาณ $33M และเรื่องสุดท้าย หนังตลกจาก Fox ที่เพิ่งเข้าฉายในไทย Bedazzled ฉายมา 5 สัปดาห์เหมือนกัน ทำรายได้ไปแล้ว $35.9M คาดว่าจะไปจบที่ระดับ $38M
หนังใหม่สุดสัปดาห์หน้า Unbreakable หนังเรื่องล่าสุดจาก M. Night Shyamalan ผู้กำกับ The Sixth Sense นำแสดงโดย Bruce Willis และ Samuel L. Jackson มาในแนวลึกลับเช่นเคย คราวนี้เป็นเรื่องของชายกระดูกเหล็ก เป็นเพียงชีวิตเดียวที่รอดจากอุบัติเหตุรถไฟครั้งใหญ่ อีกเรื่องคือ 102 Dalmatians จุดจุ้นภาคต่อ นำแสดงโดย Glenn Close และ Gerard Depardieu
ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 17 - 19 พฤศจิกายน 2543
# | Title | Nov. 17 - 19 | Nov. 10 - 12 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Dist. |
1 | How The Grinch Stole Christmas | $ 55,082,330 | 3,127 | 1 | $ 17,615 | $ 55,082,330 | Universal | ||
2 | Rugrats in Paris | 22,718,184 | 2,934 | 1 | 7,743 | 22,718,184 | Paramount | ||
3 | Charlie's Angels | 13,361,646 | 24,606,860 | -45.7 | 3,037 | 3 | 4,400 | 93,258,819 | Sony |
4 | The 6th Day | 13,020,883 | 2,516 | 1 | 5,175 | 13,020,883 | Sony | ||
5 | Bounce | 11,423,716 | 1,918 | 1 | 5,956 | 11,423,716 | Miramax | ||
6 | Men of Honor | 7,906,419 | 13,339,465 | -40.7 | 2,118 | 2 | 3,733 | 24,918,784 | Fox |
7 | Little Nicky | 7,753,107 | 16,063,904 | -51.7 | 2,910 | 2 | 2,664 | 26,506,194 | New Line |
8 | Meet the Parents | 6,367,685 | 10,342,995 | -38.4 | 2,412 | 7 | 2,640 | 138,513,485 | Universal |
9 | Red Planet | 2,818,384 | 8,721,296 | -67.7 | 2,703 | 2 | 1,043 | 13,516,530 | Warner Bros. |
10 | The Legend of Bagger Vance | 2,817,983 | 6,315,993 | -55.4 | 2,109 | 3 | 1,336 | 25,220,736 | DreamWorks |
11 | Remember the Titans | 2,347,742 | 5,182,414 | -54.7 | 1,659 | 8 | 1,415 | 107,099,672 | Buena Vista |
12 | Billy Elliot | 1,774,290 | 2,603,380 | -31.8 | 497 | 6 | 3,570 | 8,403,080 | Uni. Focus |
13 | Pay it Forward | 1,075,509 | 3,025,447 | -64.5 | 1,415 | 5 | 760 | 31,146,175 | Warner Bros. |
14 | Best in Show | 745,822 | 1,232,772 | -39.5 | 408 | 8 | 1,828 | 13,970,190 | Warner Bros. |
15 | Bedazzled | 700,489 | 2,510,770 | -72.1 | 931 | 5 | 752 | 35,943,868 | Fox |
16 | Book of Shadows: Blair Witch 2 | 360,614 | 1,936,038 | -81.4 | 642 | 4 | 562 | 25,933,572 | Artisan |
17 | You Can Count On Me | 301,478 | 118,170 | 155.1 | 35 | 2 | 8,614 | 462,176 | Par. Classics |
18 | Lucky Numbers | 248,719 | 723,802 | -65.6 | 1,050 | 4 | 237 | 9,534,013 | Paramount |
19 | What Lies Beneath | 245,488 | 63,304 | 287.8 | 400 | 18 | 614 | 154,441,745 | DreamWorks |
20 | Requiem For A Dream | 224,188 | 242,014 | -7.4 | 46 | 7 | 4,874 | 1,338,894 | Artisan |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guru
ข้อมูลเพิ่มเติม :