หนังเรื่องล่าสุดของ Jerry Bruckheimer Enemy of the State กำกับโดย Tony Scott ที่มีผลงานดังๆอย่างTop Gun,Beverly Hills Cop II,Days of Thunder, และ Crimson Tide หนังเรื่องนี้นำโดยแม่เหล็กอย่าง Will Smith, Gene Hackman, และ Jon Voight เปิดตัวเป็นสัปดาห์แรกมาเป็นอันดับสองของตาราง Box Office ได้ไป $20M จากจำนวน 2,393 โรง รายได้เฉลี่ยต่อโรงก็ไม่เบา ได้ไปถึง $8,374 ต่อโรงเลยทีเดียว ดีกว่าหนังแนวแอคชั่นที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนอย่างThe Siege เสียอีก แสดงว่าสูตรสำเร็จระหว่าง Bruckheimer + Tony Scott + Buena Vista และ Gene Hackman อย่างเช่นเรื่องที่แล้วคือCrimson Tide นั้นสามารถรับประกันความสมหวังได้ในระดับหนึ่ง คราวนั้น Crimson Tide เปิดตัวด้วยตัวเลข $18.6M เมื่อเดือนพฤษภาคม 1995 ไปสรุปยอดที่ $91.4M คราวนี้ก็คงรับทรัพย์ไปเต็มๆอีกเช่นเคย ตารางต่อไปนี้เป็นผลงานของ Bruckheimer จำนวน 6 เรื่องล่าสุด
 

The Waterboy  ของพระเอก Adam Sandler ร่วงมาเป็นอันดับสามหลังจากครองแชมป์มา 2 สัปดาห์ แต่ก็ยังเก็บเงินได้ไปอีก $15.7M ลดลงแค่ 36% ผ่านหลัก $100M ไปแล้วเรียบร้อยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ใช้เวลาเพียง 17 วันเท่านั้น นับว่าเร็วที่สุดในจำนวนหนังที่เปิดฉายในเดือนพฤศจิกายน ทั้งที่ไม่ได้รับอานิสงส์จากเทศกาล Thanksgiving เลย นับเป็นหนังเรื่องที่ 11 ของปี 1998 ที่สามารถผ่านหลักร้อยล้านไปได้ เป้าหมายอยู่ที่หลัก $140M นับว่าคุ้มค่ามากเพราะลงทุนไปแค่ $20M เท่านั้นเอง

Meet Joe Black หนังโรม๊านซ์ความยาวสามชั่วโมงของพระเอก Brad Pitt รูดลงมาถึง 48% ตกมาอยู่อันดับ 4 ได้ไปอีก $7.9M ทั้งที่มีดาราระดับแม่เหล็กอย่าง Brad Pitt, Anthony Hopkins, และน้องใหม่ Claire Forlani ตอนนี้ฉายไป 10 วันได้ไปแล้ว $26.4M ตอนนี้คาดกันว่าจะทำเงินไปได้แค่หลัก $50M จากทุนสร้างถึง $80-90M แต่ก็ยังหวังว่าตลาดต่างประเทศคงจะช่วยได้บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในญี่ปุ่น ที่พระเอกของเรากำลังฮ็อตที่นั่น

อันดับ 5 ได้แก่หนังสยองขวัญภาคต่อจาก Sony I Still Know What You Did Last Summer รายได้รูดลงไปถึง 58% จากสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์นี้ได้ไป $7M รวมรายรับ 10 วัน $26.2M ทั้งที่เปิดตัวสวยกว่าภาคแรก แต่กลับแย่กว่าในสัปดาห์ที่สอง (เปิดตัว $15.8M, สิบวันแรกได้ $32.8M รายได้รวม $72.2M) ชะตากรรมไม่ต่างจากหนังภาคต่อแนวเดียวกันอย่างScream 2 และ Halloween: H20 ที่ทำเงินลดลงในสัปดาห์ที่สองด้วยตัวเลข 58% และ 48% ตามลำดับ คาดว่าคงจะไปได้ไกลสุดแค่หลัก $45M (ซึ่งจากสถิติพบว่า หนังภาคต่อโดยทั่วไปจะทำเงินได้อย่างมากก็แค่ 2 ใน 3 ของภาคแรกเท่านั้นเอง)

หนังแอคชั่นของ Fox, The Siege, มาเป็นอันดับ 6 ด้วยรายรับ $3.6M รวมแล้วตอนนี้ได้ไป $32.1M ลดลงถึง 56% อาจเป็นเพราะเจอคู่แข่งมาแรงอย่างEnemy of the State เลยหมดแรงเอาดื้อๆ  ส่วนอันดับ 7 เป็นหนังครอบครัวของค่าย Disney I'll Be Home For Christmas ลดลงไป 38% ได้ไปอีก $2.4M ในสัปดาห์ที่ 2 ตอนนี้รับไปแล้ว $6.9M คงจะไปได้มากสุดก็แค่ $15M

สัปดาห์ที่ 8 ของหนังอนิเมชั่นแบบมดๆ Antz ยังติดอยู่ในท็อปเทน แต่ก็ร่วงลงมาจากอันดับ 5 รายได้หดลง 42% เพราะโดน The Rugrats Movie แย่งคนดูไป แต่ก็ยังมีแรงทำเงินได้อีก $2.3M สัปดาห์หน้าคงหลุดจากสิบอันดับแน่ เพราะมีหนังใหม่ทั้งแมลงและหมูเข้ามาแย่งส่วนแบ่ง ตอนนี้โกยไปแล้ว $84.1M คาดว่าคงไปได้ถึง $90M ส่วนอันดับ 9 Pleasantville ได้ไปอีก $2.2M ตอนนี้ตุนอยู่ที่ $34.7M แล้ว

อันดับ 10 เป็นหนังของ Woody Allen, Celebrityจากค่าย Miramax ได้ไป $1.6M ฉายแบบชิมลางแค่ 493 โรง เฉลี่ยแค่ $3,221 นับว่าไม่สวยนัก หนังเรื่องนี้นำโดย Kenneth Branagh, Melanie Griffith, Joe Mantegna, Winona Ryder, Charlize Theron, และ Leonardo DiCaprio

หนังที่หลุดจากท็อปเทนจำนวน 3 เรื่องได้แก่ The Wizard of Oz ฉบับเกิดใหม่ ได้ไป $12.7M ในสัปดาห์ที่สาม คงจะได้ไปถึงหลัก $17M. Living Out Loud จาก New Line ได้ไปแล้วรวม $10.5M คงจะไปได้ถึงหลัก $14M และหนังแม่มดของ Sandra Bullock-Nicole Kidman,Practical Magic ได้ไปแล้ว $44.2M เป้าหมายอยู่ที่ $50M

A Bug's Life เปิดฉายแบบชิมลางที่ El Capitan ใน Los Angeles เมื่อวันศุกร์ ได้ไปถึง $291,121 สัปดาห์นี้เป็นอันได้รู้กันแล้ว เริ่มฉายจริง 25 พฤศจิกายน เพราะเป็นเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า

หลังจากปักหลักฉายมาเกือบปี ตอนนี้ที่ญี่ปุ่น Titanic ทำเงินไปแล้ว $196.2M ส่วนที่อินเดียก็กวาดไปแล้ว $11.7M รายรับทั่วโลกตอนนี้ตุนไปแล้วถึง $1,224,735,327 !!

หนังตัวอย่างความยาว 2 นาทีของ Star Wars Episode 1 : The Phantom Menace เริ่มฉายอย่างเป็นทางการแล้วในโรงภาพยนตร์จำนวน 75 โรงตั้งแต่วันอังคาร และเพิ่มเป็น 2,000 โรงเมื่อวันศุกร์ สร้างความฮือฮาให้กับคอหนังที่เฝ้ารอชมอย่างมาก

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้มาเร็วกว่าปกติ เพราะเป็นเทศกาล Thanksgiving หนังใหม่จะเริ่มลงโรงกันตั้งแต่วันพุธที่ 25 ได้แก่ A Bug's Life,Babe in the City,Home Fries,Very Bad Things, และ Jerry Springer's Ringmaster แถมยังมีการกลับมาของThe Last Emperor ฉบับ Director's Cut ความยาว 219 นาที เปิดฉายที่ LA, Chicago, San Francisco