Box Office สุดสัปดาห์ที่ 26 - 28 พฤศจิกายน 2542
สุดสัปดาห์ 5 วันช่วงเทศกาล Thanksgiving หรือวันขอบคุณพระเจ้า ธุรกิจหนังถึงกับตกตะลึงกับสถิติใหม่ โดยหนังอันดับ 1 ถึง 4 ทำรายได้รวมกันถึง $172M จากการกลับมาของเคาบอย Woody และ Buzz Lightyear ใน Toy Story 2 ตามด้วยหนังฮิตแชมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว The World Is Not Enough , หนังใหม่ของ Arnold Schwarzenegger End of Days, อีกเรื่องคือ Sleepy Hollow รองแชมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ยังคงแรงอยู่
4 ปีหลังจากภาคแรก หนังอนิเมชั่นภาคต่อจาก Disney และ Pixar, Toy Story 2 บุก box office ด้วยรายได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ขึ้นอันดับ 1 อย่างสบายๆด้วยรายรับ $57.4M คิดจากสามวัน ศุกร์ถึงอาทิตย์ตามมาตรฐานการเปรียบเทียบของ box office และรวมรายได้เมื่อคิดจากวันพุธที่ 24 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเปิดฉายจริงก็ได้ไป $80.48M จากจำนวน 3,236 โรง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของจำนวนโรงที่ฉายในเดือนพฤศจิกายน, Toy Story 2 รายได้เฉลี่ยต่อโรงสูงลิ่วถึง $17,734 (คิดที่ 3 วันสุดสัปดาห์) หรือ $24,754 ต่อโรงเมื่อคิดจากรวม 5 วัน
ผลงานตัวเลขรายรับของ Toy Story 2 ยังสร้างสถิติใหม่ของเทศกาล Thanksgiving (เฆี่ยน A Bug's Life เจ้าของสถิติเก่า $45.7M จากรายได้ 5 วันเมื่อปีที่แล้ว) และทำลายสถิติรายได้ 3 วัน (ศุกร์ถึงอาทิตย์ตามมาตรฐาน box office) ของหนังเดือนพฤศจิกายนที่ The Waterboy ทำไว้ $39.4M เมื่อปีที่แล้วเหมิอนกัน นอกจากนี้ Toy Story 2 ยังทำลายสถิติที่ The Lion King ครองมา 5 ปีเต็มๆ อีก 2 รายการ โดย Toy Story 2 กลายเป็นหนังที่เปิดตัวได้แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Disney และครองสถิติหนังอนิเมชั่นที่เปิดฉายด้วยรายได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (แชมป์เก่า The Lion King ทำไว้ $40.9M เมื่อเดือนมิถุนายน 1994) แถมท้าย.. รายได้สามวันของ $57.7M ยังทำให้ Toy Story 2 ติดอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ ของหนังทำเงินสูงสุดในสุดสัปดาห์แรก รองจาก The Lost World ($72.1M) และ Star Wars Episode I ($64.8M) คราวนี้ยังเป็นผลงานพากย์เสียงโดย Tom Hanks และ Tim Allen เช่นเคย พร้อมด้วยเสียงของ Don Rickles, Kelsey Grammer, และ Wayne Knight
หนังภาคแรกซึ่งเปิดฉายในช่วงสุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้านี้เมื่อปี 1995 ทำรายได้ 3 วันแรกไป $29.1M และ $39.1M จาก 5 วัน และติด top-5 นานถึง 8 สัปดาห์ ก่อนจะไปปิดบัญชีบนจอเงินที่ตัวเลข $184.9M (เมื่อเดือนเมษายน 1996) และนำกลับมาฉายใหม่ในช่วง Memorial Day ทำให้รายได้รวมขึ้นไปถึง $191.8M เมื่อปลายซัมเมอร์
อันดับ 2 เป็นแชมป์เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว James Bond 007 ตอนที่ 19, The World Is Not Enough ทำรายได้สัปดาห์ที่ 2 นี้ไป $23.2M จากสามวัน ศุกร์-อาทิตย์ หรือ $34M จาก 5 วันเทศกาล ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้ว 34.6% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ รายได้รวมขณะนี้ $75.5M จาก 10 วัน เมื่อเทียบผลงานเก่าของสายลับ 007 คนเดียวกัน, Tomorrow Never Dies เมื่อปี 1997 และ Goldeneye เมื่อปี 1995 ที่ทำรายได้สิบวันเท่ากับ $62.2M และ $57.2M ตามลำดับ ทั้ง 3 ตอนรับบทโดย Pierce Brosnan เจ้าเก่า (ยังจะอยู่ในสัญญาอีก 1 ตอน) คราวนี้มีดาราจากนานาชาติร่วมแสดง ได้แก่ Sophie Marceau (ฝรั่งเศส), Robert Carlyle (สก็อตแลนด์) และ Denise Richards (อเมริกัน)
ความสำเร็จในสัปดาห์ที่สองของ The World Is Not Enough นี้ แสดงถึงการให้การต้อนรับหนังฟอร์มยักษ์อย่างดีเหมือนเคย รายได้ยังอยู่ในเกณฑ์เดียวกับ Goldeneye ที่เคยเปิดฉายในสัปดาห์ก่อนหน้าวันขอบคุณพระเจ้าเหมือนครั้งนี้ รายได้ $35.5M ของ The World Is Not Enough สุดสัปดาห์แรกนำหน้า Goldeneye อยู่ 35.5% และรายได้สิบวัน $75.5M นำอยู่ 32% นั่นก็หมายความว่า ถ้า The World Is Not Enough ทำเงินในระดับนี้ต่อไป ก็จะสามารถคาดการณ์รายรับสุดท้ายโปรแกรม ที่ตัวเลขประมาณ $135-140M และคงจะเป็นหนังตระกูลนี้ที่ทำเงินสูงที่สุด ตอนนี้สายลับ 007 ตอนล่าสุดนี้ เปิดฉายในสิงคโปร์และมาเลเซียไปเรียบร้อย และทำเงินสูงมากในออสเตรเลีย, อิสราเอล, อาฟริกาใต้ และอังกฤษเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอังกฤษบ้านเกิด ทำรายได้สูงเป็นอันดับสี่ในประวัติศาสตร์ ได้ไปถึง $10M ส่วนในไทยจะเข้าฉาย 3 ธันวาคมนี้
อันดับ 3 เป็นของหนังฟอร์มยักษ์ประจำปีนี้ของ Arnold Schwarzenegger ที่ปะทะกับซาตาน End of Days จาก Universal ทำรายได้ $20.5M จากการเปิดฉายเป็นสัปดาห์แรก จากจำนวน 2,592 โรง รายได้เฉลี่ยต่อโรงทำได้ $7,918 รวมรายได้ 5 วันเทศกาลฟันไป $31.5M เป็นเรื่องของอดีตตำรวจที่หาญสู้กับซาตานกลางกรุงนิวยอร์ค เพื่อปกป้องไม่ให้หญิงสาวคนหนึ่ง ต้องกลายเป็นผู้ร่วมสร้างทายาทก่อนเข้าสู่ปี 2000 ถึงแม้ว่ารายได้จะออกมาดีมาก แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะทำลายสถิติหนังเก่าๆของตัว Schwarzenegger เองที่เคยทำไว้ Terminator 2 เปิดฉายเมื่อปี 1991 ทำรายได้สามวันแรก $31.8M, True Lies ทำรายได้สุดสัปดาห์แรก $25.9M เมื่อปี 1994, Total Recall โกยไป $25.5M เมื่อปี 1990, และหนังแอ็คชั่นแท้ๆเรื่องก่อนหน้า, Eraser ฟันไป $24.6M ทั้งสี่เรื่องเป็นหนังแอ็คชั่นที่เปิดฉายในช่วงซัมเมอร์ทั้งสิ้น แต่คราวนี้ End of Days กลับเปิดตัวในช่วงนี้ เพื่อต้อนรับปี 2000 (โดยทั่วไปหนังของพี่บึ้กที่เข้าฉายในช่วงฤดูหนาวมักจะเป็นหนังตลกเบาสมอง เช่น Jingle All The Way)
Universal รายงานข่าวมาว่า End of Days ลงทุนสร้างไป $83M (ข่าวบางกระแสบอกว่า ใช้เงินไปราว $100M) เป็นการลงทุนสร้างร่วมกันระหว่าง Universal ควักกระเป๋าไป 40% ของทุน และได้รับหน้าที่การจัดจำหน่ายในอเมริกาเหนือไป อีกฝ่ายคือ Buena Vista International ที่ลงทุนอีก 60% ที่เหลือก็ได้สิทธิ์จัดจำหน่ายในตลาดโลกไป ซึ่งตอนนี้ก็จะเริ่มเปิดฉายในหลายประเทศแล้ว คนไทยจะได้ดู 24 ธันวาคมนี้
หนังเกี่ยวกับผีหัวขาดชายขี่ม้า Sleepy Hollow ผลงานของ Tim Burton นำแสดงโดย Johnny Depp และ Christina Ricci ทำรายได้สัปดาห์นี้ $18.4M จากสามวัน ลดลง 39% จากสัปดาห์ที่แล้ว และ $29.6M จาก 5 วันเทศกาล รายได้รวมขณะนี้ $61.6M จาก 10 วัน ตกจากอันดับ 2 มาอยู่ 4 คาดว่าหนังจะทำเงินให้ Paramount ต้นสังกัดไปได้ราวๆ $95-100M
Pokemon: The First Movie หนังอนิเมชั่นสัญชาติญี่ปุ่น จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. ตกจากอันดับ 3 มาอยู่ 5 ทำรายได้ไป $7.1M จากช่วงสามวัน (ลดลง 43%) และ $9.1M จาก 5 วันเทศกาล รายได้รวมขณะนี้ $77.7M
หนังทริลเลอร์แนวอาชญากรรมจาก Universal, The Bone Collector นำแสดงโดย Denzel Washington และ Angelina Jolie ทำรายได้สัปดาห์นี้ $5.5M จากสามวัน และ $7.5M จาก 5 วัน รายได้ลดลงแค่ 16% รวมรายได้ตอนนี้ $53.7M จาก 4 สัปดาห์ คาดว่าจะไปได้ถึง $65M (มีกำหนดฉายในไทย 7 มกราคมปีหน้า)
หนังเบาสมองเสียดสีของผู้กำกับ Kevin Smith, Dogma จัดจำหน่ายโดย Lions Gate นำแสดงโดยคู่หู Matt Damon และ Ben Affleck ทำรายได้มาเป็นอันดับ 7 (ตกจากอันดับ 5 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว) รายได้ลดลงแค่ 17% ทำรายได้สามวันไปสุดสัปดาห์ไป $3.4M และ $5M จากพุธถึงอาทิตย์รวม 5 วัน รายได้รวมตอนนี้ $21.0M จาก 3 สัปดาห์ คาดการณ์ว่ารายได้รวมจะไปได้ถึงระดับ $30-35M ซึ่งตอนนี้ก็เป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดของผู้กำกับ Kevin Smith และสังกัด Lions Gate ไปแล้ว
Anywhere But Here จาก Fox รายได้ลดลงจิ๊บจ๊อยแค่ 13% ทำรายได้ไปอีก $2.8M จากฐานสามวัน (ศุกร์-อาทิตย์) และ $14.6M จาก 5 วันระหว่างเทศกาล ตกจากอันดับ 6 มา 8 , ส่วนอันดับ 9 The Insider นำโดย Al Pacino ตกจากอันดับ 7 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำรายได้สัปดาห์นี้ $2.5M ลดลง 12% รวมรายได้ล่าสุด $22.05M (กำหนดเปิดฉายในไทย 18 กุมภาพันธ์)
ปิดท้าย top-10 ด้วยหนังตลก Being John Malkovich ที่รายได้ดีดขึ้นเพียงเรื่องเดียวในสิบอันดับ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 10% ทำรายได้ $2.04M รวมรายรับตอนนี้ $11.9M ทั้งที่เปิดฉายในจำนวนไม่ถึง 600 โรงหนังใหม่ของผู้กำกับ Joel Schumacher, Flawless จาก MGM/UA นำแสดงโดย Robert De Niro และ Philip Seymour Hoffman ทุนสร้าง $15M เปิดฉายแบบวงจำกัด ทำรายได้ไปแค่ $1.6M จากจำนวน 478 โรง รายได้เฉลี่ยต่อโรงแบบน่าผิดหวัง $3,327 อยู่อันดับ 11 รวมรายได้ 5 วันตั้งแต่วันพุธที่เปิดฉาย ทำรายได้ไปเพียง $2M
หนังฮิต The Sixth Sense อยู่อันดับ 12 ลดลงจิ๊บจ๊อยแค่ 5% ทำรายได้ไปถึง $272.3M แล้ว ส่วน Double Jeopardy หนังฮิตอีกเรื่องทำได้ $112.4M อยู่อันดับ 17
ที่หลุดจากสิบอันดับไปก็คือหนังโรแมนติกเบาสมองจาก New Line, The Bachelor ของพระเอก Chris O'Donnell ทุนสร้าง $26M ตกรวดเดียวจากอันดับ 8 ไปอยู่ 16 ตอนนี้ทำรายได้รวมไปแล้ว $19.9M คาดว่าจะปิดบัญชีที่ตัวเลขประมาณ $21-23M (กำหนดฉายในไทย 7 มกราคม) อีกเรื่องคือหนังผจญภัยจาก Sony กำกับโดย Luc Besson, The Messenger: The Story of Joan of Arc ที่เมืองไทยจะใช้ชื่อสั้นๆว่า Joan of Arc เฉยๆ ทำรายได้รวมตอนนี้ไปแค่ $12.7M คาดว่าจะไปได้ไกลสุดราว $15-16M เท่านั้น กำหนดฉายในเมืองไทย 25 กุมภาพันธ์ ปีหน้า
หนังใหม่สุดสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม มีแต่หนังเล็กๆหรือหนังที่เปิดฉายในวงแคบ โดยมี Star Wars Episode I กลับมาฉายรอบพิเศษการกุศลอีกครั้ง
ตารางรายได้ 20 อันดับหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่ 26 - 28 พฤศจิกายน 2542
# | Title | Nov. 26 - 28 | Nov. 19 - 21 | % Chg. | Theaters | Weeks | AVG | Cumulative | Dist. |
1 | Toy Story 2 | $ 57,388,839 | $ 300,163 | 3,236 | 2 | $ 17,734 | $ 80,481,962 | Buena Vista | |
2 | The World Is Not Enough | 23,237,746 | 35,519,007 | -34.6 | 3,163 | 2 | 7,347 | 75,508,007 | MGM/UA |
3 | End of Days | 20,523,595 | 2,592 | 1 | 7,918 | 31,509,775 | Universal | ||
4 | Sleepy Hollow | 18,414,444 | 30,060,467 | -38.7 | 3,067 | 2 | 6,004 | 61,638,812 | Paramount |
5 | Pokemon | 7,105,860 | 12,502,869 | -43.2 | 3,043 | 3 | 2,335 | 77,724,392 | Warner Bros. |
6 | The Bone Collector | 5,487,535 | 6,531,270 | -16.0 | 2,505 | 4 | 2,191 | 53,747,635 | Universal |
7 | Dogma | 3,409,224 | 4,082,765 | -16.5 | 1,292 | 3 | 2,639 | 21,013,088 | Lions Gate |
8 | Anywhere But Here | 2,822,227 | 3,249,861 | -13.2 | 1,666 | 3 | 1,694 | 14,613,282 | Fox |
9 | The Insider | 2,480,294 | 2,829,625 | -12.3 | 1,672 | 4 | 1,483 | 22,052,444 | Buena Vista |
10 | Being John Malkovich | 2,044,834 | 1,866,210 | 9.6 | 589 | 5 | 3,472 | 11,908,584 | USA |
11 | Flawless | 1,590,155 | 478 | 1 | 3,327 | 2,005,617 | MGM/UA | ||
12 | The Sixth Sense | 1,542,524 | 1,615,192 | -4.5 | 1,017 | 17 | 1,517 | 272,318,916 | Buena Vista |
13 | The Best Man | 1,201,750 | 1,336,535 | -10.1 | 506 | 6 | 2,375 | 31,344,960 | Universal |
14 | The Messenger | 1,201,493 | 2,275,613 | -47.2 | 1,972 | 3 | 609 | 12,720,381 | Sony |
15 | American Beauty | 1,170,667 | 1,293,020 | -9.5 | 585 | 11 | 2,001 | 66,524,764 | DreamWorks |
16 | The Bachelor | 1,138,217 | 2,430,414 | -53.2 | 1,333 | 4 | 854 | 19,860,833 | New Line |
17 | Double Jeopardy | 1,008,383 | 1,437,283 | -29.8 | 840 | 10 | 1,200 | 112,336,525 | Paramount |
18 | The House on Haunted Hill | 710,128 | 1,538,406 | -53.8 | 1,041 | 5 | 682 | 38,641,297 | Warner Bros. |
19 | Music of the Heart | 480,118 | 1,000,288 | -52.0 | 794 | 5 | 605 | 13,452,635 | Miramax |
20 | Light It Up | 364,986 | 1,004,736 | -63.7 | 451 | 3 | 809 | 5,290,072 | Fox |
เรียบเรียงจาก : Weekend Box Office โดย Box Office Guruข้อมูลเพิ่มเติม :
- VARIETY.COM - Domestic Box Office
- Entertainment Insiders: Weekend Gross
- Cinema1: Weekend Box Office
- ShowBIZ Daily Box Office Report
- Box Office News: ACNielsen EDI
- Box Office สุดสัปดาห์ย้อนหลัง
top