อะ บิวตี้ฟูล ไมนด์
Official website
more info. from IMDB
แนว : ดราม่า / รัก
ความยาว : 134 นาที
กำหนดฉาย : 15 มีนาคม 2545
ปี ค.ศ.1947 จอห์น ฟอร์บส์ แนช จูเนียร์ (รัสเซลล์ โครว์) เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยพริ้นซ์ตัน (Princeton University) เพื่อศึกษาด้านคณิตศาสตร์ "อัจฉริยะผู้ลึกลับจากเวสท์เวอร์จิเนีย" ผู้นี้ ไม่ได้มาจากโรงเรียนเตรียมชื่อดัง หรือมีเงินทองมากมาย ที่จะพาเขาเข้ามหาวิทยาลัยระดับไอวี่ลีก มีเพียงอาจารย์ผู้ทรงเกียรติที่สุดแห่งพริ้นซ์ตันเท่านั้น ที่เห็นว่าเขาสมควรเรียนที่นั่นที่สุด ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรับตัว ทั้งแนชและพริ้นซ์ตัน การเข้าสังคมและการเข้าห้องเรียน ต่างก็ไม่มีความหมายสำหรับเขา เขามุ่งมั่นเพียงสิ่งเดียว คือการค้นพบความคิดทฤษฏีใหม่ๆ เป็นคนแรก ภาควิชาคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยพริ้นซ์ตัน มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด และเพื่อนร่วมชั้นเรียนของแนช อยากจะเห็นเขาล้มเหลว แต่พวกเขาก็ยังแสร้งทำดีกับเขา และยุยงส่งให้เขาทำเพื่อความสำเร็จ คืนหนึ่งเขาออกไปเที่ยวบาร์กับพวกเพื่อนๆ การที่เพื่อนๆ พยายามจีบสาวสวยผมบลอนด์คนหนึ่ง ได้สะดุดความสนใจของเขา เมื่อแนชเฝ้าดูการชิงดีชิงเด่นของเพื่อนๆ สมมุติฐานที่อยู่ในหัวเขามาตลอด ก็ระเบิดเป็นข้อสรุปที่ชัดเจน คำตอบของเขาเรื่องทฤษฎีเกม (game theory) หรือคณิตศาสตร์เกี่ยวกับการแข่งขัน (Non-Cooperative Games) ได้ปฏิเสธทฤษฎีของ อดัม สมิธ ผู้เป็นบิดาของเศรษฐศาสตร์ยุคใหม่โดยสิ้นเชิง ทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับมานานหนึ่งร้อยห้าสิบปี กลับล้าสมัยไปในทันที และชีวิตของแนชก็เปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์... ต่อมา แนชได้ตำแหน่งวิจัยและสอนที่ M.I.T. (Massachusetts Institute of Technology) ที่เขาปรารถนามาก แต่เขาก็ยังไม่พอใจ วิทยาศาสตร์มีบทบาทอย่างยิ่ง ในการทำให้อเมริกาชนะสงครามโลกครั้งที่สอง และบัดนี้ เมื่อสงครามเย็นประทุขึ้น แนชก็ใฝ่ฝัน ที่จะมีบทบาทในความขัดแย้งใหม่นี้ ความปรารถนาของเขาได้รับการตอบสนอง เมื่อ วิลเลียม พาร์เชอร์ (เอ๊ด ฮาร์ริส) ผู้ลึกลับรับเขาเข้ามาทำงานลับสุดยอด ในการถอดรหัสลับของฝ่ายศัตรู แนชทุ่มเทตนเองให้กับความพยายามนี้ ขณะที่ยังคงทำงานของเขาที่ M.I.T. ต่อไป และที่นั่นอีกเหมือนกัน ที่เขาได้รับการท้าทายใหม่โดย อลิเซีย ลาร์ด (เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี) ผู้งดงามและหลักแหลม นักศึกษาวิชาฟิสิกส์ ที่แนะนำให้แนชรู้จักแนวคิด ที่เขาไม่เคยพิจารณาอย่างจริงจังมาก่อน นั่นคือ..ความรัก แนชกับอลิเซียแต่งงานกัน โดยที่เขาไม่สามารถเปิดเผยโครงการอันตราย ที่เขาทำให้กับวิลเลียม พาร์เชอร์ได้ ตัวงานและการที่ต้องปิดบัง ตลอดจนความอันตรายเริ่มส่งผล แนชทำลับๆ ล่อๆ ประสาทหลอน และในที่สุดเขาหลงเข้าไปอยู่ในโลกจอมปลอม ผลการวินิจฉัยบอกว่าเขามีความผิดปกติทางจิต โดยมีบุคคลิกภาพที่แปลกแยกออกไปจากโลกแห่งความจริง (paranoid schizophrenia) อลิเซียต้องเจ็บปวดกับสภาพอาการของสามี เธอต่อสู้ภายใต้ความเครียด ของอัจฉริยะเพี้ยนผู้เป็นที่รัก ความรักอันหวานชื่นของทั้งสองอันตรธานไป และดูเหมือนว่าทุกวันจะมีเรื่องเลวร้ายใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่อลิเซียยังคงมองชายที่มีเสน่ห์ที่เธอตกหลุมรัก และสิ่งนี้ทำให้เธอยอมเสียสละเพื่อเขา แนชได้รับแรงบันดาลใจจากความรัก และความศรัทธาของเธอ ที่จะต่อสู้โรคร้ายที่ผู้คนคิดว่ารักษาไม่หาย และมีแต่จะแย่ลง แนชผู้อ่อนน้อมคนนี้ มีเป้าหมายที่ธรรมดามากขึ้น แต่กลับยากที่จะกระทำให้สำเร็จ เขายังคงถูกความรู้สึกร้ายๆ หลอกหลอน ความต้องการเรื่องทฤษฎีคณิตศาสตร์ ก็ยังคงทำให้เขามึนๆ เขาตั้งใจที่จะค้นหาความปกติในแบบฉบับของเขาเอง ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า เขาทำงานของเขาต่อไป และในปี 1994 เขาได้รับรางวัลโนเบล ในขณะนั้น งานอันกระจ่างของเขาในเรื่องทฤษฎีความสมดุลย์ระบบ กลายเป็นความคิดที่มีอิทธิพลมากที่สุดในทศวรรษที่ 20 และได้เป็นรากฐานของเศรษฐศาสตร์แผนใหม่ และแนชเองก็กลายเป็นชายที่มีจิตใจ และความคิดที่งดงาม... A Beautiful Mind ภาพยนตร์ดรามาที่สื่อถึงความเป็นมนุษย์ เกี่ยวกับอัจฉริยะบุคคลผู้หนึ่งของโลก ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวประวัติของ จอห์น ฟอร์บส์ แนช จูเนียร์ (John Forbes Nash, Jr.) นักคณิตศาสตร์แนชผู้หล่อเหลาและแตกต่าง ได้ค้นพบสิ่งที่น่าประหลาดใจเมื่อยังหนุ่ม จนกระทั่งได้เป็นผู้มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ แต่ความไฟแรงของเขา ที่พุ่งแรงสู่ระดับชั้นบรรยากาศของโลก กลับแปรเปลี่ยนไป เมื่อความชาญฉลาดของเขา ถูกโรคจิตเสื่อมกัดกร่อนทีละน้อยๆ แต่เขาไม่ยอมแพ้ กลับสู้ตอบและยืนยันที่จะต่อสู้กับจิตใจของตัวเอง โดยความช่วยเหลือของอลิเซีย ภรรยาผู้เสียสละของเขา หลังจากความยากลำบากหลายสิบปี เขาได้รับชัยชนะจากห้วงชีวิตที่เลวร้ายครั้งนี้ และได้รับรางวัลโนเบลในปี 1994 แนชผู้เป็นตำนาน ยังคงทำงานของเขาต่อไปตราบทุกวันนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวชีวิตของ จอห์น ฟอร์บส์ แนช จูเนียร์ และส่วนหนึ่งมาจากชีวประวัติเรื่อง A Beautiful Mind เขียนโดย ซิลเวีย นาซาร์ (Sylvia Nasar) ใน Vanity Fair แนชเกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง ในเมืองเล็กๆ ที่เวสท์เวอร์จิเนีย เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1928 เขาเป็นบุคคลที่น่าดึงดูดใจ ในโลกของความคิดมานานกว่า 50 ปี งานบุกเบิกของเขาในด้านทฤษฎีเกม ทำให้เขากลายเป็นดาวแห่ง "คณิตศาสตร์แนวใหม่" ในช่วงทศวรรษที่ 1950 แต่เขาหายตัวไปจากวงการ ในช่วงหลายปีที่โรคจิตเสื่อมทำลายชีวิตของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ทฤษฎีสมดุลย์ระบบกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญ ของธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ในช่วงที่เขาไม่ปรากฏตัว ในปี 1994 แนชกลับควบคุมชีวิตของเขาได้อีกครั้ง และกลับมาเป็นนักวิชาการผู้กระตือรือร้นอีกครั้ง ในปีนั้น เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาวิทยาศาสตร์เศรษฐกิจ ร่วมกับ จอห์น ซี. ฮาร์ซานยี และ ริชาร์ด เซลเทน ในฐานะผู้บุกเบิกการวิเคราะห์ดุลยภาค ในทฤษฏีการแข่งขันที่เป็นการแข่งขันเสรี (Non-Cooperative Games) โดยที่ไม่มีปัจจัยภายนอกมากำหนด (หมายเหตุ : Non-Cooperative Games คือการแข่งขันที่ผู้แข่งขันทุกฝ่ายสามารถแข่งขันโดยอิสระ ไม่มีปัจจัยภายนอกมาเป็นตัวกำหนด หรือจำกัดระบบ) ภาพยนตร์เรื่อง A Beautiful Mind ของ อิมเมจิน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เป็นการอำนวยการสร้างร่วมกันของ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส และ ดรีมเวอร์คส์ พิคเจอร์ส กำกับโดย รอน โฮวาร์ด (Apollo 13, Ransom, The Grinch) อำนวยการสร้างโดย ไบรอัน เกรเซอร์ (Apollo 13, The Grinch, The Nutty Professor) และเขียนบทโดย อคิวา โกลด์สแมน (Batman Forever, A Time to Kill, Practical Magic) ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย รัสเซลล์ โครว์ (เจ้าของรางวัลออสการ์ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Gladiator ก่อนหน้านั้นเคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลในสาขาเดียวกันจาก The Insider), เอ๊ด ฮาร์ริส (ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์จาก Pollock, Apollo 13, The Truman Show) รับบทเป็น วิลเลียม พาร์เชอร์ และ เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี (Requiem For A Dream, The Rocketeer) รับบทเป็น อลิเซีย ยังมีนักแสดงอื่นๆ ได้แก่ พอล เบ็ททานี (A Knights Tale) รับบทเป็น ชาร์ลส์ เฮอร์แมน เพื่อนรักผู้ผลักดันแนช ให้เปิดความคิดสู่โลกกว้าง, อดัม โกลด์เบอร์ก (Saving Private Ryan) รับบทเป็น โซล นักศึกษาระดับปริญญาโทที่พริ้นซ์ตัน ผู้เป็นเพื่อนกับแนช, จัดด์ เฮอร์ช (Man on the Moon, Ordinary People) รับบทเป็น ศาสตราจารย์ เฮลินเจอร์ อาจารย์ที่ปรึกษาของแนชที่พริ้นซ์ตัน, จอช ลูคัส (You Can Count on Me, American Psycho) รับบทเป็น แฮนเซน อุปสรรคของแนชที่พริ้นซ์ตัน, แอนโธนี แร็พพ์ (Road Trip, Twister) รับบทเป็น เบนเดอร์ เพื่อนร่วมชั้นของแนชที่พริ้นซ์ตัน ซึ่งต่อมาทำงานกับแนชที่ M.I.T., ดาราหน้าใหม่ วิเวียน คาร์ดัน รับบทเป็น มาร์ซี หลานสาวของชาร์ลส์ และนักแสดงอาวุโส คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ (The Insider, Somewhere in Time, The Sound of Music) รับบทเป็น ดร.โรเซน ผู้ลึกลับ ทีมผลิตได้แก่ ผู้กำกับภาพ โรเจอร์ ดีคินส์ (ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์จาก O Brother, Where Art Thou?, Fargo, The Shawshank Redemption), ผู้ออกแบบการผลิต วินน์ พี.โธมัส (Analyze This, Mars Attacks!, Wag the Dog), ผู้ตัดต่อ ไมค์ ฮิลล์ และ แดน ฮันลีย์ เจ้าของรางวัลออสการ์ ด้านการตัดต่อยอดเยี่ยม จากงานในภาพยนตร์ของรอน โฮวาร์ด และไบรอัน เกรเซอร์ เรื่อง Apollo 13, ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ริต้า ไรแย็ค (Apollo 13, Rush Hour 2, ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์จากเรื่อง The Grinch) และผู้ประพันธ์เพลง เจมส์ ฮอร์เนอร์ (เจ้าของรางวัลออสการ์จากเรื่อง Titanic) ผู้อำนวยการสร้างบริหารของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แก่ คาเรน เคเฮลา (Nutty Professor II: The Klumps) และ ท็อดด์ ฮัลโลเวลล์ (The Grinch) A Beautiful Mind ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์จำนวน 8 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม (รอน โฮวาร์ด), ผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม (รัสเซลล์ โครว์), ผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี), บทภาพยนตร์ดัดแปลง, ตัดต่อยอดเยี่ยม, แต่งหน้ายอดเยี่ยม และดนตรีประกอบยอดเยี่ยม
หมายเหตุ : เพื่ออรรถรสของการชม กรุณาอย่าเล่าจุดหักเหของเรื่อง ให้ผู้ยังไม่ได้ดูรับฟัง Links
|