"จะบอกเจ้าได้อย่างไรว่าความหนุ่มแน่นนั้นเป็นเช่นไร การฝันถึงสิ่งยิ่งใหญ่ และเชื่อมั่นว่า เมื่ออเล็กซานเดอร์จ้องตาเจ้า เจ้าจะทำได้ทุกอย่าง - ทุกอย่าง! เมื่อเขาอยู่ตรงหน้า ด้วยแสงแห่งอพอลโล พวกเราเก่งกาจเสียยิ่งกว่าตัวเอง!"

เขาเป็นหลายสิ่งหลายอย่างสำหรับคนหลายคน - เป็นกษัตริย์นักรบผู้กล้า เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยาน ห้าวหาญ และความยโสของวัยฉกรรจ์ นำทหารหาญจำนวนมหาศาล สู้รบกับกองทัพอันเกรียงไกรของชาวเปอร์เซียน... เป็นบุตรชายที่โหยหาการยอมรับจากบิดาผู้เข้มงวดและกรำศึก ปวดร้าว และขัดแย้งด้วยสิ่งที่สืบทอดมาจากมารดา... ผู้พิชิตที่ทรหด ไม่เคยพ่ายแพ้ในการรบ และนำพาทหารบุกบั่นไปทุกหนแห่งในโลก... เป็นนักจินตนาการที่ความฝัน การกระทำ และโชคชะตา สะท้อนก้องผ่านความเป็นนิรันดร ช่วยให้โลกเป็นโลกอย่างที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ เขาเป็นทั้งหมดที่กล่าวมาและเป็นยิ่งกว่านั้น เขาคือ อเล็กซานเดอร์

ภาพยนตร์เรื่อง Alexander ของ โอลิเวอร์ สโตน สร้างจากเรื่องจริงของ กษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช (โคลิน ฟาร์เรลล์) ผู้นำที่เรืองอำนาจ และทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ บุรุษซึ่งพิชิต 90% ของโลกในขณะนั้นด้วยอายุ 25 ปี อเล็กซานเดอร์กรีฑาทัพชาวกรีกและมาซิโดเนียนอันเกรียงไกร ตะลุยไปกว่า 22,000 ไมล์ และพิชิตได้ในเวลาเพียงแปดปี เมื่อเขาเสียชีวิตลงตอนอายุได้ 32 ปี เขาได้บุกบั่นเพื่อครองอาณาจักร อย่างที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน

ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นมุมมองที่ตรงไปตรงมาเกี่ยวกับชีวิตของอเล็กซานเดอร์ และความสัมพันธ์ของเขากับ โอลิมเปียส (แอนเจลิน่า โจลี่) ผู้เป็นมารดา, ฟิลิป (วาล คิลเมอร์) บิดาของเขา, เฮฟาอีสเทียน (จาเร็ด เลโท) เพื่อนรักชั่วชีวิตและผู้บัญชาการรบ, โรซาน (โรซาริโอ ดอสัน) ภรรยาชาวแบคเทรียนผู้งดงามและทะเยอทะยาน และ ปโตเลมี (แอนโธนี่ ฮอปกิ้นส์) นายพลคนสนิทที่เขาไว้วางใจ

ภาพยนตร์เรื่อง Alexander เดินเรื่องในยุคของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งเป็นยุคก่อนคริสตกาลกว่าสามร้อยปี ที่มีธรรมเนียมทางสังคม และเรื่องของคุณธรรมที่แตกต่างไปจากโลกปัจจุบัน เรื่องราวของช่วงเวลาที่มีความสวยงามที่ไม่อาจเทียบเทียมได้ และความโหดร้ายที่ไม่น่าเชื่อ เป็นเรื่องของอุดมคติที่สูงส่ง และการหักหลังที่น่าตกตะลึง

ชีวิตเหนือธรรมดาของอเล็กซานเดอร์เริ่มต้นขึ้น เมื่อเขากรีธาทัพจากมาซิโดเนีย แรกทีเดียวเขานำกองทัพเข้าต่อกรกับเอเชียตะวันตก ซึ่งอยู่ในการควบคุมของเปอร์เชีย แล้วจึงนำกองทัพจำนวนมหาศาล ไปสู่ชัยชนะที่แทบเป็นไปไม่ได้ เหนือกองทัพอันเกรียงไกรของเปอร์เซียเองเลยทีเดียว อเล็กซานเดอร์ขยายอาณาจักรของเขาไปยังเอเชียกลาง อันแทบไม่เป็นที่รู้จักในปัจจุบัน ก่อนที่จะลุยข้ามเชิงเขาหิมาลัย ไปไกลกว่าที่ชาวตะวันตกคนไหนจะไปถึง เขาพิชิตต่อไปถึงอินเดียที่น่าพิศวง ไม่น่าเชื่อว่าอเล็กซานเดอร์ไม่เคยพ่ายแพ้ในการสู้รบใดๆ เขาผลักดันกองทัพอย่างไม่ย่อท้อผ่านทะเลทราย ภูเขาและป่าเขาในดินแดนที่แปลกประหลาดและลึกลับ พิชิตข้าศึกทุกคนที่หาญมาต่อกร

ภาพยนตร์เรื่อง Alexander นี้ ลำดับเหตุการณ์ชีวิตของอเล็กซานเดอร์ ไปสู่ความเป็นตำนานที่ยังคงมีชีวิต จากวัยเยาว์ที่เต็มพลังด้วยความฝันของเทพนิยาย ความรุ่งเรือง และการผจญภัย ไปสู่ความสัมพันธ์ที่แน่นเฟ้น ของเขากับผองเพื่อนที่สนิทที่สุด ไปสู่ความตายอันเดียวดายเยี่ยงผู้ครองอาณาจักรอันไพศาล เป็นเรื่องเหลือเชื่อของชีวิตที่ผนึกโลกที่อันเป็นที่รู้จักไว้ด้วยกัน และได้พิสูจน์ว่า โชคชะตาย่อมเข้าข้างความกล้าหาญชาญชัย...

Alexander กำกับการแสดง และร่วมเขียนบทโดย โอลิเวอร์ สโตน (Platoon, JFK, Any Given Sunday, Nixon, Natural Born Killers, Heaven & Earth, The Doors, Born on the Fourth of July, Wall Street) นำแสดงโดย โคลิน ฟาเรล หนึ่งในดาวรุ่งที่มีพลัง และความสามารถรอบตัวมากที่สุดคนหนึ่งในวงการ มารับบทผู้พิชิตที่เป็นดั่งตำนาน สโตนรวบรวมตัวแสดงจากนานาชาติในหนังของเขา ไม่ว่าจะเป็น แอนเจลิน่า โจลี่ เจ้าของรางวัลออสการ์ รับบท โอลิมเปียส มารดาผู้สง่างามและอ่อนไหว และนักแสดงแถวหน้า แอนโธนี่ ฮอปกิ้นส์ (เป็นการร่วมงานกับสโตนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากภาพยนตร์เรื่อง Nixon) แสดงเป็น ปโตเลมี หนึ่งในนายพลผู้จงรักภักดีที่สุดของอเล็กซานเดอร์ และต่อมากลายเป็นฟาโรห์ของอียิปต์แห่งอเล็กซานเดรีย นักแสดงอื่นๆ ยังรวมถึง วาล คิมเมอร์ (ซึ่งเคยแสดงให้กับสโตนในบทบาทของ จิม มอริสัน ในภาพยนตร์เรื่อง The Door) รับบทเป็น ฟิลิป กษัตริย์แห่งมาซิโดเนีย พ่อของอเล็กซานเดอร์, จาเรด เลโท (Panic Room, Girl, Interrupted, Fight Club, Urban Legend) รับบทเป็น เฮฟาอีฟเทียน สหายสนิทที่สุด และนายพลผู้จงรักภักดีของอเล็กซานเดอร์, โรซาริโอ ดอสัน (The Rundown, Men in Black II, Josie and the Pussycats) เป็นโรซาน สาวงามชาวแบคเทรียน ที่เขานำมาเป็นภรรยาคนแรก, โจนาธาน รายส์ เมเยอร์ส (Vanity Fair, Bend It Like Beckham, Velvet Goldmine, Michael Collins) เป็นแคสแซนเดอร์ นายทหารผู้ทะเยอทะยาน และ คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ (The Sound of Music, A Beautiful Mind, The Insider) เป็นอริสโตเติ้ล ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ และอาจารย์ของอเล็กซานเดอร์ในวัยเยาว์

เลต้า คาโลกริดิส (ซีรีส์ Birds of Prey) และ คริสโตเฟอร์ ไคล (K-19: The Widowmaker, ร่วมเขียนบท The Weight of Water) ร่วมเขียนบทกับ โอลิเวอร์ สโตน จากเรื่องโดย โอลิเวอร์ สโตน และ เลต้า คาโลกริดิส Alexander อำนวยการสร้างโดย โธมัส ชูเอลี่ (The Adventures of Baron Munchausen, The Name of the Rose), มอริส บอร์แมน แห่ง อินเตอร์มีเดีย (บริษัทผู้สร้าง Terminator 3: Rise of the Machines, The Quiet American, Adaptation.), จอน คิลิค (Malcolm X, Dead Man Walking, Pleasantville) และ เอียน สมิธ (Cold Mountain, Spy Game, The Killing Fields) ผู้อำนวยการบริหารร่วมได้แก่ เฟอร์นานโด ซูลิชิน (Persona Non Grata ซึ่งเป็นสารคดีของสโตน, Looking for Fidel และ Comandante) และ เจียนนี่ นันนารี (From Dusk Till Dawn, Seven)

ผู้มากความสามารถที่อยู่หลังกล้องของสโตนได้แก่ ร็อดริโก้ พรีโต้ ผู้กำกับภาพ (Frida, 8 Mile, 25th Hour, Persona Non Grata และ Comandante), ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ แจน โรเอลฟส์(Gattaca, Simone, The Cook the Thief His Wife & Her Lover), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เจนนี่ บีแวน (เจ้าของรางวัลออสการ์จาก A Room With A View, The Remains of the Day), ผู้ลำดับภาพ ทอม นอร์ดเบิร์ก (U-Turn ของสโตน และ Any Given Sunday), อเล็กซ์ มาร์เควซ (Comandante ของ สโตน) และจากฝรั่งเศส ยาน เอิร์ฟ (Taxi, Wasabi), ผู้แต่งเพลงประกอบเจ้าของรางวัลออสการ์ แวนเจลลิส (Chariots of Fire, Blade Runner, Missing) และผู้ประสานงานนักแสดงแทน แกรี่ โพเวล (ผู้ช่วยประสานงานนักแสดงแทนใน Titanic, Saving Private Ryan และ Harry Potter and the Prisoner of Azkaban), จอห์น ชีเล่ รับหน้าที่ผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็ค โดยมี ทรีเวอร์ วู้ด (Cold Mountain, Spy Game) รับหน้าที่เป็นผู้ควบคุมสเปเชียลเอ็ฟเฟ็ค

ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการทหาร และผู้กำกับฯ กองถ่ายที่สองได้แก่ เดล ไดน์ ซึ่งเคยร่วมงานกับสโตนใน Platoon, Born on the Fourth of July, JFK, Heaven and Earth และ Natural Born Killers และร่วมแสดงความสามารถของเขา ในภาพยนตร์อย่างเช่น Saving Private Ryan สโตนมอบหมายให้ โรบิน เลน ฟอกซ์ เป็นที่ปรึกษาหลัก สหายจากนิวคอลเลจ อ็อกฟอร์ด ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์โบราณ เป็นนักเขียนผู้เรืองนาม ในหนังสือชีวประวัติที่พิมพ์ในปี 1974 เรื่อง Alexander the Great

Alexander เป็นภาพยนตร์ที่มีความละเอียดลึกซึ้ง และมีภาพที่สวยงาม ฉากหลังที่ใหญ่โต และโลกโบราณที่สร้างขึ้นมาใหม่อย่างมโหฬาร สโตนและทีมสร้างสรรค์เดินทางทั่วโลก เพื่อหาโลเกชั่นที่เหมาะสม ปักหลักที่วิวธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ในโมร็อคโค, ประเทศไทย, อินเดีย, และมอลต้า ในโมร็อคโค โลเกชั่นในเมืองเทพนิยายอย่างมาราคีชและเอสซาเวร่า จำลองฉากของมาซิโดเนีย เปอร์เชีย ซอดดิอาน่า สกายเทีย แบคเทรียน และเทือกเขาฮินดูกูช โดยมีฉากของ แจน โรเอลฟส์ ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ ที่รวมถึงประตูเมืองในเทพนิยายอย่างบาบิโลน ป้อมบนเขาของแบคเทรียนที่สร้างอยู่บนขอบหน้าผาบนเขาโลเวอร์ แอทลาส และโรงละครของชาวมาซิโดเนียน ที่มีสิ่งก่อสร้างประกอบกันมากมาย ทุกหลังมีรายละเอียดพิถีพิถัน โลเกชั่นในประเทศไทยสร้างเป็นอินเดียโบราณ เต็มไปด้วยการสู้รบในป่าที่รุนแรงและทรงพลัง ประกอบด้วยทหารนับพันและสงครามบนหลังช้าง เทือกเขาหิมาลัยในอินเดียเป็นฉากพื้นที่ภูเขา ที่จำลองภาพการเดินทางของอเล็กซานเดอร์เข้าสู่ตะวันออก และมอลต้าอนุญาตให้ผู้สร้างภาพยนตร์สร้างท่าเรืออเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และวัฒนธรรมของอียิปต์ ที่ริเริ่มโดยกษัตริย์หนุ่ม และสร้างโดยปโตเลมี เพื่อนและนายพล ซึ่งภายหลังกลายเป็นฟาโรห์

พร้อมๆ ไปกับงานโลเกชั่นที่หนักหน่วง โรเอลฟส์สร้างฉากน่าทึ่งขนาดมหึมา บนซาวน์สเตจ "007 Stage" อันเลื่องชื่อของไพน์วู้ดที่ทั้งสตูดิโอไพน์วู้ด และเชฟเฟอตันนอกกรุงลอนดอน สิ่งก่อสร้างถาวรที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับสิ่งก่อสร้างประเภทเดียวกัน - มีสองฉากใหญ่ที่สร้างโดยโรเอลฟส์ และบริษัทที่สร้างหนัง วังในบาบิโบนและอินเดีย โดยถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันในรายละเอียด นอกจากนี้ ยังมีวังเพลล่า ซึ่งถูกชุบชีวิตขึ้นมาหลังจากหายไปพันกว่าปี เป็นวังที่อเล็กซานเดอร์ในวัยเด็กเติบโตขึ้นมา โดยฟิลิปและโอลิมเปียส พ่อแม่ที่มีปัญหา และหอสมุดใหญ่ในอเล็กซานเดรีย

ศิลปินและช่างฝีมือนับพัน ฝากผลงานไว้กับการก่อสร้าง และการจำลองอาวุธที่เลียนแบบมาอย่างถูกต้อง ของประกอบฉาก และเครื่องตกแต่งฉาก ด้วยความพยายามที่จะสร้างโลกที่หายไปขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน เข้ากับสายตาของโลกปัจจุบัน สำหรับ Alexander ของประกอบฉากทุกชิ้น อาวุธ เครื่องเรือนทุกชิ้น และเครื่องแต่งกาย ถูกออกแบบและสร้างสำหรับหนังโดยเฉพาะ โดยใช้ศิลปิน ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ และช่างฝีมือจากทุกมุมโลก ไม่มีชิ้นไหนถูกขนออกมาจากโกดัง หรือขอยืมมาจากหนังเรื่องอื่น เครื่องแต่งกายนับพันถูกออกแบบโดย เจนนี่ บีแวน เพื่อให้ตัวแสดงนำและตัวแสดงอื่นๆ มากมาย ได้สวมบทบาทชาติต่างๆ ที่ถูกพิชิตได้ และต่อมาถูกกลืนโดยอาณาจักรของอเล็กซานเดอร์ แพรพรรณจากทุกมุมโลก ถูกนำมาออกแบบในสไตล์ที่ได้รับการวิจัยแล้วอย่างถี่ถ้วน ว่าเป็นสไตล์ของมาซิโดเนีย กรีก เปอร์เชีย แบคเทรีย ซอดดิอาน่า สกายเทีย และอินเดีย

เดล ไดน์ ผู้ร่วมงานกับสโตนมาเป็นเวลายาวนาน และอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารที่สุดในวงการภาพยนตร์ พร้อมด้วยทีมมากด้วยประสบการณ์ของเขา ฝึก โคลิน ฟาเรล และตัวแสดงหลักคนอื่นๆ ให้แสดงเป็นทหารของอเล็กซานเดอร์ เป็นเวลาหนึ่งเดือนที่ยาวนานและหนักหน่วง เพื่อให้พวกเขาเกิดความชำนาญในเรื่องการต่อสู้ด้วยอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นดาบ โล่ ธนูและลูกศร เชือกสลิง หลาว และซาริสซัส (หอกน่ากลัวที่วัดความยาวได้ถึง 18 ฟุต) ตลอดจนการต่อสู้บนหลังม้า การแสดงท่าทางมาตรฐานและการดนตรี ศาสนาโบราณ การตั้งทัพ และการจัดรูปแบบทางการทหารอื่นๆ

ผู้ที่รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางด้านเทคนิค ให้กับโอลิเวอร์ สโตนได้แก่ โรบิน เลน ฟอกซ์ จากนิวคอลเลจ อ็อกฟอร์ด เป็นผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์โบราณ เขาเขียนหนังสือชีวประวัติของอเล็กซานเดอร์ ที่ตีพิมพ์ในปี 1974 ปัจจุบันถือว่าเป็นงานเขียนร่วมสมัย ที่ดีที่สุดชิ้นหนังในชีวิตของเขา ซึ่งมียอดขายมากกว่าหนึ่งล้านเล่ม แม้ว่าบทของสโตนจะเป็นบทดั้งเดิม แต่ฟอกซ์ก็ให้ความรู้ขั้นเอนไซโคลพีเดียของฟอกซ ์เกี่ยวกับชีวิตของอเล็กซานเดอร์ กับงานบทและการแสดงเป็นครั้งคราว แก่ผู้สร้างภาพยนตร์

เกร็ดภาพยนตร์

• ความสำเร็จของอเล็กซานเดอร์เป็นที่ตื่นตะลึง ไม่ว่าจะวัดด้วยมาตรฐานใด อาณาจักรของเขา - ไม่ว่าจะเป็นเพียงบางส่วนหรือทั้งหมด - คือดินแดนที่ปัจจุบันเป็นประเทศกรีซ, อัลบาเนีย, ตุรกี, บัลแกเรีย, อียิปต์, ลิเบีย, อิสราเอล, จอร์แดน, ซีเรีย, เลบานอน, ไซปรัส, อิรัก, อิหร่าน, อัฟกานิสถาน, อุสเบกิซสถาน, ปากีสถาน และอินเดีย ในตอนที่เขาเสียชีวิต ดินแดนดังกล่าวครอบคลุมถึงสองล้านตารางไมล์ เขาเป็นหัวข้อของงานเขียนมากมายมหาศาล ทั้งด้านประวัติศาสตร์ นิยาย จิตวิทยา และภาคปฏิบัติ ดังที่ปรากฎอยู่ในหนังสือ ซึ่งเพิ่งตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว เป็นหนังสือที่แปลงกลยุทธ์ทางการทหารของอเล็กซานเดอร์ มาเป็นแนวทางให้แก่นักธุรกิจในปัจจุบัน

• ฟาแล็กซ์ เป็นการนำทหาร 256 คน ฟอร์มตัวเป็นสี่เหลี่ยมจำนวน 16 คูณ 16 คนต่อชุด แบกอาวุธยาว 15-18 ฟุตที่เรียกว่าซาริสซ่า เป็นการรวมตัวกันเป็นรูปแบบที่ไม่อาจผ่าฟันผ่านไปได้ นี่คือกลยุทธ์ที่คิดโดยฟิลิป และภายหลังถูกประยุกต์จนสมบูรณ์แบบโดยอเล็กซานเดอร์ บุตรชาย เทียบได้กับรถถังในสมัยนี้ สิ่งที่ฟิลิปสร้างขึ้นนี้ ทำให้ลูกชายของเขาสามารถครองโลกได้ ไม่เพียงแต่การสร้างฟาแล็กซ์ แต่ยังเป็นความคิดของกองทัพพลยืนด้วยการจ้างคน เมื่ออเล็กซานเดอร์ผงาดขึ้นมา เขามีอาวุธพร้อมมือที่จะครองโลก ยุทธวิธีของฟาแล็กซ์ดีมาก จนเป็นการสร้างรูปแบบพื้นฐานของการรบใน 150 ปีต่อมา กลุ่มเดียวที่เอาชนะมันได้คือชาวโรมัน ดังนั้น นี่เป็นกลวิธีที่มอบอาวุธที่เอาชนะไม่ได้ หยุดยั้งไม่ได้ และทรงพลังให้แก่ผู้บัญชาการรบอย่างอเล็กซานเดอร์

• หนึ่งในการคัดตัวที่สำคัญที่สุดในหนัง คือการหาสัตว์ตัวที่เหมาะเพื่อแสดงเป็น บูเซฟาลัส ม้าอมตะดั่งในเทพนิยายของอเล็กซานเดอร์ เพื่อนผู้ซื่อสัตย์กว่า 20 ปี จากสเปน ริคาโด้ ครูซ โมราล นำม้าดำมีตระกูลพันธุ์ฟรีเชียนสี่ตัว ที่ดูเหมือนก้าวออกมาจากภาพโบราณ พร้อมกับท่วงท่านิ่มนวลสง่างาม ครูซ โมราล และทีมงานของเขาฝึกม้าสี่ตัวนี้ (ชื่อ อูลเบ้, บรอนซ์, อเนฟาน, และทาเบอร์บาน)ในความสามารถต่างๆ กัน และโคลิน ฟาเรลจะได้ขี่ทุกตัวตลอดการถ่ายทำ

• สองนักแสดงชาวไทยที่ได้รับบทสำคัญในหนังก็คือ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ (ที่เคยรับบทนายทองเหม็น จาก บางระจัน) และ จรัญ งามดี (ที่เคยรับบทนายจันหนวดเขี้ยว จาก บางระจัน) รับบทเจ้าชายอินเดีย อโดยมี สันต์ เปสตันยี เป็นผู้ประสานงานกองถ่าย นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่อง บางระจัน ถูกนำไปฉายที่อเมริกา และมีเครดิตนำเสนอโดย โอลิเวอร์ สโตน

• โลเกชั่นที่เลือกสำหรับการรบในป่าอินเดีย ถูกกำหนดโดยปัจจัยสำคัญ คือความต้องการช้างกว่า 30 เชือกในฉากการรบดุเดือดในป่า ระหว่างกองกำลังมาซิโดเนียนและอินเดียน การตัดสินใจอาศัยความชำนาญของ สมพาสน์ มีพันธุ์ (อ้อม) ผู้เป็นเจ้าของ Ayutthaya Elephant Palace และ Royal Kraal ซึ่งเป็นที่ยอดนิยม อยู่ในเมืองหลวงเก่าทางเหนือของกรุงเทพ โดยการช่วยเหลือของ วิลาสินี (พลอย) ลูกสาววัย 15 ปีซึ่งโตมากับช้าง มีพันธุ์นำช้าง 30 เชือกจากอยุธยามายังสระบุรี ที่ซึ่งโลเกชั่นที่เหมาะสมถูกค้นพบในสวนพฤกษศาสตร์พุแค นอกจากนั้นยังมีจังหวัดอุบลราชธานีในภาคอีสาน ซึ่งเป็นโลเกชั่นที่ถูกเลือกให้เป็นหน้าผา ที่มองลงไปเห็นแม่โขง ซึ่งเป็นฉากของแม่น้ำบีส์ในอินเดีย อันเป็นที่ซึ่งอเล็กซานเดอร์บอกลาฝันของเขาในตะวันออก