Ali
Official website
more info. from IMDB
แนว : แอ็คชั่น / ดราม่า
ความยาว : 156 นาที
กำหนดฉาย : 22 มีนาคม 2545

"Float like a butterfly, Sting like a bee" โบยบินดุจผีเสื้อ ต่อยเจ็บเหมือนผึ้ง คือคำอธิบายสไตล์การชก ของนักผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์มวยโลก มูฮัมหมัด อาลี หรือชื่อเดิม แคสเซียส เคลย์ (รับบทโดย วิล สมิธ)

ภาพยนตร์เรื่อง Ali เน้นเหตุการณ์ในช่วงหนึ่งทศวรรษ ระหว่างปี 1964-1974 ตั้งแต่อาลียังมีอายุเพียง 22 ปี ขึ้นชกชิงเข็มขัดแชมป์เอฟวี่เวทในนาม แคสเซียส เคลย์ กับ ซอนนี่ ลิสตัน (รับบทโดย ไมเคิ้ล เบนท์) เคลย์เป็นนักมวยคลื่นลูกใหม่ไฟแรง ที่มีผีปากแกร่งกล้าไม่แพ้พลังหมัด เขาสามารถต่อปากต่อคำ กับบรรดานักข่าว และผู้พากย์กีฬาชื่อดังอย่าง ฮาวเวิร์ด โคเซล (รับบทโดย จอน วอยท์) ได้อย่างมีชีวิตชีวา เฉกเช่นเดียวกับลีลาบนเวทีมวย หลายคนเชื่อว่า เคลย์จะต้องถูกน็อคคาเวทีในวันนั้น แต่เขากลับเอาตัวรอดไป พร้อมเข็มขัดแชมป์ และชื่อเสียงที่ตามมาในชั่วเวลาเพียงข้ามคืน

หลังคว้าชัยชนะได้ไม่นาน เคลย์ก็สร้างความตื่นตะลึง ให้แก่คนทั้งชาติ ด้วยการประกาศว่า เขาจะเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม นับแต่นั้น เขาก็เปลี่ยนชื่อเป็น มูฮัมหมัด อาลี แทน เหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความไม่พอใจแก่ครอบครัว ทั้งภรรยา และบิดาของเขาอย่างมาก แต่เขาก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในศรัทธาของตนเอง

ความดื้อรั้นหัวแข็ง นำพาอาลีไปประสบปัญหาครั้งใหญ่ เมื่อเขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมรบในสงครามเวียดนาม แม้จะมีคำมั่นสัญญาจากกองทัพว่า เขาจะไม่ต้องเข้าใกล้แนวหน้าเลยตลอดช่วงเวลารบ ทั้งนี้ความตรงไปตรงมาในการพูด ที่สุดเขาก็ถูกถอดออกจากตำแหน่งแชมป์ และถูกปฏิเสธจากศาสนาอิสลาม

อาลีกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เมื่อเขาอายุได้ 32 ปี เมื่อเขาได้โอกาสขึ้นทวงเข็มขัดแชมป์ อันเป็นสิทธิ์ชอบธรรมของตน คืนจากยอดนักมวยหนุ่ม จอร์จ โฟร์แมน (รับบทโดย ชาร์ล สตัฟฟอร์ด) โดยใช้สถานที่ในประเทศซาอีร์ ทวีปอัฟริกา ซึ่งมวยนัดดังกล่าว กลายเป็นประวัติศาสตร์ของกีฬามวยสากล ที่โลกต้องจารึก

อาลีได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่ง ตลอดช่วงดำรงตำแหน่งนักมวยอาชีพ ระหว่างทศวรรษที่ 60-70 ความพยายามจะถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของชายผู้นี้ ให้ออกมาครบถ้วน หมายความว่า หนังจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสถาบันใหญ่จำนวนมาก รวมถึงประเด็นการเมืองสำคัญๆ หลายเรื่อง อาทิ วงการมวย, ชนชาติอิสลาม, การเรียกร้องสิทธิของชนผิวสี, การเดินขบวนประท้วงในยุคฮิปปี้ ตลอดจนองค์กรสื่อมวลชน ที่เริ่มมีอำนาจมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แก่นสารหลักของหนังที่ผู้ชมจะได้สัมผัส คือการได้เห็นนักสู้คนหนึ่งที่ต่อสู้ทุกทาง เพื่อรักษาจุดยืนและศรัทธาของตน ซึ่งก็ได้รับผู้ตอบแทนอันยิ่งใหญ่ในท้ายที่สุด..


อินนิเชียล เอนเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป ร่วมกับ โคลัมเบีย พิกเจอร์ส, ปีเตอร์ส เอนเตอร์เทนเมนต์ / ฟอร์วาร์ด พาส โปรดักชั่น, ลี แคปลิน / พิกเจอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ คอร์ปอเรชั่น และ โอเวอร์บรูค เอนเตอร์เทนเมนต์ ภูมิใจเสนอ Ali ภาพยนตร์แนว อิพิกดรามา กำกับโดย ไมเคิล มานน์ ผู้กำกับภาพยนตร์ที่เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วจาก The Insider และมีงานเด่นๆ อีกหลายเรื่อง อาทิ Heat, The Last of the Mohicans อำนวยการสร้างโดย จอน ปีเตอร์, เจมส์ ลาสสิเตอร์, พอล อาร์ดาจี, ไมเคิล มานน์ และ เอ. คิตแมน โฮ, อำนวยการสร้างบริหารโดย โฮวาร์ด บิงแฮม และ เกรแฮม คิง บทภาพยนตร์โดย สตีเฟน เจ. รีวีล (Nixon), คริสโตเฟอร์ วิลคินสัน (Nixon), อีริค รอธ (The Insider, The Horse Whisperer, Forrest Gump) และ ไมเคิล มานน์ จากเรื่องเดิมที่เขียนโดย เกร็กเกอรี่ แอลเลน โฮวาร์ด (Remember the Titans)

Ali นำแสดงโดย วิล สมิธ (Enemy of the State, Men In Black, ID4, Bad Boys) ในบทบาทของ แคสเซียส เคลย์ หรือ มูฮัมหมัด อาลี นักกีฬามวยสากล ผู้ซึ่งเป็นที่รักที่สุด แม้ว่าในบางครั้งจะถูกด่าทอบ้าง และถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดเช่นกัน บุคคลผู้ซึ่งมีพลัง มากเกินกว่าเพียงแค่ในสังเวียนมวย ร่วมด้วย เจมี่ ฟอกซ์ (Bait, Any Given Sunday, The Truth About Cats & Dogs) รับบทเป็น ดริว "บันดินี" บราวน์, จอน วอยท์ (Lara Croft: Tomb Raider, Anaconda, Mission: Impossible) รับบทเป็น โอวาร์ด โคเซลล์, มาริโอ แวน พีเบอร์ (New Jack City, Panther) รับบทเป็น มัลคอม เอ็กซ์, รอน ซิลเวอร์ (The Arrival, Girl 6, Timecop) รับบทเป็น แองเจลโล ดันดี, เจฟฟรี ไรท์ (D-Tox, Shaft, Ride with the Devil) รับบทเป็น โฮวาร์ด บิงแฮม, มิเคลตี วิลเลี่ยมสัน (Three Kings, Primary Colors, Con Air) รับบทเป็น ดอน คิง, เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ (Bamboozled, Scream 2, The Nutty Professor) รับบทเป็น ซอนจี รอย, โนนา กาย (Harlem Nights) รับบทเป็น เบลินดา, ไมเคิล มิเชลล์ (New Jack City, ซีรีส์ ER) รับบทเป็น เวโรนิกา, โจ มาร์ติน (Bounce, What Lies Beneath, The Astronaut's Wife, Terminator 2) รับบทเป็น ชวนซี เอสกริดจ์

ทีมงานเบื้องหลังของ Ali ประกอบด้วย ผู้กำกับภาพ เอ็มมานูเอล ลูเบซกี, ASC, A.M.C. ซึ่งเคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 2 ครั้งจาก Sleepy Hollow และ A Little Princess, ผู้ออกแบบงานสร้าง จอห์น ไมยร์ (เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Elizabeth), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย มาร์ลีน สจ็วต, ผู้ลำดับภาพ วิลเลี่ยม โกลเด้นเบิร์ก, A.C.E. (เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์จาก The Insider), สตีเฟน รีฟคิน, A.C.E. และ ลินซี คลิงแมน, A.C.E. (เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์จาก One Flew Over the Cuckoo's Nest), โค-โปรดิวเซอร์ ไมเคิล แวซแมน และ จอห์น ดี. โชฟิลด์, ดนตรีประกอบโดย ลิซ่า เจอรัล (M:I-2, Gladiator, The Insider) และ พีเตอร์ บูก (The Insider), เพลงประกอบโดย อินเตอร์สโคป / ยูเอ็มจี ซาวน์แทรกส์ นักร้องรับเชิญได้แก่ อาร์. เคลลี่, อลิเซีย คีย์ส, อัล กรีน, อารีธา แฟรงคลิน

ภาพยนตร์เรื่อง Ali คือตำนานที่ยังมีชีวิต ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ โดยผู้กำกับระดับสุดยอดฝีมือ ไมเคิล มานน์ มอบความไว้วางใจ และให้โอกาสพระเอกผิวสีหนุ่มอารมณ์ดีอย่าง วิล สมิธ ได้พลิกบทบาทครั้งสำคัญ ถ่ายทอดชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวสารพัด ของนักชกสุภาพบุรุษ มูฮัมหมัด อาลี จนถูกเสนอชื่อเข้ารางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม พร้อมกับที่ จอน วอยท์ ได้เข้าชิงเช่นกัน ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 3 สาขา


มูฮัมหมัด อาลี ในทัศนะของ ชาญยุทธ ลีลารุจิวงศ์ คอลัมนิสต์และนักวิจารณ์มวย ประจำนิตยสารมวยโลก เจ้าของนามปากกา 'เสือเหลือง'

  1. อาลีแตกต่างจากนักมวยคนอื่นอย่างไร ?

    อาลีเป็นนักมวยที่มีทักษะและมีความคิด ไม่ใช่พวกใช้กำลัง เหมือนนักมวยรุ่นเฮฟวี่ เวทคนอื่นในยุคนั้น สไตล์การชกที่เน้นการเคลื่อนไหว แตกต่างจากคนอื่นๆ ที่ขึ้นมาก็ยืนปักหลังแลกหมัดกัน อาลีทำให้การชกมวยเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ส่งผลให้คนอื่นมองวงการมวยดีขึ้น ไม่ใช่พวกป่าเถื่อนชอบใช้กำลัง สมัยที่อาลีเป็นแชมป์โลก วงการมวยคึกคักมาก เพราะใครๆ ก็คลั่งไคล้อาลี จนทำให้อาลีกลายเป็นนักกีฬาหมายเลข 1 ของอเมริกันชนในช่วงทศวรรษที่ 70

  2. คู่ต่อสู้คนสำคัญของอาลี

    โจ ฟราเซียร์ ทำศึกกับอาลีครั้งแรก และเป็นไฟท์ประวัติศาสตร์ ของวงการมวยโลก เมื่อฟราเซียร์เป็นนักมวยคนแรก ที่มอบความปราชัยให้กับอาลี ทั้งยังเป็นคนแรก ที่ต่อยอาลีลงไปนับแปด ไฟท์ดังกล่าว ถูกยกย่องให้เป็นศึกแห่งศตวรรษ ต่อมา ฟราเซียร์ซึ่งกลายเป็นอดีตแชมป์ หลังจากเสียตำแหน่งให้กับ จอร์จ โฟร์แมน จึงกลับมาขึ้นชกกับอาลีอีกหนที่ฟิลิปปินส์ ในศึก "Thriller in Manila" ปรากฏว่าฟราเซียร์แพ้ TKO แก่อาลีในยกที่ 14 ศึกระหว่างอาลีและฟราเซียร์ทุกครั้ง ขึ้นชื่อในเรื่องของความรุนแรง โหดเหี้ยม สยดสยอง เมื่ออาลีและฟราเซียร์เลิกชกไป เมื่อไม่นานมานี้ ลูกสาวของทั้งคู่ซึ่งเป็นนักมวยหญิง ได้มาเผชิญหน้ากันสืบต่อจากบิดา ทำให้ฟราเซียร์กลายเป็นคู่ต่อสู้ประวัติศาสตร์ ของอาลีไปอย่างไร้ข้อสงสัย

  3. ไฟท์ประทับใจ

    ผมชอบครั้งที่อาลีขึ้นชกกับ จอร์จ โฟร์แมน ที่ประเทศซาอีร์ ในศึก "The Rumble in The Jungle" ช่วงนั้นอาลีเป็นอดีตแชมป์โลกที่วัยล่วงเข้า 32 ส่วนโฟร์แมนเป็นนักมวยหนุ่มฟอร์มสด เจ้าของเข็มขัดแชมป์ที่มีประวัติการณ์ น็อคคู่ต่อสู้มาทุกครั้ง นักวิจารณ์ฟันธงเป็นเสียงเดียวกันว่า อาลีจะต้องถูกน๊อคเช่นกัน ทว่าอาลีกลับมาเหนือชั้น วางแผนต่อยข้างเชือก จนที่สุด โฟร์แมนซึ่งไม่เคยทำศึกยืดเยื้อนานเกิน 3 ยกก็หมดแรง และเป็นฝ่ายพ่ายน๊อคเสียเองในยกที่ 8

  4. ความน่าสนใจของอาลี

    อาลีเป็นอดีตแชมป์โลกรุ่นยักษ์ 3 สมัยคนแรกของโลก เป็นสุภาพบุรุษนอกสังเวียน เป็นนักมวยที่คิดเก่ง กล้าพูด กล้าวิพากษ์วิจารณ์ มีศิลปะในการพูดโน้มน้าวใจคน และมีบุคลิกภาพของความเป็นฮีโร่ ที่คนอเมริกันและทั่วโลกชื่นชอบ หลายคนบอกว่า ถ้าอาลีไม่เป็นโรคพาร์คินสัน ต่อไปในภายหน้า อาลีมีโอกาสสูง ที่จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิปดีสหรัฐ เพราะทุกคนรักเขา และเชื่อว่าเขามีสติปัญญา ที่ไม่ได้เป็นรองใคร