Sang-hwan (RYOO Seung-bum) ได้เป็นตำรวจสมดังที่เขาปรารถนาไว้ ที่จะนำความยุติธรรม จัดการกับพวกที่ชอบใช้กำลังเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น แต่ในความเป็นจริง แม้แต่แก็งค์อันธพาลข้างถนนยังไม่กลัวเขาเลย แล้ววันหนึ่ง เมื่อเขาได้มาพบกับคนแปลกหน้ากลุ่มหนึ่ง รู้จักกันในนาม เจ็ดเซียน (The Seven Masters) Sang-hwan ถูกจับให้คู่กับ Eui-jin (YUN Soy) ผู้ซึ่งจะต้องเป็นคู่หูของเขา และเป็นผู้ที่ถูกกำหนดไว้ให้เป็น Arachi ในขณะเดียวกัน HeugUn (UNG Doo-hong) เจ้าแห่งความชั่วร้าย ก็ได้ปลดปล่อยตัวเองออกมา หลังจากที่ถูกเจ็ดเซียนจองจำเอาไว้ มีเพียง Murachi เท่านั้นที่จะสามารถปกป้องโลกจากการรุกรานของ HeugUn ไว้ได้ แล้ว Sang-hwan จะสามารถกลายเป็น Maruchi และรวมพลังกับ Arachi ได้ทันเวลาที่จะเอาชนะ HeugUn และเก็บรักษาพลังชิ ให้คงอยู่ในโลกอย่างสงบสุขได้หรือไม่

Arahan เป็นผลงานของสองพี่น้องตระกูล RYOO ทั้ง RYOO Seung-wan และ RYOO Seung-bum ที่ได้มาร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่ง ในฐานะนักแสดงและผู้กำกับฯ นับเป็นครั้งแรก หลังจากผลงานภาพยนตร์แนวอินดี้ของทั้งคู่ในเรื่อง Die Bad และนี่เป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เกาหลี ภาพยนตร์เรื่อง Arahan นี้ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ “เด็กลูกหม้อในวงการหนัง” ทั้งสองคน ซึ่งเคยได้แสดงพลัง ในการสร้างภาพยนตร์แนวอินดี้มาแล้วนั้น ได้ตัดสินใจกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง หลังจากที่ได้พิสูจน์ฝีมือ ให้เห็นในงานภาพยนตร์โฆษณาที่ผ่านๆ มาหลายชิ้น

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Arahan นี้ พี่น้อง RYOO ได้กลับมาร่วมงานกับผู้ร่วมงานคนเดิม ซึ่งเคยได้ทำงานร่วมกันในภาพยนตร์เรื่อง No Blood No Tears มาแล้ว นั่นก็คือ JUNG Doo-hong ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะผู้กำกับคิวบู๊ และนักแสดงแนวแอ็กชั่น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมงานล่วงหน้าเป็นเวลานานถึงหกเดือน ก่อนที่จะเริ่มต้นการถ่ายทำ โดยพวกเขาได้แลกเปลี่ยนความรู้ความชำนาญ ในเรื่องการกำกับภาพยนตร์ การแสดง และศิลปะการต่อสู้ ซึ่งกันและกัน รวมทั้งยังได้ช่วยกันให้รายละเอียดของท่วงท่า เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในภาพยนตร์ ซึ่งการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่ง ของผู้เชี่ยวชาญมือหนึ่งเช่นนี้ เป็นการระดมทักษะและประสบการณ์ที่แต่ละคนมีอยู่ ซึ่งนับเป็นองค์ประกอบหนึ่ง ที่ทำให้งานภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาดี

ฉากแอ็กชั่นใน Arahan จะถูกกำหนดไว้ให้เป็นการผสมผสานกัน ระหว่างการต่อสู้ที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นรูปแบบที่แปลกใหม่ ด้วยเนื้อเรื่องซึ่งกำหนดไว้ ให้เป็นแบบยุคของเกาหลีร่วมสมัย ตัวละครจึงเป็นไปตามจินตนาการในแนวแฟนตาซี ที่ไร้ขีดจำกัด ซึ่งทำให้ภาพยนตร์มีความสนุกสนาน ในแบบที่ไม่เคยเห็นในภาพยนตร์เรื่องใดมาก่อน นักแสดงนำตัวหลักๆ ของเรื่อง จะได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อให้มีทักษะเชี่ยวชาญในการใช้ดาบ และการใช้ลวดสลิงในการถ่ายทำ โดยเฉพาะ RYOO Seung-bum และ YUN Soy ซึ่งจะต้องแสดงทั้งในฉากที่มีการไล่ล่ากันด้วยความเร็วสูง กระโดดจากตึกระฟ้าแห่งหนึ่ง ไปยังอีกตึกหนึ่ง พุ่งชนทะลุกระจกหน้าต่าง แล้วกระโดดข้ามหลังคาสูงๆ แล้วยังฉากใต้น้ำ ซึ่งมีการดวลกำลังภายในกัน ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน นักแสดงนำทั้งสองคน ต้องฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และการแสดงบนสลิง วันละ 6 ชั่วโมง นานติดต่อกันถึง 3 เดือนเต็ม เพื่อให้การแสดงออกมาดีที่สุด ไม่เพียงแค่นักแสดงนำสองคนนี้เท่านั้น แม้แต่นักแสดงรุ่นเก๋าท่านอื่นๆ ที่มารับบทบาทของ เจ็ดเซียน (The Seven Masters) ซึ่งได้แก่ AHN Sung-ki, BAEK Chan-ki และ KIM Young-in ต่างก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักเช่นกัน เพื่อให้ฉากต่อสู้มีความสมจริงมากที่สุด

ทีมผู้สร้างภาพยนตร์ได้นำเอาคอมพิวเตอร์กราฟฟิค เข้ามาใช้ในการสร้างเทคนิคพิเศษต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการสร้างนานกว่า 6 เดือน เพื่อให้ได้ฉากในแนวแฟนตาซีต่างๆ เช่น การสร้างไฟที่เกิดขึ้นจากพลังชิ การกระโดดข้ามตึกระฟ้า เป็นต้น นอกจากนี้ การจะสื่อให้เห็นถึงภาพ ของช่วงเวลาแห่งความสงบเงียบแบบตะวันออก ท่ามกลางฉากแอ็กชั่นที่มีการเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดนิ่ง และการต่อสู้ที่ดุเดือดแต่กลมกลืนกัน ระหว่างการรุกและรับของคมดาบ ก็ต้องใช้เทคนิคพิเศษด้านภาพที่ละเอียดอ่อนยิ่ง ซึ่งทำให้ Arahan ได้รับการคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถแสดงให้เห็นถึงฉากแอ็กชั่นที่มีพลังและยอดเยี่ยม แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นในภาพยนตร์เกาหลี

Arahan นำแสดงโดย RYOO Seung-bum (จาก Die Bad, Dazimawa Lee, Waikiki Brothers, No Blood No Tears, No Comment, Conduct Zero) รับบท Sang-hwan หนุ่มเลือดร้อนผู้ใจดี ผู้ซึ่งกำลังจะเป็น Maruchi, YUN Soy (จากซีรีส์ June) รับบท Eui-jin เซียนชิผู้รักความสนุก ผู้ซึ่งกำลังจะเป็น Arachi, AHN Sung-ki (จาก Whale Hunting, Our Sweet Days of Youth, White Badge, Nowhere to Hide, The Last Witness, The Romantic President, Silmido) รับบท JaUn สุภาพบุรุษตัวจริง ผู้มีกำลังภายในซึ่งแข็งแกร่ง, UNG Doo-hong (Kim's War, Blood Vengeance, No Blood NoTears, Champion, Resurrection of the Little Match Girl) รับบท HeungUn เจ้าแห่งความชั่วร้าย

ศัพท์เฉพาะ

• Maruchi : ชายหนุ่มที่สำเร็จเป็นเซียนแล้ว

  "Maru" เป็นภาษาเกาหลี แปลว่า "จุดยอด" หรือ "จุดสูงสุด" ส่วน "Chi" หมายถึง คน

• Arachi : หญิงสาวที่สำเร็จเป็นเซียนแล้ว

  "Ara" เป็นภาษาเกาหลี แปลว่า "สวยงาม" หรือ "แหล่งกำเนิดของชีวิต"

• Palm Wind : พลังฝ่ามือ

  คนที่เป็นเซียน เมื่อได้รับการฝึกฝนจะสามารถรวมพลังชิ (พลังลมปราณ) ไว้บนมือ และสามารถปล่อยพลังจากฝ่ามือ เหมือนการปล่อยแสงเลเซอร์

• Inner Strength : กำลังภายใน

  เป็นพลังชิ (พลังลมปราณ) ขั้นสูง จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องวิธีการหายใจ และการควบคุมจิตใจ

• Light Skill : วิชาตัวเบา

  วิธีการเคลื่อนไหวร่างกายให้เบา และเร็วกว่าลมพัด

• Levitation Techniques : วิชาลอยตัว

  ด้วยการควบคุมการไหลเวียนของพลังชิ (พลังลมปราณ) ในร่างกาย ทำให้เซียนจะสามารถลอยตัวอยู่ในอากาศได้

• Inviting Corruption : ลมปราณแตกซ่าน

  เมื่อเซียนใช้พลังชิ (พลังลมปราณ) ไปในทางที่ผิด จะทำให้เกิดการปิดกั้นการไหลเวียนตามธรรมชาติ ของพลังชิในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายพิการ หรืออาจถึงตายได้