เกิดเหตุอาเพทขึ้น บริเวณชายแดนทางภาคเหนือเมื่อกว่ายี่สิบปีก่อน ท้องฟ้าปั่นป่วนเกิดฝนดาวตกอยู่ทั่วไป ก่อนที่อุกกาบาตอาถรรพณ์ลูกหนึ่ง จะตกกระทบซากสุสานโบราณกลางดงไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง ในจังหวะที่ทารกชายสองคนเกิดขึ้นแทบจะพร้อมกันพอดี คนแรกเกิดที่สุขศาลาใกล้ดงไม้ อีกคนเกิดจากหญิงยากไร้ผู้พเนจรมาจากแดนไกล และจำเพาะเจาะจงมาตายลงตรงที่อุกกาบาตลูกนั้นตกมาพอดี

ยี่สิบปีต่อมา ทารกคนแรกซึ่งชื่อ โอม (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) เติบโตได้ทุนเรียนดี จนสำเร็จเป็นจิตแพทย์ประจำอยู่ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โอมมีพลังจิตเหนือธรรมชาติ จนอาจารย์หมอ บุญปรก (ประกาศิต โบสุวรรณ) ซึ่งสันทัดด้านการบำบัดด้วยวิธีกระแสจิต ต้องอาศัยโอมให้ช่วยในการบำบัดรักษาคนไข้ อย่างได้ผลราวปาฎิหารย์หลายครั้ง จนเมื่อคนไข้ประหลาดคนหนึ่ง ซึ่งเอาแต่นั่งนิ่งซึมไม่พูดไม่จา ถูกส่งตัวมาจากบ้านเกิดโอมเพื่อขอรับการรักษา จึงเกิดเรื่องวุ่นขึ้น เมื่อโอมถูกหมอบุญปรกขอร้องให้รักษาคนไข้นั้น ด้วยพลังจิตที่โอมมีอยู่อีกครั้ง พลังอำนาจอันชั่วร้ายบางอย่าง ที่แฝงมากับตัวคนไข้นั้น ทำให้โอมช็อคจนสลบไป เมื่อเขาฟื้นขึ้น โอมซึ่งเป็นจิตแพทย์ กลับกลายเป็นคนเสียสติเสียเอง เที่ยวเลียนแบบพฤติกรรมคนไข้หลายๆ คนที่โอมเคยรักษา และหนีเตลิดออกจากโรงพยาบาลไปพร้อมกับ หมอขัน (อรุณ ภาวิไล) อดีตหมอไสยศาสตร์ ผู้เป็นคนไข้คนหนึ่งของหมอบุญปรกและโอม จังหวะนั้นเอง สารวัตรพศิน (พศิน เรืองวุฒิ) นายตำรวจจากบ้านเกิดของโอม ก็เดินทางมาถึงเพื่อขอความร่วมมือจากหมอบุญปรกผู้มีชื่อเสียง เพราะโรคประหลาดกำลังแพร่ระบาดไปทั่วอำเภอชายแดนแห่งนั้น ชาวบ้านในหลายๆ หมู่บ้าน เอาแต่นั่งซึมไม่พูดไม่จาไปตามๆ กัน

หมอบุญปรกชวน หมอวารี (ศศิธร พานิชนก) แพทย์หญิงคนรักของโอมให้เดินทางไปกับตน และสารวัตรพศินด้วย เมื่อมาถึงอำเภอชายแดนแห่งนั้น ทั้งหมดกลับพบว่า ชาวบ้านเหล่านั้นเสียชีวิตจนหมดสิ้นแล้วโดยไม่มีสาเหตุ ขณะชาวบ้านในหมู่บ้านอื่น เริ่มนั่งนิ่งซึมในอาการเดียวกัน ขณะนั้นเอง โอมที่ต้องทนทุกข์อยู่กับสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ก็เดินทางมาถึงอำเภอบ้านเกิด เพราะเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนมีต้นตอมาจากที่นี่

ทั้งหมดช่วยกันสืบจนรู้ว่า ปัญหาเกิดขึ้นจาก การิน (ภาณุ สุวรรณโณ) ทารกลูกของหญิงยากไร้ผู้อาภัพ ซึ่งเกิดในขณะอุกกาบาตตกพร้อมกันกับโอม หากอยู่ใกล้และได้พลังอาถรรพณ์จากอุกกาบาตมากกว่า จนมีพลังเหนือธรรมชาติแก่กล้ายิ่งกว่าโอมเสียอีก การินเป็นตัวการทำร้ายคนทั้งหมด ด้วยความอาฆาตแค้น ที่มารดาของตนถูกขับไล่ไม่ใยดี จนพเนจรมาเสียชีวิตลงตรงกลางสุสานโบราณนั้น การินต้องการคืนความแค้นด้วยการแก้แค้น ขณะที่โอมพยายามเข้าขัดขวาง และเตือนใจให้นึกถึงบาปบุญคุณโทษ การรู้จักให้อภัย และเมตตาในเพื่อนมนุษย์ แต่การินก็ยังไม่ยินยอม มุ่งจะทำร้ายคนทั้งหมด และหาทางใช้พลังจิตที่ตนมี ชุบชีวิตของผู้เป็นมารดาให้ฟื้นคืนขึ้นอีกครั้ง โดยไม่ยอมฟังเสียงใคร

ในขณะเดียวกัน โอมได้พยายามที่จะขัดขวาง ถึงแม้จะรู้ว่าตนเองมีพลังเหนือธรรมชาติด้อยกว่า เขาก็ไม่ยอมแพ้ การต่อสู้ระหว่าง โอม และ การิน เกิดขึ้นและเป็นไปได้อย่างเข้มข้น ใครจะเป็นผู้ชนะ และบทสรุปจะเป็นอย่างไรนั้น ...ต้องรอพิสูจน์กัน !!!

อุกกาบาต ภาพยนตร์แอ็คชั่นมันส์สุดขั้วของ ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น กำกับการแสดงโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล เป็นเรื่องราวของจิตแพทย์หนุ่ม ที่ต้องประสบกับเหตุการณ์ ที่ทำให้เขาต้องเผชิญกับพลังลึกลับที่เหนือธรรมชาติ ผจญภัยกับสิ่งลี้ลับ ต้องต่อสู้กับอำนาจมืด ที่มาจากการกระทำของบุคคลที่ต้องการทำลายล้างโลก

อุกกาบาต เป็นภาพยนตร์ที่เกิดขึ้น จากการนำเอาประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่คลุกคลีอยู่ในวงการภาพยนตร์ของ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล กลั่นกรองออกมาเป็นงานสร้างเรื่องนี้ อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังได้มีการใช้เทคนิคพิเศษมากถึง 460 ช็อต มีการสร้างตัวผีดิบขนาดต่างๆ ขึ้น โดยใช้การดีไซน์ภาพ ออกแบบท่าทางต่างๆ เพื่อให้ออกมาดูสวยงามสมจริง ซึ่งเทคนิคพิเศษเหล่านี้ สร้างสรรค์ขึ้นโดย บริษัท อิเมจิแมกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทของคนไทย ใช้ทีมงานกว่า 30 คน ดำเนินงานไปพร้อมกับการถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งนับได้ว่า เป็นการทำงานทางด้านเทคนิคพิเศษของภาพยนตร์ อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด นอกจากนี้ยังได้นำเพลง "ความเป็นไป" ของศิลปินวงอีโบล่า จากค่าย วอร์นเนอร์ มิวสิค มาเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ ซึ่งจะยิ่งสร้างความสนุกสนานมากขึ้น นับได้ว่า อุกกาบาต ได้สร้างขึ้นจากความตั้งใจจริงของ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล ที่อยากนำเสนอผลงานในรูปแบบใหม่ ดูแปลกตา สนุก และไม่น่าเบื่อ...

อุกกาบาต นำแสดงโดย ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ และ ภาณุ สุวรรณโณ ร่วมด้วย ลักขณา วัธนวงส์ศิริ, ศศิธร พานิชนก, ประกาศิต โบสุวรรณ, อรุณ ภาวิไล, พศิน หรือ เอราวัติ เรืองวุฒิ

ภาพยนตร์เรื่อง อุกกาบาต อำนวยการสร้าง เจริญ เอี่ยมพึ่งพร บทภาพยนตร์และกำกับภาพยนตร์โดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล ผู้จัดการกองถ่ายทำคือ นงลักษณ์ พรหมพงษ์ อำนวยการผลิตโดย วชิระ ชอบเพื่อน, ชูสกุล วงศ์มีชัย ช่วยควบคุมการผลิตโดย พวงรัตน์ บุญยืน, กิตติยา ลิบสิทธิกุล ช่วยกำกับภาพยนตร์โดย วิโรจน์ ศรีสิทธิ์เสรีอมร, วลีทิพย์ นันทเอกพงศ์ ช่วยกำกับฉากพิเศษโดย ศักดิ์ชัย ศรีบุญนาค, แผลงฤทธิ์ แสงชา เทคนิคพิเศษด้านภาพโดย IMAGIMAX กำกับศิลป์โดย จักรพิพัฒน์ อัศวบุญญาเลิศ ช่วยกำกับศิลป์โดย เอกชัย อินโต บันทึกเสียงโดย สุนิตย์ อัศวินิกุล, ชาย คงศีลวัต ลำดับภาพโดย สุนิตย์ อัศวินิกุล กำกับแสงโดย ตนัย นิ่มเจริญพงษ์ กำกับภาพโดย ธีระวัฒน์ รุจินธรรม ช่วยกำกับภาพและถ่ายทำกล้อง 2 โดย เกรียงศักดิ์ สุขพันธ์ เพลงประกอบภาพยนตร์โดย อภิฉัตร สวัสดิวณกิจ