มิสเตอร์บีน พักร้อนนี้มีฮา
Official website
more info. from IMDB
แนว : ตลก
ความยาว : - นาที
กำหนดฉาย : 29 มีนาคม 2550
บ่ายวันหนึ่งที่ฝนโปรยปรายในอังกฤษ มิสเตอร์บีน (โรแวน แอ็ตคินสัน) ดีใจอย่างมากที่ชนะรางวัลที่ 1 ในการจับสลากรางวัลในโบสถ์แถวบ้าน รางวัลดังกล่าว ก็คือการไปพักผ่อนนานหนึ่งอาทิตย์ ในทางตอนใต้ของฝรั่งเศส พร้อมกับกล้องวิดีโอตัวใหม่อีกหนึ่งตัว เขาจะได้ไปพักผ่อนที่เมืองคานส์ ในช่วงที่มีการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เขาขึ้นเครื่องยูโรสตาร์มุ่งหน้าไปยังปารีส และถ่ายภาพทุกอย่างด้วยกล้องวิดีโอตัวใหม่ของเขา ที่ Gare de Lyons เขาขอให้ผู้โดยสารอีกคนถ่ายภาพให้ ขณะที่เขาขึ้นรถไฟเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองคานส์ ชายคนนี้ก็คือผู้กำกับภาพยนตร์ชาวรัสเซีย เอมิล ดูเชสฟสกี้ (คาเรล โรเด้น) ผู้เดินทางไปยังเมืองคานส์ เพื่อเป็นคณะกรรมการตัดสินที่งานเทศกาลภาพยนตร์ เอมิลยอมถ่ายให้ แต่ในความยุ่งเหยิงระหว่างการถ่ายทำ เอมิลถูกทิ้งให้ยืนอยู่ที่สถานีรถไฟ ขณะที่รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากชานชาลา มิสเตอร์บีนอยู่ระหว่างมุ่งหน้าสู่ตอนใต้ เมื่อเขารู้ว่า สเตพาน (แม็กซ์ บัลดรี้) ลูกชายวัย 10 ขวบของเอมิล อยู่บนรถไฟขบวนนี้ด้วยโดยไม่มีพ่อของเขามาตามดูแล และทั้งคู่พูดกันคนละภาษา มิสเตอร์บีนและสเตพานลงรถไฟที่สถานีถัดไปเพื่อรอเอมิล แต่รถไฟขบวนถัดมาเป็นรถด่วน และเอมิลเดินทางมุ่งตรงไปยังเมืองคานส์ เมื่อมิสเตอร์บีนและสเตพานขึ้นรถไฟขบวนต่อมา มิสเตอร์บีนลืมทั้งเงิน ทั้งตั๋ว และทั้งพาสปอร์ตเอาไว้ที่ชานชาลา พวกเขาจึงถูกไล่ลงจากรถไฟเพราะไม่มีตั๋ว ถูกทิ้งให้อยู่ในสภาพไม่มีเงินสักบาทอยู่ในฝรั่งเศส เอมิล พ่อของสเตพานแจ้งความกับตำรวจเรื่องมิสเตอร์บีน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการตามล่าไปทั่วประเทศ เพื่อค้นหาลูกชายของเขา สเตพานและมิสเตอร์บีนเกิดมิตรภาพที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ สเตพานเป็นเด็กฉลาดและเจ้าความคิด พวกเขาทำงานด้วยกันได้ดี ในไม่ช้า พวกเขาก็สามารถหาเงินได้มากพอทีจะขึ้นรถบัส เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองคานส์ ยกเว้นแต่ตั๋วของมิสเตอร์บีน ดันไปติดอยู่ที่เท้าของไก่ ทำให้เขาพลาดรถบัสนั่น... เมื่อไม่มีสเตพาน คู่หู และต้องหลงอยู่ในดินแดนชนบทอันกว้างไกลของฝรั่งเศส มิสเตอร์บีนเดินทางรอนแรมลงใต้ ในเวลากลางคืนเขาเดินเข้าไปเมือง และหาที่หลับนอนอยู่ใต้รถขนกองฟาง เช้าวันรุ่งขึ้น เขาตื่นขึ้นมา และพบว่าตัวเองอยู่ในเมือง ที่ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านที่สมบูรณ์แบบของฝรั่งเศส แต่อันที่จริงแล้ว มันคือฉากของโฆษณาโยเกิร์ต ผู้กำกับโฆษณาชิ้นนี้ ก็คือผู้กำกับชาวอเมริกันที่เป็นพวกหลงตัวเองชื่อ คาร์สัน เคลย์ (วิลเลม เดโฟ) ที่แวะหาเงินก่อนจะเดินทางลงใต้ เพื่อเข้าร่วมงานรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์อาร์ตเฮ้าส์ของเขา ที่ว่าด้วยเรื่องของตำรวจ เรื่อง Playback Time มิสเตอร์บีนร่วมเดินทางลงใต้ไปพร้อมกับนักแสดงสาว เซไบน์ (เอ็มม่า เดอ คอนส์) ผู้รับบทเป็นพนักงานเสิร์ฟสาวในโฆษณาโยเกิร์ต และเธอตั้งใจจะไปเมืองคานส์ เพื่อร่วมงานฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยตร์เรื่อง Playback Time ซึ่งเธอมีบทบาทเล็กๆ อยู่ เมื่อบีนได้มาเจอกับสเตพานอีกครั้ง ที่สถานีบริการของมอเตอร์เวย์ ทั้งสามคนจึงขับรถมุ่งหน้าลงใต้ในคืนนั้น เมื่อมาถึงเมืองคานส์ พวกเขาได้เห็นภาพข่าวทางทีวี มิสเตอร์บีนโดนประกาศจับ และคนทั้งประเทศฝรั่งเศสกำลังตามหาตัวเขากับสเตพาน มีการปิดกั้นถนนเบื้องหน้า พวกเขาต้องผ่านเจ้าหน้าที่ไปให้ได้ เพื่อไปร่วมงานรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Playback Time และกลับไปหาพ่อของสเตพาน โดยบีนจะต้องไม่โดนจับ มิสเตอร์บีนและสเตพาน ที่ปลอมตัวเป็นแม่และลูกสาวของเซไบน์ สามารถผ่านด่านของเจ้าหน้าที่ไปได้ แต่เพราะมีตั๋วเพียงใบเดียว จึงมีแต่เซไบน์ ที่สามารถผ่านเข้าไปร่วมงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ได้ บีนและสเตพานแอบเข้าไปร่วมงานจากด้านหลังเวที Playback Time ทำให้คนดูเบื่อจนน้ำตาร่วง บีนที่ทิ้งสเตพานเอาไว้ด้านหลัง พยายามดึงดูดความสนใจของเอมิล โดยไม่ทำให้พวก รปภ.รู้ตัว เมื่อการแสดงเพียงฉากเดียวของเซไบน์โดนตัดทิ้งออกจากตัวภาพยนตร์ บีนตัดสินใจที่จะช่วยเธอ หลังจากเข้าไปหลบ รปภ.อยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ เขาเลยนำภาพที่ถ่ายจากวิดีโอของเขาฉายขึ้นจอใหญ่ โดยใส่ภาพของเซไบน์เข้าไปในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย การผสมผสานระหว่างตัวภาพยนตร์ และภาพจากวิดีโอของบีน ทำให้คนดูเกิดความสนใจ แต่คาร์สัน เคลย์โกรธจนลมออกหู เขากับกลุ่ม รปภ. พังประตูเข้ามาในห้องฉายภาพยนตร์เพื่อหยุดมิสเตอร์บีน แต่บีนหลบหนีไปได้ ขณะปีนป่ายข้ามห้วคนดูไป บีนเดินมาถึงเวที ขณะเดียวกันกับที่สเตพานเดินออกมาจากใต้จอภาพยนตร์ คนดูต่างลุกขึ้นยืนปรบมือให้พวกเขา ภาพยนตร์เรื่อง Playback Time ของ คาร์สัน เคลย์ ได้รับคำชมว่าเป็นผลงานคลาสสิกแหวกแนว เซไบน์ได้รับการต้อนรับในฐานะดาราดัง และสเตพานได้กลับไปเจอกับแม่และพ่อของเขา แล้วมิสเตอร์บีนล่ะ ? เขาเดินหลบจากภาพการเฉลิมฉลอง มุ่งหน้าไปยังชายหาด ขณะที่ยืนอยู่ริมทะเลนั้น เขาถลกขากางเกงขึ้นและยิ้ม ในที่สุด วันหยุดพักผ่อนของเขาก็เริ่มต้นขึ้นเสียที... มิสเตอร์บีน ที่ชีวิตเริ่มต้นขึ้นในจอทีวีของอังกฤษในปี 1990 กลายมาเป็นดาราดังไปทั่วโลก ซึ่งต้องขอบคุณความสามารถอันโดดเด่นของ โรแวน แอ็ตคินสัน ในการรวมการแสดงตลกท่าทางที่น่าเอ็นดูกับตลกเจ็บตัว ที่มาพร้อมกับบุคลิกลักษณะที่ดูน่ารัก ซีรีส์เรื่องนี้ถูกนำไปฉายทั่วโลก จนเป็นแรงผลักดันให้ผู้ร่วมกันเขียนบทอย่าง โรแวน แอ็ตคินสัน และ ริชาร์ด เคอร์ติส สร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่อง Bean: The Ultimate Disaster Movie ออกมา มันคือภาพยนตร์ที่ส่งมิสเตอร์บีน ให้เข้าไปป่วนโลกศิลปะในลอสแอนเจลิส หลังความสำเร็จของภาพยนตร์มิสเตอร์บีนเรื่องแรก ที่ทำรายได้จากทั่วโลกไปกว่า $260 ล้านในปี 1997 ทีนี้ก็เหลือแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น ก่อนที่ทางผู้สร้างภาพยนตร์ จะตัดสินใจนำตัวละครตัวนี้ ขึ้นจอใหญ่เป็นครั้งที่สอง อย่างไรก็ดี ครั้งนี้ ทางทีมผู้สร้างตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า จะไม่ย่ำไปบนเส้นทางเดิม ทั้งในเรื่องของสไตล์และการเล่าเรื่อง ใน Mr. Bean's Holiday มิสเตอร์บีน ตลกหน้าเป็นขวัญใจมหาชน ขอลาพักร้อนไปวีว่าดื่มไวน์ อาบแดดที่ริเวียร่า ฝรั่งเศส แต่กลับไปสร้างความโกลาหลในทุกๆ ที่ที่เขาหลงผ่านไป จากพักร้อนที่เหมือนจะธรรมดาแต่กลับไม่ธรรมดา ป่วนไปป่วนมาจนดังระเบิดที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ กับผลงานวิดีโอไดอารี่ของตัวเอง ทีมงานตัดสินใจว่า มิสเตอร์บีนจะต้องร่วมเดินทางไปพร้อมกับตัวละครสองตัว คือเด็กชายและผู้หญิง ตัวเด็กชายที่รับบทแสดงโดย แม็กซ์ บัลดรี้ ที่เพิ่งแสดงภาพยนตร์เป็นเรื่องแรก กลายมาเป็นเด็กในความรับผิดชอบของบีน ขณะที่เขาดิ้นรนเพื่อพาเด็กส่งคืนครอบครัว และเด็กไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ส่วนผู้หญิงที่รับบทแสดงโดย เอ็มม่า เดอ คอนส์ ก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาหมายปอง แต่เป็นคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการผจญภัยของบีน สำหรับ เอ็มม่า เดอ คอนส์ หนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส ที่เมื่อเร็วๆ นี้แสดงนำอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง The Science of Sleep การตัดสินใจยอมรับบทเซไบน์ เป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก เพราะเธอคุ้นเคยดีอยู่แล้วกับตัวละครอย่างบีน ซึ่งต้องขอบคุณพ่อของเธอ อังตวน เดอ คอนส์ ซึ่งเป็นพิธีกรในแวดวงทีวี สำหรับตัวละคร คาร์สัน เคลย์ ทีมงานได้ติดต่อทาบทาม วิลเลม เดโฟ หนึ่งในนักแสดงแถวหน้าของอเมริกา เจ้าของผลงานการแสดงมากมาย อาทิเช่นภาพยนตร์ที่คว้ารางวัลเรื่อง The English Patient, The Life Acquatic with Steve Zissou และ Spider-man ผู้เข้ามาทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ สตีฟ เบนเดแล็ค ผู้กำกับผลงานทางทีวีสุดฮิตของอังกฤษ อย่างเรื่อง Little Britain and French และ Saunders และภาพยนตร์เรื่อง League of Gentlemens Apocalypse ตามที่ผู้อำนวยการสร้าง ทิม บีแวน กล่าว เบนเดแล็คคือคนที่เหมาะจะมากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก |