Brokeback Mountain
Official website
more info. from IMDB
แนว : ดราม่า / รัก
ความยาว : 134 นาที
กำหนดฉาย : 14 กุมภาพันธ์ 2549

ฤดูร้อน ปี 1963 - แจ็ก ทวิสต์ (เจค กิลเลนฮาล) และ เอนนิส เดล มาร์ (ฮีธ เลดเจอร์) ได้รับการว่าจ้างให้เป็นคนงานในฟาร์มเลี้ยงแกะแห่งหนึ่ง ใกล้เทือกเขาโบร๊กแบ็กในไวโอมิง จากที่ไม่ไว้ใจกันในตอนแรก ทั้งสองกลับกลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว และในเวลาต่อมา ความรู้สึกที่มีต่อกันนั้นก็พัฒนากลายเป็นความรัก

เมื่อฤดูร้อนสิ้นสุดลง ทั้งคู่กลับลงมาจากโบร๊กแบ็ก ต่างคนต่างแยกย้ายไปมีชีวิตของตนเอง เอนนิสยังคงปักหลักอยู่ที่ไวโอมิง เขาแต่งงานกับ อัลมา (มิแชล วิลเลียมส์) แฟนสาวที่คบกันมานาน และในเวลาต่อมาก็มีลูกด้วยกัน 2 คน ส่วนแจ็กแต่งงานกับ ลูรีน (แอนน์ แฮธาเวย์) สาวสวยประจำเมือง มีลูกกับเธอคนหนึ่ง และรับผิดชอบดูแลธุรกิจให้กับพ่อตาในเท็กซัส ในระหว่างนั้น แจ็กกับเอนนิสตัดสินใจที่จะไม่พบกัน และไม่เก็บสิ่งที่เกิดขึ้นที่โบร๊กแบ็กมาคิดให้วุ่นวายใจ

จนกระทั่ง 4 ปีผ่านไป จู่ๆ แจ็กก็ส่งจดหมายถึงเอนนิสเพื่อแจ้งข่าวว่า เขาจะเดินทางผ่านมาแถวนั้น และจะแวะมาเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า

อย่างไม่คาดคิด - การพบกันครั้งนี้ ทำให้ทั้งแจ็กและเอนนิสตระหนักว่า แท้ที่จริงอีกฝ่ายสำคัญต่อตนมากแค่ไหน และ 4 ปีที่ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้ทำให้ความรักที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นนั้น เปลี่ยนแปรหรือลดน้อยลงเลย...


ไม่ใช่การกล่าวยกยอเกินจริงนัก หากจะยกให้ อั้งลี หรือ หลี่อัน (Hulk, Ride with the Devil, The Ice Storm, The Wedding Banquet, Sense and Sensibility, Crouching Tiger Hidden Dragon, Eat Drink Man Woman) เป็นคนทำหนังที่มี ‘สถิติดีเยี่ยม’ ที่สุดคนหนึ่งในวงการภาพยนตร์

อั้งลีทำหนังมากว่า 10 ปี มีผลงานกำกับรวมแล้วเพียง 9 เรื่อง (ยังไม่นับ Chosen ตอนหนึ่งในหนังชุด The Hire ของ BMW ซึ่งเป็นหนังสั้น ความยาวเพียง 6 นาที) ทว่าทุกเรื่อง - นับตั้งแต่ Pushing Hands หนังยาวเรื่องแรก จนถึงล่าสุดคือ Brokeback Mountain - ล้วนได้รับคำวิจารณ์ในเกณฑ์บวกทั้งสิ้น กระทั่ง Hulk ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นหนังที่ด้อยที่สุดของอั้งลี ก็ยังไม่อาจพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า มันเป็น ‘หนังห่วย’

5 ปีก่อน อั้งลีทำให้คนทั้งโลกแห่แหน ให้ความสนใจหนังกำลังภายในยกใหญ่ หลังจากที่ทำ Crouching Tiger, Hidden Dragon ได้งดงามเหนือชั้น เก็บกวดรางวัลจากเวทีการประกวดต่างๆ เสียหลายรายการ มาปีนี้ อั้งลีกระตุ้นเร้าความสนใจของผู้ชมอีกครั้งด้วย Brokeback Mountain

Brokeback Mountain ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันของ อี. แอนนี พรูซ์ (E. Annie Proulx) โดย ไดอานา ออสซานา และคู่หูผู้ร่วมเขียนบทกับ แลร์รี แม็กเมอร์ทรี ที่เคยร่วมมือกันเขียนบทหนังและบทละครมาแล้วหลายชิ้น และเคยได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในปี 1986 จากนิยาย Lonesome Dove

ด้านงานกำกับภาพ อั้งลีได้ โรดริโก ปริเอโต ผู้กำกับภาพฝีมือเยี่ยมชาวเม็กซิกัน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้ อยู่เบื้องหลังหนังดังๆ หลายเรื่อง อาทิ Amores Perros หนังดังจากเม็กซิโก และ 21 Grams หนังเครียดหนักอึ้ง ผลงานกำกับของ อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู ทั้งคู่, Frida หนังสวยดูสนุก ที่เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของศิลปินหญิงนาม ฟรีดา คาร์โล, 8 Mile ของ เคอร์ติส แฮนสัน ซึ่งมี EMINEM รับบทนำ

การออกแบบงานสร้างยกให้เป็นหน้าที่ของ จูดี้ เบ็คเกอร์ หญิงเก่งซึ่งเคยรับหน้าที่เดียวกันนี้ ให้กับหนังอินดี้หลายต่อหลายเรื่อง นอกจากนั้น ยังเคยถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน 25 บุคคลที่น่าจับตามองแห่งปี ของนิตยสาร Filmmaker ในปี 2002 ด้วย

หรืออย่างดนตรีประกอบของหนัง ก็รับผิดชอบโดย กุสตาโว ซานตาโอลาลลา - ไม่นานมานี้ เราเพิ่งได้เห็นฝีมือการประพันธ์เพลงของเขามาหมาดๆ ใน The Motorcycle Diaries ผลงานกำกับของ วอลเตอร์ ซัลเลซ ที่เล่าถึงชีวิตวัยหนุ่มของ เช เกวารา (ซานตาโอลาลลาได้รับรางวัล BAFTA จากงานชิ้นนี้ด้วย) ส่วนงานดังๆ ของเขาก่อนหน้านี้ก็เช่น Amores Perros และ 21 Grams ซึ่งกำกับโดย อเลฮานโด กอนซาเลซ อินาร์ริตู

อั้งลีได้นักแสดงหนุ่มฝีมือดีอย่าง เจค กิลเลนฮาล (Jarhead, The Day After Tomorrow, Proof, Moonlight Mile, Bubble Boy, October Sky) และ ฮีธ เลดเจอร์ (The Brothers Grimm, Casanova, The Four Feathers, A Knight's Tale, The Patriot) มารับบท แจ็ก และ เอนนิส ตามลำดับ ร่วมด้วย แอนน์ แฮธาเวย์ (The Princess Diaries , The Princess Diaries 2: Royal Engagement, Ella Enchanted) และ มิแชล วิลเลียมส์ (Me Without You, Imaginary Heroes, Dick, Halloween H20: 20 Years Later, ซีรีส์ Dawson's Creek)

Brokeback Mountain เปิดตัวงดงามด้วยการคว้ารางวัลสิงโตทองคำ (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม) จากเทศกาลหนังเวนิซครั้งล่าสุด (กันยายน 2005) และแน่นอน ในช่วงใกล้ออสการ์อย่างนี้ หนังถูกยกให้เป็น ‘ตัวเก็ง’ เกจิคาดหมายว่าน่าจะมีสิทธิคว้ารางวัลสำคัญๆ หลายสาขา รวมทั้งสาขาใหญ่ที่สุดอย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย จากการที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง มากกว่าหนังทุกเรื่องคือ 8 สาขา

เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ผู้รู้จำนวนหนึ่งแสดงความเห็นว่า ความสำเร็จทั้งในแง่รายได้ และรางวัลที่หนังเรื่องนี้เคยได้รับ และกำลังจะได้รับในอนาคตนั้น จะทำให้เกิด ‘จุดเปลี่ยน’ ต่อโลกภาพยนตร์กันอย่างยกใหญ่

ผู้ที่กล่าวเช่นนั้นเชื่อว่า Brokeback Mountain จะเป็นเสมือนการเบิกร่องนำทาง ให้หนังซึ่งเล่าถึงความสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศ ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมีฐานะเป็น ‘หนังด้อยโอกาส’ ในโลกภาพยนตร์กระแสหลัก ได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก ทำให้ผู้ชมที่เคยนึกรังเกียจเดียดฉันท์ได้ตระหนักว่า หนังประเภทนี้ที่ดีเยี่ยมนั้นมีอยู่เหมือนกัน และผู้ชมใน ‘วงกว้าง’ ก็สามารถซาบซึ้งกับมันได้ ไม่จำกัดเพียงเฉพาะกลุ่ม ‘ชายรักชาย’ หรือ ‘หญิงรักหญิง’ เท่านั้น