ในปี 1890 Daniel Robitaille ผู้หลุดพ้นจากชนชั้นทาส กอปรไปด้วยการศึกษาอย่างดี และการอบรมวิธีปฏิบัติตัวในสังคมชั้นสูง เขาเป็นนักวาดรูปตามที่เขาใฝ่ฝัน ซึ่งหาตัวจับยากคนหนึ่งในแถบตอนใต้ บรรดาเจ้าของเรือกสวนไร่นา อีกทั้งคนผิวขาวผู้มีอันจะกิน ที่เคยซื้อขายแลกเปลี่ยนบรรพบุรุษของเขาเยี่ยงวัวควาย ต้องมาจ่ายเงินก้อนงามให้พ่อหนุ่ม Robitaille บรรจงระบายความมั่งคั่ง และฐานะทางสังคมของพวกเขา ให้งามสง่าเกินจริงบนผืนผ้าใบ หนึ่งในจำนวนนี้ก็มีบิดาของ Caroline Sullivan (Lara Mazur) ที่มาว่าจ้างหนุ่มอเมริกันเชื้อสายอัฟริกันผู้น่าเชื่อถือนี้ ให้วาดรูปบุตรสาวแสนสวย และบริสุทธิ์ของเขาด้วยเช่นกัน

นับเป็นการเจรจาธุรกิจที่ทำให้ Robitaille ที่น่าสงสารต้องสูญเสียเลือดเนื้อ และวิญญาณลง ในท้ายที่สุดบิดาของ Caroline โกรธกริ้วจนหูตามัว เมื่อทราบว่าบุตรสาวใสซื่อบริสุทธิ์ของเขา คลอดลูกเป็นคนผิวดำ ด้วยคิดว่าชื่อเสียงวงศ์ตระกูลจะต้องอัปยศอดสู หนทางเดียวที่จะไถ่บาปนี้ได้คือกำจัด Robitaille เสียเขาส่งกองทัพมนุษย์ ออกตามล่าตัวคนรักของบุตรสาว เข้าป่าไปจนหมดทางหนี และแล้วก็เลื่อยมือขวาของเขาทิ้งอย่างเหี้ยมโหด โดยใช้ตะขอเกี่ยวเนื้อ เสียบเข้าไปแทนที่มือที่มีพรสวรรค์นั้นแบบสดๆ ทั้งที่ยังมีเลือดไหลนองอยู่ เพื่อให้เขาไม่สามารถเขียนรูปได้อีกต่อไป

ความโหดร้ายยังไม่สิ้นสุดลงเพียงเท่านั้น พวกมันยังไล่ล่ารวงผึ้งจากรังผึ้ง แล้วเอาน้ำผึ้งชโลมทั่วตัว Robitaille ทำให้บรรดาผึ้งโกรธจัดที่รังของพวกตนถูกทำลาย จึงโผเข้ากระหน่ำความหวาน ที่ฉาบตัว Robitaille ซึ่งบาดเจ็บโชกเลือดอยู่ เหล็กไนของผึ้งค่อยๆ เจาะซอกเซาะร่างกาย ซึ่งยังมีชีวิตของ Robitaille ที่กำลังเจ็บปวดชักดิ้นชักงออยู่ พลันนั้น บิดาของ Caroline ก็โผล่หน้าขึ้นมากลางฝูงชน แล้วยื่นกระจกเงาส่องไปที่ใบหน้าของเหยื่อแล้วเยาะเย้ยว่า "คิดว่าลูกสาวข้ายังจะต้องการเจ้าอยู่อีกหรือ"

ใบหน้าของ Robitaille เสียโฉมไปสิ้น ด้วยพิษของเหล็กไน ที่ทั้งเจาะไช และต่อยเขาจนน่วม ไม่อาจปะติดปะต่อตัวเองในกระจกได้ เขาจ้องมองร่างกายบวมฉึ่งอาบเลือดของตัวเอง ในขณะที่ฝูงชนโห่ร้องเรียกเขาว่า "Candyman"

ลองนึกภาพฝูงผึ้งที่โกรธจัด กำลังปล่อยอาวุธพิษของมันเข้าสู่เนื้อสดๆ อย่างสุดสยอง ราวกับเข็มแหลมเป็นพันเป็นหมื่น ที่ทิ่มแทงเลือดเนื้ออย่างแสนทรมาน..

Artisan Entertainment ได้ซื้อลิขสิทธิ์เรื่อง Candyman ต่อจาก Polygram Filmed Entertainment เมื่อปี 1997 แล้วทำสัญญากับ Aurora Productions ให้เป็นผู้ดำเนินการเขียนบท อำนวยการผลิต และกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยสคริปท์ภาพยนตร์เป็นผลงานจากฝีมือผู้กำกับ Turi Meyer และผู้อำนวยการสร้าง Al Septien ที่เน้นชีวิตรักของศิลปิน Daniel Robitaille และความหน้าสะพรึงกลัวของผี ที่ถูกฆาตกรรมสยองติดตามหลอกหลอน

The Candyman : Day of the Dead เป็นภาคต่อตอนที่ 3 ของภาพยนตร์เรื่องดังเมื่อหลายปีก่อน โดยภาคแรกเป็นผลงานการเขียนเรื่องของ Clive Barker กำกับโดย Bernard Rose นำแสดงโดย Virginia Madsen ออกฉายเมื่อปี 1992 และ Candyman : Farewell To The Flesh ออกฉายเมื่อปี 1995 เรื่องของชายแขนเดียวที่จะปรากฏกาย เมื่อถูกเรียกชื่อว่า "Candyman" จำนวนห้าครั้ง..

The Candyman : Day of the Dead เป็นเรื่องราวการหลอกหลอน ความรักในสมัยดึกดำบรรพ์ และความเร้นลับดำทมิฬ ในระดับเดียวกับเรื่อง The Phantom Of The Opera โดยที่ Tony Todd ได้สอดแทรกมุขที่ก่อให้เกิดอารมณ์เมตตา สงสาร รวมทั้งเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ เข้าไว้ใน The Candyman เรื่องผีที่ถูกทรมานทรกรรมไม่ซ้ำแบบใคร ด้วยการแบ่งชนชั้นสีผิว และความโกรธเกลียดสุดขั้ว เป็นตัวมาพรากความรัก 2 สิ่งไปจาก Robitaille นั่นก็คือ งานศิลปะของเขา และตัว Caroline Sullivan ทำให้ Candyman ต้องใช้ความพยายามทุกวิถีทาง ต่อเนื่องมาทุกยุคทุกสมัย ที่จะเยียวยาความเจ็บปวด ที่ฝังรากลึก ลงในจิตวิญญาณของเขา อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

The Candyman : Day of the Dead เขียนบทและอำนวยการสร้างโดย Turi Meyer และ Al Septien โดยมี William Stuart ร่วมอำนวยการสร้าง นำแสดงโดย Tony Todd (แสดงใน Candyman และ Candyman: Farewell To The Flesh อันเป็น 2 ตอนแรกของหนังเรื่องนี้ รวมทั้ง Platoon ของผู้กำกับ Oliver Stone, The Crow, Star Trek: The Next Generation), Donna D'Errico (Baywatch, Baywatch Nights), Alexia Robinson (The Nutty Professor, ซีรี่ส์ The Good News และ Savannah)