ดูเหมือนว่า แซลลี่ (ดาโกต้า แฟนนิ่ง) และ คอนราด (สเปนเซอร์ เบรสลิน) ซึ่งมีนิสัยต่างกันราวกับสีดำและขาว จะกดดัน โจน วอลเด้น (เคลลี่ เพรสตัน) แม่ของพวกเขาจนถึงขีดสุด นิสัยที่ชอบฝ่าฝืนกฏระเบียบไม่รู้จักจบของคอนราด ทำให้แม่ของเขาเริ่มคิดจะส่งเขา ไปเรียนในโรงเรียนทหาร ซึ่งเป็นความคิดที่ ลอว์เรนซ์ ควินน์ (อเล็ค บอลด์วิน) เพื่อนบ้านหนุ่มที่ตามจีบโจนอยู่เป็นคนแนะนำ ในขณะที่แซลลี่ ซึ่งถึงแม้จะมีความประพฤติดี แต่แฝงไปด้วยบาดแผลในใจ เจ้ากี้เจ้าการจนเพื่อนทุกคนหนี เธอจึงใช้เวลาที่มี หมดไปกับการว่ากล่าวน้อง และการใส่ข้อมูลถึงสิ่งที่เธอจะทำ ลงไปในเครื่องปาล์มสำหรับเด็ก

ในขณะที่ผู้เป็นแม่พยายามรักษาความเงียบสงบในบ้าน ไปพร้อมๆ กับการทำงานเป็นนายหน้าขายบ้านให้กับ มิสเตอร์ฮัมเบอร์ฟลูบ (ฌอน เฮย์ส) นายจ้างที่เป็นพวกกลัวเชื้อโรคขึ้นสมอง แต่ในวันเสาร์ ที่โจนจะต้องจัดงานปาร์ตี้ให้กับเพื่อนร่วมงาน ทุกอย่างที่เธอเตรียมไว้ ต้องกลายเป็นเหยื่อความซุกซนของคอนราด โจนจึงออกคำสั่ง ห้ามแซลลี่และคอนราดออกจากบ้านขณะที่เธอไปทำงาน และห้ามไม่ให้ก่อเรื่องวุ่นวาย หรือเล่นซนทุกกรณี เด็กๆ ต้องติดอยู่ในบ้าน ไม่มีอะไรทำนอกจากนั่งมองไปนอกหน้าต่าง ขณะที่ มิสซิสกวาน (เอมี่ ฮิลล์) พี่เลี้ยงเด็กเคลิ้มหลับอยู่ในห้อง

จนกระทั่งแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เจ้าเหมียว (ไมก์ ไมเยอร์) ที่สูงหกฟุต แถมยังพูดได้ พร้อมกับหมวกทรงปล่องไฟสีแดงขาว ผูกหูกระต่ายสีแดงแจ๋ ผู้แสนโปรดปรานงานปาร์ตี้ จะโผล่เข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ในโลกของแซลลี่และคอนราด และสอนให้พวกเขารู้ว่า “การเล่นสนุกเป็นสิ่งดี... เพียงแต่ต้องรู้วิธีเท่านั้น”

ใครอยากเล่นเกมส์แมวป่วนบ้านบ้าง..!

ไมก์ ไมเยอร์ รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Dr. Seuss’ The Cat In The Hat ภาพยนตร์ที่ทุกคนตั้งตารอ ผลงานความร่วมมือของ ยูนิเวอร์แซลพิคเจอร์ส / ดรีมเวิร์คส์พิคเจอร์ส / อิมเมจิน เอนเตอร์เทนเม้นต์ โดยดัดแปลงมาจากวรรณกรรมคลาสสิก ที่ทุกคนชื่นชอบ Dr. Seuss’ The Cat In The Hat อำนวยการสร้างโดย ไบรอัน เกรเซอร์ (8 Mile, A Beautiful Mind) และกำกับโดย โบ เวลช์ (โปรดักชั่นดีไซเนอร์ ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วสามครั้ง โดยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์อย่าง Beetlejuice, Edward Scissorhands และภาพยนตร์ Men In Black ทั้งสองภาค) จากบทภาพยนตร์ที่เขียนโดย อเล็ค เบิร์ก, เดวิด แมนเดล และ เจฟฟ์ เชฟเฟอร์ (Dr. Seuss’s How the Grinch Stole Christmas)

The Cat In The Hat ของ Dr. Seuss ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1957 และยังคงเป็นหนึ่งในสิบหนังสือปกแข็งสำหรับเด็ก ที่ขายดีที่สุดตลอดกาล เจ้าแมวเหมียวจอมเจ้าเล่ห์ ที่สวมหมวกทรงสูงเหมือนปล่องไฟ จะเปิดตัวขึ้นจอใหญ่เป็นครั้งแรก ในภาพยนตร์ที่ใช้คนจริงๆ แสดง ซึ่งจะนำตัวละครที่น่ารักของ ดร.ซุส รวมไปถึงตัวละครใหม่ๆ อีกหลายตัว ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ ขึ้นไปมีชีวิตโลดแล่นอยู่บนจอภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่อง The Cat In The Hat นำแสดงโดย ไมก์ ไมเยอร์ (Wayne’s World, Austin Powers ทั้งสามภาค), สเปนเซอร์ เบรสลิน (Disney's The Kid, Meet the Parents, The Santa Clause 2), ดาโกต้า แฟนนิ่ง (Uptown Girls, I Am Sam), อเล็ค บอลด์วิน (Mercury Rising, The Hunt for Red October, The Shadow, Malice, Beetlejuice), ฌอน เฮย์ส (Win a Date with Tad Hamilton, ให้เสียงพากย์เป็นมิสเตอร์ทิงเกิลส์ แมวเปอร์เซียบ้าอำนาจในภาพยนตร์ฮิตเรื่อง Cats & Dogs), เคลลี่ เพรสตัน (Twins, Jerry Maguire, For Love of the Game, What a Girl Wants)

โลกแสนมหัศจรรย์ ที่แขกไม่ได้รับเชิญรายหนึ่งโผล่เข้ามา และเปลี่ยนแปลงโลกของสองเด็กน้อย ที่ถูกทิ้งเอาไว้เพียงลำพัง และนำพาพวกเขาสู่การเดินทาง ที่เต็มไปด้วยการผจญภัยในดินแดนแฟนตาซี ที่นักประพันธ์ผู้เปี่ยมไปด้วยจินตนาการเป็นผู้สร้างขึ้น ถูกนำมาขึ้นจอ ด้วยฝีมือของทีมผู้สร้างเจ้าของรางวัลมากมาย อาทิ เอ็มมานูเอล ลูเบซกี้, ASC. (Sleepy Hollow, A Little Princess) ผู้กำกับภาพที่เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วสองครั้ง, โปรดักชั่นดีไซเนอร์ อเล็กซ์ แม็คโดเวลล์ (Minority Report), มือตัดต่อที่เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์ ดอน ซิมเมอร์แมน, ACE. (Liar, Liar), ช่างแต่งหน้าสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ สตีฟ จอห์นสัน (X2: X-Men United), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ริต้า ไรแอ็ก (เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Dr. Seuss’s How the Grinch Stole Christmas), ผู้แต่งดนตรีประกอบ เดวิด นิวแมน (เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Anastasia), และนักแต่งเพลงที่เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วหลายครั้ง มาร์ค ไชแมน และ สก็อตต์ วิตต์แมน (ทั้งคู่เคยได้รับรางวัลโทนี่จาก Hairspray) อีริค แม็คลีอ็อด (Austin Powers ทั้งสามภาค), เกร็กก์ เทย์เลอร์ (Austin Powers in Goldmember), คาเรน เคเฮล่า ลาออลี พอร์เตอร์ (Dr. Seuss’ How the Grinch Stole Christmas) ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างประสานงาน

เกร็ดภาพยนตร์

• The Cat In The Hat ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1957 คือหนึ่งในหนังสือสำหรับเด็ก ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เท่าที่เคยมีคนเขียนออกมา และยังคงติดหนึ่งในสิบหนังสือปกแข็งสำหรับเด็ก ที่ขายดีที่สุดจนถึงทุกวันนี้ ในปี 1957 นั้น สำนักพิมพ์สองแห่ง คือ ฮัฟตัน มิฟฟลิน และ แรนดอม เฮ้าส์ ได้ร่วมมือกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยได้มอบหมายงานให้กับ ธีโอดอร์ เอส ไกเซล (หรือ ดร.ซุส) ให้แต่งหนังสือสำหรับเด็ก ที่ใช้คำศัพท์ใหม่ 220 คำ โดยทางฮัฟตัน มิฟฟลิน หวังจะให้เป็นหนังสือสำหรับใช้ในห้องเรียน ในขณะที่แรนดอมเฮ้าส์ ตั้งเป้าให้เป็นหนังสือสำหรับตลาดครอบครัว ในขณะที่การตอบรับจากระบบการศึกษา ยังคงไม่ได้รับคำตอบนั้น The Cat In The Hat กลับกลายเป็นหนังสือที่ทั้งครอบครัวตอบรับ และผลงานเรื่องนี้ของไกเซล ทำให้เขากลายเป็นนักประพันธ์ / นักเขียนภาพประกอบหนังสือสำหรับเด็ก ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการ

• นอกจากเจ้าแมว, แซลลี่, คอนราด และแม่ของพวกเขา (หรือขาของเธอ) ซุสได้สร้างตัวละครอีกแค่สามตัวเท่านั้น บนหน้ากระดาษของหนังสือเรื่อง The Cat In The Hat นั่นก็คือปลาพูดได้ และผู้ช่วยสองตัว ที่ช่วยเจ้าแมวสร้างแผนการหาความสนุก (และยังช่วยซ่อมแซมบ้าน) คือติง 1 และติง 2 โดยเจ้าปลาถือเป็นตัวละครที่โดดเด่นที่สุด สำหรับบริษัทแอนนิเมชั่นและวิชวลเอฟเฟ็กต์อย่าง ริธึ่มแอนด์ฮิวส์ (ซึ่งเคยดูแลงานเอฟเฟ็กต์และงานแอนนิเมชั่น ให้กับภาพยนตร์อย่าง Cats & Dogs, The Lord of the Rings: The Return of the King และ Scooby-Doo) เพราะตัวละครตัวนี้ไม่มีไหล่ ไม่มีสะโพก และเดินไม่ได้ ดังนั้นการแสดงออกทางร่างกายทั้งหมด ต้องกระทำผ่านทางดวงตา หัว และการเคลื่อนไหวของครีบ จิตวิญญาณของเจ้าสัตว์เลี้ยงที่อยู่ไม่สุขตัวนี้ ได้เสียงของ ฌอน เฮย์ส ที่รับบท มิสเตอร์ฮัมเบอร์ฟลูบในภาพยนตร์เรื่องนี้ มาเป็นผู้พากย์เสียงให้