สิ่งที่ กอร์ดี้ บรูเออร์ (รับบทโดย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์) รู้ดีที่สุด ก็คือการเป็นคุณพ่อที่ดี และสามีที่น่ารัก ทั้ง แม็ท บุตรชายของเขา ก็ปลื้มคุณพ่อไม่น้อย ส่วนภรรยาก็ได้เขาเป็นเพื่อนคู่ชีวิตที่ดีที่สุด กอร์ดี้ เป็นผู้บัญชาการหน่วยผจญเพลิงลอส แองเจลิส ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องเผชิญหน้า กับสถานการณ์ที่จะต้องคอยปลอบโยนบรรดาผู้บาดเจ็บ และตื่นตระหนกจากนาทีชีวิตที่ตกอยู่ในอันตราย สิ่งที่ผู้รอดชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้จดจำได้นั้น คงไม่ใช่ความแข็งแกร่งของนักผจญเพลิง หากแต่เป็นถ้อยคำปลอบโยน และความสุภาพอ่อนน้อมของพวกเขาต่างหาก

บรูเออร์ ไปถึงที่หมายช้ากว่าเวลานัดกับภรรยาและบุตรชาย ที่ใต้อาคารสูงกลางเมืองในเช้าวันหนึ่ง แต่นักผจญเพลิงแห่งลอสแองเจลิสหนุ่มใหญ่ และคุณพ่อผู้อุทิศชีวิตให้กับครอบครัว ก็ทันเห็นเหตุการณ์ระเบิด ที่ลอบวางไว้ในมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง ซึ่งแรงระเบิดถล่มบริเวณนั้นแหลกเป็นจุล ทั้งเศษซากอาคาร และกระจกแตกกระจายเกลื่อนกลาดไปทั่ว ในบรรดาเหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากวินาศกรรมครั้งนี้มี เด็กชายเล็กๆ คนหนึ่ง กับ ผู้หญิงพลเรือนหนึ่งคน รวมอยู่ด้วย ทั้งสองเป็นสมาชิกครอบครัวของ กอร์ดี้ นั่นเอง ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที กอร์ดี้ บรูเออร์ สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เขารักและห่วงใยยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง

เอล โลโบ หรือ เดอะ วูล์ฟ (รับบทโดย คลิฟ เคอร์ติส) หัวหน้ากองกำลังกบฎชื่อกระฉ่อน ที่ต่อสู้ในสงครามกลางเมืองโคลัมเบีย มานานกว่าทศวรรษ กล่าวอ้างความรับผิดชอบ การก่อวินาศกรรมระเบิดกลางเมืองครั้งนี้ เป้าหมายการโจมตีอยู่ที่คณะกงศุลโคลัมเบีย และเจ้าหน้าที่อเมริกัน (American Intelligence Agents) กลุ่มหนึ่ง ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ เพียงเพราะมาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเท่านั้น

คำปลอบใจเดียว ต่อการสูญเสียครอบครัวไปอย่างไม่มีวันกลับของ กอร์ดี้ ก็คือ ความยุติธรรมน่าจะเอื้อมไปจัดการ กับตัวการก่อวินาศกรรมครั้งนี้ให้สาสม และน่าจะหยุดยั้ง เดอะ วูล์ฟ ไว้ได้ ก่อนที่เขาจะมีโอกาสก่อวินาศกรรมอีกครั้ง แต่หลายสัปดาห์ผ่านไป เหตุการณ์ร้ายก็ดูราวจะถูกลืมเลือนไปทุกที บรูเออร์ ติดตามถามไถ่กระบวนการยุติธรรม แต่การไล่ล่า เดอะ วูล์ฟ ดูจะไม่คืบหน้าไปถึงไหนเอาเสียเลย

แม้เพื่อนๆ และ เจ้าหน้าที่เอฟ บี ไอ จะห้ามปราบอย่างไร, หรือแม้แต่คำเตือนกร้าวจากเจ้าหน้าที่ ซีไอเอ แบรนท์ (รับบทโดย เอลเลียส โคทีส) แต่ กอร์ดี้ ก็มุ่งมั่นที่จะตามล่า เดอะ วูล์ฟ ด้วยตัวเอง ปฏิบัติการเดี่ยวทวงหนี้แค้นครั้งนี้ นำเขาก้าวล่วงเข้าสู่ป่าลึกของประเทศโคลัมเบีย ที่ยังอยู่ในสภาวะสงครามอย่างไปหยุดหย่อน มันดูราวกับจะเป็นปฏิบัติการ ที่แทบจะหาความสำเร็จเอาไม่ได้เสียเลย และมันอาจจะหนักหนาสาหัส ถึงกับคร่าชีวิตของ กอร์ดี้ เองเสียด้วยซ้ำ แต่เขาก็ไม่หวาดหวั่น ที่จะต้องเผชิญหน้ากับภัยนานัปการ หรือแม้แต่ยถากรรมครั้งลำเค็ญนี้แม้แต่น้อย ก็เขาไม่มีสิ่งใดจะสูญเสียอีกแล้ว

กอร์ดี้ จึงตัดสินใจเดินทางมายังประเทศโคลัมเบีย โดยมีเพียงหนังสือเดินทาง และเงินสดเล็กน้อยติดตัวมาเท่านั้น ปฏิบัติการไล่ล่าของชายผู้มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ที่หมายหาตัวผู้ก่อการร้าย ที่เข่นฆ่าครอบครัวของเขา เริ่มต้นขึ้น ณ จุดนั่นเอง เขาคืบคลานผ่านจุดตรวจสอบ ด่านแล้วด่านเล่า เข้าใกล้เขตกองกำลังกบฎทุกที กอร์ดี้ ได้รู้ได้เห็นข้อเท็จจริง ของสภาพสังคมที่เกิดสงครามกลางเมือง อย่างเต็มตาน่าสะเทือนใจเป็นครั้งแรกในชีวิต เขายังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คน ที่ต้องอยู่อย่างตกทุกข์ได้ยาก และหวาดกลัวระแวงตลอดเวลา แม้เพียงชั่วครู่ ที่เขาได้พบปะกับผู้คนเดินถนน แต่ทั้งท่าทาง และสีหน้าแววตาของคนเหล่านั้น ก็แสดงถึงความหวาดกลัว และวิตกจริตที่เห็นเขาโผล่มาผิดที่ผิดถิ่น ผู้คนที่ กอร์ดี้ พบเจอตลอดการเดินทางของเขา ต่างก็มีความหลังเจ็บฝังใจเลวร้ายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ตลอดเวลาที่ กอร์ดี้ พยายามไล่ล่าหาตัว เดอะ วูล์ฟ เขาก็ต้องพยายามปรับตัวรับกับสภาพชีวิตนี้ให้ได้

เมื่อผ่านหมู่บ้านห่างไกลแห่งหนึ่ง กอร์ดี้ เจอ เซเลน่า (รับบทโดย ฟรานเซสก้า เนอรี) คุณแม่ยังสาวกับบุตรชายบุญธรรมของเธอชื่อ มัวโร (รับบทโดย ไทเลอร์ โพซีย์) ทั้งคู่ทำให้เขาหวนคิดถึงภรรยา และบุตรชายของเขาที่ล่วงลับไปแล้ว เซเลน่า โยกย้ายถิ่นฐานมาอยู่อเมริกาใต้ ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น, ตกหลุมรักชายชาวโคลัมเบี้ยนคนหนึ่ง, และยอมรับประเทศ – รวมทั้งปัญหาของมัน ..มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเธอเอง

บทสนทนาระหว่างเธอกับกอร์ดี้ ล้วนให้ข้อมูลเชิงลึก และอดีตอันปวดร้าวที่ กอร์ดี้ อาจจะได้แต่คาดเดาเท่านั้น ในที่สุดเขาก็มองว่า เธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่พยายามจะเลี้ยงดูบุตรชายให้เติบใหญ่ขึ้นในสภาวะสงคราม และนั่นทำให้เขาต้องการปกป้องคุ้มครองเธอและบุตรชาย เฉกเช่นเดียวกับที่เขาควรปกป้อง คุ้มครองครอบครัวของเขาเอง ..หากมีโอกาสอีกสักครั้ง

เมื่อการไล่ล่าอย่างไม่ย่อท้อของกอร์ดี้ นำเขาออกจากป่าของประเทศโคลัมเบีย กลับมาสู่ถนนสายสำคัญของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป้าหมายการก่อวินาศกรรมครั้งใหม่ ของผู้ก่อการร้ายหน้าเดิม บัดนั้น กอร์ดี้กลายเป็นคนละคนไปเสียแล้ว...

บริษัทภาพยนตร์ Warner Bros. Pictures ร่วมกับ Bel-Air Entertainment ภูมิใจเสนอ Collateral Damage ผลงานการสร้างของ David Foster Production กำกับโดย แอนดรู เดวิส (A Perfect Murder, The Fugitive, Under Siege), สตีเว่น รูเธอร์ (Pay It Forward, Face/Off, Pretty Woman) และ เดวิด ฟอสเตอร์ (The Mask of Zorro, The Thing, The Getaway) เป็นผู้อำนวยการสร้าง จากโครงเรื่องของ โรนัลด์ รู้ส (ผู้ตัดต่อ Whatever It Takes, Hoffa), เดวิด กริฟฟิธ และ ปีเตอร์ กริฟฟิธ, และบทภาพยนตร์โดย เดวิด กริฟฟิธ และ ปีเตอร์ กริฟฟิธ, ฮอว์ค โค้ช กับ นิโคลาส เมเยอร์ เป็นผู้บริหารงานอำนวยการสร้างภาพยนตร์

Collateral Damage นำแสดงโดย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ นักแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นที่เรารู้จักกันดี พร้อมด้วยนักแสดงสมทบคับคั่ง อาทิ เอลเลียส โคทีส (Lost Souls, The Thin Red Line, Gattaca) รับบทเจ้าหน้าที่ ซีไอเอ แบรนท์, ฟรานเชสก้า เนอรี่ นักแสดงสาวชาวอิตาเลี่ยน ที่เคยร่วมแสดง Hannibal มารับบท เซเลน่า, คลิฟ เคอร์ติส (The Majestic, Training Day, Blow, The Insider) รับบท เดอะ วูล์ฟ, จอห์น ลากีซาโม่ (Moulin Rouge, Romeo+Juliet และได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจาก To Wong Foo, Thanks for Everything, Julie Newmar), และ จอห์น เทอร์เทอร์โร่ (O Brother, Where Art Thou?, Rounders, The Big Lebowski, Barton Fink)

ทีมงานของภาพยนตร์เรื่อง Collateral Damage ได้แก่ อดัม กรีนเบิร์ก A.S.C. (Rush Hour, Eraser, Terminator 2: Judgment Day, Ghost) เป็นผู้กำกับภาพ, ฟิลิป โรเซ็นเบิร์ก (The Hurricane, A Perfect Murder, All That Jazz) เป็นผู้ออกแบบสร้างสรรค์ฉาก, เดนนิส เวิร์คเลอร์ A.C.E. (The Fugitive, The Hunt for Red October, Batman Forever) และ โด้ฟ โฮนิก A.C.E. (A Perfect Murder, The Fugitive, The Last of the Mohicans) เป็นผู้ตัดต่อ, แกรม เรฟเวล (Don't Say a Word, Lara Croft: Tomb Raider, Dead Calm) เป็นผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่อง Collateral Damage จัดจำหน่ายทั่วโลกโดย Warner Bros. Pictures หนึ่งในเครือ AOL Time Warner Company