เรื่องราววุ่นๆ ของ Dirty Pretty Things เริ่มต้นขึ้นเมื่อ ออกเว่ บริกรหนุ่มชาวไนจีเรีย ได้พบหัวใจมนุษย์ในชักโครกของห้องพักหมายเลข 510 ของโรงแรม Baltic ที่เขาทำงานอยู่ จากชิ้นส่วนมนุษย์ชิ้นนี้ นำไปสู่ข้อเท็จจริง และปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม โดยที่ผู้คนไม่เคยมีโอกาสได้รับรู้มัน... หลังจากพบเหตุการณ์ประหลาดในห้อง 510 ของโรงแรม Baltic ออกเว่เริ่มร้อนรน เพราะสิ่งที่เขาพบ ทำให้เขาต้องเลือกระหว่างศีลธรรมและการอยู่รอด...

ออกเว่ (ชิวีเทล จิโอฟอร์) คือผู้ลี้ภัยเถื่อนชาวไนจีเรีย ผู้ไม่ยอมหลับนอน กลางวันเขาขับแท็กซี่ ตอนกลางคืนเขาทำงานเป็นบริกรของโรงแรม Baltic Hotel เวลาว่างเขามักจะไปเก็บตัว อยู่ที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาล ที่เพื่อนสนิทของเขาทำงานอยู่ ออกเว่ มีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับ เซเนย์ (ออเดรย์ โตตู) สาวตุรกี เพื่อนร่วมงานของเขาที่โรงแรม ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์เดียวกับเธอ แต่มีเงื่อนไขว่า.. พวกเขาห้ามอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ในเวลาเดียวกัน ถึงแม้จะตั้งกฎไว้เช่นนั้น แต่ใครๆ ก็ดูออกว่า ออกเว่ คือผู้ชายเพียงคนเดียวที่เซเนย์รัก

สาวน้อยเซเนย์ คือผู้อพยพชาวตุรกีที่แสนซื่อ เธอทำงานเป็นแรงงานผิดกฎหมายในโรงแรม Baltic ด้วยความฝันว่า สักวันเธอจะมีเงินเก็บมากพอ ที่จะเดินทางไปตั้งถิ่นฐานในประเทศสหรัฐอเมริกาได้.. แต่การทำงานที่ Baltic ทำให้เธอต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง กับขบวนการค้าอวัยวะมนุษย์โดยไม่คาดคิด

สนีลกี้ (เซอร์กี โลเปซ) คือผู้จัดการโรงแรม Baltic ที่หลังฉากคือพ่อค้าอวัยวะมนุษย์ ที่ฉกฉวยประโยชน์จากผู้คนที่ไม่มีทางออก เมื่อเขารู้ความลับที่ว่า ในอดีตออกเว่คือศัลยแพทย์มือหนึ่งของประเทศไนจีเรีย แผนการชั่วร้ายเพื่อบีบให้ออกเว่หันมาร่วมมือกับเขา ..จึงเริ่มขึ้น

นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศส ออเดรย์ โตตู ที่เคยเรียกรอยยิ้มในหัวใจให้ผู้ชมทั่วโลกมาแล้ว ในบทสาวน้อยจอมวุ่นวาย ที่พยายามสร้างความสุขให้กับทุกๆ คนในชีวิตเธอ จากภาพยนตร์เรื่อง Amelie เธอกลับมาอีกครั้ง กับผลงานภาพยนตร์เรื่อง Dirty Pretty Things ภาพยนตร์เสียดสี ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันร้ายๆ จากประเทศอังกฤษ ที่สร้างความประทับใจ และเรียกเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์มาแล้วทั่วโลก จนถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Alexander Korda Award for Best British Film) และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเวทีที่ทรงคุณภาพที่สุดในประเทศอังกฤษอย่าง BAFTA Awards รวมทั้งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล British Independent Film Award ใน 7 สาขาหลักๆ และได้รับไป 4 สาขาคือ ผู้กำกับยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม (ชิวีเทล จิโอฟอร์) และ Best British Independent Film

บทภาพยนตร์เรื่อง Dirty Pretty Things เขียนโดย สตีฟ ไนท์ (Gypsy Women) กำกับโดย สตีเฟ่น เฟรีย ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์เรื่อง The Grifters และ Dangerous Liaisons นอกจากนี้ เขายังเป็นเจ้าของผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่อง High Fidelity (แสดงนำโดย จอห์น คูแซ็ค และ แจ็ค แบล็ก), Mary Reilly (ที่แสดงนำโดย จูเลีย โรเบิร์ตส), Hero (ที่แสดงนำโดย ดัสติน ฮอฟแมน, แอนดี้ กราเซีย และ จีน่า เดวิส) อีกด้วย

ภาพยนตร์เรื่องนี้ นำแสดงโดย ออเดรย์ โตตู (Amelie, He Loves Me... He Loves Me Not), ชิวีเทล จิโอฟอร์ (Love Actually, Amistad, Greenwich Mean Time), เซอร์กี โลเปซ (An Affair of Love, Jet Lag), โซฟี โอโคเนโด้ (The Jackal, Ace Ventura: When Nature Calls)

Dirty Pretty Things เป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนถึงปมปัญหา ของผู้ลี้ภัยผิดกฎหมาย ที่แฝงตัวอยู่มากมายในสังคมของประเทศอังกฤษ และปัญหาของการค้าอวัยวะมนุษย์ ที่เราอาจเคยได้ยินมา แต่ไม่เคยย้อนคิดถึงมัน Dirty Pretty Things สะท้อนถึงสิ่งนั้นได้อย่างแยบยล ผ่านอารมณ์ขันที่เฉียบขาดของ สตีเฟ่น เฟรีย เหมือนเมื่อครั้งที่เขาเคยทำมาแล้วใน High Fidelity แต่ใน Dirty Pretty Things เขาทำได้ดีกว่านั้น จนทำภาพยนตร์เรื่องนี้ กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ต่อโรงสูงสุด ในครั้งแรกที่ออกฉายแบบจำกัดโรง ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ 18-20 กรกฎาคม 2003 โดยผู้จัดจำหน่ายคือ Miramax เปิดฉายหนังระทึกขวัญอาชญากรรมเรื่องนี้ ในจำนวนแค่ 5 โรงใน New York และ Los Angeles เก็บไปได้ $101,512 เฉลี่ยต่อโรงได้สูงถึง $20,102