ปีนี้ ฟลามา และ โมโค อายุ 14 แล้ว ทั้งคู่รู้จักกันมาแต่อ้อนแต่ออก และสนิทสนมกันมาก จนกระทั่งเรียกได้ว่าเป็น ‘เพื่อนซี้’ กัน

บ่ายวันอาทิตย์วันหนึ่ง โมโคมาขลุกที่อพาร์ตเมนต์ของฟลามาตามปรกติ แต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ วันนี้แม่ของฟลามาต้องออกไปทำธุระนอกบ้านทั้งวัน นั่นจึงหมายความว่า เด็กชายทั้งสองต้องอยู่ด้วยกันตามลำพังสองคน

ทีแรก เจ้าหนูทั้งสองต่างคิดว่า นี่ก็คงเป็นแค่วันอาทิตย์ธรรมดาๆ เวลาทั้งวันคงจะหมดไปกับการฟังเพลง เล่นเกม กินข้าว นั่งเม้าท์ - ไม่แตกต่างจากวันอาทิตย์ในสัปดาห์อื่นๆ แต่สุดท้ายแล้ว.. ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด

เริ่มต้นจาก เด็กสาวข้างบ้านเข้ามายืมใช้เตาอบขนม - ไฟดับแล้วติด… ดับอีกแล้วติดอีก - คนส่งพิซซานำของมาส่งช้าไป 11 วินาที - ส่งผลต่อเนื่องให้ฟลามาและโมโค เกิดอาการยียวนกวนเท้า ไม่ยอมจ่ายเงินค่าพิซซา เกิดการพนันขันต่อ (แข่งกันเล่มเกม ใครชนะจะได้ครองพิซซา และเงินค่าพิซซา) และโต้เถียงกันขึ้น จนท้ายที่สุดเมื่อเหตุการณ์คลี่คลาย ปรับความเข้าใจกันได้ พนักงานผู้น่าสงสารจึงร่วม ‘เผาผลาญเวลาวันอาทิตย์’ กับเด็กชายเด็กหญิงทั้งสามด้วย

ภายในเวลาเพียง 1 วันอาทิตย์…

ความแตกแยกอันน่าปวดร้าวของครอบครัว - ความฝันที่แตกสลาย - ความขมขื่น ไม่สมหวัง ของชีวิต - ความสับสนในช่วงวัย - รวมทั้ง ‘ความรู้สึก’ ที่ใครคนหนึ่งมีต่ออีกคน ได้รับการเปิดเผย

จากจุดเริ่มต้นที่ดูเหมือนจะเป็นแค่วันอาทิตย์ธรรมดา แต่แล้วกลับกลายเป็นว่า มันเป็นวันที่บางคน - หรืออาจทั้ง 4 ชีวิต - ต้องจดจำตลอดไป...

หนังดังประจำปี 2004 จากประเทศเม็กซิโกเรื่อง Duck Season หรือ Temporada de patos เป็นงานกำกับภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกของ เฟอร์นานโด เอมบ์คเค ก่อนหน้านี้ เขาเคยทำหนังสั้นมาหลายเรื่อง และผลงานชิ้นหนึ่งของเขา คือ No todo es permanente (1995) ก็เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Ariel สาขาสารคดีขนาดสั้นยอดเยี่ยมด้วย

เสียงชื่นชมยกย่องประการหนึ่งที่ Duck Season ได้รับ ก็คือ หนังดู ‘จริง’ และ ‘เป็นธรรมชาติ’ มากๆ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้เอมบ์คเค ที่เลือกถ่ายหนังเรื่องนี้เป็น ‘ขาว-ดำ’ ขณะที่ความดีความชอบอีกส่วน ตกเป็นของนักแสดงนำทั้ง 4 ซึ่งทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งที่แต่ละคนไม่อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘นักแสดงอาชีพ’ บางคนอาจเคยเล่นหนังมาบ้างสักเรื่องสองเรื่อง แต่สำหรับบางคน เพิ่งจะเคยเล่นอะไรหน้ากล้องก็คราวนี้นี่แหละ!

Duck Season ได้รับรางวัล Ariel หรือตุ๊กตาทองของประเทศเม็กซิโก (ศักดิ์ศรีเทียบเท่าออสการ์ของฝั่งอเมริกา) ถึง 11 สาขา - ในจำนวนนั้นมีรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรวมอยู่ด้วย นอกจากนั้น หนังยังกวาดรางวัลมาอีกมากมายหลายรายการ ที่สำคัญๆ ก็เช่น

• รางวัลแกรนด์ จูรี จาก AFI Fest

• 7 รางวัลจาก Guadalajara Mexican Film Festival

• รางวัลคนทำหนังที่น่าจับตามอง และรางวัลนักแสดงขวัญใจผู้ชม จาก MTV Mexico

• รางวัลพิเศษจากคณะกรรมการ ที่ Paris Film Festival

• รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก Thessaloniki Film Festival (จัดที่ประเทศกรีซ)