มันเป็นรักสามเส้า - แต่กลับยุ่งเหยิง และแทนที่จะวนเวียนอยู่กับคนสามคน เรื่องนี้กลับพัวพันกับคนถึง 28 คน : หนึ่งชาย หนึ่งหญิง... และทีมเบสบอลเมเจอร์ลีค

เบน ไรท์แมน (จิมมี่ ฟอลลอน) เป็นครูมัธยมผู้เป็นที่สะดุดตา เขามีเสน่ห์ ร่าเริง และเยี่ยมสำหรับเด็กๆ เมื่อเขาได้พบกับ ลินเซย์ มีคส์ (ดรูว์ แบร์รี่มอร์) ที่ปรึกษาทางธุรกิจผู้มีเป้าหมายของชีวิต ซึ่งมีจิตใจแจ่มใสเหมือนกับความงามของเธอ พวกเขาปิ๊งกันทันที แน่นอน... พวกเขามีสิ่งที่แตกต่างกัน เธอเป็นสาวบ้างาน .. เขาชอบวันหยุดซัมเมอร์ เขามีชีวิตและหายใจเป็นทีม เรด ซ็อกซ์ .. เธอไม่รู้จัก คาร์ล ยาส์ทเซมสกี้ หรือว่า จอห์นนี่ เดมอน

แต่รักแท้ย่อมพิชิตทุกสิ่ง... อย่างน้อยก็จนกระทั่ง การฝึกของทีมเรดซ๊อกซ์ช่วงใบไม้ผลิกลับมาอีกครั้ง ในฐานะที่ทีมสุดโปรดของเบน โบซ๊อกซ์ได้เข้าร่วมในฤดูกาลอันหลือเชื่อที่สุด ครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์เบสบอล เบนและลินเซย์ต้องตัดสินใจว่า ในความเป็นคู่รัก พวกเขาจะตีออก หรือต่อสู้เพื่อรักษาความรัก ให้คงอยู่ด้วยการทำแต้มให้มาก...

ดรูว์ แบร์รี่มอร์ (Charlie’s Angels, 50 First Dates, Never Been Kissed, Scream, Ever After) และ จิมมี่ ฟอลลอน (Taxi, รายการ Saturday Night Live) ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Fever Pitch ภาพยนตร์โรแมนติคคอมเมดี้ร่วมสมัย เรื่องราวของหญิงสาวผู้ประสบความสำเร็จ ที่คิดว่าในที่สุดเธอก็ได้พบชายหนุ่มที่เพียบพร้อม ทุกอย่างดูเหมือนเป็นไปอย่างที่ฝัน จนกระทั่งฤดูการแข่งขันเบสบอลเริ่มต้นขึ้น และเธอต้องชิงชัยเพื่อรักแท้ครั้งแรกของเขา : เดอะบอสตัน เรด ซ็อกซ์ (Boston Red Sox)

Fever Pitch มีเค้าโครงเรื่องจากหนังสืออัตชีวประวัติของ นิค ฮอร์นบีย์ (เจ้าของงานเขียนซึ่งกลายมาเป็นภาพยนตร์อย่าง High Fidelity, About a Boy) ภาพยนตร์เรื่องนี้ บรรยายถึงความคลั่งไคล้ทีม Arsenal ของผู้เขียนในฟุตบอลอังกฤษ (ซึ่งรู้จักกันดีในหมู่คนอเมริกันว่า ซ็อคเกอร์) แต่แทนที่จะแปลงให้งานของฮอร์นบีย์เป็นรูปแบบอเมริกัน, โลเวลล์ แกนซ์ และ บาบาลู แมนเดล ผู้เขียนบทภาพยนตร์ ได้หยิบความคลั่งไคล้กีฬาอย่างบ้าคลั่งที่มีอยู่ของเขา และทำในรูปแบบของโรแมนติคคอมเมดี้ร่วมสมัย ในแบบฉบับคลาสสิค

ผู้เขียนบทภาพยนตร์คู่ ซึ่งมีชื่อเสียงจากผลงานมากมาย อาทิ Parenthood, Splash, A League of Their Own, Forget Paris, Where the Heart Is, City Slickers และภาพยนตร์แอนิเมชั่นของฟ็อกซ์เรื่อง Robots ได้เรียกขั้นตอนการทำงานเขียนบทในเรื่อง Fever Pitch ว่า "ทาสที่แท้จริงของความรัก"

ภาพยนตร์เรื่อง Fever Pitch กำกับโดยสองพี่น้อง ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี่ และ บ๊อบบี้ ฟาร์เรลลี่ (There’s Something About Mary, Stuck on You, Shallow Hal, Me, Myself and Irene, Dumb and Dumber) อำนวยการสร้างโดย อลัน กรีนสแปน, อาแมนด้า โพซีย์, กิล เนทเลอร์, แนนซี่ จูโวเนน, แบรดดี้ โธมัส อำนวยสร้างบริหารโดย นิค ฮอร์นบี้, เดวิด อีแวนส์, มาร์ค ฟิสเชอร์ กำกับภาพโดย แมทธิว เอฟ ลีโอเน็ตตี้ ASC. (Dawn of the Dead, The Butterfly Effect, 2 Fast 2 Furious, Rush Hour 2, Strange Days, Along Came a Spider) กำกับศิลป์โดย มาเฮอร์ อาห์หมัด (Dodgeball: A True Underdog Story, The Fugitive, Goodfellas) ลำดับภาพโดย อลัน บาวการ์เท้น A.C.E. (Meet the Fockers, Dodgeball: A True Underdog Story, Lawnmower Man) ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย โซฟี่ เดอ แร๊คออฟ (Legally Blonde: Red, White & Blonde, Sweet Home Alabama, Crime and Punishment in Suburbia) ดนตรีประกอบโดย เกร็ก อาร์มสตรอง (Ray, William Shakespeare's Romeo + Juliet, Moulin Rouge!, The Quiet American)

เกร็ดภาพยนตร์

• ภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยถูกสร้างมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยชื่อเรื่องเดียวกัน ในเวอร์ชั่นดั้งเดิมคือฟุตบอล เมื่อปี 1997 นำแสดงโดย คอลิน เฟิร์ท (Bridget Jones's Diary, Love Actually, What a Girl Wants) กำกับโดย เดวิด อีแวนส์

• บทภาพยนตร์ต้นแบบเขียนไว้ว่า ทีมเรดซ๊อกซ์ตกรอบออกไปจากการแข่งขัน แต่ในที่สุด บทภาพยนตร์ฉบับที่ทุกคนชมชอบเป็นอย่างมาก เป็นบทที่ไม่มีใครต้องการให้เปลี่ยนแปลง ก็ต้องถูกเขียนขึ้นใหม่ เพราะทีมเรดซ๊อกซ์ซึ่งพ่ายแพ้มาอย่างต่อเนื่อง ได้เข้าแข่งในรอบเวิร์ดซีรีส์ โดยในขณะที่ภาพยนตร์กำลังถ่ายทำ ควบคู่ไปกับการแข่งขันนั้นเอง ทีมเรดซ๊อกซ์เริ่มได้ชัยชนะ และได้กลับมาอย่างเหลือเชื่ออีกครั้งหนึ่ง นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ของกีฬาบาสเกตบอลในปี 2004 ก่อนหน้านั้น ทีมเรดซ๊อกซ์ชนะเวิร์ดซีรีส์ครั้งที่ 5 ในปี 1918 แต่หลังจากนั้นก็ต้องทนทุกข์กับ 86 ปีแห่งความพ่ายแพ้ หลังจากที่ขาย เบบบ์ รัธ (เดอะ แบมบิโน่) ให้กับทีมแยงกี้ส์ไป