สำหรับ การ์ฟิลด์ (ให้เสียงพากย์โดย บิล เมอร์เรย์) เจ้าแมวตัวโปรดของทุกๆ คนนั้น ชีวิตคงไม่อาจหอมหวานไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะการได้นอนแผ่อยู่บนเก้าอี้หน้าจอโทรทัศน์ พร้อมกับลาซานญ่า - อาหารจานโปรด ในขณะที่คอยพูดจาถากถาง จอน (เบรคคิน เมเยอร์) เจ้านายที่น่าสงสารของมันแล้ว นับได้ว่า การ์ฟิลด์เป็นเจ้าแห่งจักรวาลเลยทีเดียว

เมื่อจอนพาการ์ฟิลด์ไปพบกับ ลิซ วิลสัน (เจนนิเฟอร์ เลิฟ ฮิววิต) สัตวแพทย์สาว เธอกลับมอบเจ้าตัวคึกคัก จอมกระดิกหางที่หอบจนลิ้นห้อย ซึ่งมีทุกอย่างที่การ์ฟิลด์ชิงชังรังเกียจให้กับจอน การ์ฟิลด์ก็ได้พบกับ โอดี้ หมาแสนน่ารักสมองเชื่องช้า มันนับเป็นครั้งแรกในทั้งเก้าชีวิตของเจ้าแมวแสนกล ที่ต้องถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว โอดี้หน้าโง่ที่ชอบวิ่งวนไล่งับหางตัวเองจนหัวหมุน และพุ่งชนกำแพงไปมา ชอบเห่าอย่างไร้เหตุผล กลับกลายเป็นความดีใจอย่างออกนอกหน้าของจอน ผู้ต้อนรับโอดี้อย่างเต็มใจสู่บ้านของเขา

โอดี้ ทำให้โลกอันดีพร้อมของการ์ฟิลด์ ต้องพังทลายอย่างไม่เป็นท่า ข้อสรุปของการ์ฟิลด์ คือ : ไปซะ เจ้าหมาน่ารังเกียจ และแล้วเมื่อเจ้าหมาโชคร้ายหายตัวไป และตกอยู่ในเงื้อมมือของมารร้ายที่มีชื่อเสียงของเมือง แฮปปี้ แชพแมน (สตีเฟน โทโบโลสกี้) การ์ฟิลด์น่าจะดีใจเป็นที่สุด แต่มันกลับรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อชะตาชีวิตของผู้อื่น ด้วยแรงขับ พลัง และความเห็นแก่ตัวที่ไม่เหมือนใคร การ์ฟิลด์สามารถดึงตัวเอง ออกมาจากการใช้ชีวิตอย่างเกียจคร้าน และกระโจนเข้าสู่ปฏิบัติการ ที่แสนจะไม่น่าเป็นไปได้อย่างที่สุดของมัน : เพื่อช่วยชีวิตโอดี้

การผจญภัยนี้ ทำให้จอนกับลิซต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เช่นเดียวกับการ์ฟิลด์และผองเพื่อนแมวเหมียว เนอร์มอล และ อาร์ลีน แต่ที่สำคัญที่สุด เป็นการสมานสามัคคีกันของการ์ฟิลด์และโอดี้ ผู้ที่ – เจ้าแมวจอมจู้จี้ไม่มีวันยอมรับว่า – เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่มันเคยมีมา

การ์ฟิลด์ ตัวละครในการ์ตูนสั้นที่โด่งดังที่สุดของโลก กำลังกลายมาเป็นดาราภาพยนตร์จอใหญ่ เจ้าแมวตัวนี้จะทำให้เราได้ยินประโยคอย่าง "ฉันคงชอบตอนเช้า ถ้ามันจะเริ่มต้นสายกว่านี้หน่อย" และ "ฉันยอมเป็นหมูดีกว่าต้องออกกำลัง" ที่จะเป็นการพาดหัวภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่น ที่สร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งดัดแปลงมาจากการ์ตูนสั้น ที่ถูกอ่านในหนังสือพิมพ์ 2,600 ฉบับ โดยผู้อ่าน 260 ล้านคนทั่วโลก ในที่สุดการ์ฟิลด์ก็จะมีเรื่องที่เป็นตำนานยิ่งใหญ่ พอๆ กับอัตตาของมัน - ใหญ่เสียจนแทบจะถูกบรรจุลงไปบนจอภาพยนตร์ ..แทบไม่ไหวเลยทีเดียว

ภาพยนตร์เรื่อง Garfield อำนวยการสร้างโดย จอห์น เดวิส ผู้อำนวยการสร้างที่มีผลงานเรื่องฮิตมากมายหลายเรื่อง รวมทั้งภาพยนตร์สำหรับผู้ชมทุกเพศวัยอย่าง Doctor Dolittle และ Daddy Day Care พร้อมด้วย ไบรอัน เมนิส ผู้ร่วมอำนวยการสร้าง นำผลงานของ จิม เดวิส (..และไม่ได้เป็นญาติกัน แม้จะมีนามสกุล Davis เหมือนกัน) ผู้สร้างสรรค์เจ้าแมวการ์ฟิลด์ มาสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดง ร่วมกับแอนิเมชั่นอย่างสมจริง โดยได้ทาบทามทีมนักเขียนบทภาพยนตร์อย่าง โจเอล โคเฮน & อเลค โซโคโล (Toy Story, Cheaper by the Dozen) เพื่อเขียนเป็นบทภาพยนตร์ และเลือกให้ ปีเตอร์ ฮิววิท (Bill and Ted's Bogus Journey, The Borrowers, Tom and Huck, Whatever Happened to Harold Smith?) มาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพยนตร์

จอห์น เดวิส เลือกดาราตลกแห่งตำนาน บิล เมอร์เรย์ (Lost In Translation, Rushmore, Ghostbusters, Groundhog Day) ผู้เปี่ยมอารมณ์ขัน มาเป็นผู้ให้เสียงเจ้าแมวอ้วน และคัดเลือกให้ เบรคคิน เมเยอร์ (Kate & Leopold, Rat Race, Road Trip, The Insider) เป็น จอน อาร์บัคเคิล เจ้าของการ์ฟิลด์ ส่วน เจนนิเฟอร์ เลิฟ ฮิววิตต์ (The Tuxedo, I Know What You Did Last Summer, Heartbreakers) แสดงเป็น ลิซ วิลสัน สัตวแพทย์ของการ์ฟิลด์ ที่จอนสนใจ และ สตีเฟน โทโบโลสกี้ (Freaky Friday, Adaptation., Memento, Mr. Magoo) รับบทเป็น แฮปปี้ แชพแมน พิธีกรจอมวายร้าย จากรายการเด็กทางช่องเคเบิลทีวีเล็กๆ

ในการสร้างชีวิตให้กับตัวละคร การ์ฟิลด์ นี้ ทีมสร้างได้ใช้ศิลปะการสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์ CGI ให้เป็นเจ้าแมวอ้วนพูดมาก ส่วนด้านนักแสดงสรรพสัตว์อื่นๆ จอห์น เดวิส มอบความไว้วางใจ ให้กับผู้ประสานงานดูแลสัตว์มือเก่า แลรี่ แมดริด (Dr. Dolittle, George of the Jungle, 102 Dalmatians) เพื่อฝึกสอนบรรดานักแสดงสี่ขา สำหรับ โอดี้ สุนัขแสนน่ารัก ซึ่งเป็นหายนะของชีวิตการ์ฟิลด์นั้น แมดริดเลือกใช้ ไทเลอร์ สุนัขพันธุ์ผสมครึ่งดัชท์ชุนและครึ่งเคร์นเทอร์เรีย และ โคล สุนัขตัวเมียผู้น้อง ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับไทเลอร์ ได้ร่วมงานในบางฉากที่ไม่ต้องแสดงท่าทางอะไรมากแทน นอกจากนี้ แมดริดและลูกทีมยังต้องคัดเลือกและฝึกสอน เพอร์สนิคิตตี้ แมวของแฮปปี้ แชพแมน, ลูก้า สุนัขโดเบอร์แมน ซึ่งรับบทเป็นวายร้ายข้างบ้าน และหนูห้าตัวที่แสดงเป็นลูอิส และบรรดาสมาชิกนักแสดงนานาพันธุ์ อันได้แก่ แมว 15 ตัว, หนู 30 ตัว และสุนัข 35 ตัว

ทีมงานส่วนอื่นๆ ได้แก่ ผู้ถ่ายภาพ ดีน คันดีย์ ASC. (Back to the Future, Who Framed Roger Rabbit, Jurassic Park, Apollo 13, Casper), ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ อเล็กซานเดอร์ แฮมมอนด์ (Donnie Darko, The Contender, กำกับศิลป์ The Cat in the Hat, Men in Black II, Austin Powers: The Spy Who Shagged Me) และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย มารี ฟรานซ์ (The Borrowers, That Darn Cat, Coneheads, Encino Man) ส่วนงานเทคนิคพิเศษ จอห์น คิลเคนนี่ ผู้อำนวยการสร้างร่วม / อำนวยการด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็ค (Daredevil, Dr. Dolittle 2), คริส เบลีย์ ผู้ควบคุมงานแอนิเมชั่น (Mighty Joe Young, The Little Mermaid, The Lion King) และทีมงานวิชวลเอ็ฟเฟ็คที่ Rhythm & Hues ซึ่งเคยทำงานกับ จอห์น เดวิส ในเรื่อง Dr. Doolittle และ Dr. Dolittle 2 กลับมาร่วมทีมการ์ฟิลด์ในจอเงิน

เกร็ดภาพยนตร์

• จิม เดวิส สร้างสรรค์ Garfield เจ้าแมวอ้วน ขี้เกียจ ชอบกินลาซานย่า และช่างถากถาง มาจากส่วนผสมของบรรดาแมวทุกตัว ที่เขาจำได้จากวัยเด็ก ม้วนตัวกลมเป็นก้อนสำลีสีส้ม โดยการ์ฟิลด์มีชื่อเหมือนคุณปู่ของเดวิส - เจมส์ การ์ฟิลด์ เดวิส

• การ์ตูนสั้นเรื่อง Garfield เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 1978 ต่อมาถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อเมริกัน 41 ฉบับ ในวันนี้การ์ฟิลด์ในหนังสือพิมพ์กว่า 2,570 ฉบับ มีผู้อ่านจำนวน 263,000,000 ทั่วโลก เมื่อเร็วๆ นี้ Guinness World Records ขนานนามการ์ฟิลด์ว่าเป็น "The Most Widely Syndicated Comic Strip in the World"

• จิม เดวิส ประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ Garfield รวมทั้ง 4 รางวัล Emmy Award สาขา Outstanding Animated Program และได้เข้าอยู่ใน Licensing Hall of Fame (1998) แต่รางวัลที่มีค่าที่สุดของเขา คือเกียรติคุณที่ได้รับจาก National Cartoonist Society: Best Humor Strip (1981 และ 1985), รางวัล Elzie Segar Award (1990), และรางวัล Reuben Award (1990) สำหรับความยอดเยี่ยมทางงานการ์ตูน