"มันชื่อว่า 'อันโตเนีย กราซ่า' - ถูกสร้างขึ้นในอู่ต่อเรือเจนาวเมื่อปี 1954 เพราะเหตุที่เรือเดินสมุทรของอิตาลี ไม่สามารถแข่งขันกับใครได้ ในด้านความเร็ว พวกเขาจึงสร้างมัน ให้เป็นเสมือนวังลอยน้ำ เรือลำนี้มีประกันไว้กับลอยด์สแห่งลอนดอน และถูกรายงานว่า หายสาบสูญไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 1962 ในแถบชายฝั่งลาบราดอร์ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ไม่เคยมีการขอความช่วยเหลือ ไม่มีการติดต่อมา... มันหายไป ราวกับสาบสูญไปเสียเฉยๆ นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา กัปตันเรือทุกลำต่างคอยเฝ้ามองหามัน ด้วยความหวังว่า มันยังไม่ได้จมหายไป"

เรือเดินสมุทรอันโอฬารอย่าง อันโตเนีย กราซ่า ถูกสร้างขึ้นในปี 1954 นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวเรืออิตาเลียน มันมีรูปแบบที่ทันสมัย ประณีตบอบบาง เปรียบประดุจงานศิลป์ ความวิจิตรตระการตา เป็นเสมือนการรับประกันแก่เหล่าผู้โดยสาร ถึงความหรูหราอันยากจะหาใดเทียม ซึ่งพวกเขาจะได้รับ ตลอดการเดินทางท่องทะเล หากว่าไม่ประสงค์จะพักผ่อน อยู่ในห้องพักอันกว้างขวาง พวกเขาสามารถออกมาร่วมสังสรรค์ ในเลานจ์อันสวยงาม เล่นกีฬา หรือหย่อนใจที่ดาดฟ้าเรือชั้นบนสุด หรือแม้แต่ชุ่มฉ่ำใจอยู่ในสระว่ายน้ำ สิ่งที่เป็นงานชิ้นเลิศของ อันโตเนีย กราซ่า คือห้องบอลรูมอันกว้างใหญ่ ที่บรรดาคู่รัก สามารถใช้เวลาด้วยกัน ล่องลอยไปกับเพลงโรแมนติค โดยการขับกล่อมของวงออเคสตราทั้งคืน เหล่าพ่อครัวที่ทำงานตลอดวันตลอดคืน ตระเตรียมอาหารอิตาเลียนรสเลิศ เพื่อบริการให้กับห้องอาหารสุดหรูบนเรือ และบรรดาพนักงานที่เอาใจใส่ และอยู่ในสายตาตลอดเวลา พวกเขาพร้อมที่จะสรรหาทุกสิ่งที่แขกต้องการ นับได้ว่า เป็นการเดินทางครั้งหนึ่งของชีวิตทีเดียว

แต่เมื่อ อันโตเนีย กราซ่า ออกเดินทางสู่อเมริกาในฤดูใบไม้ผลิของปี 1962 บรรดาผู้โดยสารมิได้สำเหนียกแม้แต่น้อย ในเคราะห์ร้ายที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า อันจะเป็นจุดจบแห่งชะตาชีวิตพวกเขา ในการเดินทางครั้งสุดท้าย...

เมื่อนักบินรบแห่งกองทัพแคนาดา แจ็ค เฟอริแมน (เดสมอนด์ แฮริงตัน) ว่าจ้างให้ทีมงานไปสำรวจเรือลึกลับ ที่เขาพบลอยลำอยู่ในน่านน้ำอลาสก้า แถบทะเลเบริ่งอันห่างไกล พวกเขาได้พบส่วนที่เหลืออยู่ของเรือ อันโตนิโอ กราซ่า ที่คิดว่าสูญหายไปในทะเลเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว เป็นการค้นพบที่น่าตื่นเต้นยิ่ง - การได้สิทธิ์ในซากเรือเพียงอย่างเดียว ก็มีมูลค่ามหาศาล และตามกฎหมายแห่งทะเล หากผู้ใดที่มีโชคค้นพบซากเรือในน่านน้ำสากล และสามารถลากกลับเข้ามาฝั่งได้ จะได้ถือครองกรรมสิทธิ์ในเรือนั้นอย่างถูกต้อง

ทีมผู้เชี่ยวชาญการกู้ซากเรือแห่ง อาร์คติค วอริเออร์ นับได้ว่าเป็นมือทองในธุรกิจนี้ ภายใต้การบัญชาการของกัปตัน ชอน เมอร์ฟีย์ (เกเบรียล เบิร์น) และผู้นำทีมกู้ซากผู้เก่งกาจ มัวรีน เอ็พส์ (จูเลียนา มากูลีส์) ต้นเรือ กรีเออร์ (ไอซาห์ วอชิงตัน) และช่างเทคนิคกู้เรือ ดอดจ์ (รอน เอลดาร์ด), มุนเดอร์ (คาร์ล เออแบน) และ ซานโตส (อเล็กซ์ ดิมิทริแอดส์) พวกเขาสามารถค้นพบซากเรือทุกชนิด ตบแต่งเสียใหม่จนใช้การได้ และจากนั้นลากเข้าฝั่ง... เพื่อขายให้ได้ราคา

แต่เมื่อพวกเขาได้ขึ้นไปยังเรือ ที่เต็มไปด้วยรูพรุนลำนั้น คณะพรรคของ อาร์คติค วอริเออร์ กลับพบว่าเรือที่ผุพัง ไม่เพียงแค่ร้างผู้คน แต่ยังเป็นที่สิงสู่ของความน่าสะพรึงกลัว ที่พวกเขาไม่เคยพานพบมาก่อน ตลอดชีวิตที่ผ่านมากลางทะเล บรรดาลูกทีมต้องขุดค้น และตามหาความจริง แห่งอดีตของเรือลำนี้ เพื่อคลี่คลายความลึกลับ ที่คอยจ้องตามล่าเอาชีวิตพวกเขา !

วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ร่วมกับ วิลเลจ โรดโชว์ พิกเจอร์ส และ NPV เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เสนอ Ghost Ship ผลงานของ ดาร์ก คาสเซิล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ผู้สร้าง House on Haunted Hill และ Thir13en Ghosts กำกับการแสดงโดย สตีฟ เบ็ค (Thir13en Ghosts) อำนวยการสร้างโดย โจเอล ซิลเวอร์, โรเบิร์ต เซเมคิส และ กิลเบิร์ต แอดเลอร์ บทภาพยนตร์โดย มาร์ค แฮนลอน (Buddy Boy) และ จอห์น โพค (Rollerball (2002), The Skulls, U.S. Marshals) จากเรื่องของ มาร์ค แฮนลอน ดนตรีประกอบโดย จอห์น ฟริซเซล (Thir13en Ghosts, Teaching Mrs. Tingle, Alien: Resurrection, I Still Know What You Did Last Summer) อำนวยการบริหารโดย บรูซ เบอร์แมน และ สตีฟ ริชาร์ดส กำกับภาพโดย เกล แทตเทอซาล (Thir13en Ghosts, Pushing Tin, มินิซีรีส์ From the Earth to the Moon) ออกแบบฉากโดย เกรแฮม 'เกรซ' วอล์กเกอร์ (Queen of the Damned, Pitch Black, Dead Calm, : Mad Max 2: The Road Warrior) และลำดับภาพโดย โรเจอร์ บาร์ตัน (Pearl Harbor, Gone in Sixty Seconds, Detroit Rock City)

Ghost Ship นำแสดงโดย จูเลียนนา มากูลีส์ (The Newton Boys, ซีรีส์ ER), รอน เอลดาร์ด (Black Hawk Down, Deep Impact, Sleepers, ซีรีส์ ER), เดสมอนด์ แฮริงตัน (We Were Soldiers, Riding in Cars with Boys, The Messenger: The Story of Joan of Arc), ไอซาห์ วอชิงตัน (Exit Wounds, Romeo Must Die, Out of Sight) และ เกเบรียล เบิร์น (End of Days, Stigmata, The Man in the Iron Mask)

Ghost Ship มีชื่อเรื่องในระหว่างถ่ายทำว่า Chimera เป็นการร่วมงานของ ควีนส์แลนด์ แปซิฟิค ฟิล์ม และ เทเลวิชั่น คอมมิชชั่น จัดจำหน่ายทั่วโลกโดย วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ในเครือ AOL ไทม์ วอร์เนอร์ และในบางภูมิภาคโดย วิลเลจโรดโชว์ พิกเจอร์ส