ในปี1994 พอล รูสซาบาจิน่า (ดอน เชียเดิล) ทำงานเป็นผู้จัดการโรงแรมในกิกาลี่ เมืองหลวงของประเทศรวันด้า เขาใช้ชีวิตแบบชนชั้นกลางสบายๆ เขามีภรรยาที่ทั้งสาวและสวยชื่อ ทาเทียน่า (โซฟี โอโคนีโด้) กับลูก 4 คน ชีวิตของเขาเป็นเหมือนการเชื่อมโยงของสองชนเผ่า เพราะเขาเป็นชาวฮูตู ในขณะที่ภรรยาของเขาเป็นชาวทุตซี่

ในค่ำคืนของวันที่ 6 เมษายนปีนั้น ประธานาธิบดีของรวันด้า ซึ่งเป็นชาวฮูตูถูกลอบสังหาร ภายในเวลาไม่กี่นาที การสังหารผู้คนเริ่มต้นขึ้น พวกหัวรุนแรงชาวฮูตูใช้การตายของประธานาธิบดี เป็นข้ออ้างเพื่อกำจัดพวกทุตซี่ ตลอดระยะเวลาเพียง 100 วัน มีคนโดนฆ่าตายไปถึง 8 แสนคน ส่วนใหญ่ถูกตีจนตายด้วยเครื่องมือในฟาร์ม โดยน้ำมือของคนชาติเดียวกัน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยที่โลกภายนอกไม่มีโอกาสรับรู้ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเข้าสู่ยุคการสื่อสารไร้พรมแดนแล้วก็ตาม

หลายวันต่อมา รูสซาบาจิน่าได้เปลี่ยนโรงแรมสี่ดาวที่เขาทำงานอยู่ชื่อ 'มิลล์คอลลินส์' ในกิกาลี่ ให้กลายเป็นที่หลบภัยสำหรับชาวทุตซี่ และผู้อพยพชาวฮูตูกว่า 1,200 คน ตลอดสามเดือนต่อมา เขานำเบียร์ ไวน์ และเงินไปเป็นสินบนมอบให้กับมือสังหารชาวฮูตู เพื่อต่อรองไม่ให้บุกเข้ามาที่โรงแรม และนั่นทำให้ไม่มีใครในโรงแรมสักคนถูกฆ่าตาย ทั้งๆ ที่บนถนนด้านนอกโรงแรมนั้นกลาดเกลื่อนไปด้วยซากศพ!

"ทุกชีวิตต่างก็มีค่าไม่น้อยไปกว่าฝุ่นผงบนดิน" ข่าวคราวเหตุการณ์ความขัดแย้งกันเอง ภายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่เกิดเป็นความรุนแรงและสร้างความสูญเสียนั้น มีอยู่มากมายที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากประเทศทั่วโลกเลย ทำให้ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องกล้ำกลืนต่อสถานการณ์อันเลวร้าย และต่อสู้อยู่เพียงลำพัง อย่างกับเหตุการณ์ความขัดแย้งของชาวรวันดา ที่เกิดขึ้นจริงในปี 1990 ที่ต่อมาก็กลายเป็นบันทึกเหตุการณ์นองเลือด ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาวแอฟริกัน ซึ่งแทนที่นานาชาติจะโกรธขึ้งแทนชาวรวันดาถึงสิ่งที่พวกเขาถูกกระทำ แต่กลับกลายว่าประเด็นข่าวที่ออกมาเป็นเพียง "อุบัติเหตุเล็กๆ ของประเทศโลกที่สาม" ช่วงเวลากว่า 100 วันของเหตุการณ์อันแสนจะเลวร้าย ชาวรวันดาเกือบหนึ่งล้านคน ได้ถูกสังหารไปอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ นั่นทำให้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งนี้ กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าใจมากที่สุด

Hotel Rwanda สร้างจากชีวิตจริงของ พอล เรซูวาบาจิน่า ชาวฮูตูที่เป็นผู้จัดการโรงแรมรวันดา ช่วงกลางปี 1990 ซึ่งเป็นยุคที่ชาวฮูตูออกไล่ล่าสังหารเผ่าทุตซี โดยพอลคิดแต่จะหาทางช่วยให้ภรรยาและลูกๆ ของเขา ที่มีเชื้อสายชาวทุตซีปลอดภัย แต่สุดท้าย เขากลับต้องมาแบกภาระช่วยเหลือผู้ลี้ภัยอีกพันคน ซึ่งมาใช้โรงแรมของเขาเป็นที่หลบภัย พอลพยายามขอความช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ตั้งแต่ชาวตะวันตกที่มีฐานะ ทหารท้องถิ่น ไปจนถึงกลุ่มกบฏ แต่ก็ไร้ผล เพราะสหประชาชาติไม่อนุญาตให้จัดการกับเรื่องนี้ พอลจึงกลายเป็นวีรบุรุษจำเป็นในที่สุด

เทอรี่ จอร์จ (ผู้เขียนบทและกำกับ A Bright Shining Lie, Some Mother's Son, ผู้เขียนบท The Boxer, Hart's War, In the Name of the Father) ได้จับเหตุการณ์สะเทือนใจนี้ มาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์เรื่อง Hotel Rwanda ที่ได้ตีแผ่ถึงเหตุการณ์และความกล้าหาญของชายตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นอกจากนั้น ยังได้เข้าชิงสาขาผู้แสดงนำชาย และผู้แสดงสมทบหญิง

การแสดงของ ดอน ชีเดิล (After the Sunset, Swordfish, The Family Man, Out of Sight, Ocean's Eleven, Traffic) ในเรื่องนี้ ได้รับคำชมแบบท่วมท้น ทำให้ภาพยนตร์ได้รับรางวัลมหาชนจากเทศกาลโตรอนโต นอกจากนี้ยังได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 62 ประจำปี 2005 ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทดราม่า, ผู้แสดงนำชาย, เพลงประกอบยอดเยี่ยม 'Million Voices' โดย Wyclef Jean. และนี่เป็นงานลำดับที่ 2 ของผู้กำกับ เทอร์รี่ จอร์จ หลังฝากฝีมือมาแล้วใน Some Mother's Son (1996) และร่วมเขียนบท In The Name of the Father (1993)

Hotel Rwanda ร่วมแสดงโดย โซฟี โอโคนีโด้ (Ace Ventura: When Nature Calls, The Jackal, Dirty Pretty Things, Aeon Flux), นิค โนลเต้ (I Love Trouble, Lorenzo's Oil, The Prince of Tides, 48 Hrs.) และ โจอาควิน ฟีนิกซ์ (Ladder 49, The Village, Signs, Gladiator)