Il Mare
"อิล มาเร" ลิขิตรักข้ามเวลา
Official website (Kr.)
Official website (Eng.)
more info. from IMDB
แนว : รัก
ความยาว : 96 นาที
กำหนดฉาย : 16 พฤศจิกายน 2544

"ปี 1998 จะมีหิมะตกหนัก ระวังเป็นไข้หวัดนะ"

ซังฮุน (ลี จุงแจ) สถาปนิกหนุ่ม ที่เพิ่งย้ายเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน "อิล มาเร" ได้รับจดหมายลึกลับจากหญิงสาวในปี 1999 ซึ่งนับเป็นเวลาอีก 2 ปีข้างหน้า เรื่องที่เธอบอก เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตของเธอ และอนาคตของเขา ล้วนแต่แม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ เธอเตือนให้ระวังพายุหิมะ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม ปี 1998 ซึ่งมันเกิดขึ้น ในวันที่ที่เธอบอกไว้ทุกประการ และเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่แพร่ระบาด ก็เกิดขึ้นจริงตามคำเตือนของเธอ

"ฉันทำเครื่องอัดเทปหายที่สถานีรถไฟ"

อันจู (โจน จิฮุน) ผู้ทำงานเป็นนักพากย์ ยังคงส่งจดหมาย ย้อนเวลากลับมายังเดือนธันวาคมปี 1997 และเธอเริ่มเขียนจดหมายถึงเพื่อนใหม่ ที่อยู่ต่างมิติเวลาบ่อยครั้งขึ้น เธอได้ขอร้องให้ซังฮุนช่วยหาเครื่องอัดเทป ที่เธอทำหายเมื่อหลายปีที่แล้ว ที่สถานีรถไฟ ซังฮุนจึงเดินทางไปที่นั่น และได้พบกับอันจู ซึ่งขณะนั้น เธอไม่รับรู้สักนิดว่าชายตรงหน้าคือใคร

"ช่วยฉันด้วย อย่าให้เขาทิ้งฉันไป"

หลังจากที่เขาได้รับหนังสือของผู้เป็นพ่อที่ส่งมาจากอนาคต ซังฮุนจึงได้ตระหนักในภายหลัง ถึงความรักที่พ่อมีต่อเขา สิ่งเดียวที่ทำได้คือ การเดินทางไปปรับความเข้าใจกับพ่อหน้าหลุมศพ ส่วนอันจูได้ต้อนรับคนรักที่เพิ่งกลับจากอเมริกา แต่เขากลับปฏิเสธเธอ และกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ สร้างความเจ็บปวดร้าวรานให้กับอันจูยิ่งนัก ความหวังเดียวของเธอคือซังฮุน เธอขอร้องให้เขาช่วยเตือนเธอ อย่ายอมให้จิฮูนคนรักเดินทางไปต่างประเทศ เมื่อพบกับความจริงที่ว่า ความรักที่เขาเริ่มมีต่ออันจูนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้ ซังฮุนจึงตัดสินใจเสียสละครั้งใหญ่ในวินาทีสุดท้าย เพื่อหยุดยั้งการเดินทางของจิฮูน..

"ได้โปรด อยู่กับฉัน"

อันจูเดินทางไปที่โรงเรียนของซังฮุน และได้พบว่า เขาตายไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จากอุบัติเหตุรถชน เธอเพิ่งรู้ถึงความรู้สึกของตนเองที่มีต่อเขา แต่ทุกอย่างสายเกินไป ซังฮุนเสียชีวิตในขณะที่เดินทางไปห้ามการตัดสินใจของอันจู ที่ยอมให้คนรักไปอเมริกา อันจูจึงต้องต่อสู้กับมิติเวลา ในการเดินทางกลับไปยัง "อิล มาเร" เพื่อเตือนซังฮุน...


"อิล มาเร" สถานที่ที่ความรักและความปวดร้าวจากความรัก ได้ก่อเกิดและยังคงอยู่ ชื่อหนังมาจากภาษาอิตาเลี่ยน ซึ่งมีความหมายถึง "ทะเล"

ในยุคที่ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ดำเนินไปด้วยความเร็วสูง ทั้งจากเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตและอีเมลล์ ความคิดเกี่ยวกับจดหมาย ตู้ไปรษณีย์ และรักแท้เป็นสิ่งที่ถูกละเลย แต่ในห้วงลึก ทุกคนต่างปรารถนาที่จะหวนคืนสู่วันคืนในอดีต กระแสเห่อสหัสวรรษใหม่ หรือความตื่นตัวในเรื่องวิทยาศาสตร์ กลายเป็นสิ่งน่าเบื่อหน่ายสำหรับคนบางกลุ่ม และมีทีท่าว่า คนกลุ่มนี้จะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ "อิล มาเร" ได้ตอบสนองความต้องการในส่วนลึก ที่อยากให้โลกกลับไปสู่วันเวลาที่เรียบง่ายอีกครั้ง...

ภาพยนตร์เรื่อง Il Mare หรือ "อิล มาเร" กำกับโดย Lee Hyun-seung หรือ ลี ฮุนเซียง (Blue in You, Sunset into the Neon), เขียนบทโดย โยว จิน่า, ดนตรีประกอบโดย คิม ฮุนโชว, กำกับภาพโดย ฮง คุงโพว, กำกับศิลป์โดย คิม คิโชว, ตัดต่อโดย ลี อุนซู แสดงนำโดย Lee Jung-Jae หรือ ลี จุงแจ (The Young Man, Our Sunny Days, Interview) รับบท ซังฮุน ชายหนุ่มผู้ศรัทธาในความรัก และเชื่อว่าความรักคือการให้ และการเสียสละ และ JunJi-hyun หรือ โจน จิฮุน (White Valentine) รับบท อันจู บทหญิงสาวแสนอ่อนหวาน ผู้มีทั้งความเยือกเย็นและละเอียดอ่อนในตัว

ในภาพยนตร์ "อิล มาเร" เป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด เพราะมันคือบ้านชายทะเลของคู่รักคู่หนึ่ง ที่เข้ามาอาศัยในคนละช่วงเวลา มันเป็นสถานที่ที่ความรัก ระหว่างซังฮุนและอันจู ก่อตัวและเติบโต... ในสถานที่จริง ณ เกาะคังหวา ชายหาดเกิดจากการพัดพา ของตะกอนทรายเป็นแนวยาว และสภาพภูมิอากาศที่ไม่สู้ดีนัก ผู้กำกับ ลี ฮุนเซียง ใช้วิธีคำนวณองศาที่พระอาทิตย์ตกของแต่ละวัน เพื่อนำมาจัดตะกอนตามชายหาด ให้ออกมาสวยงาม นี่คือการสร้างฉากในแต่ละวันของ "อิล มาเร" ในตอนแรก ไม่มีใครเชื่อว่ามันได้ผล แต่เขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า สิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ได้เกิดขึ้นแล้ว ความพยายามครั้งนี้ จะต้องได้รับการบันทึกไว้ ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เกาหลีว่า "อิล มาเร" คือหนังเรื่องแรก ที่สามารถถ่ายฉากชายหาดที่ปราศจากหมอกในเกาหลีได้สำเร็จ

การตัดต่อแบบคัทชน เป็นวิธีที่นำมาใช้ เพิ่มความสวยงามให้แต่ละฉาก ด้วยความตั้งใจที่จะให้เห็นรายละเอียด และการจัดองค์ประกอบของฉากให้ได้มากที่สุด มันเป็นวิธีการที่เพิ่งถูกคิดค้น และเริ่มนำมาใช้ในการสร้าง "อิล มาเร" กระบวนการล้างฟิล์มที่สลับซับซ้อน ทำให้ได้มาซึ่งภาพที่ดีที่สุด ทั้งจากสีที่อิ่มตัวและกระจายไปทั่วฟิล์ม กับความสว่างสดใสของสี แม้จะต้องเสี่ยงกับความผิดหวัง เนื่องจากยังไม่เคยมีใครใช้วิธีการนี้มาก่อน ฉะนั้นความสวยของภาพยนตร์ "อิล มาเร" จึงเป็นผลจากการทำงานหนัก และการให้ความสำคัญกับฉากทุกฉาก ทั้งระหว่างการถ่ายทำและหลังจากนั้น