Official website
more info. from IMDB
แนว : ตลก / ดราม่า
ความยาว : 109 นาที
กำหนดฉาย : 10 มีนาคม 2548
แดน ฟอร์แมน (เดนนิส เควด) อายุ 51 ปี มีชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงานที่สมบูรณ์พร้อม นิตยสารสปอร์ต อเมริกา ที่เขาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขายโฆษณา เพิ่งจะเฉลิมฉลองปีที่นิตยสารประสบความสำเร็จที่สุด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเอกลักษณ์ในการปิดการตกต่ำลงทางธุรกิจ ด้วยการจับมือที่เต็มไปด้วยความจริงใจและเป็นกันเองของเขา รวมถึงการประสบความสำเร็จของแผนก Esprit de Corps ที่เขาดูแลอยู่อีกด้วย ในเรื่องส่วนตัวนั้น แดนเองก็มีความสุขดี ทั้งจากข่าวที่ภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์ และการได้รับตอบรับเข้าศึกษาต่อ ที่มหาลัยชื่อดังและแสนแพงอย่าง นิวยอร์ก ยูนิเวอร์ซิตี้ของลูกสาวคนโตของเขา อเล็กซ์ (สการ์เลตต์ โยฮันสัน) และถึงแม้เขาสถานะทางการเงินของครอบครัว จะให้ทำเขาต้องเป็นกังวลอยู่บ้าง แต่เขาก็รู้ว่าสักวันมันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เหมือนที่แล้วๆ มา คาร์เตอร์ เดอร์เยีย (โทเพอร์ เกรซ) อายุ 26 มีชีวิตที่น่าทึ่งในแทบจะทุกเรื่อง เขาอุทิศตนให้กับหน้าที่การงานที่ โกลบคอม บริษัทที่เต็มไปด้วยพนักงานหลากหลายเชื้อชาติ อย่างไม่มีเวลาให้กับเรื่องอื่นใด แม้แต่ฝ่ายจัดการยังทราบว่า คาร์เตอร์นี่ล่ะ ที่กำลังได้รับการตกแต่ง เพื่อรอรับการเลื่อนขั้นให้ได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม นั่นคือการเป็นหัวหน้าฝ่ายขายโฆษณานิตยสารสำคัญ ที่โกลบคอมเพิ่งจะเทคโอเวอร์มา ซึ่งก็คือนิตยสารสปอร์ต อเมริกานั่นเอง แต่ออกจะเป็นโชคร้ายของคาร์เตอร์อยู่สักหน่อย ที่การเลื่อนขั้นนี้ เกิดขึ้นตรงกับจุดแตกหักในชีวิตแต่งงาน ที่กำลังย่างเข้าสู่เดือนที่เจ็ดพอดิบพอดี ทำให้แม้จะมีความสุขความยินดี กับการได้เลื่อนตำแหน่ง แต่คาร์เตอร์ก็ไม่มีใครให้ร่วมแสดงความยินดีได้ด้วยเลย จะยกเว้นก็เพียงแต่เจ้าปลาน้อย สัตว์เลี้ยงของเขาเท่านั้น แม้กระนั้นเขาก็รู้ว่าสักวัน ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ความโกรธของแดนจากการถูกปลดในครั้งนี้ เทียบอะไรไม่ได้เลยกับความขุ่นข้องหมองใจ ที่คนมาแทนที่เขามีอายุเพียง 26 ปีเท่านั้น ยิ่งพอได้ทราบทั้งอายุและประสบการณ์ ในการขายโฆษณาของเจ้านายใหม่อย่างคาร์เตอร์ (ไม่มีประสบการณ์เลย) แล้ว แดนยิ่งแทบจะหมดความตั้งใจ ในการทำงานเป็นมือขวาให้กับคาร์เตอร์ไปอย่างสิ้นเชิง แต่ในเวลาที่ครอบครัวของเขา ต้องการเงินเก็บเพื่ออนาคตเช่นนี้ แดนเองก็ต้องการทำงานนี้ต่อไป ไม่น้อยไปกว่าคาร์เตอร์เช่นกัน ทั้งสองจึงต้องจำใจสร้างความสัมพันธ์ ในฐานะเพื่อนร่วมงานที่ดี ร่วมงานกันในภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากโกลบคอม ให้ตัดลดงบประมาณของแผนก และในขณะเดียวกันนั้น ก็ต้องเพิ่มรายได้ให้กับแผนก เป็นจำนวนเกินกว่า 35 เปอร์เซนต์อีกด้วย ความกระตือรือร้นของคาร์เตอร์ ในการทำงานให้ได้ตรงตามความต้องการ ของฝ่ายบริหารจัดการระดับสูง ไม่ได้ทำให้เขาเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงานในสปอร์ต อเมริกา เท่าใดนัก วิธีการเข้าหาคนอื่นแบบเถรตรง ไม่ยืดหยุ่น จนบางครั้งดูขาดมนุษยสัมพันธ์ของคาร์เตอร์ ทำให้เขาไม่ค่อยลงรอยกันกับแดน ซึ่งเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานเป็นเลิศเท่าไหร่นัก โดยแดนมองว่า พนักงานของเขาเหล่านั้น ก็ไม่ต่างอะไรจากคนในครอบครัว - คนในครอบครัวที่คาร์เตอร์ไม่เคยมี และด้วยความเหงาที่อยู่ลึกๆ ในใจนี้เอง ที่ทำให้คาร์เตอร์เรียกประชุมพนักงานในบ่ายวันอาทิตย์หนึ่ง และขอไปร่วมทานอาหารเย็นกับครอบครัวฟอร์แมน ที่บ้านของแดนในวันนั้นเอง และก็เป็นที่บ้านของครอบครัวฟอร์แมนนี่เอง ที่คาร์เตอร์และอเล็กซ์มีโอกาสได้พูดคุยกัน และอเล็กซ์ก็มีโอกาสได้ส่งสียงเชียร์คาร์เตอร์เล่นฟุตบอลด้วย หลังจากวันนั้น คนขายโฆษณาขี้เหงาก็บังเอิญได้พบกับนักศึกษา NYU ที่ขี้เหงาพอกัน ในคาเฟ่แห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน และในการพบกันครั้งนี้ ทั้งสองก็ได้ค้นพบกับประกายความรู้สึกพึงใจที่ต่างมีให้กัน นับแต่ที่ได้รับประทานอาหารเย็นร่วมกันครั้งก่อน ประกายความรู้สึกที่ว่า ได้กลายมาเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ที่ทั้งคู่ต่างต้องปกปิดจากแดน และคู่มือพนักงานก็คงจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ ในความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาว ระหว่างเจ้านายกับลูกสาวของพนักงานคนหนึ่ง หากมีใครล่วงรู้ความลับ หรือพูดอะไรออกไป ข่าวความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ย่อมนำมาซึ่งความร้าวฉานและความล้มเหลว ทั้งในความสัมพันธ์ที่กำลังค่อยๆ คลายความตึงเครียดระหว่างแดนกับคาร์เตอร์ และความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่อเล็กซ์มีกับพ่อของเธอ รวมทั้งความก้าวหน้าของภารกิจ ที่แดนและคาร์เตอร์ได้รับมอบหมายให้ทำร่วมกันที่สปอร์ต อเมริกาอีกด้วย เห็นทีชีวิตของทั้งแดนและคาร์เตอร์ จะดูยุ่งเหยิงขึ้นอีกสักหน่อยแล้ว! ภาพยนตร์เรื่อง In Good Company กำกับโดย พอล ไวท์ซ ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ จากการร่วมเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง About A Boy ที่เขายังร่วมกำกับเองด้วย In Good Company เป็นเรื่องราวสนุกสนานหลายแง่มุมของชีวิตมนุษย์ โดยไวท์ซทั้งกำกับและเขียนบทภาพยนตร์เอง รวมทั้งยังร่วมอำนวยการสร้างกับน้องชายของเขา คริส ไวท์ซ (About A Boy, American Pie) ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วด้วย โดยนอกจากจะมีนักแสดงชั้นนำทั้ง เดนนิส เควด (Far From Heaven, The Day After Tomorrow , The Rookie, Flight of the Phoenix, Traffic, Any Given Sunday, Dragonheart, Frequency), สการ์เลตต์ โยฮันสัน (Lost In Translation, A Love Song for Bobby Long, The Island, Girl with a Pearl Earring, Eight Legged Freaks, The Horse Whisperer) และ โทเฟอร์ เกรซ (Mona Lisa Smile, Win a Date with Tad Hamilton!, Traffic, รายการ 'That '70s Show') แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังร่วมแสดงโดย มาร์จ เฮลเกนแบร์เกอร์ (Erin Brokovich, Species, Bad Boys, Always) ในบทแอน ภรรยาของแดน, เดวิด เพย์เมอร์ (Alex & Emma, State And Main, The Hurricane, Mumford, Mighty Joe Young) ในบทพนักงานขายโฆษณาของสปอร์ต อเมริกา และ ฟิลิปป์ เบเกอร์ ฮอลล์ (Bruce Almighty, Magnolia, The Insider, The Truman Show) ในบทของเจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์กีฬา นอกจากนั้น ผู้ร่วมงานเบื้องหลังของภาพยนตร์เรื่อง In Good Company นี้ ยังประกอบไปด้วย รอดนีย์ ไลเบอร์ (Big Momma's House) และ แอนดรูว์ มีอาโน (His Dark Materials: The Golden Compass) ในตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างบริหาร ร่วมอำนวยการสร้างโดย แครี่ โคฮันสกี้, กำกับภาพโดย เรมี อเดฟาราซีน (The Haunted Mansion, About a Boy, Elizabeth, Sliding Doors), โปรดักชั่นดีไซน์โดย วิลเลียม อาร์โนลด์ (Shopgirl, Magnolia, Punch-Drunk Love, Mo' Money), ลำดับภาพโดย ไมรอน เคอร์สตีน (Garden State), ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย มอลลี่ แมกกินนิส (Life As A House, Dreamcatcher, Deuce Bigalow: Male Gigolo, Mighty Joe Young, As Good as It Gets), ดนตรีประกอบโดย สตีเฟน ทราสค์ (The Station Agent, Hedwig and the Angry Inch) |