วิล สมิธ (Bad Boys, Men in Black, Ali, Wild Wild West, Independence Day) รับบทเป็น นักสืบ เดล สปูนเนอร์ ในภาพยนตร์ระทึกขวัญไฮเทค เรื่อง I, Robot เนื้อเรื่องจากหนังสือเรื่องสั้นของ ไอแซค อาซิมอฟ (1920-1992) นักเขียนที่เปี่ยมจินตนาการ เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์ในปี 2035 เทคโนโลยีและหุ่นยนต์ได้รับความไว้วางใจ ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ความไว้ใจนั้นได้ถูกทำลายลง และมีชายหนุ่มเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ต่อต้านระบบโดยลำพัง และมองเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้น

I, Robot ใช้นวัตกรรมวิชวลเอ็คเฟ็คล้ำสมัยที่สุด ที่ไม่เคยมีมาก่อนบนจอภาพยนตร์ เพื่อสร้างชีวิตให้กับโลกของหุ่นยนต์ ซันนี่ ตัวละครเอก ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่กำความลับแห่งการฆาตกรรมเอาไว้ – และบางที อาจเป็นความอยู่รอดของมนุษยชาติอีกด้วย – เป็นตัวแทนของการเข้าสู่ยุคของภาพถ่ายเสมือนจริง อันที่จริงแล้ว ซันนี่เป็นตัวละคร CGI สามมิติที่ดูเหมือนจริงที่สุด และมีครบถ้วนทางด้านอารมณ์ เท่าที่เคยได้ทำกันมาในภาพยนตร์

I, Robot กำกับการแสดงโดย อเล็กซ์ โพรยาส (Dark City, The Crow, Garage Days) ซึ่งสร้างชิคาโก้ในอนาคตในแบบที่ไม่ธรรมดา – ในราวปี 2035 – ซึ่งเป็นเวลาที่หุ่นยนต์ได้รับการยกระดับ อย่างสมบูรณ์แบบในสังคม บริดเจ็ต โมยนาแฮน (Coyote Ugly, The Sum of All Fears, The Recruit) รับบทคู่กับ วิล สมิธ เป็น ดร. ซูซาน คาลวิน จิตแพทย์ของหุ่นยนต์, บรูซ กรีนวู้ด (Thirteen Days, Below, The Core, Rules of Engagement) รับบท ลอว์เรนส์ โรเบิร์ตสัน หัวหน้าบริษัท U.S. Robotics และ ชิ แมคไบรด์ (The Terminal, Disney's The Kid, Gone in 60 Seconds, The Frighteners) รับบทนายของสปูนเนอร์ และเพื่อนของผู้กอง จอห์น เบอร์กิน และ อลัน ทูดิค (A Knight's Tale, Patch Adams, 28 Days) นักแสดงที่ใช้ความสามารถทางกายภาพ เพื่อเป็นแม่แบบของการสร้างหุ่นยนต์ซันนี่ด้วยดิจิตอล, เจมส์ ครอมเวลล์ (L.A. Confidential, The Green Mile, Space Cowboys, The Sum of All Fears) รับบทเป็นตัวละครเอก ดร. อัลเฟร็ด แลนนิ่ง นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะผู้รักสันโดษ

I, Robot เป็นภาพยนตร์ผลงานของ David Entertainment Company / Laurence Mark / Overbrook Films Production อำนวยการสร้างโดย ลอว์เรนส์ มาร์ค, จอห์น เดวิส, โทเฟอร์ ดาว และ วิค กอดฟรีย์ วิล สมิธ, เจมส์ แลสสิเตอร์, ไมเคิล เชน และ แอนโทนี โรมาโน เป็นผู้อำนวยการบริหาร สตีเวน อาร์ แมคกลอทเธน เป็นผู้ร่วมอำนวยการสร้าง

ทีมงานหลังกล้องประกอบด้วย ผู้กำกับภาพ ไซมอน ดักแกน (Garage Days, The Interview), ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ แพทริค ทาโทเปาลอส (Dark City, Independence Day), ผู้ลำดับภาพ ริชาร์ด ลีรอยด์ (Garage Days, Dark City), อาร์เมน มิเนซียน (Daredevil, Don't Say a Word, Kiss the Girls) และ วิลเลียม ฮอย, A.C.E. (We Were Soldiers, The Bone Collector, The Man in the Iron Mask, Dances with Wolves), ผู้ประพันธ์เพลงประกอบ แมคโคร เบลตรามี (Terminator 3: Rise of the Machines) และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย อลิซาเบธ เคียค ปาล์เมอร์ (Dark City)

ผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็คเจ้าของรางวัลตุ๊กตาทอง จอห์น เนลสัน (Gladiator) เป็นผู้ดูแลช็อตวิชวลเอ็ฟเฟ็คกว่า 1,000 ช็อตของหนังเรื่องนี้ ในภาพของซันนี่และหุ่นตัวอื่นๆ ซึ่งได้รับการออกแบบโดย แพทริค ทาโทเปาลอส นอกจากนั้น ทีมงานวิชวลเอ็ฟเฟ็คยังได้ปรับปรุง และสร้างโลกที่เป็นชิคาโก้ในปี 2035

ตัวละครหลักหลายตัวมาจากหนังสือรวมเรื่องสั้นของ ไอแซค อาซิมอฟ ที่ชื่อว่า I, Robot (รวมทั้ง ดร. อัลเฟร็ด แลนนิ่ง และ ดร. ซูซาน คาลวิน ที่อ่อนวัยกว่า) รวมทั้งความคิดและคอนเซปท์ที่หลากหลาย ของนักเขียนชื่อดัง ยังได้รวมอยู่ในภาพยนตร์ด้วย

เกร็ดภาพยนตร์

• กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ หรือ Three Laws of Robots ของ ไอแซค อาซิมอฟ มีดังนี้
  1. หุ่นยนต์ไม่สามารถทำร้ายมนุษย์ หรือไม่ยอมให้มนุษย์ตกอยู่ในอันตราย

  2. หุ่นยนต์ต้องเชื่อฟังคำสั่งของมนุษย์ นอกเสียจากว่าคำสั่งนั้นขัดแย้งกับกฎข้อที่หนึ่ง

  3. หุ่นยนต์ปกป้องตนเองได้ โดยไม่ขัดแย้งกับกฎข้อที่หนึ่งหรือสอง

• นวนิยายเกี่ยวกับหุ่นยนต์ของอาซิมอฟ ประกอบด้วย 'The Caves of Steel', 'The Naked Sun', 'The Robots of Dawn' และ 'Robots and Empire'

• บทภาพยนตร์ I, Robot ถูกเขียนขึ้นมาใหม่ โดยไม่ได้ดัดแปลงจากเรื่องสั้นต้นฉบับของอาซิมอฟ แต่เป็นการนำเอาเรื่องราวก่อนหน้าเหตุการณ์ในเรื่องสั้น มาเขียนบทเป็นบทภาพยนตร์ ด้วยตอนที่มีชื่อดั้งเดิมว่า 'Hardwired' โดย เจฟ วินทาร์ (ร่วมเขียนบท Final Fantasy: The Spirits Within) และ อากีว่า โกลด์สแมน (Lost in Space, A Beautiful Mind)