Minority Report
หน่วยสกัดอาชญากรรม ล่าอนาคต
Official website 1
Official website 2
more info. from IMDB
แนว : Sci-Fi / แอ็คชั่น / ระทึกขวัญ
ความยาว : 140 นาที
กำหนดฉาย : 5 กรกฎาคม 2545

เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะหยุดการฆาตกรรม ..ก่อนที่มันจะเกิด ?

วอชิงตัน ดีซี ปี 2054 : คดีฆาตกรรมถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น อนาคตเป็นสิ่งมองเห็นได้ และผู้ต้องสงสัยถูกลงโทษก่อนการก่ออาชญากรรม ด้วยวิธีการเชื่อมต่ออย่างลึกล้ำ ของหน่วยงานป้องกันก่อนอาชญากรรมชั้นหัวกะทิ (Pre-Crime) แห่งกระทรวงยุติธรรม หลักฐานในอันที่จะกระทำ - ด้วยมโนภาพที่พาดพิงถึงเวลา สถานที่ และรายละเอียดอื่นๆ - จากการจับตาของระบบ "พรี-ค็อกส์" สามสิ่งมีชีวิต ผู้หยั่งรู้การกระทำความผิดทั้งปวง โดยไม่เคยผิดพลาด

หน่วยงานนี้เป็นระบบสมบูรณ์แบบ ซึ่งก้าวหน้าที่สุด ในการปกป้องอาชญากรรมแห่งชาติ และผู้ที่ทำงานหนักที่สุด คงหนีไม่พ้นหัวหน้าหน่วย จอห์น แอนเดอร์ตัน (ทอม ครูซ) นับเนื่องจากโศกนาฏกรรมในชีวิตของเขา แอนเดอร์ตันทุ่มเททั้งชีวิต ให้กับการรักษาชีวิตผู้คนอีกนับพัน จากสิ่งที่เขาเคยประสบมา หกปีที่ผ่านมา รวมทั้งการลงคะแนนให้เป็นระบบระดับชาติ ยิ่งเน้นความเชื่อถือของเขา ในการทำงานของหน่วยพรีไครม์

แอนเดอร์ตันไม่เคยตั้งข้อสงสัย ในระบบงานนี้แม้แต่น้อย… จนกระทั่งตัวเขาเองตกเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลข 1..

ในฐานะหัวหน้าหน่วย แอนเดอร์ตันจะเป็นคนแรก ที่ได้เห็นภาพเคลื่อนเข้าสู่ห้องภาพต้องสงสัย ในขณะที่ พรี-ค็อกส์ ฝันถึงการฆาตกรรม ภาพนั้นไม่คุ้นตาแม้แต่น้อย ไม่ใช่คนที่เขารู้จัก แต่ในครั้งนี้ หลักฐานของฆาตกรชัดเจนยิ่ง - จอห์น แอนเดอร์ตัน.. ตัวเขาเอง! กำลังจะฆ่าคนแปลกหน้า ในระยะเวลาไม่ถึง 36 ชั่วโมงข้างหน้า

เมื่อต้องถูกตามล่าจากหน่วยงานของตนเอง โดยการนำของคู่ปรับ แดนนี่ วิทเวอร์ (คอลิน ฟาร์เรล) แอนเดอร์ตันต้องหลบหลีก ให้พ้นรัศมีเรดาร์ของเมืองแห่งระบบอัตโนมัติ ที่การเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวถูกจับตามอง รถยนต์ที่ขับอยู่อาจถูกบังคับโดยคนอื่น ไม่ว่าจะทำอะไรและจะไปไหน ไม่มีทางซ่อนตัวได้ จึงต้องหนีสถานเดียว

เมื่อไม่มีทางปกป้องตนเอง จากข้อกล่าวหาของระบบ จอห์นจึงต้องสืบหาต้นตอของเรื่อง และค้นพบความจริงที่อยู่ภายใต้คำถาม ซึ่งเขาพยายามขจัดจากความคิดมาตลอดเวลาหกปี : เป็นไปได้หรือไม่ที่ พรี-ค็อกส์ จะผิดพลาด ?


ภาพยนตร์อนาคตระทึกขวัญ Minority Report ผลงานจาก สตีเวน สปีลเบิร์กส ดัดแปลงจากเรื่องสั้นชื่อ "The Minority Report" ซึ่งถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1956 ในแมกกาซีนชื่อ Fantastic Universe ของ ฟิลิป เค ดิค นักเขียนจินตนิยายวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ล่วงลับ มีผลงานเขียนเรื่องสั้นหลายร้อยเรื่อง ในช่วงระหว่างปี 1950 และ 60 อาทิ Blade Runner ถูกดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์โดย จอน โคเฮน และ สก็อต แฟรงค์ (Out of Sight) ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย เจอรัลด์ อาร์โมเลน, บอนนี่ เคอร์ติส, วอลเตอร์ เอฟ พาร์กส และ แจน เดอ บองท์, แกรี่ โกลด์แมน และ โรนัลด์ ชูเซท เป็นผู้อำนวยการบริหาร

Minority Report นำแสดงโดย ทอม ครูซ (Mission: Impossible, Eyes Wide Shut) ร่วมกับนักแสดง ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย อาทิเช่น คอลิน ฟาร์เรล (Tigerland, Hart's War) เป็น แดนนี่ วิทเวอร์ คู่ปรับของแอนเดอร์ตัน, ซาแมนธา มอร์ตัน ที่เคยได้รับเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Sweet and Lowdown รับบทเป็น อกาธ่า Pre-Cog ผู้เป็นปริศนา อันเป็นส่วนสำคัญในการดิ้นรนของแอนเดอร์ตัน เพื่อค้นหาความจริง, แม็กซ์ วอน ซิโดว์ ซึ่งเคยมีผลงานสร้างชื่อมากมาย จากภาพยนตร์คลาสสิคหลายเรื่อง รวมทั้งผลงานในยุคหลังอย่าง Snow Falling on Cedars, What Dreams May Come มารับบทเป็น ลามาร์ เบอร์เกส บิดาแห่งพรีไครม์, โลอิส สมิธ (The Pledge, Twister) รับบทเป็น ไอริส ไฮน์แมน นักวิจัยซึ่งงานของเธอ ปูทางสู่ความสำเร็จของระบบมาตรฐานใหม่นี้ และ แคทรีน มอร์ริส (The Contender) รับบทเป็น ลอร่า ภรรยาผู้ห่างเหินของแอนเดอร์ตัน

นอกจากนี้ ยังประกอบด้วยผู้แสดงสมทบ อาทิ ทิม เบลค เนลสัน (O Brother, Where Art Thou?) รับบทเป็น กิเดียน ผู้ดูแลความเรียบร้อยของห้องแห่งการควบคุม, ปีเตอร์ สตอร์มแมร์ (Fargo, The Lost World) รับบทเป็น ดร. เฟรดดี้ ศัลยแพทย์เถื่อน และ นีล แมคดอนัล (Band of Brothers) รับบทเป็น เฟลทเชอร์ เจ้าหน้าที่แห่ง Pre-Crime

ทีมงานโปรดักชั่นฝีมือดีของ สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้แก่ ผู้กำกับภาพเจ้าของรางวัลตุ๊กตาทอง จานุซ คามินสกี้ (Schindler's List, Saving Private Ryan), ผู้ลำดับภาพรางวัลออสการ์ ไมเคิล คาห์น (Raiders of the Lost Ark, Saving Private Ryan), ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ อเล็กซ์ แมคโดเวล (Fight Club), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เดบอราห์ แอล สก็อต (Titanic) และผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบ เจ้าของ 5 รางวัลออสการ์ จอห์น วิลเลี่ยมส์ (Star Wars, Saving Private Ryan)

ภาพแห่งโลกแห่งอนาคตอันใกล้ ได้รับการดูแลโดยผู้ควบคุมวิช่วลเอ็ฟเฟ็ค สก็อต ฟาร์ราร์ (A.I. Artificial Intelligence) แห่ง Industrial Light & Magic (ILM) ซึ่งดูแลการทำงานของฝ่ายวิช่วล เอ็ฟเฟ็คมือทอง เจ้าของรางวัลตุ๊กตาทอง ไมเคิล แลนเทียรี่ (Jurassic Park) ซึ่งทำงานด้านเอ็ฟเฟ็คทั้งหมด ไบรอัน ชเมอร์ส (Mission: Impossible II) ซึ่งประสานงานกับฝ่ายสตันท์

Minority Report ยังเป็นการก้าวสู่อีกขั้นหนึ่ง ของงานสร้างวิช่วล เอ็ฟเฟ็คที่ไร้รอยต่อ อันเป็นการเปิดเผยถึงโลก ซึ่งไม่ได้เป็นอนาคตมากเกินไป จนต่างไปจากความก้าวหน้า อย่างเป็นธรรมชาติของโลกปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ ประกอบด้วยวิช่วล เอ็ฟเฟ็คถึง 481 ช็อต ซึ่งมากกว่างานหนังเรื่องใด ที่สปีลเบิร์กเคยสร้าง นับแต่เรื่อง Close Encounters of the Third Kind เมื่อ 25 ปีก่อน

จากงานแอนนิเมติคแรกของ Pixel Liberation Front จนถึงการออกแบบ 3 มิติอันลือลั่นของ ILM ซึ่งควบคุมโดย สก็อต ฟาร์ราร์ ในการดัดแปลงรถ Lexus ซึ่งออกแบบโดย ฮาโรลด์ เบลเกอร์ ผลงานที่ได้ใน Minority Report สะท้อนถึงอนาคตอันใกล้ ของพวกเราในวันนี้