Official website
more info. from IMDB
แนว : ดราม่า / เพลง
ความยาว : 126 นาที
กำหนดฉาย : 3 สิงหาคม 2544
ปี 1899 คริสเตียน (รับบทโดย ยวน แม็คเกรเกอร์) นักเขียนหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ในเชิงกวี ขัดขืนคำสั่งของบิดา ซึ่งเป็นชนชั้นกลาง ก้าวเข้าไปสู่อีกฟากของโลก ในแวดวงของชาวโบฮีเมียนแห่ง มองต์มาร์ท (Montmartre) แห่งกรุงปารีส โดยการนำของชายไว้เครา ที่มีอุปนิสัยดื้อดึง ตูลูส-ลอเทร็ค (รับบทโดย จอห์น เลกีซาโม) อดีตผู้ดีที่ถูกตัดออกจากกองมรดก คริสเตียนได้พบกับชาวโบฮีเมียน ภายใต้การปกครองของ ตูลูส-ลอเทร็ค ได้แก่ หมอ (รับบทโดย แกร์รี่ แม็คโดนัลด์) ที่หลงคิดไปว่าตัวเองเก่ง, นักเต้นแทงโก้ (รับบทโดย จาเซ็ค โคแมน) ที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นชาวอาเจนตินา, ซาตี (รับบทโดย แม็ทธิว วิตเตท) และนักเขียนที่ชื่อ ออเดรย์ (รับบทโดย เดวิด เวนแฮม) ผู้คนทั้งหมดใช้ชีวิตอยู่ใน มูแลง รูจ (Moulin Rouge) ไนท์คลับสุดหรูอันขึ้นชื่อของปารีส ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนลุ่มหลง สถานที่รวมกันของชนชั้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกผู้ดี, เศรษฐี, คนงาน, ศิลปิน, พวกโบฮีเมียน, นางระบำ และ ผู้หญิงทำงาน โดยมี ซิดเลอร์ (จิม บอร์ดเบ้นท์) เป็นผู้จัดการคลับ และที่ มูแลง รูจ นั่นเอง คริสเตียน ได้พบกับ ซาติน (รับบทโดย นิโคล คิดแมน) ดาราประจำคลับ และโสเภณีที่สวยที่สุดของเมือง รวมทั้งเพื่อนพ้องอันได้แก่ นางระบำแคน-แคน นีนี่-เลกส์-อิน-ดิ-แอร์ (รับบทโดย คาโรลีน โอ'คอนเนอร์), ช่างแต่งตัวของ ซาติน นามว่า มารี (รับบทโดย เคอร์รี่ วอลเกอร์), นักแสดง เลอ ช็อคโกลาต์ (รับบทโดย ดิวเบียร์ โอปารี) และ นางระบำ ม็อง โฟรมาจ (รับบทโดย ลาร่า มัลคาฮีย์) ในที่สุด คริสเตียนหลงรักซาตินอย่างโงหัวไม่ขึ้น ซาตินเมาจากครอบครัวที่ยากจนมาก และซิดเลอร์เป็นคนที่สร้างเธอให้เป็นอย่างทุกวันนี้ แต่ซาตินไม่ต้องการเป็นนางระบำแคน-แคน ไปจนตลอดชีวิต ความฝันของเธอคือการได้เป็นนักแสดง เธอมีความตั้งใจแน่วแน่ และมีความสามารถโดดเด่น ยากจะหาใครเทียบได้ ในการสร้างสรรค์ลีลาการเต้นรำที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่เมื่อคริสเตียนร่ายเวทมนตร์ไปที่เธอผ่านบทเพลง เขาก็ทำให้เธอเชื่อว่า เธอสามารถทำอย่างอื่นได้ เขานำความเชื่อของเธอออกมา และใส่มันเข้าไปในในความฝันของเธอ และนั่นทำให้เขาเป็นคนที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับเธอ ชะตาชีวิตของคริสเตียน และความรักของเขาที่มีต่อซาติน จะลงเอยเช่นไรกัน...? 20th Century Fox และ Bazmark Films ภูมิใจเสนอ Moulin Rouge ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับความจริง, ความงาม, เสรีภาพ และเหนือสิ่งอื่นใด นั่นคือ ความรัก ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นใน มูแลง รูจ ไนท์คลับสุดหรูอันขึ้นชื่อของปารีส ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหลในช่วงปี 1900 ผู้กำกับ บาซ เลอร์มานน์ (Strictly Ballroom, William Shakespeare's Romeo + Juliet) นำการออกแบบย้อนยุคที่หรูเลิศอลังการ ผสานกับท่วงทำนองเพลงสมัยใหม่ ที่กำลังเป็นที่นิยม มาสร้างสรรค์ความเป็นเอกลักษณ์ ให้กับงานภาพยนตร์สุขปนโศกนาฏกรรมชิ้นนี้ นิโคล คิดแมน รับบทเป็น ซาติน "เพชรน้ำเอก" ดาราประจำคลับ มูแลง รูจ และโสเภณีที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมือง ซาตินติดอยู่ในระหว่างวังวนแห่งความรัก ของหนุ่มนักเขียน และชายอีกผู้หนึ่งที่ลุ่มหลงในตัวเธอ ยวน แม็คเกรเกอร์ เป็นนักเขียนหนุ่ม คริสเตียน ผู้ซึ่งพบว่า ตัวเองถูกผลักให้ตกลงไปในโลกผุพังใบนี้ ที่ที่ทุกสิ่งกำลังสูญสลาย - เว้นแต่ความรัก เลอร์มานน์ ถ่ายทอดภาพที่หรูเลิศอลังการ ของโลกที่อยู่อีกมุมหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหล และเรื่องโศกปนสุข ผ่านการถ่ายทำที่ร่วมสมัย นำความตื่นตาตื่นใจ และความยิ่งใหญ่ของ มูแลง รูจ เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว กลับมาให้ผู้ชมในปัจจุบันได้สัมผัส เรื่องราวของ Moulin Rouge มีกำเนิดมาจากตำนานของคนธรรพ์ (Orphean Myth) - กวีนักดนตรีหนุ่ม ซึ่งตกลงไปในนรก เพื่อเสาะแสวงหารักในอุดมคติ ซึ่งลงเอยด้วยโศกนาฏกรรม เขียนบทภาพยนตร์โดย บาซ เลอร์มานน์ ร่วมกับ เคร้ก เพี๊ยซ ที่เคยร่วมงานกับเลอร์มานน์ มาแล้วใน Strictly Ballroom, William Shakespeare's Romeo + Juliet อำนวยการสร้างโดย เฟร็ด บารอน, มาร์ติน บราวน์ และ บาซ เลอร์มานน์ Moulin Rouge กำกับภาพโดย โดนัลด์ เอ็ม แม็คอัลไพน์ ACS/ASC ซึ่งเคยร่วมงานกับเลอร์มานน์มาแล้วใน Shakespeare's Romeo + Juliet, ตัดต่อโดย จิล บิลค็อค (Elizabeth, Romeo + Juliet, Strictly Ballroom), ออกแบบฉากโดย แคทเธอรีน มาร์ติน ที่ร่วมงานกับเลอร์มานน์มาแล้วใน Romeo + Juliet และ Strictly Ballroom และยังทำหน้าที่ ในงานออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมกับ แองกัส สเตรธี (Strictly Ballroom, The Queen of the Damned) อีกด้วย งานออกแบบเครื่องแต่งกายของภาพยนตร์เรื่องนี้ นับเป็นงานใหญ่และยากเย็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าถึง 400 ชุด สำหรับนักแสดงหลัก, นักเต้น และตัวประกอบ สำหรับงานออกแบบทรงผม และแต่งหน้าของ Moulin Rouge เป็นหน้าที่ของช่างผม อัลโด ซิกนอเร็ตติ และช่างแต่งหน้า มอริซิโอ ซิลวี่ (Dragonheart, The Last Temptation of Christ) โดยมี เลสลี่ย์ แวนเดอวอลท์ เป็นผู้ประสานงานด้านแต่งหน้า-ทำผม, งานการออกแบบท่าเต้น เป็นผลงานของ จอห์น โอ'คอนเนลล์ ที่เคยร่วมมือกับ บาซ เลอร์มานน์ มาแล้ว และงานด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็กเป็นหน้าที่ของ คริสโตเฟอร์ ก็อดเฟรย์ ที่กำลังมีผลงาน ในภาพยนตร์อีกเรื่องขณะนี้คือ Pearl Harbor ส่วนงานดนตรีประกอบ / ซาวด์แทร็ค ของ Moulin Rouge ส่วนใหญ่เป็นเพลงป็อป ที่เป็นที่คุ้นหูในศตวรรษที่ 20 ผลงานเพลงของศิลปินดังๆ นับตั้งแต่ ร็อดเจอร์ส และ แฮมเมอร์สไตน์, เลนน่อน และ แม็คคาร์ทนีย์, สตริง, เอลตั้น จอห์น, ดอลลี่ พาร์ตั้น และ เดวิด โบวี่ โดย นิโคล คิดแมน และ ยวน แม็คเกรเกอร์ ร่วมกันร้องเพลงในภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ในเพลง "Come What May" เพลงรักที่แต่งขึ้นมาสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งโปรดิวซ์โดยโปรดิวเซอร์หลายรางวัลแกรมมี่ เดวิด ฟอสเตอร์ และ ไซม่อน แฟร้งเกล็น อีกเพลงคือ "Elephant Love Medley" ส่วนคิดแมน ยังได้ร้องเดี่ยวในเพลง "Sparkling Diamonds", "One Day I'll Fly Away" และ "Diamonds Are a Girl's Best Friend" และร้องคู่กับนักร้องดังชาวอินเดีย อัลคา ยักนิค ในเพลง "Hindi Sad Diamonds" สำหรับเพลง "On Your Song" แม็คเกรเกอร์ร้องร่วมกับปรมาจารย์ทางดนตรี พลาซิโด้ โดมิงโก้ ที่เป็นคนให้เสียงของ Man On The Moon, แม็คเกรเกอร์ และ จาเซ็ค โคแมน ร้องร่วมกับ โจซี่ เฟลิซิอาโน่ ในเวอร์ชั่นแทงโก้ของเพลง "Roxanne" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเมดเล่ย์อาเจนติเนียน แทงโก้ คลาสสิค "Tanguera" โดย มิรีอานิโต้ มอเรส นอกจากนั้นยังมี "Rhythm of the Night" ที่ วาเลอเรีย นำเพลงของ ไดแอน วอร์เร็น มาร้องในสไตล์ฮ็อตลาตินแดนซ์, "Because We Can" ของ Fatboy Slim, "Diamond Dogs" ของ เดวิด โบวี่ ที่ถูกนำมาร้องโดย Beck และ Timbaland, "Complainte de la Butte" เพลงที่เขียนโดยผู้กำกับภาพยนตร์ ฌอง เรอนัวร์ ถูกนำกลับมาร้องใหม่โดย รูฟัส เวนไรท์ |