แอบบี้ (มาดอนน่า) ครูสอนโยคะที่เพิ่งประสบกับความผิดหวังกับแฟนหนุ่มคนล่าสุด กับ โรเบิร์ต (รูเพิร์ท เอฟเวอเรตต์) สถาปนิกเกย์ซึ่งก็ไม่เคยสมหวังในความรัก ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทที่มีอะไรที่เหมือนกันมาก ไม่ว่าจะเป็นคนสนุกสนาน ไม่ใส่ใจต่อกฎเกณฑ์ของสังคม ฉลาด เจ้าเล่ห์ และต่างก็ประสบความผิดหวังในเรื่องความรักด้วยกันทั้งคู่

พวกเขาน่าจะเป็นคู่รักที่สมบูรณ์ได้ หากแต่มีสิ่งเดียวเท่านั้น สกัดกั้นความรู้สึกของพวกเขา ไม่ให้เกินเลยความเป็นเพื่อนได้ นั่นก็คือ ความจริงที่ว่าโรเบิร์ตเป็นเกย์ ความสับสนในชีวิต ทำให้แอบบี้อดสงสัยไม่ได้ว่า ในชีวิตนี้เธอจะมีโอกาสได้พบกับชายที่เธอหวังจะฝากชีวิตให้ และมีลูกด้วยได้หรือไม่ ทั้งคู่ต่างประคับประคองกันและกัน เพื่อพาตัวเองให้พ้นจากวังวนแห่งความทุกข์

อย่างไรก็ดี เรื่องวุ่นๆ ก็เกิดขึ้นจนได้ ความตายของเพื่อนสนิทได้กลายเป็นแรงกระตุ้น ให้เกิดเหตุการณ์ ซึ่งนำมาสู่บททดสอบที่สำคัญ ของสัมพันธภาพระหว่างคนทั้งสอง หลังจากปล่อยความเศร้า ไปกับงานค็อกเทลในบ่ายวันหนึ่ง ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดำเนินไปในทิศทางที่เปลี่ยนไป

ความแปลกแยกจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้ทั้งสองตัดสินใจแยกจากกันสักพัก จนกระทั่งแอ็บบี้พบว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง ทั้งสองรู้สึกประหลาดใจกับผลตามมาครั้งนี้มาก อย่างไรก็ดีพวกเขาก็ตัดสินใจเลี้ยงดูเด็กคนนี้ต่อไป ซึ่งนำเขาและเธอไปสู่สถานภาพของความเป็นพ่อและแม่

หลังจากวันนั้นโลกของคนทั้งสองก็พลันเปลี่ยนไป เป็นเพราะพยานรักซึ่งเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ แซม (นำแสดงโดยดาราหน้าใหม่ มัลคอล์ม สตัมฟ์) ลูกชายของแอ็บบี้กับโรเบิร์ต ได้เติบโตขึ้น เป็นเด็กชายวัยหกขวบ ผู้มีความมั่นใจในตัวเอง พ่อแม่ของเขาต้องพยายามอย่างยิ่ง ที่ต้องรักษาสถานภาพของพ่อแม่ ให้มีความท้าทายที่สุดเท่าที่จะทำได้

อย่างไรก็ตาม สัมพันธภาพที่ไม่ปกติ ทำให้ทั้งคู่รู้สึกว่า ชีวิตขาดอะไรไปบางอย่าง ความสงสัยดังกล่าวถูกไข เมื่อ เบน คูเปอร์ (เบนจามิน แบรตต์) นายธนาคารจากนิวยอร์ค ได้เดินทางมาฝึกโยคะที่สำนักของแอบบี้ สัมพันธภาพชั่วครู่ชั่วยามระหว่างแอ็บบี้กับคูเปอร์ ทำให้ความมั่นคงของครอบครัวเริ่มสั่นคลอน โรเบิร์ตรู้สึกไม่พอใจต่อการเข้ามาของชายผู้นี้มาก

โรเบิร์ตตัดสินใจ ที่จะประคองครอบครัวให้อยู่รอด แม้ว่าพวกเขาอาจไม่ใช่ครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ก็มีความอบอุ่นไม่แพ้กัน..

The Next Best Thing เป็นผลงานการสร้างของบริษัท Lakeshore Entertainment ภายใต้การจัดจำหน่ายของ Paramount Pictures

The Next Best Thing นำแสดงโดย รูเพิร์ท เอฟเวอเรตต์ (An Ideal Husband, William Shakespeare 's A Midsummer Night 's Dream, Inspector Gadget, My Best Friend's Wedding) และ มาดอนน่า (Evita, A League of their Own, Body of Evidence) เป็นผลงานการกำกับ ของผู้กำกับมือรางวัลออสการ์ จอห์น ชเลซิงเกอร์ (Midnight Cowboy, Eye for an Eye, A Kind of Loving, Pacific Heights) จากบทภาพยนตร์ของ โธมัส โรเพเลฟสกี้ (Madhouse)

ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังร่วมแสดงโดย เบนจามิน แบรตต์ (Clear and Present Danger, The River Wild, Demolition Man), ไมเคิล วาร์ทาน (Never Been Kissed, To Wong Foo, Thanks For Everything, Julie Newmar), โจเซฟ ซอมเมอร์, มัลคอมล์ม สตัมฟ์, อิลเลน่า ดักลาส (Stir of Echoes, To Die For), นีล แพทริค แฮริส (Starship Trooper) และ ลินน์ เร้ดเกรฟ (God and Monster, Shine) ในด้านอำนวยการสร้าง ผู้รับผิดชอบในส่วนนี้คือ ทอม โรเซนเบิร์ก (Runaway Bride, Arlington Road, 200 Cigarettes), เลสลีย์ ดิ๊กซั่น (Mrs. Doubtfire, That Old Feeling, Thomas Crown Affair) และ ลินน์ แรดมิน ในขณะที่ในด้านอำนวยการสร้างบริหาร มาร์คัส วิสซิดี้ และริชาร์ด เอส. ไร้ท์ ทำหน้าที่ไป

ทีมงานส่วนอื่นๆ ได้แก่ ผู้กำกับภาพ เอเลียต เดวิส (Forces of Nature, Out of Sight), ผู้ออกแบบงานสร้าง โฮวาร์ด คัมมิ่ง (Double Jeopardy, The Rainmaker, The Long Kiss Good Night), ลำดับภาพโดย ปีเตอร์ ฮอนเนส (L.A. Confidential, Six Degree of Seperation), ดนตรีประกอบโดย เกเบรียล ยาเรด (The English Patient, The Talented Mr. Ripley, Wing of Courage, The Lover, City Of Angle)

ในด้านของเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้ที่เข้ามารับผิดชอบก็คือบริษัท Maverick Recording ซิงเกิล้แรกของซาวด์แทรคชุดนี้ที่ออกมา คือเพลง American Pie เพลงเก่าปี 1971 ของ ดอน แมคคลีน ซึ่งขับร้องโดย มาดอนน่า โดยมี รูเพิร์ท เอฟเวอเรตต์ เป็นผู้ร้องแบ็คอัพ เพลงนี้โปรดิวซ์โดย วิลเลี่ยม ออร์บิท (Ray of Light)

ส่วนเพลงลำดับที่สองที่ออกตามมาติดๆ ก็คือเพลงใหม่ของมาดอนน่าที่มีชื่อว่า Time Stood Still ซึ่งถูกเขียนขึ้นเพื่อภาพยนตร์เรื่อง The Next Best Thing โดยเฉพาะ

นอกจากสองเพลงหลักซึ่งร้องโดยมาดอนน่าแล้ว ซาวด์แทรคชุดนี้ยังอุดมไปด้วยศิลปิน เพลงป็อบ เพลงแดนซ์ และอีเลคโทรนิคชั้นแนวหน้าอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น คริสติน่า อากีเลร่า กับเพลง Don't Make Me Love You, เพลง Boom Boom Ba โดยโปรดิวเซอร์แนวฮิพฮอพ เมทิสซี่, เพลง Bongo Bong โดยศิลปินฝรั่งเศส มานู เชา นักร้องดังจากอังกฤษ แมนดาเลย์ กับ This Life, เพลง If Everybody Looked the Same โดย กรูฟ อามาดา และ Forever and Always จากฝีมือการประพันธ์ของ มือประพันธ์ดนตรีรางวัลออสการ์ เกเบรียล ยาเรด เป็นต้น