ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฮอลลีวู้ด - ครั้งแรกของ โคลัมเบีย พิคเจอร์ส และ อีจีวี กับภาพยนตร์จีนเกียรติยศแห่งเอเชีย จากฝีมือกำกับของ จาง อี้ โหมว (แห่ง จูโด้) ผู้กำกับมือทองแห่งเอเชีย ใน NOT ONE LESS หรือ "คุณครูคนใหม่ (ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว)" คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สิงโตทองคำ ในงานเทศกาล ภาพยนตร์เมืองเวนิส ปี 1999 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา (1999 Venice International Film Festival)

ข้อมูลเพิ่มเติมของภาพยนตร์ : http://ctbv.hypermart.net/
ข้อมูลจาก IMDB






เนื้อเรื่องย่อ

อาจารย์เกา (Gao) ประจำโรงเรียนประถมชุ่ยกวน (Shuiquan) มีความจำเป็นจะต้องหยุดสอนเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อเดินทางไปดูแลพยาบาลแม่ที่ล้มป่วยในต่างเมือง หัวหน้าผู้ดูแลหมู่บ้านได้หาคนที่จะมาทำหน้าที่สอน แทนอาจารย์เกาเป็นการชั่วคราว ซึ่งก็คือ “เหว่ยหมิงฉี” (Wei MingzhI) ด้วยความที่เหว่ยหมิงฉีมีอายุเพียงแค่ 13 ปี อาจารย์เกาจึงคัดค้านหัวหน้าผู้ดูแลหมู่บ้าน ไม่เห็นด้วยที่จะเอาเด็กสาวรุ่นมาสอนนักเรียนที่มีอายุไล่เลี่ยกันกับเธอ หัวหน้าผู้ดูแลหมู่บ้านให้เหตุผลว่าในชนบทห่างไกลเช่นนี้ การจะหาคนที่เหมาะสมมาสอนแทนไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายนัก เอาเป็นว่าอย่างน้อย ๆ เธอก็มาช่วยดูแลนักเรียนให้ในช่วงที่อาจารย์เกาไม่อยู่ เป็นการชั่วคราวก็แล้วกัน

ช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ๆ นักเรียนในชั้นเรียนของอาจารย์เกามีประมาณ 40 คน แต่กลับค่อย ๆ ลดจำนวนลงเหลือแค่ 28 คน อาจารย์เกาเตือนเหว่ยหมิงฉีว่า ระหว่างที่เขาไม่อยู่ เธอจะต้องดูแลไม่ให้นักเรียนในชั้นลดจำนวนลงแม้แต่คนเดียว และถ้าสามารถทำได้ตามนั้นเขาสัญญาจะให้เงินแก่เธอ 10 หยวนเป็นกรณีพิเศษ

เหว่ยหมิงฉีเคร่งครัดตรวจสอบรายชื่อนักเรียนในชั้นทุกวัน โดยเธอมอบหมายให้นักเรียนในชั้น คัดลอกบทเรียนจากกระดานใส่สมุดส่วนตัว เธอไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจเลยว่าพวกเขาจะเรียนรู้อะไร แค่ขอให้พวกเขาอยู่ครบตามทะเบียนรายชื่อไม่หายไปไหนก็พอ หลังจากที่เธอเขียนเนื้อหาขึ้นกระดานแล้ว เหว่ยหมิงฉีก็จะออกไปนั่งนอกห้องเฝ้าระแวดระวัง ไม่ให้มีนักเรียนในชั้นแอบหนีออกไปได้แม้แต่คนเดียว

จางฮุ้ยเคอ (Zhang Huike) นักเรียนในชั้นวัย 10 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กฉลาดแต่ค่อนข้างดื้อและซน เขามักจะแกล้งเหว่ยหมิงฉีเป็นประจำ และด้วยปัญหาหนี้สินของครอบครัว ในเช้าวันหนึ่งจางฮุ้ยเคอก็ไม่ได้ไปเรียนตามปกติ เหว่ยหมิงฉีมารู้ทีหลังว่าเขาถูกบังคับให้ไปหางานทำในเมือง

คำพูดเตือนของอาจารย์เกา ยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของเหว่ยหมิงฉีตลอดเวลา และแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าจางฮุ้ยเคอเดินทางไปแห่งหนตำบลใด แต่เหว่ยหมิงฉีกลับตัดสินใจเดินทางเข้าไปในเมือง เพื่อตามหาจางฮุ้ยเคอ พร้อมทั้งพาเขากลับมาเข้าชั้นเรียนตามเดิม..

ข้อมูลเพิ่มเติม

ตัวละครทั้งหมดในหนังเรื่องนี้ ล้วนรับบทโดยนักแสดงสมัครเล่น.. นักแสดงมือใหม่เหล่านี้ล้วนแสดงบทบาทที่ใกล้เคียงหรือไม่ก็ตรงกันกับบุคลิก ความเป็นอยู่ที่เป็นจริงของพวกเขาเอง ยกตัวอย่างเช่น ตัวละครหลักของเรื่อง - เหว่ยหมิงฉี นักเรียน/ผู้สอนแทน วัย 13 ปี ก็แสดงโดยนักเรียนวัย 13 ปี ที่ชื่อ “เหว่ยหมิงฉี” , หัวหน้าผู้ดูแลหมู่บ้าน ก็แสดงโดยหัวหน้าผู้ดูแลหมู่บ้านในชนบทจริงๆ

 

ประวัติและผลงานของผู้กำกับภาพยนตร์

จางอี้โหมว (Zhang Yimou) เกิดที่เมืองซีอาน (Xian) ประเทศจีน เมื่อปี 1950… ตอนที่ประเทศจีนเกิดการปฏิวัติวัฒนธรรมในปี 1966 เขากำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยม จางอี้โหมวต้องหยุดเรียนในปี 1968 และถูกส่งตัวให้ไปทำงานในเขตชนบท โดยเริ่มต้นจากการทำไร่ในเขตมณฑลฉางซี (Shanxi) จากนั้นจึงได้ไปทำงานเป็นคนงานในโรงทอ ช่วงปี 1971 – 1978 และด้วยความสนใจส่วนตัวที่มีต่อศิลปะ และการถ่ายภาพ เขาจึงพยายามถ่ายภาพนิ่งเป็นงานอดิเรกอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะแทบไม่มีสำนักพิมพ์ไหน สนใจซื้อภาพของเขาไปพิมพ์ขายเลยสักแห่งเดียว

เมื่อตอนที่สถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง (Beijing Film Academy) ได้จัดให้มีการสอบคัดเลือกในปี 1978 จางอี้โหมวได้เข้าร่วมสอบ และผ่านการคัดเลือกด้วยคะแนนสูงเป็นที่น่าพึงพอใจ แต่เขากลับถูกปฏิเสธเนื่องจากขณะนั้นเขามีอายุ 27 ปี มากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ถึง 5 ปี… ถึงแม้ว่าจางอี้โหมวจะล้มเหลวจากการยื่นประท้วงคำตัดสินใจถึงสองครั้งสองครา แต่เขาก็ไม่ย่อท้อส่งจดหมายประท้วงต่อผู้ว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดยให้เหตุผลว่าเหตุการณ์การปฏิวัติวัฒนธรรมส่งผลให้เขาเสียเวลาไปกว่า 10 ปีเต็ม อีก 2 เดือนต่อมา เขาก็ได้รับจดหมายยินยอม ให้เข้าศึกษาที่สถาบันภาพยนตร์ แผนกการกำกับภาพ

หลังจากจบการศึกษาในปี 1982 จางอี้โหมวได้รับมอบหมายให้ไปทำงานที่กวางสี ฟิล์ม สตูดิโอ (Guangxi Film Studio) ปี 1985 เขาได้ย้ายไปทำงานที่ซีอาน ฟิล์ม สตูดิโอ (Xian Film Studio) จางอี้โหมวได้ร่วมงานในฐานะผู้กำกับภาพให้กับผู้กำกับจางจุนเชา (Zhang Junchao) ในผลงานภาพยนตร์เรื่อง One And The Eight (1982) และได้ร่วมงานกับผู้กำกับเฉินไค่เก๋อ (Chen Kaige) ในผลงานภาพยนตร์เรื่อง Yellow Earth (1983) และ The Big Parade (1985)

Red Sorghum คือผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของจางอี้โหมวในปี 1988 และหนังเรื่องนี้ก็เป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของ กงลี่ (Gong Li) ด้วยเช่นกัน Red Sorghum ได้รับรางวัลหมีทองคำ (Golden Bear Award) สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองเบอร์ลินปี 1989 หลังจากนั้นเขายังคงร่วมงานกับกงลี่เรื่อยมา รวมถึงผลงานดัง ๆ อย่าง Ju Dou (1990) –หนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมในปี 1991 , Raise The Red Lantern (1991) – หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลสิงโตเงิน (Silver lion) จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมด้วย , The Story Of Qiu Ju (1992) ได้รับรางวัลสิงโตทองคำ (Golden Lion) จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิสปี 1992 , To Live (1994) ได้รับรางวัล Grand Jury Prize ปาล์มทองคำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ , Shanghai Triad ได้รับการคัดเลือก ให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 1995 และผลงานล่าสุดก่อนหน้านี้ของจางอี้โหมวก็คือ Keep Cool ซึ่งได้รับเชิญให้ฉายเปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิสปี 1996 ช่วงปี 1997 เขาได้รับเกียรติให้กำกับอุปรากรของปุชชินี่ เรื่อง Turandot ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี โดยเป็นการทำงานร่วมกับวาทยากรชื่อดัง ซูบิน เมห์ตา และในปี 1998 ทั้งสองก็ได้ทำงานร่วมกันอีกครั้ง ด้วยการเปิดแสดงอุปรากรเรื่องนี้ภายในพระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน