เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในค่ำคืนอันเหน็บหนาว ในนครลอนดอนยุคเอ๊ดเวิร์ดเดียน เมื่อ เวนดี้ ดาร์ลิ่ง (เรเชล เฮิร์ด-วู้ด) สะกดน้องๆ ของเธอ ด้วยเรื่องราวของการดวลดาบ การฟันดาบ และ กัปตันฮุ๊ก (เจสัน ไอแซ็คส์) โจรสลัดผู้เป็นตำนาน ผู้ไม่เคยหวั่นเกรงสิ่งใด ยกเว้นนาฬิกาที่ส่งเสียงเดินติ๊กๆ แต่สำหรับเวนดี้ นาฬิกาเดินหน้าติ๊กๆ ไปเช่นกัน พ่อของเธอบอกว่าถึงเวลาแล้ว ที่เวนดี้จะต้องโตเป็นผู้ใหญ่ หลังจากคืนนี้ จะไม่มีการเล่านิทานอีกแล้ว เธอจะต้องเข้ารับการอบรมจาก ป้ามิลลิเซนต์ (ลินน์ เร็ดเกรฟ) ผู้แสนเข้มงวด เพื่อให้เป็นแม่บ้านแม่เรือน และเตรียมพร้อมสำหรับการแต่งงาน

ที่พวกดาร์ลิ่งไม่รู้ ก็คือ ปีเตอร์ แพน (เจเรมี่ ซัมป์เตอร์) ชอบเรื่องราวที่เวนดี้เล่ามาก และเดินทางไกลแสนไกล เพื่อมาฟังเรื่องที่เธอเล่า การปรากฏกายของเขาในค่ำคืนนั้น พร้อมด้วยนางฟ้าตัวน้อยขี้อิจฉาที่ชื่อ ทิงเกอร์ เบลล์ (ลูดิไวน์ แซ็กเนียร์) ช่วยจุดประกายการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ สำหรับเวนดี้และน้องชายของเธอ เด็กๆ ที่บินตามปีเตอร์ แพนออกไปนอกหน้าต่าง ราวกับพวกเขาเป็นนกฝูงเล็กๆ ล่องลอยอยู่เหนือตึกระฟ้า ที่อาบไปด้วยแสงจันทร์ของนครลอนดอน ผ่านกาแล็คซี่ของดาวเคราะห์น้อยใหญ่ เพื่อมุ่งหน้าไปยังเนฟเวอร์แลนด์อันแสนมหัศจรรย์ ที่ซึ่งพวกเขาจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่เป็นอิสระจากกฎเกณฑ์ของผู้ใหญ่ โดยอาศัยอยู่กับปีเตอร์กับกลุ่มเด็กลอสต์บอยส์ ในบ้านใต้ดินที่สุดแสนลึกลับของพวกเขา

หลังจากต้องเผชิญหน้ากับเหล่าโจรสลัด นางเงือกที่คิดร้าย และเจ้าจระเข้จอมเจ้าเล่ห์ และที่แย่ที่สุดก็คือ ตะขอเหล็กบนมือขวาของฮุ๊ก เวนดี้และน้องๆ ของเธอได้รู้ว่าพวกเขาเป็นเช่นไร และสงครามที่ดำเนินมาตลอด ระหว่างปีเตอร์และฮุ๊ก ได้มาถึงจุดไคลแม็กซ์อันสุดตื่นเต้น ท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนมหัศจรรย์ ของโลกที่ต้องมนต์ของ ..."เนฟเวอร์แลนด์"

ลองจินตนาการถึงโลก ที่ไม่เหมือนโลกใดที่คุณเคยเห็นมา ที่ซึ่งทุกๆ วันคือการผจญภัย ที่ซึ่งคุณไม่ต้องเติบโตหรือแก่เฒ่า นั่นคือโลกของ ปีเตอร์ แพน ดาบส่งเสียงกระทบเกรียวกราว เมื่อคู่ปรับตรงเข้าห้ำหั่น แผ่นกระดานที่สั่นไหวของเรือจอลลี่ โรเจอร์, ความตื่นเต้นอันล้นพ้นของการบิน... และพลังอันแสนมหัศจรรย์ของจุมพิตที่ต้องซ่อนเร้น

เรื่องราวชั่วนิรันดร์ของการผจญภัย การค้นพบ และความฝัน Peter Pan ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับคนดูทั่วโลก นับแต่ที่เผยเรื่องราวครั้งแรก ในละครเวทีของลอนดอนเมื่อ 100 ปีที่แล้ว เรื่องราวคลาสสิกของ เจ.เอ็ม.แบร์รี่ (James M. Barrie) เกี่ยวกับเด็กชายที่ไม่มีวันโต และเด็กหญิงที่ครอบครัวของเธอยืนกรานว่า เธอต้องเติบโต เคยถูกนำมาบอกเล่าครั้งแล้วครั้งเล่า และได้รับความนิยมมาตลอดหลายปี แต่ไม่เคยมีครั้งใด ที่ได้ขึ้นจอภาพยนตร์อย่างเต็มภาคภูมิเช่นนี้

ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส, โคลัมเบีย พิคเจอร์ส และ เรฟโวลูชั่น สตูดิโอส์ รวมพลังกัน เพื่อนำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เรื่องนี้ ด้วยงานสร้างระดับเอพิค ที่มุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงแก่นแท้ ในผลงานของนักเขียนชั้นยอด ด้วยจินตนาการอันไร้ขอบเขต ความกระหายในการผจญภัย และความมหัศจรรย์ยุคใหม่ ของงานวิชวลเอฟเฟ็กต์ มือเขียนบทและผู้กำกับ พี.เจ.โฮแกน (My Best Friend’s Wedding, Muriel's Wedding) และผู้อำนวยการสร้าง ลูซี่ ฟิสเชอร์ และ ดักลาส วิก (Gladiator, Stuart Little) ได้นำความมหัศจรรย์ อันตราย และความตื่นเต้น แห่งจินตนาการที่ไม่เหมือนใครของ เจ.เอ็ม.แบร์รี่ มาขึ้นจอใน Peter Pan ที่เป็นเวอร์ชั่นใช้คนแสดงเป็นเรื่องแรก นับแต่ยุคภาพยนตร์เงียบ

นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กชายที่ชื่อ เจเรมี่ ซัมป์เตอร์ (Frailty) รับบทนำประกบบทกับ เจสัน ไอแซ็คส์ (The Patriot, Harry Potter and the Chamber of Secrets) ในบทกัปตันเจมส์ ฮุ๊ก ทีมนักแสดงของ Peter Pan เป็นการผสมผสาน ระหว่างเหล่านักแสดงที่มีประสบการณ์ กับนักแสดงหน้าใหม่ ที่ฉายแววความสามารถอย่างโดดเด่น นอกเหนือจากซัมป์เตอร์และไอแซ็คส์แล้ว ยังร่วมแสดงโดย โอลิเวีย วิลเลี่ยมส์ (The Sixth Sense, Rushmore) ในบทมิสซิสดาร์ลิ่ง ที่งดงามและเห็นอกเห็นใจ, ลินน์ เร็ดเกรฟ ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์ (Gods and Monsters) รับบทเป็นป้ามิลลิเซนต์ที่แสนเฮี๊ยบ, ริชาร์ด ไบรเออร์ส (The Good Life) รับบทสมี ลูกน้องมือขวาของฮุ๊ก และ ลูดิไวน์ แซ็กเนียร์ ขวัญใจของชาวฝรั่งเศส (Swimming Pool) รับบทเป็นนางฟ้าแสนซน ทิงเกอร์เบลล์, เรเชล เฮิร์ด-วู้ด ซึ่งทีมงานได้ตัวมาจากการแคสติ้งแบบเปิดกว้างในลอนดอน ประเดิมบทบาททางจอภาพยนตร์ ได้อย่างน่าประทับใจในบทเวนดี้

พี.เจ.โฮแกน เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Peter Pan ร่วมกับ ไมเคิล โกลเดนเบิร์ก (Bed of Roses, ร่วมเขียนบท Contact) โดยตั้งใจว่า จะคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณของผลงานต้นแบบของ เจ.เอ็ม.แบร์รี่ ทีมผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ ร่วมสานความตั้งใจเดียวกัน ลูซี่ ฟิสเชอร์ พยายามจะสร้างภาพยนตร์เรื่อง Peter Pan มานานกว่า 20 ปีแล้ว และบัดนี้ เธอได้ทำให้ฝันนั้นเป็นจริง โดยร่วมมือกับผู้อำนวยการสร้าง ดักลาส วิก ซึ่งเป็นทั้งสามีและหุ้นส่วนของเธอ พร้อมด้วยบริษัท เร็ดวาก้อน เอนเตอร์เทนเม้นต์ และผู้อำนวยการสร้าง แพทริก แม็คคอร์มิก

โฮแกนที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ในออสเตรเลีย ประเทศบ้านเกิดของเขา ได้ร่วมงานกับทีมงานหลังกล้องชื่อดังระดับโลก อาทิเช่น ผู้กำกับภาพ โดนัลด์ แม็คอัลไพน์ (ผู้ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Moulin Rouge), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ โรเจอร์ ฟอร์ด (ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Babe), คอสตูม ดีไซเนอร์ เจเน็ต แพ็ตเตอร์สัน (ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วสามครั้งจาก The Piano, Portrait of a Lady และ Oscar and Lucinda) และผู้แต่งดนตรีประกอบ เจมส์ นิวตัน โฮเวิร์ด (ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์มาแล้วถึง 5 เรื่อง อาทิเช่น My Best Friend’s Wedding)

การ์ธ คราเว่น (Legally Blonde, Restoration) และ ไมเคิล คาห์น มือตัดต่อซึ่งเคยร่วมงานกับสตีเว่น สปีลเบิร์กมานาน (เขาเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 6 ครั้ง และเคยคว้ารางวัลมาได้จากภาพยนตร์เรื่อง Saving Private Ryan, Schindler’s List และ Raiders of the Lost Ark) ทำหน้าที่ลำดับภาพให้กับภาพยนตร์เรื่อง Peter Pan นี้ สก็อตต์ ฟาร์ร่าร์ จาก อินดัสเตรียล ไลต์ แอนด์เมจิค - ILM (ผู้เคยคว้ารางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Cocoon และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงจาก A.I. Artificial Intelligence และ Backdraft) เป็นผู้นำทีมวิชวลเอฟเฟ็กต์ มาร์ก ฟอร์เกอร์ ทำหน้าที่นำทีมของ ดิจิตอล โดเมน ซึ่งเป็นผู้สร้างวิชวลเอฟเฟ็กต์ฉากสำคัญๆ หลายฉาก และ เคลย์ พินนีย์ ทำหน้าที่เป็นสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ โมฮัมเหม็ด อัล ฟาเย็ด, เกล ลีออน และ โจเซลิน มัวร์เฮ้าส์ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหาร ชาร์ลส์ นิวเวิร์ธ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหารร่วม