เรื่องราวของนักชกเจ้าสังเวียนผู้ยิ่งใหญ่ ที่จะกลับมาขึ้นชกยกสุดท้าย...

เมื่อสามสิบปีก่อน เขาก็เป็นแค่ชายไร้อนาคต ที่ทำงานให้เจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้รายเล็กๆ ในย่านเซ้าธ์ไซด์ของฟิลาเดลเฟีย แล้วจู่ๆ ชะตาฟ้าลิขิตให้ได้ขึ้นชกกับ อพอลโล่ ครี้ด แชมป์โลกผู้เกรียงไกร นั่นเป็นเสี้ยวนาทีแห่งชีวิต ที่มีโอกาสแค่หนึ่งในล้านเลยทีเดียว ซึ่งก็เขาต้องการเพียงแค่จะประสบความสำเร็จขั้นสุดยอดเท่านั้น ความกล้าหาญกับความอดทนของเขา ทั้งในการดำรงชีวิตและบนสังเวียนผืนผ้าใบ เป็นตัวอย่างแห่งความหวังให้กับผู้คนนับล้านชีวิต

บัดนี้วันเวลาที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุดของ ร็อคกี้ บัลโบ (รับบทโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน) ได้ล่วงเลยผ่านไปแล้ว จากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น "อิตาเลี่ยนจอมแกร่ง" (Italian Stallion) ก็เหลือเพียงความทรงจำเด็ดๆ ไว้เล่าให้ลูกค้าร้านอาหารของเขาฟังทุกค่ำคืน ร้าน Adrian’s ที่เขาตั้งชื่อตามชื่อของภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่อาจตัดใจได้เสียที ในขณะที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน โรเบิร์ต (รับบทโดย ไมโล เวนทิมิเกลีย) ก็ไม่ค่อยสุงสิงกับพ่อสักเท่าไหร่ เขาพยายามจะก่อร่างสร้างตัวให้ยืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง จนแทบไม่มีเวลาว่างเอาเสียเลย ทั้งสังขารที่แก่ตัวลงทุกวัน และผลจากการกรำศึกมานับสังเวียนไม่ถ้วน ทำให้ร็อคกี้ทุกวันนี้ไม่สง่าผ่าเผยเหมือนเก่า หมัดก็ไม่หนักดังเดิม เดินไปไหนมาไหนก็ไหล่ห่อ จนแทบไม่เหลือเค้าลางแห่งวันที่เคยเกรียงไกร หากจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง ก็แค่เพียงเรื่องเก่าๆ เล่าขานไปวันๆ แต่ลึกลงไปในใจแล้ว เขาก็ยังคงเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ...ในใจของเขาแล้ว ร็อคกี้ยังคงเป็นนักสู้อยู่ตลอดเวลา

เมสัน "เดอะ ไลน์" ดิ๊กซ่อน (รับบทโดย แอนโทนิโอ ทาร์เวอร์) เป็นนักชกเจ้าของตำแหน่งแชมเปี้ยนรุ่นเฮฟวี่เวท ที่ได้มาจากการชกกับคู่ต่อสู้ที่ไม่เก่งกาจนัก จนแทบไม่ได้พิสูจน์ผีไม้ลายมือในสังเวียนเอาเลย เพราะไม่เคยเจอกับคู่ชก ที่กระดูกมวยพอฟัดพอเหวี่ยงเลยสักคน ดิ๊กซ่อนจึงเป็นแค่นักชกมีศิลปะเชิงมวยเพียบพร้อม แต่ไม่ได้ใจแฟนมวยเลยสักนิดเดียว นั่นก็เท่ากับไร้อนาคตในวงการกีฬาโดยสิ้นเชิง...

แล้วก็เกิดศึกเสมือนจริง ที่อาศัยคอมพิวเตอร์สร้างสถานการณ์ ให้เขาได้เปรียบเชิงมวยกับ ร็อคกี้ บัลโบ สมัยที่นักชกผู้เกรียงไกรยังรุ่งโรจน์ ถ้าจับทั้งคู่มาดวลหมัดกัน ใครจะเป็นเจ้าสังเวียน ระหว่าง... ดิ๊กซ่อนลีลาแย็บและฟุตเวิร์คสุดเฉียบ กับ ร็อคกี้ใจแกร่งแรงไม่มีถอย ผู้จัดการของดิ๊กซ่อนก็คิดได้ว่า นี่จะเป็นวืธีเรียกศรัทธาจากแฟนมวยได้เป็นอย่างดี แล้วผู้คนน่าจะหันมาสนใจการชกชิงแชมป์เฮฟวี่เวทกันอีกครั้ง

จากแนวคิดที่เป็นเพียงเรื่องขำๆ คิดกันไปได้ กลายเป็นศึกชิงเจ้าสังเวียน ที่ดึงให้ ร็อคกี้ ซึ่งอายุอานามมากกว่า ดิ๊กซ่อน คู่ชกหนุ่ม เกือบ 2 เท่า ได้กลับขึ้นสังเวียน ที่เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้โอกาสอีกครั้ง และเป็นโอกาสหนึ่งในล้านที่จะพิสูจน์ตัวเอง และให้คนที่เขารักได้ประจักษ์ว่า ถึงสังขารจะชรา แต่จิตใจกลับแกร่งกว่าเดิม...

บริษัทภาพยนตร์ MGM Pictures ภูมิใจเสนอ Rocky Balboa การกลับมาของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน นักแสดง-ผู้กำกับภาพยนตร์-ผู้เขียนบทภาพยนตร์ ในบทที่แจ้งเกิดให้กับเขาบนถนนสายบันเทิง และกลายเป็นตัวละครระดับตำนานของโลกไปแล้ว บริษัทภาพยนตร์ The Revolution Pictures และ Chartoff / Winkler Production ร่วมนำเสนอบทสุดท้าย ของมหากาพย์อายุ 30 ปีที่เริ่มปฐมบทเมื่อปี 1976 ด้วย Rocky ภาพยนตร์ชื่อเดียวกันกับพระเอกของเรื่อง ซึ่งกลายเป็นม้ามืด ทุบสถิติทำรายได้ถล่มทลายทั่วโลก และยังคว้ารางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, สาขากำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และสาขาตัดต่อภาพยอดเยี่ยม จากการเข้าชิงมากถึง 10 สาขา

ภาพยนตร์เรื่อง Rocky Balboa หรือ ร็อคกี้ ราชากำปั้น...ทุบสังเวียน ก็ไม่ต่างจากภาคก่อนหน้านี้ ที่ได้ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Rocky, Cop Land, Daylight, Demolition Man, Cliffhanger, Rambo) มานำแสดงและเขียนบทภาพยนตร์ เขายังกำกับ และอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เองด้วย ทั้งยังได้นักแสดงคนคุ้นเคย กลับมารับบทเดิมอย่าง เบิร์ท ยัง (Transamerica, Mickey Blue Eyes, Rocky) รับบท พอลลี่ เพื่อนซี้คู่กัดและพี่เขยของร็อคกี้ ที่เคยร่วมแสดงใน Rocky ทุกภาค และ เพโดร โลเวล (Rocky) รับบท สไปเดอร์ อดีตคู่ชกที่ปัจจุบันมาแกร่วอยู่ในร้านอาหารของร็อคกี้ เพราะเขาไม่รู้จะไปไหน

เสริมทัพนักแสดงด้วย เจอรัลดีน ฮิวจ์ (Duplex, ซีรีส์ The Guardian, ER) รับบท มารี แม่ม่ายลูกติดที่เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น ร็อคกี้เคยเดินไปส่งเธอถึงบ้าน และเตือนให้เห็นถึงอันตราย ของการใช้ชีวิตขลุกอยู่กับอันธพาลข้างถนน, เจมส์ ฟรานซิส เคลลี่ (ซีรีส์ 7th Heaven, On Common Ground) รับบท สเต็ปส์ ลูกชายของมารี, ไมโล เวนทิมิเกลีย (Stay Alive, Cursed, She's All That, ซีรีส์ Opposite Sex, CSI: Crime Scene Investigation, American Dreams, Gilmore Girls) รับบท โรเบิร์ต ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของร็อคกี้ ที่พยายามดิ้นรนใช้ชีวิต ให้ไกลจากชื่อเสียง และความโด่งดังของพ่อให้มากที่สุด, แอนโทนิโอ ทาร์เวอร์ แชมเปี้ยนไล้ท์เฮฟวี่เวท รับบท เมสัน "เดอะ ไลน์" ดิ๊กซ่อน เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกผู้เกรียงไกรตามท้องเรื่อง

ภาพยนตร์เรื่อง Rocky Balboa อำนวยการสร้างภาพยนตร์โดย ชาร์ลส์ วิงค์เลอร์, วิลเลี่ยม ชาร์ทต๊อฟ, เดวิด วิงค์เลอร์, เควิน คิง และ กาย รี้ดเดล โดยมีคู่หูผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Rocky เออร์วิน วิงค์เลอร์ กับ โรเบิร์ต ชาร์ทต๊อฟ เป็นผู้บริหารงานอำนวยการสร้างภาพยนตร์ พร้อมด้วยคณะผู้สร้างภาพยนตร์แถวหน้าอย่าง คล้าร์ก แม็ทธิส (Norbit, Ready to Rumble, The Perfect Score) เป็นผู้กำกับภาพ, ฟรังโก้ คาร์โบน (Wonderland, Down in the Valley, Hostel, Cabin Fever, Psycho Beach Party) เป็นผู้ออกแบบสร้างสรรค์ฉาก, เกร็ทเช่น แพ็ทช์ (Tha Mask, Norma Jean and Marilyn, The Royal Tenenbaums) เป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย, ฌอน อัลเบิร์ทสัน (Rambo IV: Pearl of the Cobra, ซีรีส์ North Shore, Cold Case) เป็นผู้ตัดต่อภาพยนตร์ และ บิล คอนติ (The Thomas Crown Affair, Spy Hard, The Karate Kid, Baby Boom, Victory) ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ตั้งแต่ภาคแรก กลับมาสร้างตำนานดนตรีประกอบภาพยนตร์ ในภาคสุดท้ายนี้ด้วย

บริษัทภาพยนตร์ Twentieth Century Fox เป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง Rocky Balboa ทั่วโลก