การให้คำมั่นว่าจะรักกันนิรันดร มันก็ไม่ต่างกับคำมั่นวันปีใหม่หรอก - ตั้งใจน่ะมันง่าย แต่ปฏิบัติให้ได้นี่มันยากยิ่งนัก ก็แทนที่จะต้องรับคำว่า จะครองรักกัน "ตราบจนวันตาย" ทำไมไม่ลองเสริมคำถามเข้าไปอีกสักหน่อยว่า : "แล้วคุณรู้ไหมว่ามันยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด ที่จะรักษาคำมั่นนั้นไว้ให้ได้?" แล้วถ้าคุณมั่นใจนักล่ะก็ คุณอาจจะไม่ต้องตอบว่า "ฉันสัญญา" คุณอาจจะตอบว่า "ฉันจะพยายาม"...

แค็ทที่ จอร์แดน (มิเชล ไฟเฟอร์) ผู้ยึดมั่นในชีวิตสมรสอย่างแน่วแน่ เธอต้องการให้ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง, ต้องการรู้คำตอบของทุกคำถาม แม้ว่าจะเป็นข้อข้องใจเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม และมักปิดตัวเองจากปัญหาทุกอย่าง เธอเป็นผู้ออกแบบคำศัพท์อักษรไขว้ ที่พยายามไขว่คว้าหาคู่ชีวิต มาเติมอีกครึ่งหนึ่งให้เต็มสมบูรณ์ นี่เองกระมังที่ทำให้เธอหลงรัก เบ็น (บรู้ซ วิลลิส) ตรงที่เขาเป็นคนช่างฝัน จินตนาการกว้างไกล, สดชื่นสดใส, มีชีวิตมีชีวา และขี้เล่นชนิดหาตัวจับยาก

ส่วน เบ็น ก็เป็นนักเขียนที่เชื่อว่า ทุกความรักจะจบลงอย่างหวานชื่นเสมอ แต่ชีวิตจริงกลับมีรายละเอียดลึกซึ้งกว่านั้นมากมายนัก และเมื่อเขาหา Bactine ไม่เจอก็จะปล่อยให้ไฟเหนืออ่างล้างหน้า กระพริบจนแดงอยู่อย่างนั้น ปรัชญาของ เบ็น ตามแบบที่ แค็ทที่อธิบายไว้ ก็เปรียบได้กับหนังสือสำหรับเด็กเรื่อง Harold and the Purple Crayon แฮโรลด์เป็นเด็กน้อยที่พยายามสร้างโลกส่วนตัว ให้ได้อย่างใจปรารถนา แต่ไม่ใช่อย่างที่โลกแห่งความเป็นจริงพึงเป็น

ความผูกพันค่อย ๆ เหือดหายไปจากความสัมพันธ์ สามีภรรยาแห่งครอบครัวจอร์แดนทดลองแยกกันอยู่ ในระหว่างที่ลูกๆ คือ จอช วัย 12 ปี และเออริน วัย 10 ปีไปพักแค้มป์ภาคฤดูร้อน ทั้งเบ็นและแค็ทที่ต่างก็ตั้งแง่เข้าใส่กัน แทนที่จะเป็นประเด็นเข้าอกเข้าใจกัน และต่างก็เชื่อว่าการปิดตัวเงียบ ในมุมสงบของใครของมัน จะช่วยแก้ปัญหาได้ ช่วงที่ต่างแยกกันอยู่นั้น ทั้งเบ็นและแค็ทที่ก็หวนรำลึก ถึงความหลังครั้งรักยังหวานชื่น -- งานเต้นรำ, การเอาอกเอาใจกันและกัน, ล้วนสร้างความผูกพันให้สองกลายเป็น "เรา" ได้นั่นเอง

ทำไมหนอ ความน่ารักเหล่านี้ที่ครั้งหนึ่ง เคยทำให้ต่างคนต่างหลงไหลได้ปลื้มกันเสียเหลือเกิน กลับกลายเป็นเรื่องจุกจิกกวนใจให้รำคาญ จนบางครั้งลืมไปแล้วว่า ความสัมพันธ์นั้นยิ่งใหญ่เพียงใด? แล้วเมื่อไรกันเล่าที่จะได้สติว่า ถ้าขาดเขาไปเราก็ไม่สมบูรณ์?

ภาพยนตร์เรื่อง The Story of Us เป็นผลงานการสร้างของ Castle Rock Entertainment จัดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา และแคนาดาโดย Universal Pictures ส่วน Warner Bros. เป็นผู้จัดจำหน่ายทั่วโลก ร็อบ ไรเนอร์ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ จากบทของ อลัน ซวีเบล และอำนวยการสร้างโดย เจสซี่ เนลสัน, เจฟฟรี้ สต็อต และ แฟร้งค์ แค็พปร้า ที่สาม เป็นผู้บริหารงานอำนวยการสร้างภาพยนตร์

ร็อบ ไรเนอร์ นักสร้างภาพยนตร์เจ้าของรางวัลมากมาย อาจหาญมากำกับภาพยนตร์รักปนตลก ที่ตั้งคำถามน่าคิดไว้ว่า : ชีวิตสมรสที่ยืนยาวกว่า 15 ปีมาแล้ว จะยังหวานชื่นอยู่หรือเปล่า?

The Story of Us นำแสดงโดย บรู้ซ วิลลิส และ มิเชล ไฟเฟอร์ ว่าด้วยการตรวจสอบชีวิตสมรสของ เบ็น และ แค็ทที่ จอร์แดน หลังจากครองชีวิตคู่กันมานานถึง 15 ปีต่างก็เริ่มบาดหมางกันด้วยวิวาทะอมตะที่ว่า : สิ่งที่ทำให้พวกเขาเคยแรกรักกันอย่างหวานชื่นนั้น กลับมาเป็นตัวแยกพวกเขาให้ไกลห่างออกจากกันในวันนี้?

ร็อบ ไรเนอร์ ยังร่วมแสดงในภาพยนตร์ด้วย เขารับบทเป็น สแตน เพื่อซี้ของเบ็น ที่ช่างเป็นเจ้าปรัชญาการใช้ชีวิตเสียเหลือเกิน เขาแต่งงานแล้วกับ ราเชล (รับบทโดย ริต้า วิลสัน) เพื่อนที่คบกันมานาน จนตัดสินใจร่วมหอลงโรงกันในที่สุด คู่สมรสทั้งสองคู่นี้ต่างก็ใช้ชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ไม่ว่าจะเป็น การฉลองครบรอบแต่งงาน, วันคลอดลูก ๆ, งานฉลองปีใหม่ และงานฉลองวันเกิด สแตน และ ราเชล เปรียบได้กับ เฟร็ด และ เอ็ทเธล เมิร์ซ ของครอบครัวจอร์แดนเลยทีเดียว

นอกจากนั้น The Story of Us ยังได้ พอล รีสเซอร์, ทิม แม็ทธีสัน และ จูลี่ แฮ็กเกอตี้ มาร่วมแสดงด้วย นอกจากนั้นก็ยังได้ดาราอาวุโส มารับบทเป็นพ่อแม่ของเบ็น และแค็ทที่ คือ เร็ด บัทท่อน, เบ็ทตี้ ไวท์, เจน มีโดว์ และ ทอม โพสตั้น

พร้อมด้วยคณะผู้สร้างภาพยนตร์ฝีมือฉกาจ อาทิ ไมเคิ้ล แชพแมน (ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง รางวัล Academy Award nominee จาก The Fugitive และ Raging Bull) มาเป็นผู้กำกับภาพ; ลิลลี่ คิลเวิร์ท (ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง รางวัล Academy Award nominee จาก Legends of the Fall) มาเป็นผู้ออกแบบสร้างสรรค์ฉาก; โรเบิร์ต ลีตั้น (ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง รางวัล Academy Award nominee จาก A Few Good Men) และ อลัน เอ็ดเวิร์ด เบล (จาก The Green Mile, Ghosts of Mississippi และ The American President) มาร่วมกันตัดต่อภาพยนตร์; อีริค แคล็พตั้น ERIC CLAPTON (จาก Lethal Weapon ทั้งสี่ภาค และ Rush) มาประพันธ์เพลงปละดนตรีประกอบภาพยนตร์ร่วมกับ มาร์ค ไชแมน (ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง รางวัล Academy Award nominee จาก Sleepless in Seattle, The American President และ The First Wives Club) และ เชย์ คันลิฟ (จาก A Civil Action, City of Angles และ Dolores Claiborne) มาเป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย