ที่เมืองบอสตัน ประชาชน 32 คน พร้อมกับสิ่งมีชีวิตทุกชีวิต ภายในรัศมีสิบช่วงตึก ล้มตายลงอย่างรวดเร็ว ในซานฟรานซิสโก สะพานโกลเด้นเกตพังพินาศ ทำให้ประชาชนหลายร้อยคนเสียชีวิต ที่จตุรัสทราฟัลการ์ในลอนดอน ฝูงนกพิราบเสียความสามารถ ในการรักษาสมดุลการบิน และบินเข้าหาผู้คน ที่วิ่งหนีอย่างสับสนอลหม่าน ในโรม นักท่องเที่ยวหลายพันคน ยืนนิ่งตัวแข็งด้วยความหวาดกลัว ขณะที่กำแพงของโคลอสเซียม โบราณสถานอันทรงค่าของชาวโรมัน พังทลายลงต่อหน้าต่อตาพวกเขา

เมื่อเหตุการณ์อันเป็นหายนะ ที่หาคำอธิบายไม่ได้ จู่โจมคนทั่วโลก นักธรณีฟิสิกส์ ดร.จอช คีย์ส (แอรอน เอ็กการ์ต) และผู้เชี่ยวชาญอาวุธอะตอมมิคชาวฝรั่งเศส ดร. เซอร์ไก เลอเว็ก (เชกี้ การ์โย่) ได้รับการเรียกตัวโดย นายพลโธมัส เพอร์เซลล์ (ริชาร์ด เจนกิ้นส์) ให้เดินทางมายังวอชิงตัน ดีซี เพื่อประเมินสถานการณ์ว่า เป็นการลอบกระทำของศัตรูหรือไม่

หลังจากทำการค้นคว้า ร่วมกับทีมงานที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยซ์ คีย์สพบว่าปริศนาที่อยู่เบื้องหลังเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าการก่อสงครามครั้งใด เมื่อแกนกลางของโลกหยุดหมุน เป็นเหตุให้สนามแม่เหล็กของโลก ซึ่งช่วยคุ้มกันโลก จากกัมมันตภาพรังสีจากดวงอาทิตย์ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตรอบโลก เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีทันใด ถ้าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เครื่องบินจะเริ่มตกจากท้องฟ้า และทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เป็นระบบอีเลคทรอนิคจะถูกทำลาย กระแสไฟฟ้าสถิตย์ในบรรยากาศ จะก่อให้เกิดมหาพายุ ที่มาพร้อมกับสายฟ้าฟาด หลายร้อยครั้งต่อพื้นที่หนึ่งตารางไมล์ และที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดก็คือ การแพร่กระจายของคลื่นไมโครเวฟ จะเผาผลาญโลกนี้เป็นจุล

คีย์สที่ต้องหวั่นเกรงต่อสิ่งที่เขาค้นพบ รีบติดต่อขอความช่วยเหลือ ไปยังนักธรณีฟิสิกส์ชื่อดัง ดร.คอนราด ซิมสกี้ (สแตนลีย์ ทัคชี่) นักวิทยาศาสตร์จอมผยอง ที่พบบทสรุปที่น่าหวั่นเกรงเช่นเดียวกันกับเขา ทั้งสองทำการคาดคำนวณและพบว่า ทางเดียวที่จะทำให้แกนโลกกลับมาหมุนได้อีกครั้ง ก็คือการเดินทางไปให้ถึงแกนโลก แต่พวกเขาจะไปถึงได้อย่างไร มนุษย์อาจจะเคยไปเหยียบดวงจันทร์ หรือดาวอังคารมาแล้ว แต่ยังไม่เคยมีใครกล้าบุกสำรวจ ดินแดนที่ลึกที่สุดของโลก... จนกระทั่งบัดนี้

นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ดร. เอ็ด 'บราซ; บราซเซลตัน (เดลรอย ลินโด) ผู้ใช้ชีวิตอยู่กลางทะเลทรายที่ห่างไกลในยูทาห์ ได้สร้าง "เวอร์จิล" พาหนะขุดเจาะ ที่สามารถเจาะทะลวงลึกลงไปในพื้นโลก ซึ่งอาจไปได้ไกลถึงใจกลางโลกได้ บัดนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคีย์ส พร้อมด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์ และนักบินอวกาศ พันตรีรีเบคก้า 'เบ็ค' ไชลด์ส (ฮิลลารี สแวงค์) และ นาวาโทโรเบิร์ต ไอเวอร์สัน (บรู๊ซ กรีนวู้ด) ผู้ได้รับเลือกให้เป็นทีมนักขุดเจาะทีมแรกของโลก ที่จะขับเคลื่อนพาหนะไฮเทคเครื่องนี้ เจาะลึกสู่ใจกลางโลก เพื่อติดตั้งและระเบิดอุปกรณ์นิวเคลียร์ เพื่อสร้างสมดุลให้กับโลกอีกครั้ง มันคือความเสี่ยงที่เปี่ยมไปด้วยศรัทธา... ไม่ใช่การเดินทางเสี่ยงภัยสู่ห้วงอวกาศ แต่เป็นการเจาะลึกสู่พื้นที่ใจกลางโลก เป็นการเดินทางสู่ดินแดนที่ไม่รู้จัก และไม่เคยมีมนุษย์ผู้ใด ...เคยเหยียบย่างมาก่อน !

พาราเม้าท์ พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ The Core ภาพยนตร์ทริลเลอร์แนววิทยาศาสตร์ ที่กำกับโดย จอน เอมีล (Entrapment, Copycat, Sommersby) จากฝีมือการเขียนบทของ คูเปอร์ เลย์น (ผู้อำนวยการสร้างบริหาร The Emperor's Club) และ จอห์น โรเจอร์ส (American Outlawsม ซีรีส์ Cosby) ภาพยนตร์เรื่องนี้ อำนวยการสร้างโดย เดวิด ฟอสเตอร์, คูเปอร์ เลย์น และ ฌอน ไบลีย์ และร่วมอำนวยการสร้างโดย เดวิด เฮ้าส์ฮอลเตอร์

The Core นำแสดงโดย แอรอน เอ็กการ์ต (Erin Brockovich, Nurse Betty, Any Given Sunday) รับบท ดร. จอช คีย์ส, ฮิลลารี่ สแวงค์ (Boys Don't Cry, The Affair of the Necklace, The Gift) รับบท พันตรี รีเบคก้า 'เบ็ค' ไชลด์ส, เดลรอย ลินโด (The Cider House Rules, The One, Gone in 60 Seconds) รับบท ดร. เอ็ด 'บราซ' บราซเซลตัน, สแตนลีย์ ทัคชี่ (Maid in Manhattan, Road to Perdition) รับบท ดร. คอนราด ซิมสกี้, ดีเจ ควอลส์ (Road Trip, The New Guy) รับบท แร็ต อัจฉริยะทางด้านคอมพิวเตอร์, ริชาร์ด เจนกิ้นส์ (Changing Lanes, Me, Myself & Irene, Snow Falling on Cedars) รับบท นายพลโธมัส เพอร์เซลล์, เชกี้ การ์โย่ (Kiss of the Dragon, The Patriot, The Transporter) รับบท ดร. เซอร์ไก เลอเว็ก, บรู๊ซ กรีนวู้ด (Thirteen Days, Below, Rules of Engagement, Double Jeopardy) รับบท นาวาโทโรเบิร์ต ไอเวอร์สัน และ อัลฟรี วู้ดดาร์ด (K-Pax, Love & Basketball) รับบท สติ๊ค หัวหน้าศูนย์ควบคุมภารกิจ

ทีมงานสร้าง The Core ได้แก่ จอห์น ลินด์ลีย์, ASC. (You've Got Mail, Pleasantville, The Sum of All Fears) เป็นผู้กำกับภาพ, ฟิลิป แฮร์ริสัน (The Musketeer, The Relic, Timecop) เป็นโปรดักชั่น ดีไซเนอร์, เทอร์รี่ โรว์ลิงส์, A.C.E. (Entrapment, U.S. Marshals, GoldenEye, Alien) เป็นผู้ตัดต่อ, แดน เลสเตอร์ (Sommersby, The Relic, Spawn, Timecop) เป็นผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย, เกรกอรี่ แอล แม็คเมอร์รี่ (Star Trek: The Motion Picture, Blade Runner, Close Encounters of a Third Kind, Timecop) เป็นวิชวล เอฟเฟ็กต์ซูเปอร์ไวเซอร์, คริสโตเฟอร์ ยัง (Bandits, Swordfish, Sweet November, Urban Legend) เป็นผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบ

เกร็ดภาพยนตร์

• นักวิทยาศาสตร์อาทิเช่น อัลเบิร์ต ไอสไตน์ ต่างเกิดความสงสัย เกี่ยวกับสนามแม่เหล็กของโลก มานานหลายทศวรรษแล้ว แม้แต่ตัวไอสไตน์เอง ยังเคยกล่าวว่ามันคือ "ปัญหาที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่งในเชิงฟิสิกส์" ดร. สเตน โอเดนวัลด์ ผู้สำเร็จปริญญาเอก ทางด้านดาราศาสตร์จากฮาร์วาร์ด ได้กล่าวไว้ว่า "ถ้าสนามแม่เหล็กของโลก เปลี่ยนแปลงไปอย่างกระทันหัน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเองทุกๆ 250,000 ปี ผลที่ตามมาเป็นเรื่องน่าทึ่งจริงๆ" โอเดนวัลด์กล่าวอีกว่า "นักธรณีฟิสิกส์ได้เริ่มสังเกตเห็น ถึงการเบี่ยงเบนของพลังสนามแม่เหล็กของโลกมานานแล้ว เรายังไม่ทราบว่าการเบี่ยงเบนนี้ เป็นระลอกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือจะเป็นลางที่ชี้นำถึงบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว"

• ถึงจะได้แรงบันดาลใจ มาจากทั้งเรื่องจริงและเรื่องที่แต่งขึ้น แต่ถึงกระนั้น The Core ถือเป็นเรื่องที่ได้รับการผลักดันโดยจินตนาการ ตามที่ผู้กำกับ จอน เอมีล บอกว่า แม้กระทั่งพวกนักวิทยาศาสตร์เอง ก็ทำได้แค่คาดเดาเท่านั้นว่า ข้างใต้นั้นเป็นยังไง พวกเขาส่งคลื่นเสียงเจาะลงไปในโลก และด้วยวิถีที่คลื่นเสียงเหล่านั้นเกิดการหักเหไป นักวิทยาศาสตร์จึงสามารถคาดเดาได้ว่า ข้างล่างนั้นมีภายนอกแกน ที่มีลักษณะเป็นของเหลว ส่วนแกนภายในมีลักษณะแข็ง อันประกอบไปด้วยนิกเกิลและเหล็ก แต่ไม่มีใครยืนยันข้อมูลนี้ได้ ดังนั้น โดยหลักแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงเป็นกลุ่มความคิดด้านวิทยาศาสตร์ คือมีความเป็นวิทยาศาสตร์ ผสมเข้ากับข้อมูลความจริง และเรื่องราวที่แต่งขึ้นค่อนข้างเยอะ

  สิ่งหนึ่งที่พวกนักวิทยาศาสตร์ ยังไม่ทราบแน่ชัดก็คือ แกนโลกจะมีวันหยุดหมุนหรือไม่ ? มีการโต้แย้งกันอย่างจริงจัง เกี่ยวกับเรื่องแกนของโลก โดยเฉพาะเรื่องที่ว่าความร้อนจากแกนโลก เป็นตัวที่สร้างผลิตผลของนิกเกิลและเหล็กใช่หรือไม่ ? หรือมีอีกทฤษฎีหนึ่งที่ตั้งคำถามว่า มีเตาหลอมปฏิกรนิวเคลียร์ จากพลูโตเนียมและยูเรเนียม ที่มีความกว้างถึงห้าไมล์ คุโชนอยู่ใต้พื้นโลกที่เราอาศัยอยู่หรือไม่ ? และทำไมขั้วแม่เหล็กจึงมีการเปลี่ยนแปลงไปทุกห้าแสนปี ?

• จอน เอมีล กล่าวว่าจินตนาการของภาพใจกลางโลก ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มาจากแรงบันดาลใจ ของการศึกษาเรื่องใจกลางโลก จากหนังสือคลาสสิกของ จูลส์ เวิร์น เรื่อง Journey to the Center of the Earth และกลายมาเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 1959 ซึ่งเวิร์นได้จินตนาการถึงฝูงไดโนเสาร์ ทะเลสาบขนาดใหญ่ยักษ์ และนครที่สูญหายแห่งแอตแลนติก ที่ตั้งอยู่ใจกลางโลก แต่ในภาพยนตร์เรื่อง The Core จะมุ่งเน้นไปที่ความสมจริงทางวิทยาศาสตร์ ที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการ