Official website
แนว : ดราม่า / รัก
ความยาว : 105 นาที
กำหนดฉาย : 10 มิถุนายน 2547
เทพ (รับบทโดย แอนดี้ - วัชระ ตังคะประเสริฐ) ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ใช้เวลาช่วงหนึ่งของชีวิต ไปกับการเดินทางและงานถ่ายภาพ ซึ่งให้บทเรียนในชีวิตมากมาย จนกระทั่งถึงวันที่เขาตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน เพื่อสะสางปมปัญหาที่เคยมีอยู่กับผู้เป็นพ่อ... สิบห้าปีที่แล้ว หลังจากที่ชีวิตครอบครัวแตกแยก ภรรยาหนีไปกับชายชู้ ลูกชายหนีออกจากบ้าน เชิง (รับบทโดย สรพงษ์ ชาตรี) ก็เหมือนหมดสิ้นทุกอย่าง เขาตัดสินใจย้ายลงใต้ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะชาวประมง หลายปีที่ผ่านไป เชิงขยายกิจการจนเป็นเจ้าของเรือประมงหลายลำ ลูกเรือส่วนใหญ่เป็นชาวเลที่อาศัยอยู่บนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ จนถึงวันนี้ เขาคือนายเชิงที่ทุกคนนับหน้าถือตา และเพิ่งจะแต่งงานใหม่ได้ไม่นาน เรียม (รับบทโดย เฮเลน นิมา) คงจะจบชีวิตลงกลางทะเลไปเสียแล้ว หากวันนั้นเรือของนายเชิงไม่ผ่านมาเสียก่อน นายเชิงเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือเรียมเอาไว้ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตครอบครัวที่เหลือของเธอไว้ได้หมด เรียมเหลือตัวคนเดียว และไม่มีที่พึ่งอื่น นอกจากนายเชิงผู้มีบุญคุณ จนถึงวันนี้ เธอใช้ชีวิตร่วมกับนายเชิง ฉันท์สามีภรรยามาได้เกือบครบปีแล้ว แม้นายเชิงจะให้ชีวิตใหม่ แต่ในอีกด้าน เขาคือผู้นำความทุกข์และความเจ็บปวดมาสู่เธอ... ระหว่างการเดินทางมาถึงเกาะ เทพได้พบกับเรียมที่ท่าเรือ วูบแรกที่พบ เทพรู้สึกพึงใจในตัวหญิงสาว แต่เมื่อรู้ความจริงในภายหลังว่า เรียมคือภรรยาคนใหม่ของพ่อ เทพก็ต้องรีบสะกดกลั้นความรู้สึกนั้นไว้ เมื่อเทพมาถึง เชิงต้อนรับลูกชายอย่างเย็นชา เทพเข้ามาพักอยู่ด้วยชั่วคราว และในช่วงเวลานั้นเอง ที่เทพสังเกตเห็นปัญหาระหว่างสามีภรรยา เทพรู้ดีว่าพ่อเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง ชอบใช้กำลัง และนี่เองที่เป็นสาเหตุทำให้แม่หนีไปกับชายอื่น แม้จะต้องการปกป้องหญิงสาวเพียงใด เทพก็ทำได้แค่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ ความใส่ใจเล็กๆน้อยๆ ที่เทพแอบหยิบยื่นให้ ทำให้เรียมรู้สึกดีขึ้น ทั้งคู่จึงเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ในระหว่างที่เชิงไปออกเรือ จนกระทั่งเชิงเริ่มผิดสังเกต จึงนำตัวเทพออกทะเลไปด้วยกัน หลายต่อหลายครั้ง ที่เชิงพยายามทำให้เทพรู้สึกว่า ไม่มีวันที่ใครจะเอาชนะตนลงได้ โดยที่เชิงหารู้ไม่ว่า ชัยชนะของตน กลับทำให้เทพและเรียมเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น ประกอบกับความเข้าอกเข้าใจกันและกัน ทั้งคู่จึงตัดสินใจก้าวข้ามเส้นแห่งความถูก-ผิด และเป็นของกันและกันในที่สุด เทพและเรียมลักลอบมีความสัมพันธ์กัน ในอ่าวเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งไม่มีใครรู้จัก แต่ไม่นานเชิงก็เริ่มสงสัย เพื่อต้องการจะพิสูจน์ความจริงให้เห็นกับตา เขาจึงเริ่มวางแผนว่า จะออกทะเลติดต่อกันหลายวัน เปิดโอกาสให้เทพและเรียมได้อยู่กันตามลำพัง ทั้งคู่ใช้เวลาช่วงสั้นๆ นี้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่า มีสายตาของเชิงซุ่มดูอยู่โดยตลอด เชิงพยายามข่มความแค้นไว้ในใจ แม้อยากจะฆ่าทิ้งเสียทั้งคู่ด้วยความแค้น แต่ก็ทำได้แค่เพียงไล่ลูกชายให้กลับไป เทพกับเรียมตัดสินใจจะหนีไปด้วยกัน โดยวางแผนไปเจอกันที่ท่าเรือบนฝั่ง ซึ่งเทพจะออกเดินทางไปรอล่วงหน้าก่อน แต่แล้วระหว่างทาง เทพกลับถูกลูกเรือที่เชิงส่งมากักตัวเขาไว้ เมื่อเรียมมาถึงจุดนัดพบไม่เจอเทพ จึงคิดว่าเทพทิ้งตนเสียแล้ว เทพฟื้นขึ้นมา และหนีออกจากเรือที่คุมขังได้สำเร็จ และรีบไปยังจุดนัดพบ แต่ที่นั่นเทพกลับไม่พบเรียม เขาหวนนึกถึงที่ที่เรียมเคยพูดไว้ เขาจึงรีบเดินทางไปยังอ่าวมรกต ซึ่งเรียมมักพูดเสมอว่า จะเป็นที่ตายของเธอ เส้นทางชีวิตของทั้งสอง ถูกขีดเส้นแบ่งระหว่างความรักกับศีลธรรม ...เขาและเธอจะทำอย่างไร ? ชู้ จากหนึ่งในภาพยนตร์คลาสสิคของไทย ผลงานอันลือลั่นของ เปี๊ยก โปสเตอร์ ได้ถูกนำกลับมาตีความใหม่อีกครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบของพฤติกรรมหนึ่งของมนุษย์ ที่เรียกว่า มีชู้ ซึ่งถูกประเมินว่าผิดศีลธรรม และเป็นหนึ่งในบาปที่มนุษย์ไม่พึงกระทำ แต่เพราะเหตุใด สิ่งนี้ถึงไม่เคยหมดไปจากสังคมมนุษย์ นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้สร้างต้องการค้นหา และนำเสนอมุมมองที่แตกต่าง ในประเด็นที่ว่าด้วย 'จะมีบ้างไหมที่การมีชู้ ไม่อาจถือว่าเป็นความผิด และจะมีเหตุผลใดเล่า ที่จะนำมาลบล้างความผิดนี้ลงได้' Sex คือหัวใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้สร้างตั้งใจที่จะทำให้คนดูรู้จัก และเข้าใจตัวละคร เข้าใจชีวิต เข้าใจในความเป็นมนุษย์ ผ่านทางมุมมองด้าน sex เพราะเชื่อว่า sex เป็นสัญชาตญาณเบื้องลึกของมนุษย์ ที่สามารถบ่งบอกตัวตนที่แท้จริง ของคนแต่ละคนได้ชัดเจนที่สุด ภาพยนตร์เรื่อง ชู้ อำนวยการสร้างโดย เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์ แห่ง RS Film และ องอาจ สิงห์ลำพอง แห่งบริษัท Aladdin House กำกับโดย องอาจ สิงห์ลำพอง ที่เคยมีผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่อง ฝันติดไฟ หัวใจติดดิน, แตก 4 รัก โลภ โกรธ เลว, ละคร 'รักประกาศิต ภูชิตนริศรา', 'แสงดาวฝั่งทะเล', 'แม่โขง', 'บ้านสีขาวกับดาวดวงเดิม' บทภาพยนตร์โดย วาทินีย์ โอฬาร์กร จากเรื่องของ จำลักษณ์ ชู้ นำแสดงโดยพระเอกอมตะตลอดกาลของไทย สรพงษ์ ชาตรี, แอนดี้ วัชระ ตังคะประเสริฐ จาก ขุนแผน, กระตุกติ่งเจ้าพ่อ, ละคร 'บ้านนี้ผีไม่ปอบ', 'นางฟ้าไร้ปีก' และ เฮเลน นิมา จาก สนิมสร้อย, บางระจัน, ละคร 'ไก่นา', 'เจ้าชายหัวใจเกินร้อย', 'ขอพลิกฟ้าตามล่าเธอ' ร่วมด้วย ปิยะ ตระกูลราษฎร์, นิรุติ สาวสุดชาติ จาก บางระจัน, ละคร 'ไก่นา', 'เจ้าชายหัวใจเกินร้อย', 'ใต้ร่มเงารัก', สุวรรณา ลาภสิทธิ์, อุไรวรรณ พัฒนศิลป์ จากละคร 'นางสาวโพระดก' และ ภัทรวรินทร์ ทิมกุล ในบทรับเชิญ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ควบคุมและดำเนินงานสร้างโดย องอาจ สิงห์ลำพอง, นิทัตร์ คำดี กำกับภาพโดย ไกรสร บูรณสิงห์, จิตติ เอื้อนรการกิจ กำกับภาพใต้น้ำโดย ดรล์ รัตนทัศนีย์ กำกับแสงโดย มานพ รจนากร ลำดับภาพโดย ภานุทัต วิเศษวงศ์ ควบคุมความต่อเนื่องโดย อมตะ ตาบประเสริฐ ออกแบบงานสร้างโดย รัชตะ พันธุ์พยัคฆ์ กำกับศิลป์โดย นพพร เกิดศิลป์ ออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายโดย เอกศิษฎ์ มีประเสริฐกุล ดนตรีประกอบโดย Alphabet Scale บทบรรยายโดย ปีเตอร์ มนัส |