ความคิดเห็นที่ 1 Girl und Panzer EP.7 จากตอนที่แล้วคุญย่าของเรเซย์ มาโกะ ล้มพับเข้าโรงพยาบาลกระทันหันอย่างน่าเป็นห่วง   ทุกคนที่เหลือเองก็กังวลใจไม่แพ้กันเลยนัดหมายกันมาเยี่ยมหลังจากที่ได้กลับมาในวันรุ่งขึ้น จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:46:34

ความคิดเห็นที่ 2 3 สาวแต่งตัวน่าสนใจแฮะ นานๆจะเห็นพวกเธอในชุดไปรเวท     มิโฮะดูสบายๆเป็นทางการนิดนึง ด้วยชุดทับสีครีมบนวันพีซด้านใน  ผมว่าเหมาะมากเลยในการไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่เราไม่รู้จักกันมาก่อน  สมกับเป็นหัวหน้าทีมเพราะชุดแบบนี้จัดเป็นชุดกลางๆที่ไปได้ทุกงานตั้งแต่งานบุญ งานเที่ยว งานฉลอง บลาๆ  หนุ่มคนไหนจะเลือกชุดให้แฟนแบบนี้ก็ดูดีนะครับเพราะเธอจะไม่ตะขิดตะขวงเวลาใส่ไปไหนมาไหน  มิโฮะเอาคะแนนไป9/10 เลย  ขาดอะไรประดับแถวศรีษะไปหน่อยนึงแค่นั้นเอง ส่วนน้องดอกไม้ (ฮานะ) นี่ผมว่าออกเต็มยศหรูหราเว่อร์โคตร เหมือนเตรียมจะไปออกเดทหรือไปออกงานที่ไหนสักแห่งได้เลย ชุดเดรสสีสว่างรับกับสร้อยสีชมพูอ่อน แต่กระเป๋าถือดูไม่ค่อยเข้าชุดกันเท่าไหร่แฮะ +หมวกดูใหญ่เกินสำหรับงานในร่มไปนิดนึง (น่าจะเป็นงาน outdoor มากกว่า) แต่เนื่องจากมีดอกไม้จัดแบบงามๆมาให้คุณผู้ใหญ่ด้วยเลยชุดเชยกันไปได้ เอาไป 8/10 ละกัน แต่ถ้าน้องดอกไม้มาเดทกับผมชุดนี้เอา 20 เต็ม 10 ไปเลยครัฟ  ส่วนยูคาริ......โอ้ว อานิจจา....นี่มาเยี่ยมไข้หรือมาฝึกกลยุทธ์ภาคสนามครัฟ?  อันที่จริงชุดแบบนี้ผมใส่บ่อยนะเนี่ย เพราะเสื้อยืดธรรมดาไม่ต้องรีด + กางเกงกระเป๋าเยอะๆนี่มันเหมาะเวลาผมไปลุยงานข้างนอกที่ต้องหิ้วประจงประแจ สายไฟ เป้หลังนัวเนียเต็มไปหมด  แต่มันไม่ใช่แต่งตัวมาเยี่ยมคุณย่านะหนู  เอาไป 5/10 พอ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:48:28

ความคิดเห็นที่ 3 แต่แค่มายืนหน้าห้องยังไม่ทันอะไรเลย  ค่ากำลังใจแต่ละคนก็ -30 ไปแล้ว เมื่อเสียงแว๊ดของท่านยายดังสนั่นหวั่นไหวด้วยอารมณ์คนวีนแตกใส่พวกมาโกะที่อยู่ด้านในจนหงอไปตามๆกัน  ชนิดที่ว่ายูคาริถามก่อนเลยว่า 'จะกลับกันก่อนไหม'  แต่ฮานะยังใจแข็งต่อ   (ผมว่า) สงสัยน้องฮานะเขาเสียดายดอกไม้สวยๆอุตส่าห์จัดมาแหงเลย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:48:58

ความคิดเห็นที่ 4 พอเข้ามาทุกคนก็แนะนำตัวกับคุณย่าอย่างสุภ้าพสุภาพ  ซาโอริโฆษณาสรรพคุณเพื่อนตัวเองให้เสร็จสรรพเลยว่าพึ่งชนะรอบคัดเลือกมาแบบสดๆร้อนๆ (แต่ไม่พูดนะว่าสะบักสะบอมขนาดไหน)  แต่คุณย่าเองก็ยังทำตัวซึนเดเระหน่อยๆว่าแค่รอบคัดเลือกอย่าพึ่งดีใจไปนัก ถ้าทางคุณยายจะเป็นโรคความดันสูงแฮะ  ตรงข้ามกับเรเซย์พลขับของเราเลยที่ความดันต่ำเตี้ย   แค่2 นาทีดูเหมือนจะพูดมากกว่ามาโกะ 6 ตอนที่ผ่านมาอีก  ขนาดซาโอรินยังบอกเลยว่าตื่นปุ้บก็ฟิตปั๋งเลย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:49:32

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่นานนักคุณย่าก็ไล่กลับโรงเรียนไป ไม่อยากให้ตัวเองมาเป็นภาระ   แต่พออยู่กับมิโฮะแค่ 2 คนกลับพูดเสียงใจดีเชียวว่าเป็นห่วงมาโกะเหมือนกันที่ไม่ค่อยมีเพื่อน  และขอฝากฝังหลานเธอไว้ด้วยละกันนะ . . . แน่นอนคนใจดีอย่างมิโฮะมีรึจะปฎิเสธ  (ฮาเร็ม +1 !!) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:49:54

ความคิดเห็นที่ 6 ยินดีต้อนรับสู้ Girl und Panzer ตอนที่7 "ทีมต่อไปคือ Anzio" จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:50:20

ความคิดเห็นที่ 7 Note:  Anzio เป็นชื่ออิตาลี่ครับ หมายถึงมือสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดคนนึงจากค่าย Ubisoft  จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:51:12

ความคิดเห็นที่ 8 เอ้ย ม่ายช่ายยย!!! . . . เอาดีๆแหละ  Anzio คือชื่อเมืองท่าสำคัญทางตะวันตกในอิตาลีครับ เกือบกลางประเทศเลย  แต่เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากและเป็น 1 ในสมรภูมิสำคัญของสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงพี้นที่อิตาลีเราด้วย เพราะนี้คือศึกยกพลขึ้นบกครั้งแรกของกองทัพสัมพันธมิตรก่อนวัน D-Days ช่วงต้นปี 1944 ที่หาดชายฝั่งของเมืองแห่งนี้เพื่อทำลายกองทัพอักษะทางทิศเหนือของเมดิเตอร์เรเนียน สนามรบแห่งนี้ถูกดาหน้าเข้าใส่ด้วยกองทัพผสมของสัมพันธมิตร 36,000 คน และยานเกราะ 2300 คัน  ทะลวงเข้าใส่กลางแนวรับที่ประกอบด้วยทหารเยอรมัน 2 หมื่น + 5 กรมผสมของทหารอิตาลี  แต่นี่เป็นแค่กองทัพตั้งต้นตอนแรก เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเทกองทัพหนุนและกำลังเสริมเข้ามาไม่หยุดหย่อนจนมีรวมกองทัพแต่ละฝ่ายเกิน 120,000 คนด้วยซ้ำทีห้ำหั่นกันต้องแต่ชายฝั่งขึ้นไปถึงแนวรับที่ monte carllo (ที่เป็นจุดสุดยอดของศึกอิตาลี่) และพื้นที่แคบๆนี้มีคนเจ็บตายมากกว่า 8 หมื่นคนทีเดียว จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:51:55

ความคิดเห็นที่ 9 Q: ทำไมถึงทุ่มเทกันขนาดนี้หละ? A1: เพราะฝ่ายพันธมิตรต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของเยอรมันให้มากที่สุดจากแนวรบ D-days และทำลายแนวร่วมของอักษะทางตอนใต้อย่างเด็ดขาดซึ่งจะเป็นการเปิดเส้นทางลำเลียงทางเมดิเตอร์เรเนียนให้กองทัพตนอย่างสมบูรณ์แบบ A2: ขณะที่ฝ่ายอักษะเองต้องรักษาแนวรับนี้ไว้ให้ได้  เพราะการที่ 1 ใน 3 ประเทศอักษะสำคัญอย่างอิตาลี่พ่ายแพ้ จะส่งผลกระทบทางการเมืองของตัวเองอย่างร้ายแรง  หากมุสโสลินีเสียอำนาจปกครองไปก็เท่ากับลักธิเผด็จการฟากซิสต์นั้นพ่ายทางอ้อมไปด้วย และตำแหน่งของเมือง Anzio อยู่แทบจะตรงกลางประเทศอิตาลีเลย จะส่งผลให้กองทัพฝ่ายตนถูกแบ่งแยกเป็น 2 ส่วนและไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้เลย (การแลนดิ้งขึ้นฝั่งที่ Anzio) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:52:31

ความคิดเห็นที่ 10 กว่าจะเยี่ยมไข้กันเสร็จก็ปาไปตกเย็นของอีกวันนึง   มาโกะซึ่งอดหลับอดนอนมาตลอดก็หนุนตักซาโอริสบายใจเฉิบกลับบ้าน และทุกคนก็เข้าใจขึ้นมาเลยว่าทำไมาโกะถึงอยากได้หน่วยกิต สอบผ่าน เรียนจบเร็วๆ เพราะไม่อยากให้คุณยายเป็นห่วง เพราะครอบครัวเธอตอนนี้เหลือแค่นี้ Note: มาโกะ อยู่กันแค่ยายหลาน 2 คนเองในบ้าน ส่วนพ่อแม่เธอนั้นเสียไปแต่ประถมแล้ว  ดังนั้นไม่น่าแปลกใจที่เธอจะเกรงคุณยายมากเลย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:53:32

ความคิดเห็นที่ 11 มาโกะม่อยกระรอกไปแล้ว  แต่น้องดอกไม้นี่แรงดีโพดๆ Note: ตั๋วรถเมล์กับรถไฟของญี่ปุ่นชอบทำเป็นใบเล็กๆจัง  ผมไปทีไรหงุดหงิดทุกทีเพราะมันหาไม่เจอ (ว่าตัวเองเอาไปซุกไว้แถวไหนหว่า??) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:54:56

ความคิดเห็นที่ 12 ทิวทรรศน์เมืองโออาไรครับ  ท่าเรือใหญ่กว่าแหลมฉบังบ้านเราอีก  (แต่ก็นะ ถ้าไม่ใหญ่แล้วโรงเรียนจะเทียบท่ายังไง) Note: จากที่เห็นมี - ท่าเทียบเรือ 3 ท่า + ท่าเทียบน้ำลึกอีก 1 ท่า - อ่าวจอดเรือ 2 แห่ง - จุดพักเรือ 1 อ่าว   - โกงดังสินค้าน้อยไปนิดนึงเมื่อเทียบกับขนาดท่าเรือ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:55:26

ความคิดเห็นที่ 13 มิโฮะเองก็นั่งเรือลำเลียงกับโออาไรเหมือนกัน พลางดูวิวชมทะเลยามค่ำคืน (อารมณ์นางเอกมิวสิคมาก) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:55:55

ความคิดเห็นที่ 14 ซาโอรินเข้ามาทักทาย  ขณะที่เพื่อนคนอื่นหลับกันหมดแล้ว   สงสัยฮานะจะเหนื่อยแบกมาโกะ ส่วนยูคาริกำลังเคลิบเคลิ้มแบบน้ำลายไหลที่ฝันเห็นปืนใหญ่ Smooth-bore ของรถถังเลโอพาร์ด 2 ที่ตนหลงไหลอยู่ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:56:25

ความคิดเห็นที่ 15 แล้วก็งานเข้าผมสิเนี่ย Note: ยูคาริพูดนิดเดียวดันเป็นเรื่องให้คุยยาวเป็นตุเป็นตะเลยนะเนี่ย  โดยอันแรกก็คือ Leopard2 นี่แหละครับ เพราะมันคือรถถังที่โด่งดังในวงการพอตัวเลยหละ Q: มันคืออะไรอะ ไอ้เลี้ยวปาด2เนี่ย? A: Leopard2 (เลโอพาร์ด หรือเรียกแบบเยอรมันก็ต้องเรียกว่า เลพเพิร์ด) คือ รถถังหนักยุคใหม่ของกองทัพบกเยอรมันในปัจจุบันครับ  โดยรุ่นล่าสุด (2010) คือ Leopard2 A7  โดยจัดเป็น 1 ใน 10 รถถังหลักที่ดีที่สุดในโลกอย่างแน่นอน (ส่วนตัวผมให้ติด Top5 เลยด้วยซ้ำ) เพราะเกราะที่แข็งแกร่งมาก และปืนใหญ่ 120  mm ลำกล้องไร้เกลียวที่มีอำนาจการยิงสูงมาก จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:57:43

ความคิดเห็นที่ 16 ถามว่าเกราะแข็งแกร่งขนาดไหน.....เอาแบบขั้นต่ำเลยนะครับ . . ผมจอดรถ Leopard2 นี่ไว้เฉยๆ  แล้วให้ถ. Tiger จอดที่ระยะ 500 เมตร แล้วระดมยิงด้วยกระสุนทุกอย่าง ทุกแบบ ทุกชนิดที่มีในสมัยนั้น  ผมให้เวลายิงเล่นๆชั่วโมงนึงเลย เกราะของเจ้าเลพเพิร์ดนี้ไม่สะทกสะท้านสักนิด  อย่างดีที่สุดคือสายพานขาดแค่นั้นเอง เปรียบเทียบให้ง่ายกว่านั้นอีก.... ในสมรภูมิอัฟกานิสถาน  รถถังหลักชาแลนเจอร์ของอังกฤษ(ระดับเดียวกันกับ Leopard) ถูกระดมยิงด้วย RPG7  มากกว่า 70 ลูกจากรอบทิศทางเป็นเวลาเกือบ 15 นาที   จรวดเจาะเกราะลูกแล้วลูกเล่าชนตัวถังรถแทบทุกจุดตั้งแต่ปืน ลำกล้อง เกราะหน้า เกราะข้าง เกราะหลัง  หลังคา ท้ายรถ ล้อกดสายพาน แต่มันไม่เป็นอะไรเลยนอกจากเสาวิทยุหักและสายพานขาด  พอหน่วยก็ซ่อมมาช่วยทีหลังแค่ชั่วโมงเดียวมันก็วิ่งไปรบต่อฉลุย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:59:08

ความคิดเห็นที่ 17 Leopard2 A7  ถูกผู้เชี่ยวชาญหลายแขนงประเมินว่าระบบเกราะของมันเทียบได้กับชาแลนเจอร์...หรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นรถถังหลักขนาดกว่า 60 ตันของเยอรมันคันนี้ถือเป็นอาวุธของลูกผู้ชายตัวจริง กระทิงแดงที่มีหน้าที่ออกไปเป็นเป้าล่อกระสุนเลยครับ  เหมือนลอร์ดไนท์แนวหน้าที่ต้องฝ่าฟันเข้าไปหาหินกิลด์ของฝ่ายตรงข้ามให้ได้ จริงๆก็เสียดาย  เมืองไทยเองเกือบจะได้รถถังรุ่นนี้มาประจำการด้วยเหมือนกัน เพราะเยอรมันขายให้มิตรประเทศในราคาถูกมาก แต่ช่วงนั้นการเมืองเรามีปัญหาตรงที่มาจากรบ.รัฐประหารที่เยอรมันมีกฎห้ามไว้เลยอดไป  และสิงคโปร์+อินโดฯได้ไปแทน  (แต่เอาวะ  เมืองไทยได้ Oplot ซึ่งไม่เลวมาใช้เหมือนกัน) (Sample เกราะรถถังที่ถูกยิงด้วยจรวด RPG7 1 ลูก = สีถลอกนิ๊ดนุง) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:59:59

ความคิดเห็นที่ 18 Q:  แล้วปืนใหญ่ Smooth Bore หละ? A:  คำว่า Smooth Bore หมายถึง 'ไร้เกลียว' ครับ ซึ่งจริงๆหลักการปืนพวกนี้เป็นอาวุธสุดแสนโบราณคร่ำครึสุดๆเลยหละ (ประมาณปืนใหญ่สมัยกรุงศรีฯ)  แต่ก็น่าแปลกใจเหมือนกันที่พึ่งจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วง 15 ปีหลังนี่เองในฐานะอาวุธใหม่ของปืนใหญ่รถถัง เรื่องมันมีอยู่ว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ววว - สมัยก่อนปืนใหญ่เป็นแบบหล่อ และหลักการง่ายๆคืออัดดินปืนลงไป + เอากระสุนยัด + ยิงให้พ้นลำกล้อง(ไร้เกลียว) - ลำกล้องไร้เกลียวนั้นมีข้อดีคือ มันไม่มีอะไรชะลอลูกกระสุนให้เสียเวลา (ดังนั้นพลังงานศักย์ในดินปืน จึงเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์ให้ลูกกระสุนได้เต็มที่) - แต่ปัญหาก็คือ  ลูกกระสุนมีความเร็วสูงก็จริง....แต่คุมทิศทางไม่ได้เลย  เป๋ไปเป๋มาตลอด โดนลมพัดก็เฉ แรงโน้มถ่วงดึงก็เบี้ยว แรงสะท้อนปากกระบอกปืนก็เพี้ยน  สรุปยิงร้อยนึงจะไปถูกเป้าจริงๆไม่เกิน 4-5 นัด ที่เหลือยิงนกตกปลาตลอด จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:00:51

ความคิดเห็นที่ 19 นั่นจึงเป็นที่่มาใหม่ของอาวุธที่เรียกว่า "ไรเฟิล" (Rifle) ซึ่งกลายเป็นต้นแบบของอาวุธหนักเบาแทบทุกชนิดเลยที่ใช้ลำกล้องในการส่งกระสุน ตั้งแต่ปืนประจำกายทหารราบ จนกระทั่งปืนใหญ่สนามขนาดเป็นร้อยตัน ด้วยคุณลักษณะที่ว่า - มีเกลียวในลำกล้อง บังคับให้ลูกกระสุนหมุนควงไปจนพ้นกระบอกปืน - กระสุนจะมีการหมุนคล้ายสว่านด้วยแรงเหวี่ยงจากศูนย์กลาง ทำให้สามารถรักษาแนวยิงได้จากปัจจัยภายนอก (เพราะแรงหมุนควงจะพยายามปรับตัวเองกลับมายังมุมยิงตั้งต้นเสมอ) - ดังนั้นต่อให้ระยะยิงไกลๆ  กระสุนก็ยังสามารถไปถึงได้อย่างแม่นยำโดยแทบไม่เบี่ยงเบนจากแนวยิงเลย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:01:22

ความคิดเห็นที่ 20 ทว่า.. . . . . ในวงการรถังก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน เนื่องจาก "เกราะ"(โล่ห์) ที่หนาและแข็งแกร่งสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเกราะ ERA, เกราะเซรามิค, เกราะช็อบแฮม, เกราะยูเรเนียมหมดกัมมัน ซึ่งมันทนทานขนาดที่ว่าปืนใหญ่สารพัดชนิดยิงยังไงก็ทะลวงไม่ได้  ทำให้เทคโนโลยีด้าน 'ปืน' (หอก) ก็ต้องมีการพัฒนาตามขึ้นมา จากคุณ : ดูเกราะมันสิท่าน... (Kross_ISC) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:02:11

ความคิดเห็นที่ 21 ว่าไปมันก็เหมือนคำโม้โบราณนั่นแหละว่า "โล่ห์ที่แกร่งที่สุด-ปะทะหอกที่แกร่งที่สุด"  ซึ่งวงการยานเกราะนี้พลัดกันแพ้พลัดกันชนะเหมือนกันครับ   โดยปัจจุบันบันหอก..ที่แข็งแกร่งที่สุดประกอบด้วย 2 ปัจจัยคือ 1) ปืนใหญ่ลำกล้องเรียบ 2) กระสุนลูกดอกเจาะเกราะ ผมเจตนาใช้คำง่ายๆแทนศัพท์เทคนิคนะครับ อย่าได้ถือสาอะไร  แต่กำลังจะชี้ให้เห็นความเด็ดขาดของมันอันนี้  เพราะในปัจจุบันการเผชิญหน้ากับรถถัง  คุณอาจจะใช้คอปเตอร์  เครื่องบิน ปืนใหญ่  หรืออาวุธต่อต้านรถถังสารพัดแบบก็ได้ในการลอบกัดยานเกราะเหล่านี้ (อย่าคิดว่ายิงเข้าง่ายๆนา)  แต่ถ้าจะให้พูดถึงการ "ทะลวงเกราะซึ่งหน้า" ในปัจจุบันแล้วมันไม่มีอะไรจะดีไปกว่าคอมโบคู่ที่ผมเอ่ยมาก่อนหน้านี้ เพราะว่า - ปืนใหญ่ลำกล้องเรียบ  สามารถดัดแปลงใช้กระสุนได้หลายแบบมากขึ้น เพียงแต่กระสุนเหล่านั้นต้องดีไซน์มาแบบ "สลัดครอบทิ้งเอง" ซึ่งจะเป็นการยิงกระสุนในลักษณะคล้ายแคปซูลออกไปด้วยความเร็วสูงมากๆ (ไม่มีเกลียว  ไม่มีหมุนเพื่อทอนความเร็ว)  และเมื่อพ้นลำกล้องปืนไปแล้ว มันจะดีดเปลือกหุ้มออกพุ่งไปด้วยแรงเฉื่อยที่เร็วเหนือเสียงหลายเท่า....และยังมีของแถมว่าสามารถใช้ยิง "ขีปนาวุธนำวิถี" ผ่านลำกล้องปืนแบบนี้ได้ดีด้วย  (รถถังรัสเซียนิยมใช้กัน)  นอกจากนี้ลำกล้องยังสั้นลงด้วย แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 02:53:38 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:03:26

ความคิดเห็นที่ 22 - กระสุนลูกดอกเจาะเกราะ  ที่เราได้ยินกันบ่อยๆก็พวก ซาบ็อต(SABOT) นี่แหละครับ กระสุนพวกนี้ได้เรียนรู้มาว่า ไม่ว่าจะเป็นแรงระเบิด, แรงกระแทก, พลังงานความร้อน  ไม่มีอะไรที่จะทำลายเกราะหลักของรถถังได้ง่ายๆ  กระสุนยุคใหม่ที่ใช้ในการต่อต้านรถถังด้วยกันจึงเริ่มเปลี่ยนไปเป็นการใช้   . . . "ความคม" ฟังดูอาจจะงงๆ  แต่ผมพยายามหาคำที่คนทั่วไปจินตนาการง่ายๆแทนศัพท์เทคนิค  แต่หลักการมันคือ - ใช้ความเร็วสูงสุด -สร้างพลังงานจลน์อัดใส่กระสุน -กระสุนแยกตัวออกเป็นลูกดอกที่เล็ก/เรียว/แข็ง -ความเร็วหลายเท่าของเสียง = [คม] ในการเฉือนโมเลกุลเกราะฝ่ายตรงข้ามให้ทะลุ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:04:08

ความคิดเห็นที่ 23 ซึ่งเราจะสังเกตได้เลยว่ามันไม่พึ่งแรงระบ่งระเบิดอะไรทั้งนั้น  มีแต่ความคมอย่างเดียวเหมือนดาบซามูไรฟันเต้าหู้อย่างงั้นเลยครับ  หากอยากรู้ว่ากระสุนพวกนี้มันทะลุทะลวงได้ขนาดไหน ผมก็คงขอยกตัวอย่างว่า เอารถถัง Tiger 5 คันมาเรียงแถวต่อกันแล้วให้ Leopard2 ยิงกระสุนลูกดอกที่ว่าใส่คันแรก...รับรองว่าเห็นรูทะลุไปยันคันสุดท้ายเลยครับ /me แฮ่กๆๆ   นู๋ยูคาริเวลาละเมออย่าละเมอเรื่องยากๆสิครับ  เสนาธิการเหนื่อยมากนะรู้มั๊ย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:04:48

ความคิดเห็นที่ 24 กลับมาที่เรือโดยสารอีกรอบนึง  ซาโอรินเองก็เล่าว่านอกจากมาโกะแล้ว  ทุกคนเองก็ห่วงมิโฮะด้วยเหมือนกันนะ  ซึ่งนางเอกเราก็งงๆว่าทำไมจนเพื่อนรักอธิบายให้ฟังว่า  เธอนะเห็นมิโฮะแยกมาอยู่ลำพังคนเดียว  ในเมืองโออาไรนี้โดยไม่มีใครเป็นเพื่อนเลย แต่ก็ต้องพยายามอย่างมากกว่าจะมีทุกวันนี้ได้   มาโกะเองก็เสียใจที่ไม่ได้ขอโทษตอนที่ทะเลาะกันตอนแรกนั้นด้วย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:05:10

ความคิดเห็นที่ 25 มิโฮะ นึกย้อนอดีตมาหน่อย  ณ ที่บ้านตระกูลนิชิซึมิ  ที่เธอถูกตำหนิอย่างรุนแรงเรื่องของการจัดลำดับความสำคัญ ทั้งๆที่เคยถูกอบรมมาตลอดว่าชัยชนะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและควรถูกยกเหนือกว่าเรื่องส่วนตัวอื่นใดทั้งสิ้น จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:05:30

ความคิดเห็นที่ 26 Note: ว่าไป เครื่องแบบป่าดำก็ดูเท่ห์ดีนะ  แต่ลายเส้นพู่กันโบราณข้างหลังนั่นมัน รถถัง MarkV ของอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เลยนะนั่น จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:05:54

ความคิดเห็นที่ 27 ถูกคุณแม่ (นิชิซึมิ ชิโฮะ) อบรมใหญ่เลย  ว่าหลักการของตระกูลเราคือ 'ต้องชนะให้ได้ ไม่ว่าจะเสียสละเพียงใดก็ตาม'(ต้องเป็นเพื่อนกับ แซม วิควิกี้แน่เลย  "ไม่เสียสละ  ชัยชนะไม่บังเกิด") แต่มิโฮะเองดูจะไม่อยากยอมรับเท่าไหร่   (น่าสงสารเนอะ -*-) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:06:45

ความคิดเห็นที่ 28 เช้าวันถัดมา  ซาโอริก็พามาโกะให้เป็นภาระอีกแหล้ว จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:07:07

ความคิดเห็นที่ 29 ที่โรงเรียนโออาไรเองก็มีจัดฉลอง  ประกาศกันยิ่งใหญ่โตเหมือนกันที่ผ่านรอบแรก Senshado ไปได้ Note: บอลลูนรถถังเท่ห์ดีวุ้ย  คนถ่ายรูปเต็มเลย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:07:29

ความคิดเห็นที่ 30 ช่วงพักเที่ยง  มิโฮะกลับมาดูใจพระเอกหน่อย  เพราะเธอเริ่มเป็นห่วงว่าพระเอกนู้บๆอย่าง Panzer 4 คู่ใจและผองเพื่อนจะเอาตัวรอดในรอบหลังๆไหวรึเปล่า  ในเมื่อคู่แข่งโหดๆทั้งนั้น แล้วก็ลงเอยที่ ฮานะและซาโอริหาไม่เจอจึงตามมาที่รถถังด้วยเหมือนกัน  เลยกลายเป็นได้ทานข้าวด้วยกันหมดเลย ปล. ข้าวกล่องยูคาริ นี่มานิแอ็คมากแฮะ  สาหร่ายรถถัง จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:08:26

ความคิดเห็นที่ 31 คุยกันถึงนสพ.โรงเรียนด้วย  ที่ตีข่าวเรื่องชนะสาธิต Saunders มาได้  ถึงมิโฮะจะออกตัวกลายๆว่าฟลุ๊คมากกว่าก็เถอะ  แต่ยังไงชนะก็คือชนะนั่นแหละ ปล. ซาโอริน นี่เหมือนกับสาวๆไอโฟนบ้านเรารึเปล่าหว่า  เหมือนจะเป็นธรรมเนียมว่าก่อนกินข้าวต้องถ่ายรูปแล้วเอาไปแชร์ลง Facebook ก่อนที่จะทาน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:09:22

ความคิดเห็นที่ 32 แต่คำว่าชัยชนะเองก็ทำให้มิโฮะคิดมากอีกรอบ  (โรควิตกจริตเริ่มกล้ำกลาย)  เพราะ 'ชัยชนะ' ที่ตระกูลตัวเองสั่งสอนมานั่นกลับกลายเป็นเรื่องทีตนเองรักษาไว้ไม่ได้  แต่ทุกอย่างก็ต่างกันออกไปเมื่อเธอเงยหน้ามองเพื่อนๆที่ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสเพราะว่า  "พวกเราสนุก" ซึ่งเป็นเรื่องที่ต่างกับสมัยมิโฮะอยู่ทีม Black Forest สุดจริงจัง  คลั่งไคล้ในชัยชนะจนแทบจะเป็นบ้าเอา . . . พอมาอยู่โออาไร คิดไปคิดมา  วันคืนที่พวกเธอได้อยู่ด้วยกัน  ฝึกด้วยกัน  แข่งด้วยกัน  ทำงานด้วยกัน มิโฮะ:  "ชั้นก็ชักสนุกเหมือนกัน" จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:09:49

ความคิดเห็นที่ 33 ยูคาริบอกตอนที่มิโฮะแข่งแพ้ตัวเองก็ดูอยู่เหมือนกัน  ทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาถึงอดีตตอนนั้น  รอบชิงชนะเลิศที่ทีมของมิโฮะถูกซุ่มโจมตีจนมีรถถังฝ่ายตนพลาดท่าตกเขาจมน้ำไป ตอนนั้นมิโฮะเป็นรองผบ. คุมรถธง แต่เธอทนดูเพื่อนกำลังจมหายไปในสายน้ำเชี่ยวกรากต่อหน้าไม่ได้จึงตัดสินใจทิ้งรถถังของตัวเองกระโดดลงน้ำไปช่วยทันที จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:10:44

ความคิดเห็นที่ 34 แต่นั่นก็ทำให้รถถังธงของเธอถูกยิงเอาแบบง่ายๆ  และหมายความว่าทีม Black Forest ต้องแพ้ไปโดยปริยายต่อให้ยังมีศักยภาพเหลือขนาดไหนก็ตาม และพลาดโอกาสที่จะคว้าแช้มป์ 10 รอบต่อเนื่องจนได้   Note: - สังเกตว่ารถถังคันหลังพยายามวิ่งขึ้นมาช่วยบังแนวยิงด้านหน้าให้ แต่ไม่ทัน รถธงโดนยิงเสียก่อน - รถถังรัสเซียคันที่ยิงนี่เล็งยิงด้านหน้าตรงๆเลย ซึ่งเกราะหนามาก   - ยังยิงเข้า (ถึงจะเล็งตรงรอยต่อวงแหวนป้อมก็เถอะ) ชัดเจนเลยว่า รถถังเดียวที่ทำแบบนี้ได้คือปืน JS2- 122mm ของโซเวียต จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:11:17

ความคิดเห็นที่ 35 แต่ยูคาริก็ปลอบใจต่อ  เธอมั่นใจว่าอย่างน้อยคนในรถถังคันนั้นต้องขอบคุณมิโฮะแน่ที่ยอมมาช่วย Note:  จุดสังเกตพอสมควรครับตรงนี้ - รถถังจมน้ำแล้วพลประจำรถหนีออกมาเองได้ไหม? - คำตอบคือได้  แต่ยากด้วยหลายสาเหต - เพราะรถถังที่กำลังจมมันจะพลิกคว่ำพลิกหงายตลอดเวลา - การเปิดประตูรถถังที่ถูกแรงดันน้ำกดอยู่จะยากมาก - พลประจำรถด้านในไม่มีโอกาสรู้นักว่าตอนนี้รถถังอยู่มุมไหน จึงเปิดประตูไม่ถูก - พลประจำรถอาจหมดสติ หรือได้รับบาดเจ็บไม่อาจช่วยตัวเองได้ - มีความเสี่ยงจะถูกกระแสน้ำพัดไปไกลๆ - ถ้าทิ้งไว้อีกแค่ 10 วินาที  รถถังจะจมไปลึกมากจนไม่อาจช่วยได้อีกเลย - ดังนั้นถ้าคิดจะช่วยก็ต้องทำทันที ทำรวดเร็วด้วย  ทำช้าไม่มีประโยชน์อะไร (เหมือนรอให้ไฟไหม้แล้วค่อยเดินไปซื้อเครื่องดับเพลิง) ดังนั้้นจึงเรียกว่ามิโฮะตัดสินใจเร็วมาก.....เร็วจนน่าทึ่งด้วยซ้ำ (เพราะหากคิดลงไปช่วยก็ต้องทำเดี๋ยวนั้นเลย) นั่นแสดงให้เห็นว่ามิโฮะจัดอันดับความสำคัญการแข่งขันต่ำกว่าความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทีมชัดเจนมาก จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:11:49

ความคิดเห็นที่ 36 มิโฮะขอบคุณคำเดียว ทำเอายูคาริเขินเป็นเจอดาราเลยแฮะ  แต่นี่ก็เป็นครั้งที่ 2 แล้วด้วยนะที่เธอได้รับคำขอบคุณจากมิโฮะ   จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:12:19

ความคิดเห็นที่ 37 ห้องสภานักเรียน  (ใหญ่เจง)  ท่านรองฯ เองก็เป็นห่วงว่าจะผ่านรอบ 2 ไหวไหม  เพราะต้องเจอกับทีม Anzio แห่งอิตาลี่เชียวนะ  ยังไงต้องจริงจังกันหน่อย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:12:45

ความคิดเห็นที่ 38 ทีมอิตาลีผู้แข็งแกร่ง  เปิดตัวอย่างอลังการ (4 เงาข้างหลังนั่นใครหว่า?) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:13:01

ความคิดเห็นที่ 39 คุณเลขาโมโมะ ออกมาบิ้วอารมณ์ให้ทีมโออาไรเต็มที่ (ไอ้พวกอ่อนหัดเอ้ย!!)  ซึ่งก็ดูได้ผล  ทุกคนมีอารมณ์ร่วมแรงร่วมใจกันดีทีเดียวเมื่อเทียบกับตอนแรกๆ ขนาดน้องเหม่อลอยยังร้อง Yayyyyy เลยนะเนี่ย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:13:32

ความคิดเห็นที่ 40 อันนี้เป็นประโยคเด็ดนึงเหมือนกันครับ  "Don't blow your horn till the battle's won" เป็นประโยคนึงในคริตคัมภีร์  แต่โดยความหมายง่ายๆของมันอาจจะมองเป็น 'สงครามยังไม่จบ อย่าพึ่งนับศพทหาร' ก็ได้ครับ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:13:46

ความคิดเห็นที่ 41 พวกเรา สาวรถถังมาโรมรันฝึกฝน (ไอ้เรือลำนี้มีภูเขากี่ลูกเนี่ย) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:14:01

ความคิดเห็นที่ 42 ฝึกกันหลากหลายทีเดียว  มีดำน้ำด้วย โดยปกติรถถังจะมีความสามารถในการลุยน้ำได้ระดับนึงอยู่แล้วประมาณครึ่งตัวรถ  และสามารถ 'ดำน้ำ' เลยก็ยังได้ถ้าติดอุปกรณ์เสริม  ซึ่งอาจจะดำได้ลึก 3-10 เมตรทีเดียว  (จริงๆก็คือวิ่งอยู่ใต้น้ำ) เพราะตัวรถมันผนึกน้ำได้ในระดับนึงอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องระมัดระวังมากตอนปีนกลับขึ้นมาจากใต้น้ำ เพราะเกิดพื้นดินร่วนมาก หรือทรุดตัว  ตลิ่งพังไม่มีมุมให้ปีนนี้จะเรียกว่างานงอกได้  (ลงไปแล้วขึ้นไม่ได้นั่นแหละ) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:14:29

ความคิดเห็นที่ 43 ช่วยกันขนลูกปืนไปใส่รถครับ  แต่ละลูกหนัก 6-9 kg ได้ (อย่างปืน 75mm นี่ 7kg) รับรองว่ากว่าจะขนใส่เต็มคลัง 4-50 นัดนี่สาวๆกล้ามขึ้นแน่นอน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:14:52

ความคิดเห็นที่ 44 ฝึกยิงปืน  ทีมวอลเล่ย์บอลยิงแม่นนะเนี่ย  จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:15:16

ความคิดเห็นที่ 45 อันนี้ฝึกแบบเปลืองเนื้อเปลืองตัวสุดๆ  Panzer4 มาวิ่งล่อเป้าให้รถถังคันอื่นๆหัดยิงเป้าเคลื่อนที่ที่คล่องตัวมากๆ (พร้อมกับให้ p4 ฝึกหลบหลีกไปพร้อมกัน)  จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:15:37

ความคิดเห็นที่ 46 5 สาวมาคุยกันหลังฝึกเสร็จ  ดูเหมือนจะเป็นการออกกำลังกายที่ดีเอาเรื่อง  ซาโอรินน้ำหนักลด  มาโกะความดันสูง(ขึ้น) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:16:04

ความคิดเห็นที่ 47 Note: มิโฮะ พูดเปรยว่าคนขับรถถัง 'เลือดร้อน'  ก็เป็นจริงพอสมควรครับ  เพราะทหารฝ่ายอื่นๆเช่น ทหารปืนใหญ่-ทหารราบ มักมองว่าทหารยานเกราะเป็นพวก 'เลือดเดือด' เสมอๆ  เพราะทำอะไรมักไม่เสียเวลาคิดคำนวนกันนานนัก  สู้กะสู้  หนีก็หนี  ไม่เสียเวลาแทงกั๊กเพราะเป็นนิสัยรถถังต้องทำเสมออยู่แล้ว  จะลังเลใจไม่ได้.. ดังนั้นเวลาใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป พลประจำรถบางคนก็ติดนิสัยแบบนี้มาเหมือนกัน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:16:21

ความคิดเห็นที่ 48 ลืมรูป จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:17:03

ความคิดเห็นที่ 49 แต่ไม่นานนัก  มิโฮะผู้เนื้อหอกก็ถูกรุมล้อมจากผองเพื่อนพี่น้องเต็มไปหมด  "เอกสาร" "ขับรถแบบไหนดี" "ปืนนี้ทำไง" "ติดแอร์ได้ไหม" "เก้าอี้แข็งโป้กเลย" "แฟนนู๋ทิ้งอ้าาาา"  บลาๆๆๆๆๆ   เต็มไปหมดเลย  ทำเอานางเอกเราหัวหมุนติ้ว จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:17:28

ความคิดเห็นที่ 50 แต่ด้วยผองเพื่อนที่แสนดีก็ไม่ปล่อยให้มิโฮะไปสบาย   เอ้ย!  ต้องไปช่วยเขาสิจริงไหม?   ยูคาริอาสาช่วยดูเรื่องเครื่องกลสารพัด  มาโกะไปสอนขับรถให้ทีมเป็ด  ฮานะช่วยดูเอกสารให้  ซาโอรินช่วยเป็นเพื่อนคุยเรื่องจิปาถะไป  นับว่าเบาแรงมิโฮะได้เยอะเลยพอได้ทีม panzer4 มาคอยประกบ .. . . มิโปรินไม่ต้องฝืนทำคนเดียวก็ได้นะ (ซึ้ง....)  จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:18:02

ความคิดเห็นที่ 51 ทีมฮิปโปมาถามยูคาริว่า StugIII ของพวกตัวเองนี่เรียกว่ารถถังได้จริงหรอ  ซึ่งก็ได้คำตอบจากกูรูรถถังอย่างเธอมาทันทีเลยว่าไม่ใช่รถถังหรอก  "ปืนใหญ่อัตราจร" ต่างหาก  จัดอยู่ในกลุ่มอาวุธสนับสนุนจากแนวหลังมากกว่าตัวรับกระสุนอย่างรถถังทั่วไป จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:18:34

ความคิดเห็นที่ 52 Note: ปืนใหญ่อัตราจร =  ปืนใหญ่ที่ติดตั้งบนยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้  โดยอาวุธอาจเป็น ปืนใหญ่วิถีราบ ปืนฮาววิตเซอร์ (ปืนวิถีโค้ง) หรือเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องก็ได้   มีประโยชน์ตรงที่ความคล่องตัวสูง สามารถดำนินกลยุทธ์แบบ Hit&Run ได้ง่ายโดนการระดมยิงใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักแล้วถอนตัวหนีอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการตอบโต้ - พอเอ่ยคำปืนใหญ่อัตราจรปุ้บ  ทั้งทีมเออร์วินชี้นิ้วทันทีเลย 'นี่แหละ!!' เพราะในที่สุดพวกเธอนึกบทบาทที่เหมาะสมกับรถ StugIII คันนี้ออกสะที Ex. ตัวอย่างปืนใหญ่อัตราจร M109 (เอารูปของทบ.ไทยมาละกัน) เหมาะมากในการสนับสนุนยานเกราะ เพราะวิ่งไปตั้งหลักยิง แล้ววิ่งตามแนวหน้าต่อได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาวางฐาน ตั้งแท่น จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:20:06

ความคิดเห็นที่ 53 อีกด้านมาโกะก็โชว์เทพ  เปิดคู่มืออ่านๆ  แล้วขับ Type89 ได้ดีกว่าทีมเป็ดเจ้าของสะงั้น  แต่ดูเหมือนจะทำกระบวนท่าเทพประทับไม่ไหวแฮะ /me  มีเจ๊แกทำได้คนเดียวแหละ คู่มือเทพเจ้านั่น.  จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:20:49

ความคิดเห็นที่ 54 ส่วนซาโอริน นี่อารมณ์อจ.แนะแนว  ชี้แนะความรัก  เพื่อนผองน้องพี่   สารพัดคำแนะนำดีๆจากหนังสือดวงชะตาทั้งหลาย  แต่ดูเหมือนจะใช้กับตัวเองไม่ได้ผลแฮะ   จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:21:15

ความคิดเห็นที่ 55 ท่านประธานเห็นทุกคนสามัคคีแข็งขันกันมากก็ชื่นใจ  ชมเชยแถมขอบคุณมิโฮะด้วย  เพราะมีนางเอกเราเป็นแกนกลางนี่แหละ ทีมโออาไรถึงได้ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาขึ้นมาเลย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:21:55

ความคิดเห็นที่ 56 หน้าแดงด้วยหละ >< แต่พอโดนถามว่าจะชนะต่อไหวไหม  เธอก็เป็นห่วงเรื่อง - แรงจูงใจ - แล้วก็สภาพรถถังที่มีตอนนี้ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:22:12

ความคิดเห็นที่ 57 แต่เหมือนมีความหวังขึ้นมาวูบนึง  เมื่อน้องฮานะ บอกว่าเช็คจากเอกสารแล้วยังมีรถถังบางคันเหลืออยู่ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:22:29

ความคิดเห็นที่ 58 อึ้งกันใหญ่   (ว่าแต่คอม iMo นี่เป็นเพื่อนกับ iMac รึเปล่าครับ) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:23:01

ความคิดเห็นที่ 59 เมื่อมีข่าวกรองเราก็ต้องไปพิสูจน์  สภานักเรียนสั่งจัดทีม Scout ออกค้นหาสมบัติลับในเรือโรงเรียนแห่งนี้ทันที ปล. เชื่อแล้วว่าเรือลำนี้มันใหญ่จริงๆ   มันมีทุกอย่างเลยวุ้ย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:24:06

ความคิดเห็นที่ 60 พอดูแบบนี้แล้วเห็นเลยว่าทีมวอลเล่ย์นี่ตัวสูงจริงแฮะ สมกับเป็นนักกีฬา จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:24:28

ความคิดเห็นที่ 61 ทีมเออร์วินนี่ทำนายดวง คุ้ยโชคหาเลย ส่วนทีมน้องปี 1 ซาโอรินพาลงไปส่วนลึกใต้เรือ   Note:   คราวนี้มีเรื่องน่าสนใจที่ซาโอรินเป็นคนพูดด้วยแฮะเรื่องสาเหตทำไมต้องมาอยู่ในเรือ? ซึ่งเธอตอบว่า  "เพื่อปลูกฝังรุ่นต่อไปให้เป็นผู้นำของโลก-สร้างอิสรภาพ-ความเป็นตัวของตัวเอง-สถาบันโรงเรียนจึงสร้างขึ้น" แต่รุ่นน้องเราบอกว่า "นึกว่าเป็นปัญหาทางการเมืองสะอีก"  ซึ่งผมว่าก็เป็นไปได้นะ  แบบการเมืองกีฬาสีบ้านเราตีกัน ฝ่ายแพ้โดนไล่ไปอยู่ในเรือแทนเป็นต้น จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:25:21

ความคิดเห็นที่ 62 นี่เป็นเรือจริงๆด้วยหละครับ   มีลูกเรือด้วย !! สาวๆในชุดเซลเลอร์นี่แหละ !!  แถมพวกเธอยังบอกว่าเคยเห็นรถถังบางคันแถวนี้ด้านในตัวเรือเหมือนกันยิ่งจุดประกายความหวังเข้าไปอีก ส่วนด้านฮานะ และทีมประธานนักเรียนก็ยังคงรออย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะโรงเรียนนี้ไม่มีหลักสูตรรถถังมา 20 ปีได้ คงต้องเคาะสนิมกันยกใหญ่เลย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:26:22

ความคิดเห็นที่ 63 ในที่สุดมาโกะ มิโฮะและทีมวอลเล่ยบอลก็พบกับราวตากผ้าลึกลับ . . . แม่นแหล้ววว . . . . ท่าไม้ตายของ Panzer4  ปืนใหญ่ KwK40 L/48 ขนาด 75 mm  --หนึ่งในปืนใหญ่เจาะเกราะที่ดีที่สุดในสมัย WWII เลยทีเดียว ผมเคยมีเขียนไว้ใน Entry ก่อนหน้านี้อันนึงเช่นกันครับ  จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:28:33

ความคิดเห็นที่ 64 แทบพร้อมกัน  ทีมเออร์วิน+ยูคาริก็ได้เจอรถถังอีกคันนึง  คือ Renault Char B1 bis ซึ่งเป็นรถถังหนักขนาด 28 ตันที่ดีคันนึงของฝรั่งเศสเลย รูปแบบคล้ายคลึงกับ M3 ที่มีปืนใหญ่ 2 กระบอกขนาด 75 mm และ 47 mm.   มีจุดเด่นที่อำนาจการยิงและเกราะที่ค่อนข้างสมดุลทั้งตัวรถ  (หนาทุกด้านทั้ง หน้า(60)-ข้าง(55))   แต่ข้อเสียคือมันอุ้ยอ้ายไปหน่อย  ความเร็วเฉลี่ยแค่ 28km/hr เอง (เร็วกว่า Type97 นิดเดียว) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:29:12

ความคิดเห็นที่ 65 Note: เสียดายรถรุ่นนี้ผลิตมาน้อยไปหน่อย เพราะฝรั่งเศสพ่ายแพ้ไปตั้งแต่ช่วงต้นสงคราม  แถมรถถังคันนี้ถูกทำลายไปเยอะมากโดยไม่ทันได้สู้เพราะ รบ.กลางพ่ายแพ้ไปแล้วและไม่อยากให้หลุดไปอยู่ในมือของทัพนาซีเยอรมัน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:29:47

ความคิดเห็นที่ 66 ตรงนี้มีคำชมที่น่าสนใจจากทีมประวัติศาสตร์เหมือนกันครับ  เพราะชมยูคาริว่าเหมือนกับ 'มอนต์โกเมอรี่'  ซึ่งเป็นหนึ่งในนายพลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของอังกฤษ เพราะสามารถรบกับยอดแม่ทัพอย่างรอมเมลอย่างดุเดือดในแอฟริกาเหนือจนเอาชนะได้ (รอมเมลที่ว่า  ก็ "เออร์วิล รอมเมล" ที่โดนใช้เป็นชื่อของสาวน้อยชุดผู้พันเยอรมันที่ยืนข้างๆเธอนั่นแหละครับ) ปล.  ในฐานะโปรฯฝ่ายเยอรมัน  ก็ยอมรับครับว่ามอนต์โกเมอรี่นี่ชนะได้จริงๆ  แต่ชนะก็เพราะรอมเมลไม่อยู่+กองทัพเยอรมันตรงนั้นอ่อนแรงมากแล้ว  กำลังเสริมฮิตเล่อร์ก็ไม่ให้  เชื้อเพลิงก็ไม่มี  ทหารอิตาลี่ก็คอยเป็นตัวถ่วง แถมกองทัพอังกฤษพึ่งได้แรงสนับสนุนใหม่เอี่ยมอ่องจาก US + ออสเตรเลียมาด้วย  ฝ่ายรอมเมลจะเหลืออะไรไปสู้หละหนอ -*- และยูคาริก็คงเป็นสายเยอรมันเหมือนผมนั่นแล (คิดเข้าข้างเต็มที่) เธอก็เลยดูลังเลที่จะรับคำชมว่าเหมือนมอนโกเมอรี่ที่เป็นคู่อริเก่า  จนกระทั่งเออร์วินเสนอชื่อใหม่ขึ้นมาว่า "กูเดเลี่ยนหละเป็นไง!" จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:30:49

ความคิดเห็นที่ 67 ปิ๊งป่อง!! ไม่มีคำชมหรือชื่อไหนจะเป็นเกียรติยิ่งไปกว่านี้แล้ว   เพราะนามของไฮนซ์ กูเดเลี่ยน ....คือสุดยอดนายพลคนนึงแห่งกองทัพยานเกราะทั้งปวงของเยอรมัน  ดีไม่ดีจะนับว่าเป็นของโลกทั้งใบด้วยเพราะเขาคือผู้คิดค้นศาสตร์ของ Panzerkraft (วิชายานเกราะ) และต้นกำเนิดการรบแบบ Blitzkriege (หรือ'สงครามสายฟ้าแลบ' นั่นเอง)  ที่เป็นการสนธิกำลังรบทุกแบบเข้าด้วยกัน  ใช้จุดอ่อนผสานจุดแข็งของแต่ละเหล่าทัพ  โดยมีกองทัพรถถังที่ประสานงานกันอย่างแน่นแฟ้นเป็นหัวหอกเข้าชิงพื้นที่ ยอดนายพลอย่างแมนสไตน์และรอมเมล ต่างก็ใช้ศาสตร์เหล่านี้เหมือนกันครับ  ไม่เว้นแม้แต่กองทัพฝ่ายศัตรูอย่างแม่ทัพแพ็ตตัน (US) หรือมอนโกเมอรี่(UK) ก็ทำเช่นกัน แถมยังเป็นผู้สั่งสร้าง Panzer4 มาเป็นกองกำลังหลักของเยอรมันอีกด้วย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:32:45

ความคิดเห็นที่ 68 ฝั่งสภานักเรียนได้รับรายงานใหม่ก็ตื่นเต้นขึ้น  เมื่อเห็นรถถังที่ดีกว่าเดิมปรากฎมา  เลยมีข้อเสนอว่าจะหาทีมใหม่เพิ่มดีไหมหนอ? พอตกเย็น  แต่ละทีมเริ่มเอาของมาดูกัน  (ใครจะได้ขับรถถังใหม่หว่า)  แต่ก็เริ่มเป็นห่วงพวกเด็กปี1+ ซาโอรินขึ้นมาเพราะสายมากแล้ว  แต่เสียงมือถือ (เสียงแมวน่ารักจริงๆ) ของมาโกะก็ดังขึ้นมาก่อน  บอกมาเป็น sms เลยว่าหลงทางไปแล้ว อยู่แถวไหนก็ไม่รู้ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:33:23

ความคิดเห็นที่ 69 โมโมะเลยสั่งไปบอกว่าอยู่กับที่เฉยๆอย่าไปไหนเชียว  แล้วท่านประธานอันซุก็คุ้ยหาแผนที่ส่งให้พวกมิโฮะไปจัดการตามตัวสะ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:33:46

ความคิดเห็นที่ 70 บรรยากาศในเรือดูเหมือนหนังผีดีแท้ แถมสาวๆปอดแหกกันทุกคนด้วยนะ  (ไม่พาผมไปแทนละฮับ  ผมไม่กัวผี @()@ นะ) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:34:25

ความคิดเห็นที่ 71 สภาพเหมือนพาสาวๆไป Silent hill ทำเอาหวาดหวั่นมิใช่น้อย  ทิ้งมิโฮะ ยูคารินี่กอดกันกลม มีแต่น้องฮานะเดินฉลุยไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย . . . ส่วนมาโกะนะเรอะใจแป้วไปอยู่ตาตุ่มเรียบร้อย     (ถ้าทางจะกลัวผีมากกว่ากลัวคุณย่าอีกงานนี้) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:35:49

ความคิดเห็นที่ 72 ส่วนกลุ่มเด็กหลงก็ใจแป้วไม่แพ้กัน   มืดก็มืด  หนาวก็หนาว  หิวก็หิว  (มีน้องเหม่อลอยคนเดียงเองแฮะที่ดูเฉยๆ) ดีที่มีซาโอรินคอยปลอบพร้อมเสบียงเป็นช็อคโกแลต Note: ไม่รู้เจตนาล้อทหารทั่วไปรึเปล่า  เพราะช็อกโกแลตนี้ถือเป็นอาหารฉุกเฉิน และเสบียงพกพาของทหารสมัย WWII โซนยุโรปเลยครับ เพราะมันให้พลังงานสูงมาก พกพาง่าย  อร่อย  ไม่มีกากอาหาร เป็นที่นิยมยิ่งนักแล จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:36:17

ความคิดเห็นที่ 73 กลับมาทางทีมกู้ภัยใจปลาซิว   มาโกะซึ่งพร้อมจะตัวสั่นได้ทุกเวลาก็สะดุ้งเฮือกพอได้ยินริงโทนของยูคาริ ที่เป็นเสียงปืนใหญ่ (ตรงข้ามกับแมวน่ารักของตัวเองเลยว่าปะ) แต่ก็ได้ข้อมูลจากทางซีซาร์ว่าผลการทำนายให้ไปทางทิศตะวันตก (Western Front) แทนนะ Note: ตรงนี้ล้อคำว่า Western Front อันหมายถึง 'แนวรบทางตะวันตก' ที่ตนเองต้องมุ่งไปครับ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:36:44

ความคิดเห็นที่ 74 ฮานะบอกในเรือมืดสนิทแบบนี้ จะรู้ทิศทางได้ไง  แต่ยูคาริก็เป็นโดเรม่อนติดเข็มทิศมาด้วยแฮะ  (ภาคสนามครบเครื่องมาก)  แถมเสี่ยงดวงเดินตามที่เพื่อนบอกด้วยนะเนี่ย  ไม่กลัวหลงหนักกว่าเก่ารึยังไง -*- จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:37:11

ความคิดเห็นที่ 75 แต่เหมือนมีเทพารักษ์ชี้ทางใบ้หวย  มาเจอกันจริงๆด้วยหละ . . . (น้องเหม่อลอยยังยืนนิ่งต่อไป ) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:38:03

ความคิดเห็นที่ 76 แต่มิโฮะสังเกตไปมากกว่านั้น...เงาด้านหลัง  ซึ่งดูไม่ใช่อุปกรณ์เบ็ดเตล็ดทั่วไปเหมือนที่เกลื่อนกลาดอยู่ในห้องแน่นอน . . ปืนใหญ่กระบอกโต เกราะด้านหนาหนัก . . . รถถัง....รถถังแน่ๆ . . . และเป็นรถถังหลัก/รถถังหนัก ระดับไม่ใช่ธรรมดาด้วย  . . นามเรียกขานของมันคือ [Elefant]  สุดยอดรถพิฆาตรถถังทั้งปวง Panzerjäger/ Tiger (P) Tank Hunter   จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:39:43

ความคิดเห็นที่ 77 ณ...ในที่สุด มันก็มาแล้ว  แฟนเซอร์วิสประจำตอน!! ห้องอาบน้ำรวม  แปลกใจที่ทำไมน้องปี1 คนนึงมีเกินหน้าเกินตาคนอื่นเยอะจังแฮะ จากคุณ : ผมมีชีวิตอยู่เพื่อฉากนี้!!! (Kross_ISC) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:40:14

ความคิดเห็นที่ 78 โมโมะ บอกทุกคนว่าการแข่งรอบหน้ารถถังใหม่ที่เจอยังไม่พร้อม คงต้องใช้คันเดิมกันไปก่อน  แต่ก็กล่าวให้กำลังใจว่าพวกเรายังมีหวังและต้องเอาชนะทีม Anzio ให้ได้ ก่อนโยนให้มิโฮะต่อในฐานะกัปตันทีม  อย่างน้อยให้กล่าวอะไรหน่อยนึงจะได้มีแรงใจสู้กัน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:40:40

ความคิดเห็นที่ 79 ทำไมมุมกล้องถึงเป็นด้านนี้  T___T . . . ฉากห้องอาบน้ำ ต้องลงเยอะๆ ปล.  ทำไมมองอะไรไม่เห็นเลย   มันไม่มีแสง ไม่มีหมอก  ทำไมผมมองอะไรไม่เห็นอยู่ดีเน่ย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:41:56

ความคิดเห็นที่ 80 มิโฮะทำท่าเหวอน่ารักจัง  จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:42:40