เราปกติไม่ค่อยได้ดูหนังค่ายในเครืออาหลองเท่าไหร่นะ แต่เรื่องนี้ลองดู หนึ่งเราชอบซีมากเป็นอันดับต้นๆเลย ในบรรดาพระเอกช่องเจ็ด หน้า-ทรง เหมือนถูกชะตาอ่ะ ^^ นิสัย การวางตัว ซีน่ารักอ่า สุภาพมาก แต่ติดดิน พระเอกทั้งในจอนอกจอเลย เราว่า สอง เราอยากลองดูงานของลูกอาหลองแบบตั้งใจดูหน่อย ว่าลูกไม้จะหล่นใต้ต้นมั้ย
พบว่า ชอบนะ มันยังคงมีความเป็นงานฉลองอยู่ ในขณะที่ก็ดูมีสิ่งที่พัฒนามากขึ้น (งานภาพเห็นชัดว่า มีพัฒนาที่เข้ายุคมากขึ้น)
การเป็นลูกของคนดัง และมีบารมีสูงยาวนานในวงการ อย่างฉลอง ภักดีวิจิตร เราว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในการพิสูจน์ตัวเอง
งานชิ้นนี้ เราไม่ทราบว่า อาหลอง ปล่อยหมดมือเลยมั้ย หรือยังคงกุมบังเหียนอยู่บ้าง ในการตัดสินใจ ถ้าปล่อยลุยเองแบบหมดมือ แค่ยืนอยู่อยู่ห่างๆล่ะก็ เรามองว่า คุณเฉิด เก่งนะ มีเลือดพ่อเต็มตัว ลูกไม้หล่นตุ๊บใต้ต้นเป๊ะๆเลย
เราชอบตรงที่งานแก ยังคงสไตล์ที่โดดเด่นเป็นตัวตนในแบบที่เคยเป็นมา ในขณะที่มีบางจุดที่ปรับโฉมใหม่ ให้ดูเจิดจ้ามากขึ้น เปรียบเหมือน ร้านอาหารเก่าแก่ที่ขายดีและดังมายาวนาน แล้วส่งต่อให้รุ่นลูก โดยมีการปรับองค์กรให้ทันยุคมากขึ้น แต่ยังคงสูตรอาหารดั้งเดิมที่คุ้นลิ้นเอาไว้...มันเท่ห์ก็ตรงนี้เอง
อย่างที่บอก ปกติ เราไม่ค่อยดูงานของอาหลองบ่อยหรือดูแบบตั้งหน้าตั้งตาดูมากนัก (อาจเพราะมันแอ๊คชั่นจ๋าหนักหน่วง เป้นธรรมดาที่ผู้หญิงหวานๆอย่างเรา ไม่ค่อยถนัด ...กร๊ากกกกกกกกก 55555) (ล้อเล่น--จริงๆคือเพราะเราชอบแนวดราม่ามากที่สุดก็แค่นั้นแหละ555)
แต่ไม่ว่าจะดูบ่อยหรือไม่บ่อยยังไง แต่มีสิ่งนึงที่เราชอบในงานของฉลอง คือบทภาพยนตร์ (-ละคร) มันมีความเป็นอะไรที่เฉพาะ มันโดดเด่น มีความเป็นตัวตนสูงมาก
มันเหมือนคนที่มีสไตล์ชัดเจน และไม่เคยตามกระแส สังเกตุดูได้เลยว่า บทของแก การนำเสนอประเด็น การเล่าเรื่อง ลักษณะของบทพูด วิธีการบอกเล่าเรื่องราวและเงื่อนปมต่างๆของละคร-หนัง จะไม่ค่อยเหมือนเจ้าอื่นเท่าไหร่
ที่เราชอบสุดคือ บทพูด การวางคาแรคเตอร์ตัวละครแต่ละตัว จะชัดเจน แทบทุกตัวมีจุดให้จำได้ และวิธีคิด วิธีพูดของตัวละคร จะมีเอกลักษณ์คือ ไม่เพ้อ ไม่ฟุ้ง โดยเฉพาะตัวเมน จะฟุ้งน้อยมาก นอกจากตัวเมนบางคาแรคเตอร์ต้องการวางให้เป็นตัวเว่อๆ ถึงจะยอมให้ฟุ้งได้
ความเห็นเรา ว่างานแกมันแนวอ่ะ แกแนวตั้งแต่หนุ่มแล้ว สมัยก่อนหนังแกถือว่าล้ำยุคมาก จนมาถึงวันนี้ งานแกก็ยังดูแล้วไม่รู้สึกเวิ่นเว้อเลย เช่น น้อยมาก ที่จะให้ตัวละครนึกในใจบอกสิ่งที่รู้สึก ใส่เอ๊คโค่ โว้งๆ เช่น...โธ่ คุณหนู ไม่น่าไปคุยกับมันเลย ผมเสียใจ....เพ้อเจ้อ !!!! อาหลองไม่มีแบบนี้ มันละครวิทยุ 55555 ฉากเมื่อคืน ที่ ซีเจอกับนางเอกอีกตัว ลูกเจ้าพ่อ เข้าไปคุยกัน พี่เรียวเดินมาอารักขาตามหน้าที่ มองและเบือนหน้าหนี กัดกรามเล็กน้อย....พอเลย จบ คนดูเข้าใจหมดจดแล้ว ไอ่ตัวนี้แอบรักคุณหนู ....มันแมนพอ มันหล่อพอ มันครบพอที่จะให้คนดูซึมซับความรู้สึกตัวละคร
ฉากที่คุณหนู ยืนที่ระเบียง เห็นพ่อเพิ่งเลิกประชุมกับลูกน้องคนสนิท แน่นอน คุณหนูสงสัย ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ ทั่วๆไป สูตรคือ ต้องจับใกล้ ให้คุณหนูพูด(หรือคิดในใจ) เอ๊ะ...นั่นพ่อนี่ ...มีเรื่องอะไรกัน ดึกป่านนี้ทำไมยังมีเรื่องต้องคุยกันอยู่ บลาๆๆๆๆๆ.......55555 ของอาหลอง ไม่ต้อง แกเดินลงมาเลย อยากรู้เดินมาหาเลย ไม่ต้องอธิบายคนดู เขาก็เห็นพร้อมกับแกน่ะแหละ พ่อแกยืนอยู่ตรงนั้น คนดูไม่ได้ตาบอด 55555555 แล้วคนดูก็เห็นที่แกแอ๊คติ้งแล้วว่าสงสัย ไม่ต้องสัมทับเน้นให้เชื่อมั่นอีกชุดว่าแกสงสัย 5555555555
อีกฉาก เจ้าพอ่คุยงานกับลุกน้อง ลูกน้องแสดงความกังวล ว่าไอ่หนุ่ม(ซี) มันหน้าตาคุ้นๆ ไม่น่าไว้ใจ เจ้าพ่อพุดแล้ว ...เอาน่า ไม่มีอะไรหรอก บลาๆๆ อะไรอีกสองสามคำ ลูกน้องยังกังวลต่อ ...ท่านคับ เจ้าคนนี้มัน ... เจ้าพ่อหันขวับเลย...จ้องตานิ่ง ...แล้วพูดธุระเรื่องงานอื่นสวนไปเลย จบแล้ว ลูกน้องหน้าซีด หยุดเรื่องเวิ่นเว้อที่ตนพยายามจะรายงานนาย สัมผัสได้ทันที เจ้าพ่อคนนี้ต้องโหดพอ โดยที่ไม่ต้องตะคอกอะไร ไม่ต้องตวาดตามสูตร...ก็ชั้นว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีสิ!!! (ตามสไตล์ละครเจ้าพ่อต้องตะโกนกำราบแบบนี้ถึงจะเอาอยู่ 5555)
เนี่ย จริงๆ ไม่ใช่ของใหม่เลยนะ โดยเฉพาะงานภาพยนต์ ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย แต่กับละคร พบเห็นน้อยมากที่จะนำเสนอแบบนี้ ส่วนใหญ่ละคร มักทำสไตล์ พูดพะยนต์ ไม่ชอบทำ ภาพยนตร์ แต่อาหลองแค่นำเสนอในแบบภาพยนตร์ มันเลยดูแตกต่าง เมื่ออยู่ในฐานะงานละคร
เราชอบนะ เราว่าแกแนว แกแนวมานานแล้ว ตั้งแต่หนุ่มยันแก่เลย ปาเข้าไป 70+ แล้วมั้งป่านนี้ ใครจะได้อย่างแก หาได้น้อยนะ เราว่า
ข้าน้อย คาราวะท่านผู้เฒ่า สามจอก
^^*
จากคุณ |
:
007-s
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ธ.ค. 55 14:26:24
|
|
|
|