"ติ๊ก"ปลื้มแฟนคลับจีนมาให้กำลังใจถึงที่ ปัดเล่นIGบอกใช้ไม่เป็น ขำๆคนแซว "พระเอกโลเทคฯ"
|
|
หลังจากที่หายไปจากการแสดงมาพักใหญ่ๆ สำหรับหนุ่ม ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี พอเจ้าตัวกลับมารับงานแสดงอีกครั้งงานก็เข้ามาไม่หวาดไม่ไหว มีทั้ง รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ เนวิเกเตอร์ และ ภาพยนตร์ที่กำลังจะขึ้นฉายอย่าง ยอดมนษย์เงินเดือน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามถึงขนาดมีแฟนคลับจากประเทศจีนมาร่วมเป็นกำลังใจให้ในงานเปิดภาพยนตร์เรื่อง ยอดมนุษย์เงินเดือน อีกด้วย ซึ่งหนุ่ม ติ๊ก ก็ได้เล่าถึงความรู้สึกปลื้มปิติว่า ใช่ครับ ก็รู้สึกว่ามีป้ายไฟเป็นของตัวเอง(หัวเราะ) แต่ยังสู้ของพี่เต๋าไม่ได้นะครับ ผมว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นกำลังใจที่ดีมาก ผมเข้าใจเลยว่าแฟนคลับไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวจีน สิ่งที่เกิดขึ้นนี่ล้วนต้องมีความพยายาม อย่างแฟนคลับจีนก็ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินมา เอาของมาฝากอีก แถมต้องพลัดอยู่ในกรุงเทพฯ คือทุกอย่างมันต้องใช้ความพยายาม มันต้องใช้เงิน เรารู้สึกว่าอยากจะตอบแทนสิ่งดีๆ ให้กับเขาได้ยังไง ก็คิดว่าอย่างน้อยก็เป็นกำลังใจซึ่งกันและกันนะครับ เมื่อมีกำลังใจให้มาผมก็ยินดีรับไว้ด้วยความเต็มใจ และก็อยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้กับเขากลับคืนไป
มีโอกาสได้ใกล้ชิดพวกเขายังไงบ้าง
อย่างวันนี้เราเจอกันแล้ว ได้ถ่ายรูปกัน กอดกัน และก็พูดคุยกันบ้างเล็กน้อยครับ
เขามาตลอดเลยใช่ไหม
ในทุกๆ งานที่ใหญ่ๆ แบบนี้นะครับ ในงานสำคัญๆ เขาก็จะมาให้กำลังใจแบบนี้ครับ
มีแพลนจะไปทำผลงานที่จีนไหม
ปกติพวกผลงานก็จะมีไปฉายที่โน้นอยู่แล้ว มีแต่งานไปตัวยังไมได้ไปครับ ตอนนี้คงยังไม่ไปแต่ว่าทางจีนก็มีชวนมาเหมือนกันครับ แต่เนื่องจากเรื่องเวลา เรื่องอะไรแบบนี้ยังไม่ตรงกันครับ คือยังไม่เคยไปเลยครับ มันติดเรื่องเวลาครับ อย่างตอนนี้ก็ติดงานหลายๆ อย่างครับ ส่วนโปรเจคนั้นแค่คุยกันครับ ยังไม่ทราบเลยว่าเป็นละครหรือเป็นหนังหรือเป็นอะไร อย่างน้อยๆ คือได้รับการชักชวนมาเท่านั้นเอง เขาจะรอไหมนี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เรื่องที่ไม่มีเวลาผมว่าในอนาคตก็น่าจะมีโอกาสนะครับ แต่ตอนนี้ส่งเพื่อนๆ ไปก่อน(ยิ้ม)
หนังเรื่อง ยอดมนุษย์เงินเดือน จะมีโอกาสได้ไปฉายที่โน้นไหม
ในฐานะคนที่ทำงานนะครับ ถ้ามีผลงานของเราเกิดขึ้น เราก็อยากให้ผลงานเหล่านี้นอกจากประเทศไทยแล้วก็เป็นอุตสาหกรรมที่สามารถส่งออกแล้วทำรายได้ให้กลับคืนสู่ประเทศได้ ก็คือไปฉายต่างประเทศในทุกๆ ทวีปทั่วโลกครับ
เขาได้ติดต่อมาหรือยัง
สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ติ๊กยังไม่ทราบนะครับ(หัวเราะ)
จะมีโอกาสได้เห็นงานเราจากที่ทางจีนได้ติดต่อมาไหม
เราอยากนะ ผมคิดว่าซักวันหนึ่งครับ เราอยากจะไปทำงานแบบนั้นดู ซึ่งในครั้งหนึ่งนะครับ อย่างน้อยๆ ก็มีโอกาสทำงานในระดับอินเตอร์นิดหน่อย อย่างเรื่อง ดิ อายส์ สอง ที่เล่นกับซูฉี ผมว่ามันเป็นบรรยากาศใหม่ๆ และประสบการณ์ของชีวิตนะครับ ก็ต้องรีบไปนะ
เผื่อจะเห็นเราดังในจีนเหมือนกับซุปตาร์หลายๆ คนของเมืองไทย
ไม่หรอกครับ มันขึ้นอยู่กับผลงาน ขึ้นอยู่กับการตอบรับมากกว่า เราไม่สามารถจะคาดได้ก่อนล่วงหน้าครับ เรื่อง วนิดา ฝั่งโน้นเขาก็ทราบครับ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีนะครับ หนังเรื่อง I Miss You ก็ผลการตอบรับดีครับ ก็หวังว่ายอดมนุษย์เงินเดือนจะผลตอบรับดีเช่นกันจากวันนี้ที่พี่สื่อฯได้ดูกันนะครับ(ยิ้ม)
อาจจะเห็นผลงานหรืออาจจะไปโชว์ตัวที่นั่นก็ไม่แน่ใช่ไหม
ครับ(ยิ้ม)
ที่บอกติดงานนี่ไม่ใช่ติดภรรยาใช่ไหม
อ๋อ แซวอีกและ(ยิ้ม)
เห็นมีแฟนคลับที่อ้างว่าเป็นเราพอจะทราบข่าวบ้างไหม
ก็ทราบเหมือนกันครับ จะบอกว่าปกติผมก็เป็นคนไม่ค่อยเล่นอะไรพวกนี้อยู่แล้วนะครับ อะไรนะ อินสตาแกรม หรือว่า เฟสบุ๊ค อะไรแบบนี้อะครับ ถ้ามีก็จะเป็นแฟนคลับที่เป็นศูนย์กลางทำให้ ก็คือในเว็บไซต์ เนวิเกเตอร์ติ๊ก-ตั้นดอทคอม เท่านั้นครับ
มีเสียหายอะไรไหม
ผมเองก็ยังไม่ได้ดูนะครับ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียหายหรอก เพียงแต่เรากลัวว่าอาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดในการส่งข่าวต่างๆ ทางที่ดีผมว่าติดตามและเชื่อในสิ่งที่ถูกต้องดีกว่านะครับ
ยืนยันว่าไม่ได้เล่นเอง
แน่นอนครับ เล่นไม่เป็นครับ
จะมีวิธีการยังไง
ก็ถ้ามีคนถามแบบนี้นะครับ อย่างสื่อฯถามผมก็จะเรียนแบบนี้ครับ ผมไม่ได้เล่นนะครับ(ยิ้ม)
ไม่ได้คิดถึงขึ้นฟ้องใช่ไหม
ไม่หรอกมั้งครับ เพราะว่าเป็นใครยังไม่ทราบเลยครับ
มีโอกาสจะเล่นไหม
ผมคิดว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อมที่จะเล่นมากกว่า แต่ผมว่าในอนาคตโลกมันเปลี่ยนไป มีความต้องการมากขึ้นก็ได้
มีคนแซวว่าเป็นพระเอกโลเทคฯ ซีเรียสไหม
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลนะครับ และก็เราเองก็ยังไม่จำเป็นต้องใช้
ภาพยนตร์เรื่อง รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ ไปถึงไหนแล้ว
ตอนนี้ก็เริ่มถ่ายทำแล้วครับ แต่เริ่มไปได้ยังไม่มาก ส่วนใหญ่จะถ่ายที่ต่างจังหวัดครับ ตอนนี้ก็เริ่มไปแล้ว นี่กลับมาเฉพาะกิจเลยนะเนี่ย(ยิ้ม) เสร็จงานนี้ก็ต้องรีบกลับไปเลย
คิดว่าถ่ายทำกี่เดือน
ผมคิดว่าไอคำว่าเป็นเดือนมันจะต้องกลับไปกลับมา เพราะมันต้องมีช่วงเวลาพักของทีมงานและเป็นการเตรียมความพร้อมด้วย แต่สำหรับผมเราสบายอยู่แล้ว เพราะทำงานทีละเรื่อง สิ่งที่กังวลคือเรื่องของเนวิเกเตอร์มากกว่า ถ้าเมื่อไรที่หยุดพักกองผมก็จะแอบไปเก็บภาพในรายการก่อน
ได้ยินว่าถ่ายเสร็จปีหน้า
น่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะตอนนี้ก็ธันวาคมแล้วนะครับ
เมื่อไรจะได้
อันนี้ต้องถามคุณอนันดาดูครับ
เห็นห่างหายการแสดงไปนาน เราได้ไปเรียนการแสดงใหม่บ้างไหม
ในทุกๆ เรื่องนะครับ เมื่อเราทำงานใหม่มันก็คืองานใหม่สำหรับเรานะครับ ก็เริ่มต้นนับศูนย์ นับหนึ่งใหม่ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่ามีการเรียนการแสดงเกิดขึ้นผมชอบมากเลย มันคือเราได้เปลี่ยนและได้ทักษะอะไรต่างๆ เพิ่มมากขึ้นและก็ความต้องการในเล่นละครเรื่องนั้นๆ เราอยากให้เป็นอยู่แล้ว ถ้าเขาให้ไปเรียนนะ อย่างเรื่อง ยอดมนุษย์เงินเดือน ผมก็ได้เรียนนะครับ
ถ้ามีโอกาสได้ไปทำงานที่จีนจะเป็นช่วงไหน
น่าจะหลังเรื่อง รักนี้ชั่วนิจนิรัดร์ ครับ
แล้วจะเคลียร์คิวยังไง ไหนจะงานของจีนของไทย
นั่นนะสิครับ ช่วยเคลียร์ให้หน่อยได้ไหมครับ(ยิ้ม) แต่ก็โชคดีอย่างครับ คือเราทำงานทีละอย่าง ให้จบไปเป็นเรื่องๆ ให้เรื่องนี้จบก็ค่อยไปทำงานเรื่องต่อไปครับ ผมว่ามันก็ดีต่อทุกๆ อย่างด้วย ไม่งั้นมันก็ต้องถูกแชร์กัน และก็ในเรื่องของคาแรคเตอร์ทรงผมก็ไม่เหมือนกันแล้ว และก็ในเรื่องของความทุ่มเทเราก็อยากจะให้คิวเขาเต็มที่ เพราะฉะนั้นเราทำทีละเรื่องนี่การที่มีคิวในการทำงานมันก็ได้เต็มที่เช่นเดียวกัน ไม่ต้องแชร์กันครับ
เห็นมีเรื่องตอนถ่ายทำ เนวิเกเตอร์ ว่าเราบุกรุกป่า
ผมว่ามันเป็นเรื่องของทัศนคติส่วนบุคคลมากกว่าครับ คือพื้นที่ๆ เราขออนุญาตที่จะเข้านะครับ ทางหัวหน้าของดอยอินทนนท์บอกว่าในพื้นที่นี้ไม่ให้ถ่ายทำ ซึ่งจากข้อมูลที่เราทราบมาหรือจากที่เราเป็นคนเดินทางเราทราบอยู่แล้วว่าตรงนี้ที่ดอยหัวเสือใครๆ เขาก็ไปเที่ยวกัน และมันก็เป็นแหล่งที่เขาศึกษาหาความรู้ เป็นงานวิจัย และก็มีทัศนภาพที่สวยงาม อย่างผมในฐานะที่เป็นคนเดินทางคนหนึ่งและเราทำสารคดี เราก็อยากจะสื่อสารมุมมองสวยๆ เหล่านั้นกลับคืนมาให้ทุกๆ คนได้ดู ผมคิดว่าในเรื่องของตรงนี้คือต้องแยกแยะให้ถูกระหว่างเรื่องการจัดการ ในเรื่องของรายการทีวี เพราะฉะนั้นถ้าทำแบบนี้มันเหมือนเป็นการปิดมุมมอง ปิดหู ปิดตา การที่คนเราจะได้รับรู้สิ่งต่างๆ เหล่านี้กลับมองไม่เห็น และก็ไม่ทราบว่าสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในประเทศไทยเรามีอะไรบ้าง
แล้วสรุปว่าจะได้เข้าไปไหม
ในเมื่อไม่ให้ผมก็ไม่เข้าครับ เพราผมคิดว่าเราทำงานที่มันสบายใจดีกว่า คือเราเสียดายมากกว่าครับ เพราะว่าไม่อย่างนั้นรายการสารคดีบนโลกใบนี้มันก็ไม่ครบจะมีหรอก เพราะฉะนั้นผมพูดเสมอว่าการจัดการสิ่งแวดล้อมมันคือสิ่งที่เราทุกคนต้องมีส่วนร่วม ได้รู้ ได้เห็น ได้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพราฉะนั้นสิ่งต่างๆ ที่จะบอกว่าตรงนี้คือพื้นที่เปราะบางอะไรแบบนี้ บางทีแล้วสำหรับคนที่รู้มันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่จริง แต่ว่ามันก็ไม่มีมาตรฐานมาวัดว่ามันคืออะไร แต่ด้วยสิ่งต่างๆ เหล่านี้จากเจตนารมณ์ของเราคืออยากจะเสนอและบอกให้ทุกๆ คนเข้าใจธรรมชาติมากกว่า ยิ่งในบางพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เราก็จะบอกว่าไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว เพียงแต่ว่าเราจะนำเสนอในสิ่งต่างๆ ที่ทุกคนไม่มีโอกาสจะได้เจอ ได้สัมผัส ให้ทุกๆ คนได้เห็นกัน เราเป็นตัวแทนของทุกๆ คนนะครับ
คิดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่เขาไม่ให้เข้าไป
ผมว่ามันเป็นทัศนคติส่วนบุคคลนะ
ข่าวจาก : รักดารา
http://www.rakdara.net/overview.php?c=2&id=30880
แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 55 15:08:57
| จากคุณ |
:
Dear Nostalgia   
|
| เขียนเมื่อ |
:
4 ธ.ค. 55 14:54:23
|
|
|
| 
