 |
ความคิดเห็นที่ 168 |
|
TRANS] 091028 TVXQ's Victory Is A Call For Change Saturday, October 31, 2009 | by Kamerru
ชัยชนะของดงบังชินกิเป็นสัญญาณสู่การเปลี่ยนแปลง
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ศาสกรุงโซลได้ตัดสินเข้าข้างสมาชิกทั้งสามคนของวงนักร้องชื่อดังดงบังชินกิรวมถึงการขอพักสัญญาชั่วคราวที่มีต่อ SM Entertainment ศาลได้ตัดสินว่าเอเจนซี่บันเทิงนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ทำสัญญาใหม่หากไม่ได้รับการยินยอมจากศิลปินและห้ามเข้าแทรกแซงกิจกรรมส่วนตัวต่างๆ ของศิลปิน ดังนั้นจึงเป็นการเปิดทางสู่ความเป็นอิสระที่มากขึ้นให้กับสมาชิกของวงดงบังชินกิ ถึงแม้ว่าขั้นตอนการตัดสินจะยังไม่สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ ผลการตัดสินนี้ได้ให้ความหวังต่ออนาคตของวงการบันเทิงในเรื่องการทำสัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกิดขึ้นมากมาย โดยรวมแล้วมันเป็นสัญญาณให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากความสัมพันธ์ตามแนวตั้ง (ผู้แปล- เจ้านายกับลูกน้อง ผู้อาวุโสกับเด็ก เป็นต้น) มาเป็นแบบระนาบหรือในระดับเดียวกัน หลายคนจึงคาดการณ์ว่าความขัดแย้งนี้จะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกันระหว่างศิลปินกับเอเจนซีในอนาคต
จนถึงตอนนี้ ธุรกิจด้านบันเทิงของเกาหลี(ซึ่งอีกนัยนะหนึ่งคือธุรกิจสัญญาทาส)ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่ยุติธรรมและไม่ชอบด้วยกฏหมายที่(ผู้อยู่ในวงการ)ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ ศิลปินดาราส่วนใหญ่ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบตั้งแต่เริ่มทำสัญญาและสุดท้ายก็กลายเป็นเพียงเครื่องมือ(ในการทำธุรกิจ)ของบริษัทเอเจนซี่เท่านั้น ทุกกิจกรรมของศิลปินตั้งแต่กิจกรรมแบบเป็นทางการ (ผู้แปล- กิจกรรมโปรโมตอัลบั้ม เป็นต้น) จนถึงกิจกรรมส่วนตัวจะถูกควบคุมสั่งการโดยเอเจนซี เพราะต้องเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้นี่เองที่ทำให้สมาชิกทั้งสามคนของวง idol ระดับประเทศต้องต่อสู้(ฟ้องร้อง)กับเอเจนซีของพวกเขา ถ้าศิลปินระดับดงบังชินกิยังต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าศิลปินที่ยังไม่มีชื่อเสียงหรือชื่อเสียงไม่มากนั้นจะตกอยู่ในสภาวะเช่นไร
บริษัทเอจนซีในประเทศส่วนมากจะดำเนินการโดยใช้ระบบการจัดการเด็กฝึกหัด เอเจนซีจะจัดการและลงทุนกับเด็กใหม่ด้วยการฝึกฝนเด็กใหม่ที่มีพรสวรรค์และสร้างมูลค่าให้เป็นศิลปินใหม่ที่ยังไม่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่ศิลปินจะตกอยู่ภายใต้สัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะหลุดออกมาจากสัญญานั้นได้ ซึ่งดูได้จากการที่ศาลกล่าวว่า "โครงสร้างนี้เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมเนื่องจากไม่ได้ให้แม้แต่สิทธิขั้นต่ำที่พวกเขาควรจะได้รับ" และ "ถ้าหากสมาชิกไม่ทำตามสัญญา สมาขิกจะต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นจำนวนมหาศาล จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่สมาชิกจะไม่ทำตามสัญญา"
การตัดสิน(ของศาล)ครั้งนี้ จะนำความเปลี่ยนแปลงเข้ามาสู่ธุรกิจบันเทิงโดยรวมสาเหตุมาจากความไม่พอใจทั้งหลายที่ถูกเก็บเงียบมานานอาจจะปะทุและหลั่งไหลออกมามากมาย เป็นที่คาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงที่กรณีการต่อสู้(ในศาล)ของสมาชิกวงดงบังชินกิและเอเจนซีของเขาจะใช้เวลานาน เมื่อคำตัดสินของศาลออกมา สมาชิกทั้งสามได้กล่าวว่าจะดำเนินการยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทันทีและขอให้สัญญาเป็นโมฆะ ในขณะที่ฝ่ายเอเจนซีกล่าวว่าฝ่ายตนจะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการและเปิดเผยข้อมูลที่ศาลได้เคยขอไม่ให้เปิดเผยต่อสื่อมวลชน ส่วนตัวผู้สื่อข่าวได้แต่หวังว่าความขัดแย้งครั้งนี้จะไม่เป็นเพียงแค่การถกเถียงที่หายไป แต่เป็นบันไดอีกขั้นในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมในอุตสาหกรรมบันเทิง ระบบอาวุโสและระบบปิตุบดีที่กดขี่และเอาเปรียบ(ผู้แปล- ระบบปิตุบดีคือระบบที่ผู้ชายหรือพ่อเป็นผู้กำหนดและควบคุมกฎเกณฑ์) รวมทั้งความเชื่อที่ว่า "ฉันเป็นผู้เลี้ยงดูเธอมา ฉันสามารถทำอะไรกับพวกเธอก็ได้" ควรหมดไปจากอุตสาหกรรมนี้ ถึงเวลาแล้วที่ความสัมพันธ์แบบเท่าเทียมกันควรเกิดขึ้นในธุรกิจบันเทิงบ้านเราเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมให้ก้าวหน้าต่อไป
Source: [yonhap news+DNBN] Translation credits: jeeelim5@tohosomnia.net Shared by: tohosomnia.net Translation Eng-Thai: กระทู้ข่าว TVXQ @ pantip.com/chalermkrung
จากคุณ |
:
Jazzy_Jae
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ต.ค. 52 23:19:05
|
|
|
|
 |