ความคิดเห็นที่ 2 |
|
ส่วนอันนี้เป็นอีก 1 บทความหงสาที่ผมตั้งกระทู้พลาดไปเมื่อคราวก่อน ขออนุญาตนำมารวมไว้ในด้วยกันในกระทู้นี้นะครับ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
บุตรแห่งพยัคฆ์ S กับความลึกซึ้งของหลักการสืบสกุล
ว่ากันว่าบิดาเปรียบเสมือนเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้เป็นบุตร ทั้งในแง่ของตัวอย่างที่ดีน่าทำตามและตัวอย่างที่แย่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง หากแต่ในกลียุคอันแสนลักลั่นย้อนแย้งนี้ บุตรบางคนกลับไม่เอาบิดาที่ดีไปเป็นแบบอย่าง...
ในที่นี้เรากำลังหมายถึง ซุนเซ็ก
โดยเนื้อผ้าแล้วซุนเซ็กถือเป็นผลผลิตของยุคสมัยอันล่มสลายอย่างแท้จริง เพราะในยุคสมัยที่ผู้คนด่วนตายและอายุสั้นนี้ หลักการสืบสกุลถือเป็นเส้นทางสำคัญในการส่งมอบภาระหน้าที่ที่ยังคั่งค้างต่อไปสู่คนรุ่นหลัง ซุนเซ็กจึงรับมอบหน้าที่ในการพื้นฟูวงศ์ตระกูลและแก้แค้นเล่าเปียวที่ฆ่าบิดาเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกัน ซุนเซ็กก็ได้มองบิดาของตนแล้วพบว่า สมัยยังท่านมีชีวิตอยู่แม้จะชื่อว่าเป็นขุนนางผู้ภักดี แต่ในบั่นปลายแล้วกลับต้องพบจุดจบอันแสนอนาถ เขาจึงตระหนักได้ว่า ณ ขอบเหวแห่งผลประโยชน์และคุณธรรม...ไม่ได้มีสวรรค์คอยยืนอยู่ดูเพื่อลงโทษคนผิดและอวยชัยให้กับคนดีอีกแล้ว...
ดังนั้น...หากตนจะทำงานใหญ่ที่บิดาเคยล้มเหลวให้สำเร็จ บางทีการใช้วิธีการอันเปี่ยมคุณธรรมตามเยี่ยงอย่างบิดาอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้องนัก ...ซุนเซ็กจึงขอเลือกที่จะยืนหยัดอุดมการณ์มุ่งมั่นแห่งตนดีกว่า...
แม้เป้าหมายจะเหมือนกันกับบิดา แต่เมื่อได้เรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งเก่าของคนรุ่นก่อน แนวทางความคิดจึงต่างออกไป ส่งผลให้หลากหลายแนวความคิดและแทบทุกกลยุทธ์ของซุนเซ็กจึงมักไร้ซึ่งวี่แววของหลักคุณธรรม
+ เพื่อหลอกล่ออ้วนสุด ซุนเซ็กถึงกับส่งผู้ภักดีอย่างเล่งโฉไปตาย ในขณะที่เล่งโฉต่อสู้จนตัวตาย ไกลออกไป...ซุนเซ็กกำลังง้างเกาทัณฑ์ยิงคนทรยศแล้วเอ่ยว่าข้าซุนเซ็กได้รู้ซึ้งถึงหลักการสืบสกุลแล้ว (ในที่นี้หมายถึงเข้าใจแล้วว่าการสืบสกุลคือ การรับช่วงเป้าหมายและเรียนรู้ความผิดพลาดจากคนรุ่นก่อน)
+ ตอนที่เขาชักชวนไทสูจู้ ซุนเซ็กชี้นำว่า แท้จริงแล้วขุนพลที่อ้างคุณธรรมความภักดีเพื่อก่อการณ์ ก็เป็นเพียงการใช้ถ้อยคำสวยหรูเพื่อส่งคนโง่ไปสู่ความตายเท่านั้นเอง ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว คำว่าคุณธรรมและความภักดียังจะแลดูสูงส่งควรค่าแก่การสละชีพให้อีกเหรอ?
+ เพื่อล้างแค้นเล่าเปียว... ซุนเซ็กยอมละความกตัญญูเข้าร่วมมือกับศัตรูของบิดา(ลัทธิไผ่ผิงโจรผ้าเหลือง...ที่ซุนเกี๋ยนเคยยกทัพปราบปราม) แต่ในขณะที่ร่วมมือกันก็แอบบั่นทอนกำลังของไผ่ผิงด้วยการล่อหลอกให้พวกผ้าเหลืองไปตายในการรบตีกำแพงเมือง...
+ เพื่อกระตุ้นขวัญทหาร ซุนเซ็กบุกปล้นสุสานของเล่งโฉ ...ในตอนนั้น เล่งทองผู้เป็นบุตรสาปแช่งซุนเซ็กว่า หากสวรรค์มีคุณธรรมจริงท่านต้องไม่ได้ตายดีแน่ ซุนเซ็กรับฟังแต่มิได้เปลี่ยนสีหน้าพลางตอบราวกับท้าทายไปว่า.. หากสวรรค์มีคุณธรรมจริง ข้อขอยอมรับทัณฑ์จากสวรรค์ให้ทุรนทุรายร้อยวันไม่ได้ตายดี ที่ซุนเซ็กกล้าท้า...ด้วยเชื่อว่าสวรรค์ไม่มีจริง เพราะถ้าสวรรค์มีจริงก็คงจะโพล่มาช่วยบิดาที่เปี่ยมคุณธรรมของตนไปนานแล้ว
หากแต่การที่ซุนเซ็กเชื่อเช่นนั้นก็ใช่ว่าสวรรค์จะไม่มีจริงอย่างที่เขาเชื่อ ด้วยการละเว้นคุณธรรมทำให้เขาไปสร้างศัตรูฝีมือฉกาจอย่าง กำเหล็ง เข้า ...โดยทุกคำพูดของกำเหล็งนั้นชวนให้น่าคิดตาม คือในความคิดของซุนเซ็กนั้น เขาเชื่อว่าวิธีการที่เปี่ยมคุณธรรมของซุนเกี๋ยนนั้นเป็นเพียงความงมงาย และการตายของบิดาก็ได้ช่วยพิสูจน์ให้แล้วว่าวิธีการที่เน้นหลักคุณธรรมนั้นมันใช้ไม่ได้ผล ดังนั้นการทำเพื่อเป้าหมายแบบไร้คุณธรรมนี่แหละที่จะทำให้เขาร้ายกาจเหนือกว่าบิดา และช่วยให้ขยับเข้าใกล้เป้าหมายในการพื้นฟูวงศ์ตระกูลมากเข้าไปอีกขั้น
แต่กับประเด็นนี้ กำเหล็งกลับมองว่า ถึงเจ้าจะร้ายกาจกว่าพ่อเจ้าแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ด้วยทุกการกระทำต่ำทรามที่ผ่านมาได้ทำให้ซุนเซ็กเป็นเพียง ไอ้ลูกผลาญตระกูล ที่ทำให้ตระกูลผู้ภักดีอย่างสกุลซุนต้องอัปยศ ไปเสียแล้ว
เช่นนี้แล้ว...เป้าหมายแห่งการพื้นฟูวงศ์ตระกูลจะไม่ยิ่งห่างไกลออกไปอีกหรือ...
หากแต่หลักการสืบสกุลนั้นลึกซึ้งสุดหยั่งถึง การมีอยู่ของซุนเซ็กยังเป็นเพียงแค่ผิวเปลือกขั้นต้นของหลักการ ที่หากเกิดล้มเหลวไป ก็มิได้หมายความว่าสกุลจะต้องล่มสลาย ด้วยตามหลักการสืบสกุลนั้น หนึ่งตระกูลสามารถมีบุตรได้หลายคน...
จากคุณ |
:
ขอรบกวนทั้งชุดนอน
|
เขียนเมื่อ |
:
5 พ.ย. 52 14:52:57
|
|
|
|