ความคิดเห็นที่ 1 เราคิดหนักตรงที่ว่า แม่กะลูกบอกว่าถ้าออกจากงานตรงนี้ จะมาเป็นแม่บ้านทำความสะอาดให้เรา มาอยู่เป็นคนในบ้าน  เราไม่ได้รังเกียจใครหรอกนะแต่คิดว่าเราตัวคนเดียว เรายังรู้จักครอบครัวเขาไม่นานพอ  อยู่ๆดีๆจะมาอยู่กะเราเนี่ย เราว่าเขากล้ามากนะที่ขอมาอยู่อะ   เราปัดอย่างเดียวว่าหมาดุ จับอาบน้ำยังไม่ได้เลย หล่อนเลยเงียบ แต่ก็พยายามมาหาเราถึงบ้าน นะ ทั้งพ่อแม่ลูกอะ  เอาของมาให้ก็บอกว่าอยากตอบแทนน้ำใจเราบ้างน่ะ ที่เคยซื้อของกินให้  สองวันที่แล้วก็ขนถ่านมาให้2กระสอบง่ะ  เพราะบ้านเขาอยู่นครสวรรค์ เผาถ่านใช้เอง  เราไม่อยากรับหรอกมันเยอะอะ เขาก็บอกว่าอยากตอบแทนอะไรเราบ้าง  เราเลยขอพักอยู่กับตัวเองสักอาทิตย์ก่อนอะ  มันเหนื่อยใจจริงๆนะ จากคุณ : ผู้หญิงคนนั้น...คือฉัน เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 01:01:42

ความคิดเห็นที่ 2 พี่คะ หนูโลกส่วนตัวสูง หนูชอบอยู่คนเดียว  ถ้ามีคนอื่นมาอยู่ด้วย หนูเครียด บอกไปแบบนี้เลยค่ะ อย่าไปใจดีอะไรกับเค้าอีก  ไม่ต้องไปหาไปอะไรด้วยค่ะ มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา ก็โอเคว่าทำดีกับเพื่อนมนุษย์ แต่เค้ากำลังก้าวก่ายเรา ให่รีบถอนตัวนะคะ โทรมาก็บอกติดธุระ ไปกับเพื่อน ดูแลแม่  อะไรก็ได้ค่ะ อ้างไปเลย ค่อยๆห่างๆออกมา จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 01:46:37

ความคิดเห็นที่ 3 เราว่าลองพูดกันตรง ๆ ไปเลยดีมั๊ย ถามเลยต้องการอะไร ยังไง ได้/ไม่ได้  ตอนนี้ต้องไม่มีคำว่า "เกรงใจ" คะ เอาแบบครั้งเดียวรู้เรื่องไปเลย อย่าปล่อยยืดเยื้อ คนที่เครียดคือตัวเรานะ จากคุณ : ยัยตาตีบ เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 01:56:09

ความคิดเห็นที่ 4 "ได้คืบ จะเอาศอก" เริ่มหมดความเกรงใจ เพราะว่าจขกท. ดูแลพาไปเลี้ยงบ่อย เลยติดใจ เริ่มมีความคิดหวังมากไปกว่าของกินฟรี มันธรรมดาไป จขกท.ปล่อยตัวเองไปทำความคุ้นเคย "จนเกินไป" เขาได้ใจ ลามปาม และปั่นหัวเด็กลูกของเขาให้ติดจขกท. ต้อง "รีบถอนตัว" ด่วน ตีตัวห่างได้แล้ว... วางตัวใหม่ ไม่ไปทำตัวสนิทสนมมาก ในเมื่อคุณรู้สึกแล้วว่า ทำให้คุณอึดอัด มันจะหนักขึ้นกว่านี้ถ้ากลัวการปฏิเสธ ต้องใจแข็ง... ไม่งั้นในอนาคตเมื่อเขาได้เข้ไาปอยู่ในบ้านจขกท.แล้ว จะมีปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย ความโลภของคนหยุดไม่ได้ถ้ายังปล่อยใจอยากได้ของคนอื่นเลยเถิด... จนกว่ามันจะเกิดเรื่องมีปัญหาแตกหักกันไปข้างหนึ่ง จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 02:53:59

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านแล้วรำคาญแทนจริงๆ เรายิ่งขี้รำคาญอยู่ด้วย ลองเป็นเราแบบนี้ ถ้าเค้าไม่ได้เป็นญาติโก โหติกาด้วย ก็คงบอกว่า ไม่มีตังค์จ้างหรอก จะมาอยู่ได้ไง แค่นี้ ก็ไม่มีจะกินแล้ว ที่เห็นๆ น่ะเปลือกนอก . . และอยากอยู่กับแม่ และคนในครอบครัวเฉยๆ ไม่ชอบให้คนนอกเข้ามายุ่ง ส่วนที่คุณรำคาญเด็กนั้น ยังไม่ต้องพูดอะไรมากค่ะ หรือถ้าอยากพูด ต้องไปพูดต่อหน้าเด็ก บอกไปว่า.. เลิกสอนลูกเสียที ว่าเดี๊ยนเป็นแม่อีกคน ฉันไม่ชอบเด็ก ถ้าชอบ คงทำเองแล้ว (กรณียังไม่มีลูก) ส่วนถ้ามีลูกแล้ว... กลัวลูกตัวเองเข้าใจผิด ในเมื่อคนพวกนี้ไม่เกรงใจ เราจะไปเกรงใจเพื่ออะไร ปล่อยไว้ไม่ได้ค่ะ กำจัดเสียตอนนี้ อารมณ์เสีย... จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 03:04:44

ความคิดเห็นที่ 6 ดิฉันว่าต้องแก้ที่ตัวคุณด้วย คุณเป็นคนใจดีและโอบอ้อมอารีย์ อันนี้ดิฉันเข้าใจถึงน้ำใจที่ก็ต้องมีให้ลูกน้องบ้าง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่พวกลูกน้องที่ตีตัวเสมอนายเกิน บางทีเราก็ต้อง  ไว้ตัว  มีระยะห่างบ้าง บ้านก็ไม่ต้องให้เข้าหรอก มีครั้งนึง ก็ต้องมีครั้งสอง สาม ตามมา ถ้าจะมาทำความสะอาด ก็บอกว่ามีญาติห่างๆทำอยู่แล้ว จะไล่ไม่ให้ญาติทำก็ไม่ได้เพราะเป็นญาติกัน ดิฉันเคยใช้วิธีนี้กับคนข้างบ้าน ก็ได้ผลอยู่นะ จากนั้นเขาก็เลิกถาม พ่อเด็กก็อย่าไปไว้ใจมาก รู้หน้าไม่รู้ใจ ตอนเขาเอาอะไรมาให้ก็อย่าอยู่สองต่อสองหล่ะ กับเด็ก ก็อย่าใจอ่อน (นี่ดิฉันโหดไปไหมเนี่ย) พ่อแม่เด็กอาจจะรู้ว่าคุณสงสารเด็ก เลยให้เด็กมาอ้อน ก็ต้องใจแข็ง และแข็งใจปฏิเสธทุกเรื่อง พยายามมองปัญหาที่จะตามมาไว้มากๆถ้าใจอ่อน .....  เอาใจช่วยนะคะ ...(.แต่ถ้าเป็นดิฉัน ดิฉันพูดตรงๆเลย ไม่อ้อมค้อมหรอก) จากคุณ : หยางกุ้ยเฝย เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 03:33:52

ความคิดเห็นที่ 7 ค่อยๆคิด ค่อยๆทำนะครับ อย่าหักพร้าด้วยเข่า มีมิตรดีกว่ามีศัตรู ตอนนี้เขายังเป็นมิตรกับเราอยู่ (จะจริงใจหรือแอบแฝงก็ยังไม่รู้ชัด?แต่เท่าที่อ่าน น่าจะอย่างหลัง) อาจต้องสร้างสถานการณ์ขึ้นมาซักอย่างเพื่อออกห่างอย่างเนียนๆ จากคุณ : แค่บ่นเฉยๆ เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 05:50:58

ความคิดเห็นที่ 8 กรณี จขกท. คล้ายแม่ของเราเลย แม่เราชอบไปเต้นแอโรบิคตอนเย็น เจอแม่ลูกมาคอยป้วนเปี้ยนก็ซื้อโน่นซื้อนี่ไปฝากเสมอด้วยความสงสาร ผ่านไปเดือนนึง ทีนี้พาหลานมีคอยกินขนมอีกคน ตามมาขอกินทุกวัน พอแม่เราเลิกไปเต้นแล้วเพราะเริ่มรำคาญ แม่เด็กชอบมาพูดขอโน่นขอนี่เพราะเด็กไม่มี ทีนี้พากันไปหาถึงที่บ้านเลยค่ะ (ไม่รู้ตามไปได้ยังไง) อาสาจะขอมาทำความสะอาดบ้านให้บ้างล่ะ ทำสวนบ้างล่ะ  ... แม่เราไม่รู้จะทำยังไง ด้วยความที่เป็นคนใจดี ไม่เคยพูดทำร้ายจิตใจใครเลยสักครั้ง ได้แต่โทรมาบ่นให้เราฟัง เราก็เลยยืมมือพี่สาวเราให้มาช่วย พอรู้ถึงหูพี่สาวเท่านั้นแหละ พูดตรงๆครั้งเดียวว่า "ขอร้องล่ะนะ อย่าตามมาทำให้แม่ลำบากใจอีก แม่ไม่ชอบ" จากนั้นไม่มาอีกเลยค่ะ ถ้าจขกท.ไม่กล้าพูดอะไรแบบนั้น ลองให้คนใกล้ตัวพูดดีไหมคะ ... จากคุณ : nink-nund เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 06:33:37

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นคนดีกับคนที่ไม่มีลิมิตไม่มีความเกรงใจนี่มันก็ลำบากเนอะ คหอื่นแนะนำไว้แล้ว ยังไงลองทำตามดูนะคะ ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ลองบอกว่าหลานจะมาเยี่ยม จะมาอยู่ยาวเลย ไม่มีเวลาให้ลูกเขาหรอก (ไม่มีทั้งเวลาและตังจะมาจ่ายให้เขาแล้ว) หลานนิสัยไม่ดีชอบแกล้งชอบทำร้ายคนอื่น (หาข้ออ้างไม่ให้เข้าบ้าน) ต่อไปนี้จะมาอยู่ด้วยยาวๆเลย (พวกเธอไม่มีทางได้เข้าบ้านฉันแน่) ต่อไปนี้คงไม่ค่อยได้เจอกันหรอก ต้องดูแลทั้งแม่ทั้งหลาน (ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับฉันอีกนะ) ลองประมาณนี้ก็ได้ค่ะ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 07:30:07

ความคิดเห็นที่ 10 เด็กติดเราไม่นานหรอกค่ะ มันเป็ฯวัยของเขาเท่านั้นเอง เดี๋ยวเขาก็จะห่างความรู้สึกนี้ไปแล้ว   คุณเป็นคนดีในสายตาคนอื่นมันก็ดีไปค่ะ  ถ้าวันนึงที่คุณแย่ คนเหล่านี้ก็พร้อมจะช่วยเหลือคุณแม้จะไม่มีแรงเงินก็เป็นแรงกาย คุณให้เขาได้เฉพาะน้ำใจ แล้วรับคืนได้เฉพาะน้ำใจ   แต่ไม่ควรไปมอบอะไรที่มีค่าให้ เช่น เงิน ทอง สิ่งของ  ... ซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆนั่นก็ดีแล้วค่ะ  และดูแลเด็กเมื่อเวลาที่แม่เขาทำไม่ได้  ก็นั่นคือ น้ำใจ ก็ถูกต้องแล้วค่ะ ส่วนการที่เขาจะเข้ามาสุงสิง ใกล้ชิดคุณมากขึ้นไปกว่าเดิม  นั่นก็เพราะคุณเปิดรับเขาเข้ามามากเกินไป   ทั้งๆที่บางทีคุณยุ่ง คุณไม่เต็มใจ คุณไม่สะดวก แต่คุณก็ยังให้เขามา พาเขาไป ไปกับเขา ....  คราวนี้มันเลยพันกันไปหมด ถ้าจะเอาดีๆ  บอกไปเลยดีมั้ยว่า  ถ้าจะมาเล่น มาได้นะลูก วันไหนๆก็ว่าไป  ส่วนวันอื่นๆ คุณบอกไปว่าคุณยุ่งมากเลย  เดี๋ยวแขกมาบ้าน นั่นนี่   ส่วนงานบ้าน... ไม่แนะนำให้มาทำค่ะ  เดี๋ยวเขามาหยิบของกินในตู้เย็น เดี๋ยวเอานั่นนี้ไปทำกิน ก้าวล้ำความเป็นนายจ้าง ลูกจ้าง ซึ่งคุณจะรู้สึกแย่กว่าเดิมอีก เขามองคุณเหมือนผู้มีบุญคุณ เป็นญาติสนิทคนนึง .... แต่เขาไม่เกี่ยวข้องกับเรา ดังนั้นมันยากที่จะยอมรับเขาเป็นญาติของเราคนนึง ใช่ไหมคะ   พยายามเลี่ยงค่ะ  ใกล้ชิดกันเท่าที่โอกาสจะอำนวยก็พอ  ส่วนน้ำใจ  อยู่ไกล ใกล้แค่ไหนก็ให้กันได้เสมอค่ะ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 08:08:16

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนที่เขาสอน ว่า คุณก็เหมือนแม่อีกคน .... เราเข้าใจว่า มันคือประมาณว่า  คุณเป็นคนมีพระคุณเหมือนกับแม่ เพราะฉนั้น ให้เคารพคุณเหมือนกับแม่เขาเท่านั้นเองค่ะ   คงไม่ได้หมายถึงทางชู้สาว จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 08:09:56

ความคิดเห็นที่ 12 เขาไม่มีที่พึ่งค่ะ คุณเป็นคนดีมาก แต่มากไปเหลือบไรก็รุมตอม จากคุณ : fornatcha เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 09:26:20

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าไม่ถอนตัวตอนนี้ ต่อไปคุณคงต้องส่งเด็กคนนี้เรียนแน่นอน จากคุณ : MoAuang เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 09:31:09

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 7 อาจจะให้ญาติของเราจริงๆ ไปมาหาสู่เราบ่อยๆ แล้วทำเป็นว่าเรายุ่งกับงานของที่บ้าน แล้วค่อยๆ ตีตัวออกห่าง ส่วนเด็ก  เราว่าพ่อแม่เค้าสอนมาแบบนั้น  สอนให้ติดคุณ จากคุณ : ink (siam) เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 09:37:38

ความคิดเห็นที่ 15 หาทางออกห่าง ทำเป็นมีแฟน บอกไปลงเรียนโท หรืออบรม หรือเข้าคอร์สภาษาอังกฤษ ยุ่งๆซักสองสามเดือน มีเพื่อนกลับจากเมืองนอก ต้องพาไปโน่นนี่ทุกวัน บอกน้องว่า ป้ารักหนู แต่พ่อกับแม่รักหนูมากที่สุด ป้ายุ่งมาก ต้องทำงาน หฯต้องดูแลพ่อกับแม่ให้ดีๆ (อย่าให้มายุ่งกับป้า) บางที คนแบบนี้ บอกตรงๆก็ไม่เข้าใจค่ะ เผลอๆเอาเรื่องเราไปว่าเสียๆหายๆ ทำหายไปเนียนๆ ให้เค้าไปตีความกันเอง จะได้ไม่มีแรงต้านเยอะ จากคุณ : Jarunya.b เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 10:08:12

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าเป็นเราก็คงไม่กล้าบอกตรงๆ คงต้องหากิจกรรม หรือเปลี่ยนแปลงตัวเอง เช่น บอกว่าจะมาหาบ่อยๆไม่ได้แล้ว เพราะว่าต้องไป....ที่ไหนสักอย่าง ช่วงนี้ยุ่งมาก ... แล้วก็ค่อยๆห่างออกมา สู้ๆค่ะ จากคุณ : EyeContact เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 11:57:18

ความคิดเห็นที่ 17 เลี่ยงบ้างค่ะ โทฯมาก็ไม่รับบ้าง ชวนไปไหน หรือขอให้ไปหาก็บอกว่าไม่ว่าง เวลามาหาที่บ้านก็แกล้งทำเป็นไม่อยู่บ้าง หลายๆ ครั้ง เค้าคงรู้สึกเองค่ะ จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 12:02:25

ความคิดเห็นที่ 18 มันมีคนแบบนี้จริง ๆ นะ แบบสอนลูกให้ไปขอของคนโน้นคนนี้อ่ะ เด็กไม่รู้เรื่องหรอก พ่อแม่บอกให้ขอ ก็ขอ คนเราพอเห็นเด็กมันน่าเอ็นดูก็แบ่งให้ เด็กมันเคยได้ ก็ติดเป็นนิสัย จนเคยตัว จขกท ต้องพยายามห่าง ๆ ครอบครัวนี้ไว้ค่ะ ถ้าไม่กล้าพูดตรง ๆ  ก็เลี่ยง ๆ โดยไม่รับสาย พยายามหลบหน้า อย่าพบปะบ่อย ๆ และอย่าใจอ่อน ตอนทำงาน เราเคยเจอรุ่นน้องที่ทำงาน ทำนิสัยแบบขี้ขอมาก ๆ เห็นเป็นเด็กต่างจังหวัด นึกว่าบ้านจน เพราะเวลาไปกินข้าวเที่ยงกันในกลุ่ม กินข้าวกะเพราไข่ดาว + น้ำอัดลม แต่ของเราไม่มีไข่ดาวกะกินน้ำแข็งเปล่า ตอนคิดตังค์ น้องคนนี้จะเป็นคนจ่ายไปก่อน แล้วค่อยมาตามเก็บเพื่อน ๆ ในกลุ่มทีหลัง เราก็งง ทำไมมันคิดเราแพงกว่าคนอื่นว่ะ คนอื่นมีไข่ดาว + น้ำอัดลม แต่เอาเหอะ ไม่กี่บาท ช่างมัน แต่เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนเริ่มเอือม จนวันนึง ตอนสาย ๆ มีเดินมาชวนบอกวเราว่า "พี่เที่ยงไปกินข้าวตลาดนัดนี้กันนะ จะไปซื้อเสื้อผ้า" เราก็ อืม ๆ ไปดิ พอกินข้าวเสร็จ เดินช๊อปปิ้งกัน มันเดินมาเกาะแขนแล้วพูดว่า "พี่...เสื้อตัวนี้ส๊วยสวย แต่หนูลืมหยิบตังค์มาอ่ะ ขอยืมหน่อยดิ" แล้วมันก็ทำแบบนี้กะเราตั้งหลายร้าน จนเราบอกว่า "ไม่มีให้ยืมล่ะ ตังค์หมด" (เสื้อที่เราอยากได้เลยอดซื้อ เพราะให้มันยืมไปหมด) มันเดินไปเกาะเพื่อนมัน แล้วยืมเพื่อนมันต่อ สรุปวันนั้นมันมีเงินไปกินข้าว 50 บาท แต่ไปยืมเงินคนอื่นซื้อเสื้อผ้าได้ 4 - 5 ชุด และกว่าเรากะเพื่อนมันจะทวงตังค์มันได้ เกือบตาย (คือ งง ว่า มันเป็นคนชวนคนอื่นไปช๊อปแทน ๆ แต่ดันบอกว่าลืมหยิบตังมา เอามาแต่ตังกินข้าว) อีกวันกินข้าวเสร็จ เจอรถเข็นผลไม้หน้าออฟฟิต มันมาเกาะแขนอีกล่ะ บอกว่า "พี่...หนูอยากกินมะม่วงเปรี้ยว" เวงงงม่ะล่ะ เลยย้อนไปว่า "พี่ไม่กินมะม่วงเปรี้ยว" มันยังกล้าพูดต่อว่า "เลี้ยงหนูหน่อย เนี้ยะ ตอนพี่คนนี้ยังอยู่นะ ซื้อเลี้ยงหนูประจำ" วันนั้นเลยตัดรำคาญ ให้มันไป 10 บาท และตั้งแต่วันนั้นเลิกไปกินข้าวเที่ยงด้วยเลย จากคุณ : nuisukae เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 13:10:48

ความคิดเห็นที่ 19 บอกตรงๆไปเลยว่า ไม่ชอบให้มีคนมาอยู่ด้วยจ้า และบอกไปตรงๆอีกว่า หลานจ๋า คราวหน้าหลานต้องให้แม่กะพ่อซื้อให้ทานบ้างแล้วนะ เพราะป้าไม่ค่อยว่าง แถมยังไม่มีเงินด้วยอ้ะ จากคุณ : Gomora_jung เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 13:57:27

ความคิดเห็นที่ 20 เราว่าต้องแก้ที่ตัวคุณด้วยค่ะ อย่างเช่นเค้าอยากจะมาเป็นแม่บ้านให้แต่คุณไม่อยากได้แม่บ้านก็บอกเค้าไปตรงๆ ว่างานบ้านทำเองได้ ไม่เห็นต้องไปอ้างเรื่องหมาดุเลย จากคุณ : Tempurachan เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 14:30:02

ความคิดเห็นที่ 21 ได้คืบจะเอาศอก ปลีกตัวออกให้ได้ค่ะ อึดอัดแทน จากคุณ : อิมาอิซัง เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:40:21

ความคิดเห็นที่ 22 พูดตรงๆ เลยค่ะ อย่าใจอ่อน เราเคยพาคนที่รู้จักที่วัดไปถือศีล มาอยู่บ้านด้วยสงสารเขาไม่มีที่อยู่ เราไม่ได้ให้เขามารับใช้รักเหมือนน้อง โอ้ แต่น้องทำพี่แสบค่ะ อยู่บ้านถ้าเราไม่ทำงานบ้านเขาก็ไม่ทำ ยกเว้นเราทำก็จะทำเป็นมาช่วย ต้องทำกับข้าวให้กิน พูดจาเหมือนมีบุญคุณกับเรา กว่าจะสลัดออกได้ ตอนหลังเรากลับไปอยู่วัดอีก เอาเราไปนินทากับคนในวัด กดดันเราพูดเหมือนเราเป็นลูกไล่เขา ไม่มีความเกรงใจใดๆ ทั้งสิ้น ตอนหลังคนในวัดมาเล่าให้เราฟัง เรากลับมาไม่ชวนเขามาด้วย ทุกวันนี้ผ่านไปสามปีแล้วของเขายังอยู่ในบ้านเราเพียบเลย เสื้อผ้าที่นอนทุกสิ่งทุกอย่าง เราไม่ไปวัดนั้นนานแล้ว กำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงให้เขากลับมาเอาของไปสักที จากคุณ : just another day เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 20:05:14

ความคิดเห็นที่ 23 โอ้ววว หากินกันง่ายดีนะสมัยนี้ ล่าสุดทู้ขอ ขอ ขอ ที่โลตัส นี่ก็อีกกระทู้นึงของพวกช่างขอ เอิ้กๆๆ จากคุณ : นนนี่จ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 20:28:57

ความคิดเห็นที่ 24 คนแบบ จขกท. หายากนะคะ เป็นคนใจดีเกินไป ปฏิเสธคนไม่เก่ง มักจะตกเป็นเหยื่อของพวกหน้าหนาได้ง่าย ๆ ค่ะ ว่าแต่มีให้ยืมซัก 5,000 มั้ยคะ เดือนนี้ยังหาค่าฝากเนอสได้ไม่ครบเลยค่ะ อิ อิ (อ่ะ ล้อเล่น ล้อเล่น) จากคุณ : ท่าตลาด เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 21:26:49

ความคิดเห็นที่ 25 ท่องไว้นะคะ "เอ็นดูเค้า เอ็นเราขาด" จากคุณ : ChiBoo เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 00:54:57

ความคิดเห็นที่ 26 แม่เราก็เคยช่วยเหลือแบบให้ของกินให้เสื้อผ้าไรงี้นะ ไปๆมาๆ กรณีแบบคุณเลย มาหาป้า ป้าใจดี หนูอยากได้นั่นได้นี่ พาหนูไปหน่อย แม่เด็กสอนให้พูด แม่เราเลยถอยแทบไม่ทัน ตอนหลังให้พ่อเรารับหน้าแทน พ่อเลยใช้บทนิ่งๆโหดๆ สองแม่ลูกนั่นเลยไม่กล้ามาอีกเลย เราว่าพวกนี้เหมือน18มงกุฎอ่ะ จากคุณ : ตะเกียงแอลกอฮอลล์ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 08:32:30

ความคิดเห็นที่ 27 เพื่อนบอกว่าอย่าสุงสิงมาก ทำตามเลย ช่วยได้เท่าที่สามารถ  มากไปก็ใช่เรื่องเป็นภาระมากกว่าทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ จากคุณ : เหลียน เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 16:26:50