ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ค่ะ ไปอ่านเจอที่ Facebookนมแม่ >>>
ประเภทของนม สำหรับเด็ก 1 ขวบ+ โดย นมแม่ เมื่อ 22 สิงหาคม 2011 เวลา 12:28 น. เมื่อลูกอายุครบ 1 ขวบ จะต้องการข้าวและอาหาร 5 หมู่เป็นอาหารหลัก นมจะเป็นเพียงอาหารเสริม ****ถ้าลูกยังได้นมแม่อยู่ ก็ยังไม่ต้องเสริมนมชนิดอื่น*** หลัง 1 ปี คุณแม่สามารถให้น้องทานนมกล่อง UHT แทนนมผงได้ ในวัยนี้ร่างกายของลูกได้พัฒนาขึ้นที่จะรับสารอาหารได้หลากหลายมากขึ้น และส่วนมากพร้อมที่จะได้รับโปรตีนหลากหลายประเภทมากขึ้น รวมถึงโปรตีนนมวัว ถั่ว อาหารทะเล ฯลฯ (ยกเว้นเด็กที่แพ้นมวัวค่ะ) ***แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนยังคงแนะนำให้กู้น้ำนมก่อนเป็นอันดับแรก เพราะนมแม่ยังคงมีสารอาหารและภูมิคุ้มกันที่มีชิวิต ตราบใดที่แม่ยังคงสร้างน้ำนมให้ลูก น้ำนมแม่ยังคงมีประโยชน์และมีภูมิคุ้มกันค่ะ*** หลังอายุ 1 ขวบจะเป็นช่วงที่คุณแม่สามารถลองให้ลูกทานนมสด UHT ได้ แต่อาจจะให้ในปริมาณแต่น้อยในแรกเริ่ม เพื่อสังเกตดูว่าลูกแพ้โปรตีนหรือไม่ ขอจำแนกประเภทนมต่างๆ ที่น้องสามารถทานได้หลังจาก 1 ขวบ ดังนี้ค่ะ 1. Whole milk คือ นมสด ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการแปรรูปหรือแต่งเติม เพียงแต่ผ่านกระบวนการทำลายเชื้อ มีแบบ UHT เป็นกล่องเดี่ยว หรือแพค 4 - 6 กล่อง วางขายตามร้านค้าทั่วไป แนะนำให้ใช้นมกล่อง UHT ชนิดที่เป็นนมสดได้ (อ่านดูข้างกล่องว่าเป็นนมสด เพราะบางยี่ห้อเอานมผงจากต่างประเทศมาละลายน้ำใส่กล่องอีกที่) ยี่ห้อที่ใช้นมสด เช่น นมสดจิตรลดา หนองโพ ไทยเดนมาร์ค เป็นต้น ให้น้องทานชนิดรสจืด 2. Soy Milk หรือนมถั่วเหลือง UHT เป็นนมถั่วเหลืองที่ผ่านการทำลายเชื้อ บรรจุเป็นกล่อง มีการเพิ่มสารอาหารต่างๆ ด้วยงาดำหรืออื่นๆ ซึ่งคุณแม่ควรเลือกประเภทที่หวานน้อย เพื่อจะได้ไม่ติดรสหวานค่ะ ยี่ห้อของสินค้าในตลาดมีหลากหลายค่ะ 3. Formula คือนมผสมที่ผ่านกระบวนการแปรรูป มีการแต่งเติมเพิ่มสารอาหารต่างๆ เพื่อทดแทนคุณค่าที่เสียไป มีนมหลายยี่ห้อที่นำนมผงมาผสมน้ำแล้วบรรจุใส่กล่อง มักจะใช้คำว่า 1+ หรือ 3+ บนบรรจุภัณฑ์ ราคามักแพงกว่านมสด UHT คุณภาพของน้ำนมจะไม่สดใหม่เท่า"นมสด" ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ ส่วนความแตกต่างของการบรรจุนมแต่ละชนิด "ยูเอชที (UHT)" "พาสเจอไรส์ (Pastuerized)" หรือ "สเตอริไรส์ (Sterilized)" คุณค่าทางอาหารในนม เรียงอันดับดามนี้ค่ะ นมสด | นมสดพาสเจอไรซ์ | นมสด UHT | นมสดสเตอริไลซ์ (ผ่านความร้อนสูงที่สุด สารอาหารถูกทำลายมากที่สุด) คุณหมอปิยาภรณ์ (หมอหวาน) อธิบายดังนี้ค่ะ - พาสเจอไรส์ (pasteurization) กำจัดเชื้อให้หมด โดยใช้ความร้อน 65 องศาเซลเซียส นาน 10 นาที บางเครื่องก็ใช้ 77 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที ถ้าเป็นนม วิธีนี้จะกำจัดเชื้อไม่หมด แต่ก็มีจำนวนน้อยพอที่กรดในกระเพาะและภูมิต้านทานของร่างกาย พอจะรับมือได้ (จะสังเกตได้จากภาชนะบรรจุมักจะเป็นถุง และต้องแช่เย็น มิฉะนั้นแบคทีเรียที่มีเหลืออยู่จะเพิ่มจำนวน และทำให้นมบูดเสียเร็ว) ถ้าจะใช้ก็ขอให้ใช้ในเด็กโตหน่อย แต่จะอายุเท่าไร ก็แล้วแต่แต่ละคน โดยทั่วไป ภูมิต้านทานของเด็กจะเจริญเต็มที่หลัง 2 ขวบ - UHT (Ultra-High Temperature processing) สำหรับนมเขาใช้วิธีนี้ เป็นการใช้ความร้อน 135 องศาเซลเซียส เวลา 1-2 วินาที ซึ่งกำจัดเชื้อได้มากกว่าการต้ม แต่ไม่เท่ากับ sterilization วิธีนี้สารอาหารในนมจะสูญเสียไปน้อยกว่า - สเตอริไรส์ (Sterilization) จะสามารถทำลายเชื้อได้รวมทั้งสปอร์ของแบคทีเรีย มีหลายแบบ ผ่านความร้อน 150 องศาเซลเซียสในเวลาไม่กี่วินาที >> ส่งผลให้น้ำนมมีสีเข้มมากกว่า สารอาหารถูกทำลายมากกว่า อ่านจบแล้วอย่าเพิ่งเปลี่ยนใจให้ลูกทานนมอื่นนะคะ ถ้ามีนมแม่ก็ให้ทานนมแม่ต่อไปได้ค่ะ :)/ Bee
จากคุณ |
:
snoopyjung
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ธ.ค. 55 11:45:17
|
|
|
|