ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ต่องทำอะไร ตอนนี้เค้าโกรธ พูดไปก็เหมือนไปคุ้ย เดี๋ยวอีก1-2อาทิตย์ก็หายโกรธเอง จากคุณ : superkoy เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 14:05:22

ความคิดเห็นที่ 2 .......ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่คบกัน เราเคยเลิกกัน 2-3 ครั้ง เหตุผลมาจากความงี่เง่าของเราเอง แต่เลิกกันไม่กี่วันก็กลับมาคบกันอีก ..... เชื่อว่า  เดี๋ยวคงกลับมาคบกันอีก  แต่เรื่องแบบนี้ ให้มันเกิดขึ้นบ่อยๆก็ไม่ดี ... ควร "ถนอมน้ำใจ" กันไว้ให้มากมาก .... นอกเสียจากว่า  ต้องการจะเลิกจริงๆ. . จากคุณ : ลักษณาพร เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 14:08:24

ความคิดเห็นที่ 3 คำพูด เมื่ออยู่ในปาก  เราเป็นนายมัน เมื่อ ออก จากปากไป  มันเป็นนาย เรา ผู้ชาย โกรธยาก  แต่ถ้าทำให้โกรธได้ จะลืมยาก ยิ่งถ้า กระทบปมในใจ ทำใจไว้มั่งก็ ดี นะครับ จากคุณ : otto เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 14:08:54

ความคิดเห็นที่ 4 เค้าคงกำลังโกรธอยู่ ตอนนี้พูดอะไรไปเค้าก็ไม่ฟังหรอกค่ะ เรื่องบ้านมันไม่ใช่หน้าที่ของใครนะคะ เ้ค้าก็เสนอตัวว่าจะช่วยกันผ่อนแล้ว จขกท ยังไปหาว่าเค้าไม่สนใจ ต้องให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงซื้อบ้านให้ ้บ้านไหนใครสะดวกก็ซื้อค่ะ ไม่ได้เป็นภาระหน้าที่ของใครว่าต้องเป็นคนซื้อ ยิ่งผ่อนกับพ่อ บ้านก็เป็นชื่อ จขกท อยู่ดี ทำไมไปว่าเค้าแบบนั้น คราวหน้าจะพูดอะไร ให้คิดทบทวนก่อนนะคะ ถ้าปล่อยให้โมโหแล้วพูดอะไรโดยไม่คิด มันก็จะทำร้ายคนฟังไปเรื่อย คนเราโดนทำร้ายด้วยคำพูดบ่อยๆ จะพาลหมดรักเอานะคะ จขกท ไม่ได้ตั้งใจก็แสดงให้เค้าเห็นความจริงใจ ว่าเราแค่พลั้งปากไป ไมไ่ด้จะว่าเค้า และจะพยายามไม่พูดอะไรแบบนี้อีก เรื่องบ้านอยู่ใกล้ญาติ เราเข้าใจนะคะ เลือกได้ ไม่ค่อยจะมีคนอยากอยู่ใกล้ๆบรรดาญาติของอีกฝ่ายหรอกค่ะ เหมือนบรรดาสะใภ้ ถ้าเลือกได้ไม่อยากซื้อบ้านอยู่ใกล้พ่อแม่สามี หรือญาติสามีหรอกนะคะ จากคุณ : ฟ้าใส เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 14:17:12 A:180.183.20.137 X: TicketID:348252

ความคิดเห็นที่ 5 เข้าใจว่าอารมณ์โกรธ เหนื่อย เครียด แต่คุณเคยได้ยินคำพูดนี้มั้ยครับ "มีดดึงออกจากฝักแต่สามารถเสียบกลับได้ แต่คำพูดพูดแล้วไม่สามารถดึงกลับได้ " ดังนั้นเวลาจะพูดจาอะไรในครั้งต่อไปก็จงระวังครับ ส่วนคราวนี้ก็ปล่อยเค้าให้เย็นก่อน แล้วคุณก็ค่อยคุย แต่ไม่ใช่คุยเรื่องที่ทะเลาะกันครับ จากคุณ : tijang เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 14:36:13

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อเช้าเค้าถามเราค่ะว่าที่เราพูดแบบนั้นไปเราคิดอะไรอยู่ เราบอกไปว่าเราไม่ได้คิดเลย ที่เราพูดไปมันมาจากอารมณ์้ของเราล้วนๆ เราเหนื่อย เราเครียด แล้วเราก็น้อยใจที่เค้าไม่เคยมาช่วยเราดูบ้านเลย แถมยังว่าเราว่าการที่เราเลือกบ้านหลังนั้นเท่ากับว่าเรายอมเป็นทาสรับใช้ญาติๆ (ญาติเราละแวกนั้นล้วนเป็นผู้สูงอายุ แล้วก็เป็นผู้มีพระคุณกับเราด้วย พวกท่านเป็นห่วงเรามาก ซึ่งนั่นทำให้เราไม่ได้มีชีวิตอิสระเหมือนคนอื่น) เค้าบอกว่าเค้ากลับไปคิดทั้งคืนแล้วว่าเค้าคงไม่ดีพอสำหรับเรา ทั้งที่จริงมันไม่ใช่เลยค่ะ เพราะตั้งแต่คบเค้า เราก็ยิ่งรักเค้ามากขึ้นๆ ทุกวันๆ ทั้งที่เราก็มีคนเข้ามานะแต่เราก็ไม่สนใจ ไม่เปิดโอกาสให้เลย แล้วเราก็ภูมิใจด้วยซ้ำที่จะบอกใครๆ ว่าเค้าเป็นแฟนเรา รู้สึกผิดมากๆ ค่ะที่พูดไม่คิดไปแบบนั้น ปกติเรากะเค้าก็ไม่หวานใส่กันนะคะ พูดแซวๆ หยอดกันแรงๆ ตลอด แต่ยอมรับว่าไม่เคยพูดแรงขนาดนี้ ขอโทษเค้าไปหลายรอบแล้ว สัญญาว่าจะระวังคำพูดมากกว่านี้ ตอนนี้เค้าก็เอาแต่เงียบ ทรมานจังค่ะ จากคุณ : จขกทใ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 14:40:58 A:202.12.118.61 X: TicketID:357555

ความคิดเห็นที่ 7 รอเวลาผ่านไปซักพักก่อน  ค่อยหาโอกาสดีๆอธิบายให้เข้าใจใหม่ แต่ให้ระวังคำพูดครั้งต่อๆไปกับเหตุการณ์แบบนี้  เพราะอาจไปจี้จุดหรือต่อมอะไรของเค้าเข้าน่ะค่ะ และต้องทำใจเผื่อๆไว้บ้างนะคะ จากคุณ : พิกุลเหล็ก เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 15:20:13

ความคิดเห็นที่ 8 ทำไมถึงไม่ให้เขาช่วยผ่อน ถ้าคิดจะแต่งงานกัน ซื้อบ้าน ไม่ต้องรีบมากหรอก ถ้ารักเขาก็ยอมถอยหน่อย หาบ้านใหม่มือหนึงเลย ใช้ชื่อ 2 คนกู้ร่วม น่าจบได้ จากคุณ : meaka เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 15:32:46

ความคิดเห็นที่ 9 แฟนเราไม่ชอบบ้านหลังนี้ทั้งที่เค้ายังไม่ได้มาเห็นสภาพบ้านเลย เค้าไม่ชอบเพียงแค่มันอยู่ในซอยเดียวกับบ้านญาติๆ เรา อีกอย่างราคาสูงไปหน่อยสำหรับเราสองคน (นี่คือเหตุผลว่าทำไมพ่อเราถึงต้องเข้ามาช่วย) แต่บ้านหลังนี้เดินทางสะดวกค่ะ ใกล้ mrt ไม่จำเป็นต้องซื้อรถ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่เราบอกเค้าไปแล้ว เพราะตอนนี้ทั้งเราและเค้าก็ยังไม่มีรถ ก่อนหน้านี้เราก็เคยเสนอตัวเลือกอื่น เป็นบ้านใหม่อยู่นอกเมืองไปหน่อย ราคาถูกหน่อยแค่ล้านกว่าๆ แต่เค้ากลับบอกว่าถ้าซื้อแถวนั้นต้องซื้อรถ มีต้นทุนค่าน้ำมัน ค่าเดินทางอีก ก็ไม่ถูกใจเค้า (แต่ทั้งหมดนี่คือเราตระเวณหาอยู่คนเดียวนะคะ เค้าไม่ได้ไปกับเราเลย) อันนี้เราก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ ตรงนั้นก็ไกลไป ตรงโน้นก็แพงไป ตรงนี้ก็ไม่ถูกใจ เราเหนื่อยจริงๆ ค่ะ ทั้งที่วัตถุประสงค์ของเราและครอบครัวเราจริงๆ ก็เพื่ออนาคตของเรากับเค้า แล้วพอมาโดนเค้าว่าอีกคราวนี้เลยปรี๊ดแตกเลยว่าที่เราหามาก็ไม่ชอบ แล้วทำไมไม่หาเอง จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 15:46:51 A:202.12.118.61 X: TicketID:357555

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเองแรกๆก็คิดเหมือนกับแฟน จขกท. ที่ต้องไปอยู่แถวญาติแฟน แต่ผมหนักกว่าแต่งไปได้ 2 ปีพ่อตายกที่ให้และสร้างบ้านเดี่ยวมีบริเวณแถม ระแวกบ้านก็ญาติๆเค้าทั้งนั้น ผมต้องย้ายไปอยู่กับแฟน แต่ผมกลับคิดว่ายอมเพื่อลูกจะได้มีบริเวณวิ่งเล่น มีอากาศที่ดี เพราะบ้านแม่ผมคับแคบเป็นทาวน์เฮาส์ 2ชั้น แถมสภาพแวดล้อมไม่ค่อยดี  จะไปซื้อหรือปลูกใหม่ทางพ่อตาก็จัดการให้ มีที่มีทางผมเลยไม่อยากคิดมาก ผมถือว่าทำอะไรแล้วคนส่วนมากแฮปปี้คือจบ แถมพ่อตาแม่ยาย พี่น้อง ญาติๆแฟนก็ต้อนรับเราผมถือว่าผมโชคดีมาก ใครจะว่าอะไรก็สิทธิของเค้า จากคุณ : สุดท้ายคือความว่างเปล่า (สุดท้ายคือความว่างเปล่า) เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 15:56:32

ความคิดเห็นที่ 11 คุณสุดท้ายคือความว่างเปล่า...อยากให้แฟนเราลองคิดเหมือนคุณบ้างจังค่ะ แฟนเราไม่เคยเจอพ่อแม่เรานะคะ แต่เราก็เล่าเรื่องเค้าให้พ่อแม่เราฟังตลอด พ่อแม่เราก็ปลื้มเค้าค่ะ พ่อยังชวนไปเที่ยวบ้านที่ต่างจังหวัดช่วงปีใหม่นี้ (แต่มาเกิดเรื่องนี้ซะก่อน ไม่รู้เค้าจะยังยอมไปรึเปล่าสิ) ตอนแรกเรากับเค้าตั้งใจว่าจะซื้อคอนโดค่ะ เพราะว่ามีปัญญาพอที่จะผ่อนกันสองคนไหว แต่พ่อแม่เราเค้ามองถึงอนาคตว่าถ้ามีครอบครัวควรจะมีบ้านมากกว่าค่ะ ถึงได้แนะนำให้ซื้อบ้านและเสนอจะออกเงินให้ครึ่งนึง ซึ่งบ้านราคาสองเท่าของคอนโดค่ะ แต่แฟนเราเค้าก็อคติกับบ้านหลังนี้ไปแล้วตั้งแต่รู้ว่าบ้านหลังนี้อยู่ในซอยบ้านญาติเรา ทั้งที่ทำเล สภาพบ้าน สภาพแวดล้อมแถวบ้านนั้นดีมาก แต่เค้าไม่เคยมาดูเลย - -" จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 16:14:28 A:202.12.118.61 X: TicketID:357555

ความคิดเห็นที่ 12 เราว่าหยุดเรื่องบ้านไว้ก่อนดีมั้ยคะ รอๆ ไปก่อน ถ้าจะดูใหม่ ก็เคลียร์เรื่องที่ทะเลาะกันให้เสร็จก่อน ให้คุณแฟนมาเจอคุณพ่อคุณแม่ก่อน จากคุณ : ฟฟ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 16:28:18 A:115.87.154.83 X: TicketID:382883

ความคิดเห็นที่ 13 คุณบอกว่าน้อยใจที่เค้าไม่มีเวลามาดูบ้าน แล้วยังตินั่นติงนี่ แต่คุณก็บอกเองมะใช่เหรอว่าเค้าติดเรียนอ่ะ สรุปว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจเค้าเนี่ย ความจิงถ้าไม่เร่งอะไรมาก ลองคุยกันดีๆ เพราะเข้าใจเค้านะว่าเค้าคงอยากอยู่เป็นส่วนตัว แต่คุณยังอยากอยู่ไกล้ๆญาติ ลองคิดกลับกัน ถ้าเค้าเลือกที่ไกล้ญาติเค้า แต่คุณอยากเป็นส่วนตัวบ้างล่ะ ลองตัดเรื่องผ่อนกับพ่อออกดีมั๊ยเอ่ย ถ้าอนาคตคือบ้านของเรา 2 คน ก้อน่าจะเป็น 2 คนช่วยกัน อย่าไปคิดแทนเค้าสิคะ เรื่องรบกวนเค้า เรื่องผ่อนบ้าน เค้าอาจอยากทำเพื่อคุณ อยากพิสูจน์ ตัวเองว่าทำได้ ปัญหาน่าจะเป็นเรื่องคุณไม่คุยกันมากกว่า  แนะนำเฉยๆนะคะ เพราะเคยทะเลาะกะแฟนเรื่องเดียวกัน และเราก้อเป็นคนคล้ายๆคุณเลย เราขอโทษเค้าเลยที่ทำให้เค้าคิดแบบนั้น เราไม่ได้ตั้งใจให้เกิด จากนั้นคุยกันเลยค่ะว่า เราจะยังมีอนาคตด้วยกันมั๊ย เค้าคิดยังไงที่เรา 2 คนจะมีบ้าน ถ้าเค้าคิดอยากได้บ้านเหมือนเรา ถามเค้าไปเลยว่า งั้นถ้าเราช่วยกันผ่อน ไหวมั๊ย เชื่อว่าเค้าต้องตอบให้คุณชื่นใจแน่นอน ถามต่อเลยค่ะ ว่า ถ้างั้น หาเวลา หาข้อมูลด้วยกันได้มั๊ย เจียดเวลามีอะไรทำร่วมกัน ช่วยกันคิด ช่วยตัดสินใจ จะได้บ้านที่เราพอใจ และไม่มีปัญหากัน เปิดอกคุยเลยค่ะ การที่แฟนคุณถามว่าคุณคิดอะไรตอนพูด คงสื่อแล้วว่ามีอะไรไม่คอยเคลียร์กันเท่าไหร่ ไงก้อเอาใจช่วยให้หายงอนนะคะ จากคุณ : องหญิงโมชิโบะ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 16:29:12

ความคิดเห็นที่ 14 คุณองหญิงโมชิโบะ...เราก็กำลังรออยู่ค่ะว่าเมื่อไหร่เค้าจะยอมคุยกับเราสักที โทรไปเป็นสิบๆ สายแล้วก็ไม่รับ ทักไลน์กับเฟสบุคไปก็อ่านแต่ไม่ตอบ แมสเสจไปก็ไม่ตอบค่ะ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 16:33:57 A:202.12.118.61 X: TicketID:357555

ความคิดเห็นที่ 15 เอาแบบนี้ยอมครึ่งทางขอเค้าคำเดียวว่า จะไม่พูดอีกเรื่องบ้านแต่ขอให้ไปดูได้ไหม ถ้าไม่ชอบเดียวเราไปหากันใหม่สองคนนะ เค้าแคร์นะ ส่งไปแบบนี้เลย เข้าใจนะว่าเหนื่อยหาบ้านแต่บ้านคุณอยู่กับเค้าสองคนไม่ใช่อยู่กับญาติ ต้องไปดูกันสองคนสิถึงจะถูกจะใช้เวลาเป็นปีๆดูก็ช่างถ้าสองคนชอบก็ฝ่าฟันสู้ผ่อนได้หมดเองล่ะ บ้านผ่อนเป็นสิบๆปี จะมาทะเลาะทุกเดือนที่ผ่อนด้วยเรื่องนี้มันไม่ใช่นะ จากคุณ : ipodine เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 18:08:31

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ฆ่าได้หยามไม่ได้ ความคิดเรื่องบ้านมีความเข้าใจไม่ตรงกัน และเป็นจุดที่ทำให้เกิดปัญหา เก็บเรื่องบ้านเอาไว้ก่อนดีกว่า แล้วพยายามปรับความเข้าใจกัน อาจต้องใช้เวลา แต่ถ้าเค้ายังรักคุณอยู่ก็น่าจะอภัยให้ได้ จากคุณ : นางในวรรณคดี เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 18:34:04

ความคิดเห็นที่ 17 แค่นี้อธิบายแล้ว ไม่ยกโทษให้ แต่งไปคงลำบาก เพราะชีวิตคู่จะมีดาวเคราะห์เข้าดาวเสาร์แทรกตลอด หมื่นพันเรื่องขัดแย้ง ลองคุยดู ผู้ชายงอนนาน น่าเบื่อ เราไม่เคยง้อ ผิดถูกสามีก็ยอม แต่เราก็ทำตัวดีขึ้นหายเลยเวลาเค้าง้อ จากคุณ : บ่อเน้ง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 21:39:05

ความคิดเห็นที่ 18 ทำไมผมคิดต่างจากคนอื่นอ่ะ ขอสวนกระแสหน่อยนะ เท่าที่ฟังเรื่องที่ทะเลาะกัน ถ้าข้อมูลเป็นอย่างนั้นจริง จขกท.ก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่ครับ คำพูดแค่เนี๊ยะ งอนทำไมเนี่ยยยย เรื่องแค่นี้งอนเป็นผู้หญิงไปได้  แล้วแต่งกันไป จะไปรอดเหรอครับ ถึงแม้ทุกวันนี้การใช้ชีวิตคู่จะไม่ใช่ผู้ชายเป็นผู้นำแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นเสาหลักในเรื่องความคิด แนวทางการวางแผนชีวิต ถ้าเรื่องแค่นี้แล้วทำให้งอนจนต้องเลิกกันก็เป็นบุญของ จขกท.แล้วครับ จริงๆแล้ว ถ้าไม่ชอบบ้านหลังนี้ก็ควรจะหาบ้านหลังอื่นมาเปรียบเทียบให้ดู หรือบอกว่าขอเวลาอีกหน่อย จะช่วยหาบ้านให้อะไรประมาณนี้ แล้ว จขกท. ก็แคร์เค้าเกิ้นนนนนนนนนนนนนนน รู้ว่ารัก แต่ไม่ต้องแคร์ขนาดนั้นก็ได้ครับ ถ้ารู้ว่าผิดก็แค่ขอโทษ ครั้ง สองครั้ง ก็เกินพอแล้ว ถ้ามองอีกมุมนึง บ้านหลังนี้ เงินก็เงินคุณ แถมทางบ้านคุณยังคิดจะช่วยเหลือเรื่องการเงินอีก วางแผนชีวิตได้ดีกว่าแฟนคุณอีก มี 2 กรณีที่เป็นไปได้ 1.แฟนคุณยังไม่พร้อมที่จะใช้ชีวิตแบบครอบครัว(ยังไม่อยากแต่ง) 2.แฟนคุณโกรธที่ไม่ยอมปรึกษา/รอให้เค้าเป็นคนไปเลือกบ้าน เลือกทำเล เอง คุณเร่งรัดเกินไป เลยพาลหงุดหงิดแต่พูดไม่ออกเพราะญาติผู้ใหญ่เห็นดีเห็นงามไปแล้ว แล้วเอาเหตุผลเรื่องนี้มาอ้างต่างๆนาๆ ถ้าให้ผมแนะนำ ไม่ต้องไปง้อครับ เฉยๆเสีย ที่ผ่านมาถือว่าคุณก็ง้อและขอโทษมาพอแล้ว ปล่อยๆไปบ้างเหอะ อย่าไปเร่งรัดอะไรมากมาย ยิ่งไปตอแยมากยิ่งน่ารำคาญ ให้ตัวเค้า(แฟนคุณ)ได้มีเวลาคิด คุณเองก็จะได้มีเวลาคิด ขอโทษอีกทีครับ ไม่ได้มายุให้แตกแยกนะครับ เพียงแต่อยากให้ใช้เหตุผลกันมากกว่าอารมณ์ในชีวิตคู่ จากคุณ : CIA001 เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 22:29:32

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้แฟนน้องให้อภัยน้องเร็วๆค่ะ เรื่องซื้อบ้านถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งถ้าจะซื้อเป็นเรือนหอ ลงหลักปักฐานด้วยแล้ว น้องควรจะปรึกษาแฟนก่อนค่ะ (ถ้าคิดจะร่วมชีวิตด้วยกัน) ตามที่พี่ได้อ่านมา แฟนน้องออกปากว่าจะช่วยผ่อนบ้านด้วย พี่ว่าเขาเป็นคนจริงใจกับน้องเลยทีเดียว ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่เอาเงินไปทิ้งลงทะเลแน่ๆ น้องอาจจะด่วนตัดสินใจเร็วไปหน่อยเรื่องไปดูบ้าน ส่วนเรื่องที่แฟนน้องโกรธน้อง ตรงนี้พี่ไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆนะคะ เพราะน้องเองเป็นคนที่คบแฟน น้องย่อมจะรู้ดีว่าแฟนน้องเป็นคนอย่างไร เวลาพูดคุยกัน ต้องเลือกใช้คำแบบไหน น้ำเสียงอย่างไร ถึงจะไม่กระทบจิตใจคนฟังค่ะ พี่คิดว่าน้องไม่ได้ผิดที่พูดออกไปแบบนั้น และแฟนน้องเองก็ไม่ได้ผิดที่โกรธน้องเช่นกัน มันเป็นความผิดพลาดของการสื่อสารและการวางแผนมากกว่าค่ะ เมื่อปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ค่อยๆพูดจากันนะคะ ถ้ารู้ตัวว่าอารมณ์ไม่ดีก็ควรจะหลีกเลี่ยงการสนทนากันค่ะ และควรจะเปิดใจคุยกันทุกเรื่องค่ะ ให้ละเอียดและเข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่ายค่ะ ปล ถ้าเขายังไม่หายงอน โทรไปก็ไม่รับ แนะนำให้น้องไปยืนดักหน้ามหาวิทยาลัยเลยค่ะ ^___^ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 55 23:51:43 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 55 23:49:41 จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 23:49:18

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ แต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้แย่แล้วล่ะค่ะ แฟนเราไม่ยอมคุยกับเราเลย เราก็เลยให้เพื่อนเราลองไปคุยกับเค้าดู ปรากฏว่าเค้าบอกเืพื่อนเราประมาณว่าเค้าจะจบกับเรา จะไม่คุยกับเราอีกแล้ว เราส่งข้อความในไลน์ไป เค้าก็ฝากเพื่อนเรามาบอกเราว่า เลิกส่งไปสักที เพื่อนเราเลยบอกว่าถ้าอยากให้เราเลิกส่งก็ให้มาเคลียร์กับเราเอง แต่เค้าก็ไม่ยอม เราก็เลยตัดสินใจว่าเราจะไม่พูดอะไรแล้วค่ะ เราส่งแมสเสจไปหาเค้าใน fb อธิบายเรื่องทั้งหมดให้เค้าฟังเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็ให้เวลาเค้าคิดค่ะว่าจะกลับมาหรือจะไป ซึ่งไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไงเรารับได้หมดค่ะ ขอแค่ให้เค้ามาคุยกับเราดีๆ ด้วยเหตุผล ไม่หนีหายเงียบไปแบบนี้ ตอนนี้เราคงปล่อยให้เค้าอยู่กับตัวเองไปสักพักว่าจะให้อภัยเรารึเปล่า แต่เราคงไม่ไปเร่งรัดอะไรเค้าแล้ว ส่วนนึงก็เตรียมใจไว้แล้วค่ะว่าถ้าเค้าไม่ให้อภัย จะเลิกกับเราจริงๆ เราก็คงเลิกให้ คิดซะว่าเราสองคนทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ ตอนนี้เราก็ทำได้แค่รอค่ะ รอว่าเค้าจะกลับมาเพื่อบอกรักหรือบอกเลิก จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 08:17:54 A:202.12.118.61 X: TicketID:357555

ความคิดเห็นที่ 21 จขกท คะ ทำใจให้สบายค่ะ  คู่กันแล้วไม่แคล้วกันค่ะ  เราเองก็เคยพลั้งปากเสียทำให้แฟนน้อยใจไปสองครั้งใหญ่   ต้องง้ออยู่นานมากค่ะ ไปหาที่ตจว หลายครั้งหลายหน แต่สุดท้ายเราก็ปล่อยให้เค้าใช้ความคิดกับตัวเองด้วยนะคะ ว่าจะเอาไง     ไม่ได้ไปบังคับว่าชั้นขอโทษเธอแล้ว เธอต้องให้อภัยชั้นเดี๋ยวนี้ซิ  เวลาช่วยได้ทุกอย่างค่ะ จากคุณ : Accurus เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 08:51:17

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นใจ จขกท นะคะ เราว่าทำใจเถอะ ท่าทางจะไม่กลับมา บางทีเค้าอาจยังไม่อยากหยุดที่เราก็ได้นะ เรื่องนี้เหมือนได้จังหวะพอดีมากกว่า เค้าไม่กลับมาก็ช่างเถอะ ท่าทางขี้งอนเกินเนอะ จากคุณ : สู้ๆ นะคะ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:20:38 A:115.87.131.185 X: TicketID:382883

ความคิดเห็นที่ 23 เราว่าคบกัน 1 ปี เลิกกันมา 3 - 4 รอบ แล้ว เร็วเกินไปที่จะคิดมีครอบครัวกันค่ะ ไม่รู้พูดอย่างนี้ เจ้าของกระทู้จะโกรธไหม แต่ว่า เวลา 1 ปี มันเร็วเกินไปที่จะแน่ใจว่า จะไปกันรอดและจะได้แต่งงานกัน การซื้อบ้านเป็นการสร้างข้อผูกพัน ที่ค่อนข้างแน่นหนา แม้ว่า ทางผู้ชาย เอ่ยปากว่าจะช่วยผ่อน แต่เราไม่รู้ว่า ในใจเขาอาจจะอึดอัด แต่พูดไม่ออกก็ได้ แล้วคุณเร่งไปดูบ้าน เลือกบ้านโดยมีครอบครัวของคุณ มีส่วนช่วยตัดสินใจ เราว่าเค้ายิ่งอึดอัดอะค่ะ บ้านที่คุณแพลนว่าจะมีเค้าอยู่ด้วยแต่ เค้าแทบไม่ได้ตัดสินใจ (ด้วยเขาไม่มีเวลาด้วย) ในใจเค้าคงคิดว่า ไม่เห็นจะต้องรีบร้อนอะไรขนาดนั้น ลึกๆ เค้าคงอึดอัดหน่ะ พอคุณเอ่ยคำนั้นมา มันเลยระเบิด อย่างไรก็ตาม เรื่องแค่นี้ แค่พูดจาไม่ถูกหูกัน มันไม่น่าจะถึงกับต้องเลิกรา ถ้าเค้าคิดจะฝากชีวิตไว้กับคุณ แน่นอนเค้าต้องเสียใจมากกับคำพูดนั้น แต่มันถึงกับต้องเลิกเลยเหรอ คุณลองคิดดู เค้าอาศัยจังหวะทะเลาะนี้ชิ่งคุณหรือเปล่า เรื่องแค่นี้ถึงกับจะเลิก เราว่าผู้ชายคนนี้ ก็ไม่น่าจะพิจารณานำมาเป็นสามีในอนาคตแล้วค่ะ ระยะเวลาต่อไป มีเรื่องอีกมากมายที่จะต้องไม่เข้าใจกัน พูดผิดหูกัน ถ้าเค้าผ่านตรงนี้ไปไม่ได้ คุณปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ (ขอโทษอีกครั้งนะคะ ถ้าความเห็นเราอาจทำให้คุณเสียใจ แต่เราแค่อยากเสนออีกแนวคิดหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน ยังไงก็ตามเราเอาใจช่วยคุณนะคะ) จากคุณ : lin&bukky เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:53:47

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ lin&bukky...ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดเรื่องบ้านเลยค่ะ มันเริ่มมาจากการที่แฟนเราเช่าหออยู่แล้วเปรยๆ ว่าอยากมีคอนโด เราก็เลยช่วยหาข้อมูลคอนโดต่างๆ ส่งไปให้ หวังว่าจะให้เค้าซื้อไว้เป็นชื่อของเค้าเอง โดยไม่เกี่ยวกับเรา แต่เค้ากลับบอกว่าให้เราซื้อไว้เป็นชื่อเราแทนโดยที่เค้าจะช่วยผ่อน เพราะเค้ายังไม่แน่ใจอนาคตของเค้า เค้าอาจจะไปเรียนต่อเอกที่ตปท.อีกหลายปี และอีกอย่างเค้าผ่อนคนเดียวไม่ไหวค่ะ ตอนแรกเราก็นิ่งๆ เฉยๆ ไม่ค่อยอยากซื้อหรอก แต่แฟนเราก็เร่งมากๆ ให้รีบดูรีบเลือก ให้เหตุผลอะไรมาหลายอย่างจนเราคิดว่า เออ ซื้อไว้จริงๆ ก็ดี เพราะอยู่กทม.มาก็หลายปีแล้วยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย ก็เลยไปปรึกษาที่บ้าน แล้วมันก็เลยเถิดจากซื้อคอนโดมาเป็นซื้อบ้านเนี่ยล่ะค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้น เรายังช็อคอยู่เลยค่ะ เพราะก่อนที่เราจะทะเลาะกันไม่กี่นาที เรายังแพลนไปเที่ยวเกาหลีด้วยกันปีหน้าอยู่เลย T^T จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 11:21:50 A:202.12.118.61 X: TicketID:357555

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณ จขกท. ค่ะ ถ้าเรื่องแค่นี้ทำให้ถึงกับต้องเลิกกัน ก็ปล่อยไปเถอะค่ะ ชีวิตต่อไปข้างหน้าในการใช้ชีวิตคู่ยังต้องเจออะไรอีกเยอะมากกก  แล้วเค้าจะไหวเหรอคะ แค่คุณพูดไปด้วยอารมณ์น้อยใจ  เค้าถึงกับเลือกที่จะจบกับคุณ   ต่อไปถ้าแต่งงานกันแล้วคงจะกระทบอะไรไม่ได้แน่ ๆ เลยค่ะ เพราะถ้าถึงตอนนั้นคุณต้องยอมเค้ายิ่งกว่านี้อีกค่ะ เพราะผญ. เราโดยพื้นฐาน มักจะรักสามีและลูกมากกว่าตัวเองอยู่แล้ว  ลองคิดทบทวนดี ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : รักผู้ชายเจ้าชู้ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:04:46

ความคิดเห็นที่ 26 เค้าชอบที่จะแพลนอะไรๆกับคุณสองคนโดยไม่ต้องมีที่บ้านคุณมาเกี่ยวข้องค่ะ คงนิสัยเดียวกับเรา เพราะเราเป็นคนเอาแต่ใจมาก และจะยอมแฟนคนเดียวเท่านั้น ทางบ้านเราเองเราก็ไม่ยอมค่ะ แล้วส่วนใหญ่เค้าก็จะตามใจเราด้วย เค้าตั้งใจจะซื้ออยู่กับคุณ เป็นอะไรของคนสองคนเท่านั้น เค้าคงไม่ชอบที่ชีวิตคุณผูกพันกับที่บ้านมาก เรือนหอก็อยากเลือกกันเองมากกว่า พอมามีเรื่องนี้กับเวลาที่คบกันเพียงหนึ่งปี ในตอนแรกอะไรๆมันก็ดีไงคะ พอมาเจอปัญหาใหญ่ ดูเหมือนว่าโลกส่วนตัวของเค้าจะถูกรุมล้อม ดูจะยุ่งเหยิง หนึ่งปีคงไม่พอจะให้เค้าลงหลักปักฐานแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : วันนี้หนูมาคนเดียว เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 16:09:34

ความคิดเห็นที่ 27 เราว่า  ลองเงียบๆไปหน่อยดีกว่าไหมค่ะ ตอนนี้เค้าน่าจะรำคาญคุณแล้วล่ะ คิดซะว่าถอยไปคนละก้าว  จะได้คิดบ้าง สำหรับเรา ผู้ชายคิดเล็ก คิดน้อยแบบนี้เราไม่ชอบ ถ้าคุณพูดผิดไป  ขอโทษแล้ว  เคลียร์แล้ว  แฟนคุณยังงี่เง่าต่อ  ปล่อยๆเค้าไปบ้างเถอะค่ะ  ถ้าเค้าคิดไม่ได้  จะเลิก ก็เลิกไปเหอะ จากคุณ : อ่านแล้วเพลีย (แค่คนๆหนึ่ง) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 20:03:54

ความคิดเห็นที่ 28 มองว่า เวลาคบ 1 ปี น้อยไป จนสามารถตัดสินใจเลิกได้ง่าย หากมีเรื่องขึ้นมา อยู่ไกลกันด้วย เหตุผลปัจจัยมีเยอะ ถ้าน้องจริงใจแล้ว แก้ปัญหาแล้ว อธิบายแล้ว  เค้าไม่รับฟัง รั้งไปก็เท่านั้น  เปิดโอกาสตัวเองกับคนใหม่ดีกว่า ช่วงอายุ 26 ปีของผู้ชายหลายคน เป็นช่วงกำลังสนุกกับงาน ดังนั้นเมื่อเค้ารู้สึกฝ่ายหญิงเร่งรัดเกินไป อาจมองอะไรผิดไปได้ บอกไว้  2 ข้อนะ 1.  รักคนที่เขา รักเราดีกว่า 2. ผู้ชายน่ะ ถ้าเรายิ่งวิ่งตาม เค้าก็ยิ่งวิ่งหนีห่างนะคะ ถ้าน้องทำหมดทุกเรื่องที่น้องทำได้แล้ว คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฝ่ายแฟนน้องแล้ว ซึ่งถ้าเค้าจะเลิกกับน้องจริงๆ เพราะเรื่องนี้ ปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ ยิ่งถ้าเค้าเจ็บแค้นด้วย หมดรักไปแล้ว กู้ความรู้สึกตอนนี้ เดี๋ยวนี้ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องใช้เวลานานๆ พอแก่ตัวแล้วค่อยรู้สึกว่าตัวเอง อืม...มเน้อะ ทำไปได้ เรื่องเด็กๆ ขรี้เล็บๆ จริงๆ . จากคุณ : moonface เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 06:07:04

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าเค้าจะเลิกก็เลิกเลยค่ะ คนดีๆมีอีกเยอะ จขกท ก็เก็บไว้เป็นบทเรียนนะคะ คราวหลังพูดอะไรให้คิดก่อน แล้วตกลงอะไรกับใครไว้ เอาให้แน่ อย่าพูดกับคนนี้อีกอย่าง พูดกับคนนั้นอีกอย่าง คุณกับแฟนว่าจะผ่อนร่วมกัน แฟนคุณก็เข้าใจตามนั้น ไปๆมาๆคุณไปตกลงว่าจะผ่อนคนละครึ่งกับพ่ออีก พ่อก็เข้าใจตามนั้น แฟนคุณและพ่อคุณก็เข้าใจว่าพวกเค้ามีส่วนครึ่งนึงในการผ่อน เค้าก็ต้องมีสิทธิ์เลือกสิ แฟนคุณก็คงคิดว่า เค้าก็ผ่อนครึ่งนึง ทำไมต้องให้ไปอยู่ใกล้ๆหรือให้ครอบครัวคุณมาคอยตัดสินใจให้ด้วย ส่วนฝ่ายพ่อคุณก็จะซื้อบ้านกับลูกสาว เค้าก็อยากเลือกให้ดีๆ ไหนๆเค้าก็จะช่วยผ่อนแล้วนี่นา เรื่องเล็กๆน้อยๆ มันจะำทำให้คนเข้าใจผิด เพราะสำคัญผิดไปได้นะคะ ต้องระวังไ้ว้ดีๆ จากคุณ : ฟ้าใส เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 11:10:02 A:180.183.16.85 X: TicketID:348252

ความคิดเห็นที่ 30 จากความเห็นที่ 23 แปลว่า เค้าให้คุณซื้อคอนโดให้เค้าอยู่โดยเค้าช่วยออกเงินนิดหน่อย ถ้าเลิกกันเค้าก็ไม่ต้องส่งต่อ ถ้าแต่งกันก็เป็นสมบัติร่วมของทั้ง 2 คน เค้าถึงโกรธมากที่คุณจะไปซื้อบ้าน เพราะเค้าจะไม่ได้อยู่แล้วยังต้องมาช่วยผ่อน แฟนคุณเป็นคนน้ำนิ่งไหลลึก ระวังให้มาก ส่วนคุณเป็ณคนซื่อ ตรงไปตรงมาจะโดนเอาเปรียบ ผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างนี้ โชคดีแล้วที่เลิกกันได้ จากคุณ : Bonus&Bogie เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 21:16:19

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ Bonus&Bogie...ไม่ใช่ค่ะ คือตอนที่เราอยากให้เค้าซื้อคอนโดนั่นหมายถึงคอนโดที่ชลบุรี ที่ที่เค้าทำงานอยู่ค่ะ แต่ที่เค้าอยากให้เราซื้อไว้แล้วเค้าจะช่วยผ่อนนั้นคือคอนโดที่กทม. ซึ่งถ้าซื้อไปก็เป็นชื่อเรา และเค้าก็ไม่ได้อยู่ค่ะ อาจจะแค่แวะมาเสาร์อาทิตย์เท่านั้น คนที่จะอยู่คือเราค่ะ โดยเหตุผลของแฟนคืออยากให้เราออกมาอยู่อย่างอิสระน่ะค่ะ เพราะตอนนี้เราอยู่กับญาติ และเหตุผลที่เค้าโกรธไม่ใช่เรื่องคอนโดหรือบ้านค่ะ แต่โกรธตรงที่เราไปพูดจาให้เค้าเข้าใจว่าเราดูถูกว่าเค้าไม่มีปัญญาซื้อบ้านให้น่ะค่ะ โกรธเพราะเรื่องของศักดิ์ศรีล้วนๆ ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ขออัพเดทสถานการณ์ค่ะ ตอนนี้เค้ากลับมาแล้ว วันเดียวหลังจากที่เรามาตั้งกระทู้ขอคำปรึกษาเพื่อนๆ หลังจากที่เราตัดสินใจอยู่เฉยๆ ตามที่บางความเห็นบอก เค้าก็กลับมาค่ะ กลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เค้าไม่พูดถึงเรื่องวันนั้นเลย เราก็เลยเลี่ยงไม่พูดถึงด้วย ตอนนี้เค้าก็พูดถึงแค่ปีใหม่นี้เค้าจะไปเจอพ่อแม่เรา ดูเค้าตื่นเต้นมาก เราก็เลยได้บทเรียนแล้วว่าต่อไปเวลาที่เค้าโกรธเราจะไม่ไปเซ้าซี้เค้า เพราะเวลาเค้าหายโกรธ เค้าก็กลับมาเอง แล้วเราก็จะระัวังตัวเรื่องคำพูดมากกว่านี้ค่ะ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 08:27:07 A:202.12.118.61 X: TicketID:357555